จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 797 ท่านเทียนก็ช่วยมันไม่ได้
แม้ว่าเขาจะสร้างเรื่องใหญ่มากขนาดไหน ท่านเทียนก็ไม่มีทางลงโทษเขา และยังจะให้เขาทำงานเพื่อชดใช้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ข้างกายท่านเทียน แต่ว่าเขารู้ดีว่าท่านเทียนให้ความสำคัญแก่เขา ไม่ต่างอะไรกับให้ความสำคัญกับคนของตัวเอง
"นี่มันคงจะไม่ค่อยดีมั้งครับ งั้น….."
คนคนนั้นเดิมทียังอยากจะพูดอะไรบางอย่างอีก แต่พี่จ้วงกลับตัดบทเขาอย่างเย็นชา "นายหุบปากซะ วันนี้มันตายแน่ ฉันเป็นคนพูด ท่านเทียนก็ช่วยมันไม่ได้"
ผู้มีอำนาจในห้องไม่น้อยเห็นแบบนี้แล้ว ต่างก็ไม่มีความคิดที่จะสงสารหลี่โม่ แต่กลับอยากเห็นภาพที่หลี่โม่ถูกทรมานสั่งสอน
อาเปียวเองก็อยู่ในเหตุการณ์พอดี เขาอยากจะบอกตัวตนของหลี่โม่ออกไป แต่ว่าในใจของเขาลังเล ที่นี่เป็นถิ่นของพี่จ้วง ถ้าหากว่าเขาบอกตัวตนของหลี่โม่ออกไป นั่นก็เป็นการวางตัวเป็นศัตรูกับพี่จ้วงสิ
เขาเข้าสู่จุดที่ลำบากใจ ในตอนที่กำลังลังเลว่าจะพูดดีมั้ย ถ้าหากว่าพูดออกไป ไม่แน่เขาเองก็อาจจะถูกพี่จ้วงฆ่าปิดปากด้วยก็ได้
หลังจากที่อาเปียวลังเลอยู่นาน เขารีบเรียกลูกน้องของตัวเองมา ขณะเดียวกันก็แอบส่งข้อความให้กับฉู่จงเทียน
เมื่อฉู่จงเทียนเห็นข้อความ ก็โมโหขึ้นมาทันที ตามการกระทำของอาเปียวนั้น ตัวเขาเองก็คิดว่าเห็นด้วย ถ้าหากว่ามีเรื่องกันจนถึงขั้นฆ่าแกงกันก็ไม่เป็นไร ที่สำคัญคือถ้าคุณหลี่เป็นอะไรไป เขาจะต้องไม่สามารถให้อภัยตัวเองแน่นอน
ฉู่จงเทียนเรียกลูกน้องใกล้เคียงมา แทบจะสามารถเรียกได้ว่าเรียกมาจนหมดเลยก็ว่าได้
อาเปียวเองก็ไม่ได้ว่างอยู่ เขาส่งข้อความให้กับคนที่ตัวเองสนิทด้วย ให้คนพวกนั้นเรียกลูกน้องของตัวเองเข้ามาก่อน
และเรื่องพวกนี้ พี่จ้วงนั้นไม่รับรู้ด้วย และเขาเองก็ไม่รู้ว่ามีมีดเล่มหนึ่งตกอยู่บนหัวของเขาแล้ว และสามารถตกลงมาได้ตลอดเวลา
อาเปียวทำเป็นส่งเสียงไอ "ช่างมันดีกว่าน่า"
"พี่เปียว ผมรู้ว่าพี่ใจอ่อน พี่วางใจได้ ผมจะจัดการอย่างดีแน่นอนครับ" พี่จ้วงพูดด้วยรอยยิ้ม
อาเปียวกลอกตาทีหนึ่ง ในใจนั้นด่าแม่ไปแล้ว ฉันใจอ่อนที่ไหนกัน นายเคยเห็นตอนที่ฉันใจอ่อน? นี่ฉันกำลังรักษาชีวิตของนายไว้ต่างหาก
พี่จ้วงพูดนิ่งๆว่า "เคลียร์พื้นที่"
ทันใดนั้น คนของพี่จ้วงที่อยู่ด้านนอกก็รีบไล่ลูกค้าออกไปจนหมด แม้ว่าลูกค้าจะน้อยลงไปบางส่วน แต่ว่าจำนวนคนในบาร์ก็ยังเยอะอยู่
เนื่องจากว่าจาเจียเล่อสลบอยู่บนโซฟา คนพวกนั้นไม่ได้สังเกตเห็นว่าบนโซฟายังมีคนคนหนึ่งนอนอยู่
"ให้โอกาสนายครั้งสุดท้าย คุกเข่าลงซะ" พี่จ้วงยื่นนิ้วหนึ่งออกมา
