ชีคเถื่อนปล้นพรหมจรรย์ ชุด ทัณฑ์ทราย - ตอนที่ 14
หลังจากฮัสซันไปตะลอนตกปลาอยู่กับเจ้าชายเซรีมและนางในดวงใจของเขาจนตะวันคล้อยต่ำ หล่อนก็รีบเดินทางไปยังตำหนักของฮัสซันทันที ไปดักรอเจ้าชายน้อย
“น้ามะลิ”
และมันก็เป็นเหมือนเช่นทุกครั้ง ฮัสซันวิ่งเข้ามาสวมกอดหล่อนทันทีที่เห็น หล่อนจำต้องฝืนยิ้มทั้งๆ ที่ในใจเต็มไปด้วยความหดหู่และเศร้าหมองที่ต้นเหตุคือเจ้าชายเซรีม
“สนุกไหมจ๊ะฮัสซัน”
“สนุกมากเลยครับน้ามะลิ เจ้าชายสอนผมตกปลาครับ และผมก็ตกปลาได้ด้วย”
เด็กน้อยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจ หล่อนเองก็อดจะยินดีไปด้วยไม่ได้
“แค่เห็นฮัสซันชอบ น้าก็มีความสุขจ้ะ”
“ผมจะมีความสุขมากกว่านี้ ถ้าน้ามะลิไปตกปลากับผม”
“เอาไว้โอกาสหน้าเนอะ”
หล่อนยิ้มเศร้าหมอง ก่อนจะจูงมือของฮัสซันหายเข้าไปในตำหนัก
“เจ้าชายเพคะ เชิญเสด็จสรงน้ำเพคะ” นางกำนัลเดินเข้ามาพูดจาไพเราะหวานหู
“พวกเธอรออยู่ตรงนี้แหละ เดี๋ยวฉันพาหลานของฉันไปอาบน้ำเอง”
“แต่ว่า…”
เหล่านางกำนัลอึกอัก
“ผมอยากไปอาบน้ำกับน้ามะลิครับ”
เมื่อฮัสซันบอกความต้องการออกมา เหล่านางกำนัลซึ่งน่าจะได้รับคำสั่งมาจากเจ้าชายเซรีมก็ไม่มีทางเลือก จำต้องตอบรับออกมาด้วยความนอบน้อม
“เพคะ”
“ไปกันเถอะจ้ะ ฮัสซัน”
“ครับน้ามะลิ”
หล่อนกับฮัสซันใช้เวลาเล่นน้ำกันอยู่นานเป็นชั่วโมง ก่อนที่หล่อนจะพาเด็กน้อยที่ถูกความง่วงเข้าครอบงำกลับเข้ามายังห้องนอน และกล่อมให้นอน
“น้าอนุญาตให้นอนแค่สองชั่วโมงนะครับ เพราะฮัสซันต้องตื่นมากินข้าวเย็น”
“ครับน้ามะลิ”
มะลิก้มลงจูบแก้มยุ้ยของฮัสซันอย่างเอ็นดู ก่อนจะกล่อมจนเจ้าชายน้อยหลับใหล
“คงเพลียมากสิท่า อัสซัน”
หล่อนอมยิ้มและมองเด็กชายด้วยความรักหมดหัวใจ กำลังจะล้มตัวลงนอนข้างๆ แต่ก็มีนางกำนัลเดินเข้ามาเสียก่อน
“ชูว์…”
หล่อนยกมือขึ้นแตะปากส่งสัญญาณให้นางกำนัลสองคนนั้นหยุดพูด ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องนอนของฮัสซันมายังส่วนด้านโถงกว้างของตำหนัก
“มีอะไรเหรอ”
“เจ้าชายเซรีมทรงมีพระกระแสรับสั่งให้คุณมะลิกลับตำหนักเดี๋ยวนี้ค่ะ”
ลำคอของมะลิเชิดสูงราวกับมีท่อนเหล็กมาดามเอาไว้ทันที หล่อนเม้มปากแน่น
“ไปกราบทูลเจ้าชายรูปงามของพวกเธอด้วยนะว่าฉันจะอยู่ที่ตำหนักของเจ้าชายฮัสซันจนเช้า”
“ตะ แต่ว่า…”
“ไม่มีแต่ ออกไปได้แล้ว ฉันจะพักผ่อนกับหลานของฉัน”
แล้วหล่อนก็ไม่สนใจนางกำนัลที่ทำหน้าเหมือนกินยาขมเข้าไปเป็นกำมืออีก หล่อนเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของฮัสซันทันที
