จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 822 ตอนอวสาน
“หยุนหลัน ในสายตาของเธอยังมีลุงใหญ่คนนี้อยู่หรือเปล่า?” กู้เจี้ยนกั๋วเริ่มคาดคั้นกู้หยุนหลัน
กู้หยุนหลันไม่มีความเห็นใจใดๆ ทั้งสิ้น เธอพูดอย่างเฉยเมย “ลุงใหญ่ แล้วคุณล่ะยังมีฉันอยู่ในสายตาหรือเปล่า?”
ที่ผ่านมาเธอให้เกียรติลุงใหญ่และลุงรองมาก แต่ลุงใหญ่และลุงรองทำให้เธอผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเขาไม่เพียงแย่งชิงหุ้นบริษัทที่เป็นของเธอเท่านั้น แต่ยังขับไล่เธอออกไปด้วย
แม้ว่าจะถูกขับไล่ออกไป แต่ลุงใหญ่และลุงรองก็ยังคอยมาสร้างปัญหาให้กับเธออยู่ตลอด เหมือนผีดูดเลือดที่สลัดอย่างไรก็ไม่หลุด เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงยังมีหน้ามาต่อว่าเธออีก
“ดีมาก พวกเธอเด็ดเดี่ยวดี” กู้เจี้ยนกั๋วไม่เพียงไม่ตระหนักถึงความผิดพลาดของตัวเอง แต่ยังคิดมาตลอดว่ามันสมควรแล้ว ทิ้งไว้หนึ่งประโยคหนึ่งอย่างเกลียดชัง ก่อนจะออกไปจากที่นี่พร้อมกับกู้เจี้ยนเจียง
กู้เจี้ยนหมินพูดอย่างกระสับกระส่าย “จบแล้ว ด้วยนิสัยของพี่ใหญ่ เขาย่อมไม่ยอมเลิกราง่ายๆ ถึงยังไงพวกคุณควรสุภาพกว่านี้”
“พ่อคะ ไม่เห็นเหรอว่าพวกเขารังแกเรายังไง ถ้าเรายังอ่อนแออีก เราคงได้นอนข้างถนนไปแล้ว” กู้หยุนหลันขมวดคิ้วพูด เธอเองก็เคยมีประสบการณ์ความเจ็บปวดเช่นนั้นมาก่อน
หลี่โม่เห็นด้วยกับจุดนี้ พลางพูดว่า “พ่อแม่ พวกท่านไม่ต้องกลัว ยังมีพวกเราอยู่”
“มีหยุนหลันอยู่ก็ไม่เป็นไรแล้ว คุณก็ช่างมันเถอะ” หวังฟางเหลือบมองลูกเขยของเธออย่างไม่สบอารมณ์ เธอไม่พอใจลูกเขยของเธอคนนี้มาก
กู้หยุนหลันส่ายหน้าและคิดว่า ถ้าอีกฝ่ายรู้ว่าความยากลำบากส่วนใหญ่มาจากความช่วยเหลือของหลี่โม่ ไม่รู้ว่าเขาจะคิดอย่างไร?
หลังจากการประชุมภายในครอบครัวสิ้นสุดลง บรรดาญาติๆ ของตระกูลกู้เริ่มประจบสอพลอกู้หยุนหลัน เพราะหุ้นของกู้หยุนหลันนั้นมากที่สุดในบรรดาญาติๆ ของตระกูลกู้ แล้วยังเป็นประธานของบริษัทด้วย
พวกเขาล้วนต้องการเอาใจกู้หยุนหลัน ผูกมิตรกับอีกฝ่าย เช่นนี้ก็อาจจะมีตำแหน่งที่ดีในบริษัทและได้รับโบนัสเป็นจำนวนมาก
“หยุนหลัน ฉันเฝ้ามองเธอเติบโตมาตั้งแต่เด็ก”
“นอกจากพ่อแม่ของเธอแล้ว ตอนเด็กๆ ฉันกอดเธอบ่อยที่สุด”
“หยุนหลัน ฉันเคยส่งของขวัญให้เธอไปไม่น้อย ถ้ามีตำแหน่งดีๆ ก็อย่าลืมฉันเด็ดขาดเลยนะ”
“…”
บรรดาญาติๆ ของตระกูลกู้เริ่ม ‘รำลึกอดีต’ ทันที แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะนึกถึงมันได้
กู้หยุนหลันเผยรอยยิ้มพะอืดพะอมแต่ไม่เสียมารยาทตอบกลับทีละคน เธอเอามือกุมหน้าผากพลางเหลือบมองหลี่โม่อย่างตำหนิ ราวกับกำลังพูดว่า ดูเรื่องที่คุณทำสิ
หลี่โม่ยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ แต่เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจความหมายของประโยคที่ว่า คนจนในใจกลางเมืองไม่มีใครรู้ คนรวยในป่าเขายังมีคนมาเยี่ยมเยียน
ในอดีต ญาติๆ ของตระกูลกู้มีทัศนคติที่ไม่ดีต่อกู้หยุนหลัน ยิ่งไปกว่านั้นยังตามเสียดสีกู้หยุนหลันไปทุกที่ เมื่อคนเหล่านี้เห็นว่ากู้หยุนหลันได้เป็นประธานบริษัท ก็พยายามประจบประแจงเธอเต็มที่
หลี่โม่สามารถใช้เพียงคำคำเดียวมาบรรยายได้ จอมปลอม!