"นายอย่าได้เสียใจทีหลังละ" หลี่โม่พูดนิ่งๆ
พี่จ้วงเหมือนว่าได้ยินเรื่องตลกที่สุดในโลก เขาประชดว่า "ฉันทำอะไรไม่เคยรู้สึกเสียใจทีหลังมาก่อน"
หลี่โม่หันหลังเดินจากไป สีหน้าพี่จ้วงโมโห นี่มันไม่ให้เกียรติเขาชัดๆ แล้วยังมีคนมากมายขนาดนี้กำลังมองเขาอยู่ด้วย
พี่จ้วงยิ้มชั่วร้าย ให้ลูกน้องของตัวเองไปลงมือก่อน พวกลูกน้องพวกนั้นก็พุ่งไปหาหลี่โม่ในทันที
อาเปียวลุกขึ้นยืนและพูดว่า "คนคนนี้คือคุณหลี่ ทางที่ดีนายรีบหยุดซะ"
"อะไรนะ?" เมื่อพี่จ้วงได้ยินอย่างนี้แล้ว สมองอื้อไปสักพัก เกือบจะไม่ได้สติกลับมา
เขารู้ว่าอาเปียวเป็นใคร อาเปียวเป็นลูกน้องข้างกายของท่านเทียนที่มีฝีมือ แม้แต่อาเปียวยังพูดแบบนี้ งั้นก็แสดงว่าไม่ได้โกหก
ตัวเขาแข็งทื่อไปหมดในทันที ข่าวสารแบบนี้ สำหรับตัวเขาแล้ว เหมือนเป็นสายฟ้าในวันที่ท้องฟ้าสดใส ถ้าหากว่าหลี่โม่เป็นเพื่อนของท่านเทียนจริงๆ งั้นเขาก็ได้ตายแน่ๆ
เขาเห็นหลี่โม่ที่ถูกผู้คนล้อมรอบไว้ สีหน้ามืดขรึม ตัดสินใจว่าสนใจอะไรมากไม่ได้แล้ว อย่างน้อยตรงนี้ก็ล้วนเป็นคนของเขา สามารถพูดได้ว่าที่นี่เป็นแหล่งที่ความลับไม่สามารถรั่วไหลไปได้
เขาหมดหนทางและเดินตามความเสี่ยงแล้ว สีหน้าของเขาค่อยๆโหดร้ายมากขึ้น ในมือมีมีดพกเพิ่มเข้ามา แล้วค่อยๆเดินเข้าไปหาอาเปียว
"ขอโทษด้วย ฉันไม่อยากตาย"
อาเปียวรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะต้องทำแบบนี้ เขายิ้มเยาะ "ไม่ทันแล้ว ท่านเทียนรู้เรื่องนี้แล้ว นายรอท่านเทียนมาลงโทษนายได้เลย"
เมื่อพี่จ้วงได้ยินแบบนี้แล้ว เขาก็ตัวสั่น ในใจก็ยิ่งร้อนรนมากขึ้น ตัดสินใจที่จะจัดการอาเปียวทิ้งก่อน จากนั้นค่อยหนีออกจากเมืองฮ่านอย่างรวดเร็ว ไม่แน่อาจจะยังมีโอกาส
ศิลปะการต่อสู้ของอาเปียวนั้นก็ไม่เลว ต่อสู้กับพี่จ้วงเองก็ได้รับบาดเจ็บ แต่ยังดีที่เป็นบาดแผลเล็กน้อย
ผู้มีอำนาจในเหตุการณ์ต่างก็อึ้งตะลึง พวกเขาต่างก็ไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ พวกเขาต่างก็พิงกำแพงไว้ ไม่มีใครกล้าแบ่งพรรคพวก
ในตอนนี้เอง ฉู่จงเทียนพาคนข้างกายเดินเข้ามาอย่างสง่า บาร์ถูกปิดกั้นไว้จนหมด
พวกคนที่ต่อสู้กับหลี่โม่ ต่างก็ถูกควบคุมไว้ พี่จ้วงเห็นว่าตัวเองจะพ่ายแพ้แล้ว เขาก็กลืนน้ำลายลงอย่างอึ้งตะลึง
เขาไม่คิดเลยว่าฉู่จงเทียนจะมาด้วยตัวเอง ต้องรู้ไว้ว่า นั่นมันแค่คนธรรมดา คนธรรมดาสามารถทำให้ท่านเทียนมาด้วยตัวเอง ความสัมพันธ์นี้มันจะแน่นแฟ้นมากแค่ไหนกัน
ความน่าเกรงขามของฉู่จงเทียนเหยียบย่ำพี่จ้วงจมดิน เขาหรี่ตาพูด "นายอยากจะตายรอ แม้แต่คุณหลี่ก็กล้าแตะ แล้วยังกล้าแตะคนของฉัน?"