“คนบ้า สั่งเอาสั่งเอา คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าหรือไง” หล่อนหน้าบูดบึ้ง “ไปเรียกแม่นางในดวงใจมาหานู่น”
มะลินั่งกระฟัดกระเฟียดด้วยความหงุดหงิดขุ่นเคืองแน่นอก เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ รู้เพียงแต่ว่ายามนี้เจ้าชายเซรีมปรากฏตัวอยู่ภายในห้องนอนของฮัสซันเรียบร้อยแล้ว
“เจ้าชาย…”
หล่อนรีบทะลึ่งตัวลุกขึ้นยืน มองเขาด้วยความตกใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจ
“ทรงเสด็จมาที่นี่ทำไมเพคะ”
“ฉันเรียกให้เธอกลับตำหนักไม่ใช่หรือ”
“ใช่เพคะ แต่หม่อมฉันไม่อยากกลับ”
หล่อนเชิดหน้าตอบ ยังจดจำวินาทีที่เขายิ้มกว้างให้กับลูกสาวแสนสวยของอำมาตย์ผู้ใหญ่คนนั้นได้เป็นอย่างดี
หึ… ทีกับหล่อนน่ะ ทำหน้ายักษ์ให้ตลอด
“ที่นี่ไม่ใช่เมืองไทย แต่เป็นซาเรีย และฉันก็มีอำนาจเต็มที่ในการจัดการกับเธอ มะลิ กรองอักษร”
“เลิกเรียกชื่อกับนามสกุลของหม่อมฉันพร้อมๆ กันเสียทีเถอะเพคะ หม่อมฉันเหนื่อยแทน”
หล่อนเห็นคนตัวโตขบกรามที่มีไรหนวดแน่นจนขึ้นสันปูดเป่ง เขาคงโมโหหล่อนนั่นแหละ แต่ก็ช่างสิ หล่อนไม่ควรจะสนใจความรู้สึกของเจ้าชายคนนี้สักหน่อย
“แล้วฉันควรจะเรียกเธอว่าอะไรล่ะ”
“ก็เรียกมะลิยังไงล่ะคะ”
“มันออกเสียงยาก”
“งั้นก็ตามพระทัยเถอะเพคะ จะเรียกหม่อมฉันแบบไหนก็เชิญ” หล่อนสะบัดหน้าหนี
“จัสมิน”
หล่อนหันขวับมามองเขา “หม่อมฉันไม่ชอบชื่อนี้เพคะ”
“แต่ฉันชอบ และฉันก็จะเรียกแบบนี้ กลับตำหนักเดี๋ยวนี้ จัสมิน”
หล่อนเม้มปากแน่น ก้าวเดินหนีออกมาจากห้องนอนของฮัสซันเพราะเกรงว่าจะทำเด็กชายตื่น เจ้าชายหนุ่มก้าวตามออกมาติดๆ และคว้าแขนของหล่อนเอาไว้ พร้อมกับกระชากร่างอรชรเข้าไปปะทะแผ่นอกกว้าง
ความนุ่มนิ่มของก้อนเนื้อนุ่มกระแทกเข้ากับความแข็งกำยำของกล้ามเนื้อของเขา ทำให้กระแสไฟฟ้าแรงสูงวิ่งพล่านไปทั้งร่าง หล่อนช้อนตาขึ้นมองเขาด้วยความตื่นตกใจ ซึ่งก็เห็นว่าเขาก็ช็อกไม่ต่างจากหล่อนเท่าไหร่นัก
“เธอชอบทำให้ฉันโมโห”
“หม่อมฉัน… เปล่า…”
หล่อนส่ายหน้าไปมาอย่างเลื่อนลอย ในขณะที่ศีรษะของเจ้าชาย เซรีมโน้มต่ำลงมาหา
“เธอทำ เพราะเธอรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้”
นี่เจ้าชายเซรีมกำลังหมายถึงอะไรเนี่ย
มะลิสับสน และสมองก็หยุดทำงานลงไปแล้วตั้งแต่ตอนที่เนื้อตัวปะทะกับเขานั่นแหละ
“พวกเจ้าออกไปให้หมด”
เขาหันไปออกคำสั่งกับเหล่านางกำนัลที่ยืนก้มหน้ามองพื้นพรมอยู่เสียงทรงอำนาจ
“เพคะ”
“เจ้าชายไล่นางกำนัลออกไปทำไมคะ”