กู้หยุนหลันก็ไม่พอใจญาติๆ ของเธอพวกนี้มาก ภายนอกก็ตอบตกลง แต่ในใจก็ไม่ได้ฟัง
กู้ชิงหลินรู้สึกไม่สบายใจมาก แม้ว่าเรื่องราวตอนนี้จะจบลงแล้ว แต่เธอก็รู้ว่าตัวเองไม่สามารถหลบหลีกได้ตลอดไป ในใจรู้สึกกลัดกลุ้มมาก
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูสีหน้าไม่ค่อยดี กู้หยุนหลันก็รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังกังวลเรื่องอะไร เธอยิ้มเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ชิงหลิน ฉันได้ยินมาว่าการบัญชีของไม่เลว เธอมาทำฝ่ายการเงินที่บริษัทได้ไหม? ฉันจะแบ่งหุ้นให้เธอทีหลัง”
“จริงเหรอ?” กู้ชิงหลินกล่าวด้วยความดีใจ เธอรู้ดีว่าหุ้นนั้นมีผลประโยชน์อย่างไร หากเธอมีหุ้นในตระกูลกู้ ต่อไปเธอจะมีความปลอดภัยมากขึ้นในตระกูลกู้ ถือว่าเป็นหลักประกันอย่างหนึ่งเช่นกัน
กู้หยุนหลันพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ความทุกข์ในหัวใจของกู้ชิงหลินจางหายไปทันที เธอร้องไห้ด้วยความตื้นตันใจ “เมื่อก่อนฉันทำกับเธอขนาดนั้น แต่เธอก็ยังทำดีกับฉันอยู่”
“ไม่ต้องร้องไห้ ถ้าเธอทำได้ไม่ดี ฉันอาจจะไม่ให้เงินเดือนเธอก็ได้นะ” กู้หยุนหลันพูดติดตลก
กู้ชิงหลินมีกำลังใจขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องกังวล พี่หยุนหลัน เธอไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะทำมันให้สำเร็จ”
หลังจากหุ้นกลับมาอยู่ในมือกู้หยุนหลันแล้ว กู้หยุนหลันได้อาศัยอำนาจประธานจัดระเบียบบริษัทกู้ซื่อใหม่ทั้งหมด ภายในระยะเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่เดือน ได้ผลักดันบริษัทกู้ซื่อมาถึงจุดสูงสุด ส่วนลุงใหญ่และลุงรองที่ไม่มีหุ้นแล้ว ได้ถูกจำกัดทุกด้านในกลุ่มบริษัท ตกต่ำจนไม่อาจพลิกฟื้นได้ ไม่สามารถทำร้าย ครอบครัวของกู้หยุนหลันได้อีกต่อไป
ในแผนตอบโต้บริษัทของกู้หยุนหลัน หลายอย่างล้วนเป็นความคิดของหลี่โม่ ความรู้สึกระหว่างทั้งสองค่อยๆ ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ
หลี่โม่เห็นทางนี้สามารถสงบจิตสงบใจลงได้ จึงกลับไปที่สำนักหลงเหมินและพบกับราชินีของสำนักหลงเหมิน เขาใช้กุญแจลับของสำนักหลงเหมินมาเป็นข้ออ้าง วางหมากด้วยตัวเอง แล้วจึงพาเขาไปหาราชินีของสำนักหลงเหมิน
ในระหว่างการโต้เถียง หลี่โม่ยิงราชินีของสำนักหลงเหมินเสียชีวิต สุดท้ายหลี่โม่ก็เปิดขุมทรัพย์สำนักหลงเหมินด้วยกุญแจลับของสำนักหลงเหมิน ภายในขุมทรัพย์มีทอง เงิน และเครื่องประดับมากมาย เป็นสมบัติที่สะสมมา
หลี่โม่ใช้โอกาสนี้กำจัดคนต่ำทรามที่คุกคามคนอื่นๆ ในสำนักหลงเหมิน และขึ้นเป็นเจ้าสำนัก ภายใต้การบริหารของหลี่โม่ สำนักหลงเหมินมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อยๆ ฐานะทางเศรษฐกิจก็เพิ่มสูงขึ้นจนอยู่เหนือราชวงศ์
เขาใช้อิทธิพลของตัวเอง นำพาหยุนจงหลันกรุ๊ปให้กลายเป็นเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในเมืองฮ่านได้ในที่สุด
ความรู้สึกระหว่างเขากับกู้หยุนหลันเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ข้างนอกหลี่โม่เป็นราชามังกรที่น่าสะพรึงกลัว แต่ในบ้านเขาเป็นเพียงผู้ชายที่ดีคนหนึ่ง ที่ถูพื้นและทำงานบ้านอยู่เงียบๆ
หวังฟาง แม่ยายของเขากล่าวว่า “ลูกเขยผู้แสนดี คุณไม่ต้องถูพื้นแล้ว ฉันจะปล่อยให้เจ้าสำนักหลงเหมินผู้สง่างามอย่างคุณมาถูพื้นได้ยังไง เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
เพื่อนของกู้หยุนหลันเหน็บว่า “สามีของคุณช่างไร้ประโยชน์”
“ใครกล้าหยาบคายกับเจ้าสำนัก!”
บรรดาอัจฉริยะของสำนักหลงเหมินนับร้อยคนตะโกนขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
จบบริบูรณ์