"ท่านเทียนครับ ผมแค่กลัวตายมากเกินไป ดังนั้นจึงได้ทำเรื่องโง่ๆนี้ออกมา"
"นี่ไม่ใช่คำแก้ตัว นายกลัวตายขนาดนี้ ไม่แน่วันไหนนายอาจจะถูกคนชี้นำให้มาฆ่าฉันก็ได้" ฉู่จงเทียนส่งเสียงในลำคอ
การตอบคำถามแบบเปลี่ยนจุดยืนกันแบบนี้ ทำเอาพี่จ้วงตอบสนองไม่ทัน เขาไม่คิดว่าฉู่จงเทียนจะถามคำถามแบบนี้ออกมา
"ท่านเทียนครับ ผมไม่มีความใจกล้านั้นแน่นอนครับ คุณต้องเชื่อผมนะครับ" พี่จ้วงเถียงด้วยความหวาดกลัว
ฉู่จงเทียนพูดเสียงเย็นชาว่า "ไม่ต้องแก้ตัวแล้ว กลับไปรอการลงโทษเถอะ บาร์แห่งนี้ ให้อาเปียวละกัน"
เมื่อเขาเห็นว่าอาเปียวบาดเจ็บ ในใจเองก็เอ็นดูมาก เพื่อเป็นการชดเชย เขาส่งมอบเรื่องนี้ให้อาเปียวจัดการ
อาเปียวรีบรับหน้าที่การดูแลบาร์ในทันที
"คุณหลี่ครับ คุณไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ" ฉู่จงเทียนถามอย่างเป็นห่วง
หลี่โม่พูดนิ่งๆว่า "นายเก่งนี่ ถึงได้ปล่อยกู้ดอกเบี้ยสูง"
"นี่ผมไม่เกี่ยวนะครับ เขาบอกกับผมว่านี่เป็นรายได้จากการเปิดบาร์" ฉู่จงเทียนเองก็ถูกถามจนงงแล้ว เขาหันไปมองพี่จ้วงอย่างเย็นชาและพูดว่า "ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าให้ดูแลบาร์ดีๆ อย่าได้ทำเรื่องเหลวไหลพวกนั้นไม่ใช่หรอ?"
"ท่านเทียนครับ มือผมมันคันไม้คันมือหาเรื่องใส่ตัว" พี่จ้วงรีบอธิบาย
ฉู่จงเทียนพูดเสียงเย็นชา "หุบปาก ฉันไม่อยากเห็นนายในเมืองฮ่านอีก"
พี่จ้วงเริ่มรู้สึกกลับตัวจากคำพูดตัวเองขึ้นมา ตอนนี้เขาเสียใจจริงๆ ถ้าเขารู้แต่แรกก็เชื่อคำพูดของคนข้างกายตัวเองแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มามีจุดจบแบบนี้หรอก
จู่ๆพี่จ้วงก็นึกบางอย่างขึ้นได้ เขายังมีไพ่สุดท้ายอยู่ พูดว่า "ท่านเทียนครับ ผมมีคำขออย่างหนึ่ง คุณจัดการมันทิ้งซะ แล้วผมจะให้พี่ชายของผมลบประวัติมืดของคุณทิ้งซะ เป็นไงครับ?"
ฉู่จงเทียนชะงักไปเล็กน้อย มีความหวั่นไหวอยู่บ้าง แต่เขาก็ปฏิเสธอย่างไม่ลังเลสักนิด พูดว่า "ไปให้พ้น! ฉันไม่ฆ่านายก็ถือว่าไม่เลวแล้ว"
เขาเห็นแก่ว่าพี่จ้วงมีพี่ชายที่มีอำนาจในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ดังนั้นอย่างมากก็แค่ให้บทลงโทษอีกฝ่ายเท่านั้น