เขาแสยะยิ้ม มองหล่อนอย่างรู้ทัน “ฉันก็กำลังจะทำในสิ่งที่เธอปรารถนายังไงล่ะ”
“หมายถึงอะไรเพคะ”
หล่อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อจู่ๆ ปากของหล่อนก็ถูกครอบครองอย่างดุเดือด
“อื้อ… อุ๊บบบ”
หล่อนผลักไส แต่พอถูกลิ้นสากพุ่งทะยานเข้ามาในอุ้งปากสาวเท่านั้นแหละ มือเล็กก็ไต่ขึ้นไปโอบรอบลำคอแกร่งอย่างว่านอนสอนง่าย และก็ครางออกมาด้วยความพึงพอใจเป็นที่สุด
ปากอิ่มขยับจูบตอบด้วยอารมณ์โหยหาไม่ต่างกัน สองปากขยับเคล้าคลึงอย่างเร่าร้อน ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ไปตามสัดส่วนอวบอัดของสาวสะพรั่ง บีบเคล้นในทุกส่วนที่สามารถทำได้
“อ๊า…”
หลังจากที่เจ้าชายบ้าเลือดอย่างเซรีมบดขยี้ปากอิ่มจนบวมเจ่อและเขาก็อิ่มเอมแล้ว ปากและลิ้นสากก็เลื่อนต่ำลงมายังซอกคอระหง เขาผลักร่างของหล่อนเข้าใส่ผนังอย่างไม่ปรานี ก่อนจะตามติดเข้ามาดูดปากอิ่มอีกครั้ง ดูดกลืนกินลิ้นหวานของหล่อนอย่างตะกละตะกลามมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
“อ๊า… อื้อ… อา…”
เขาดูดลิ้นหล่อนแรงมาก จนมันแทบขาดหลุดเข้าไปในลำคอของเขา ฝ่ามือของเขาก็สอดเข้ามาใต้เสื้อตัวสวย เลื่อนขึ้นมากอบกุมเต้านมเอาไว้ และครางกระหึ่มด้วยความพึงพอใจกับขนาดของมัน
หล่อนควรจะดิ้นหนี ควรจะผลักไสเขาสิ เพราะเขาบังอาจจับหน้าอกของหล่อนเลยนะ แต่… แต่ร่างสาวกลับหยัดแอ่นขึ้นหา หยัดเต้าอวบใส่มือใหญ่อย่างเต็มอกเต็มใจ
“อา… อ๊า…”
“เธอไฟแรงสูงมาก จัสมิน…”
เขากระซิบข้างหูเล็ก และดันขอบเสื้อชั้นในขึ้นไปด้านบน เต้านมเปลือยเปล่าสัมผัสกับฝ่ามือของเขาในที่สุด
“อ๊ะ… อา…”
เขาขยำเต้าอวบเปลือยเปล่าแรงๆ ก่อนจะสะกิดที่ยอดถันจนมันชูชัน
ไฟสวาทร้อนฉ่าวิ่งเข้าใส่ช่องท้องหญิงสาวอย่างรุนแรง และมันก็สุดจะควบคุม
“อา… อ๊า… อา…”
ความรู้สึกแบบนี้มันคืออะไรกันนะ ทำไมมันถึงน่าหลงใหลแบบนี้ ยิ่งเขาดูดเนื้อที่ลำคอ และขยำเต้านมไปพร้อมๆ กัน หล่อนก็ยิ่งรู้สึกว่าไฟในกายเพิ่มจำนวนขึ้นทุกขณะ
เซรีมลากลิ้นไปกับเนื้อเนียนนุ่มราวกับน้ำนมของเมียเก็บน้าชาย เขาไม่อยากทำแบบนี้ เขาเกลียดตัวเองที่ชอบลืมตัวกับหล่อน แต่กระนั้นก็ไม่สามารถหยุดที่จะจูบ หยุดที่จะเขี่ยยอดถันเม็ดเล็กของหล่อนได้ ร่างกายของเขากำลังตื่นตัว และมันก็ต้องการที่จะเดินหน้าไปให้ถึงปลายทาง
ฝากฝังเข้าไปในร่างเล็กของหล่อน จากนั้นก็โยก คลึง กระแทกให้หล่อนครวญคราง และแตกระเบิดออกมา
พระเจ้า… นี่เขากำลังถูกผีห่าซาตานตัวไหนเข้าสิงกันนะ เขาต้องหยุดสิ แต่ให้ตายเถอะ เขาอยากดูดอมยอดถันของแม่ผู้หญิงร้อนแรงคนนี้เหลือเกิน