จักรพรรดิมังกร - ตอนที่ 796 จัดการทุกอย่างตามมารยาท
จาเจียเล่อหน้านิ่วคิ้วขมวด แม้ว่าจะมีสาวสวยมาอยู่ด้วย เขาก็ยังรู้สึกไม่ดี
"พ่อหนุ่ม พวกเรามาเล่นเกมกันเถอะ เป่ายิงฉุบ ถ้าหากว่าคุณชนะ ฉันจุ๊บคุณหนึ่งที ถ้าหากว่าฉันแพ้ คุณก็จุ๊บฉันหนึ่งที เป็นยังไง?"
สาวสวยมีเสน่ห์ที่นั่งอยู่บนโซฟาหยอกล้อจาเจียเล่อ ส่วนหลี่โม่นั้นหลังจากที่เห็นจาเจียเล่อนั่งนิ่งทื่อแล้ว ก็แอบขำเล็กน้อย
จาเจียเล่อหันหน้าไปมองหลี่โม่อย่างหมดคำพูด เมื่อเขาเห็นว่าข้างกายหลี่โม่ไม่มีหญิงสาวเลยสักคนแล้ว เขาถึงได้รู้ว่าเขาตกหลุมพรางของพี่หลี่เข้าแล้ว
"พี่ชาย ฉันเอาแต่รู้สึกว่ามีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่ตลอด พวกเราออกจากเมืองฮ่านกันตอนนี้เถอะ มีให้ไปไกลแค่ไหนก็ไปไกลเท่านั้น" จาเจียเล่ออดไม่ได้ที่จะพูดออกมา
"อย่าคิดมากแล้ว ในเมื่อหนีไม่พ้น งั้นก็เผชิญหน้ากับมันอย่างกล้าหาญซะ" หลี่โม่พูดนิ่งๆ
จาเจียเล่อไม่ได้พูดอะไรอีก เขาแอบถอนหายใจ รู้สึกว่าชีวิตสับสนมาก เดิมทีกว่าจะได้เริ่มชีวิตใหม่นั้นไม่ง่ายเลย
ตอนนี้ดีละ ตกจากสวรรค์ลงนรกไปเลย
หลี่โม่หลอกถามไปว่า "นายเกลียดฉันมากใช่มั้ย?"
"พี่หลี่ ฉันไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนาย" เมื่อจาเจียเล่อได้ยินอย่างนั้นก็งงไปในทันที เกาหัวแล้วพูดไป
"เมื่อกี้ถ้าฉันไม่ลงมือ ก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"
หลี่โม่ไม่ลืมที่จะทดสอบอีกฝ่ายสักหน่อย ที่จริงแล้วเขาก็รู้ดี แต่เพื่อให้อีกฝ่ายเชื่อมั่น เขาจึงได้แสดงให้ดูเหมือนจริงสักหน่อย
"พี่หลี่ นายอย่าพูดงั้น ถ้าหากไม่ใช่เพราะพี่หลี่ แม่ของฉันคงตายไปนานแล้ว แล้วฉันก็ไม่มีเงินคืน ก็เป็นเรื่องที่จะต้องเกิดอยู่แล้ว" จาเจียเล่อรีบโบกมือพูดออกมา
เขารู้ว่าหลี่โม่นั้นช่วยเหลือเขามากขนาดไหน อย่างเช่นวันนี้ที่คนทวงหนี้มาหาเขา ถ้าหากว่าหลี่โม่ไม่ลงมือ ชีวิตเขาก็คงจบสิ้นไปแล้ว
หลังจากที่เขาเห็นสีหน้าหนักแน่นของจาเจียเล่อแล้ว เขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายไม่ได้โกหก
ในตอนนี้เอง ชายชุดสูทกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามา พวกเขาทุกคนล้วนสูงใหญ่ เหมือนดั่งภูเขาลูกหนึ่ง พวกเขายืนตัวตรงอยู่ตรงหน้าของหลี่โม่และจาเจียเล่อ
"พวกนายสองคน มากับฉัน ลูกพี่ของฉันต้องการพบนาย" น้ำเสียงเย็นชาดังออกมาจากชายชุดสูทที่นำหน้าอันดับแรก เขายิ้มเยาะทีหนึ่ง ไม่วางหลี่โม่และจาเจียเล่อไว้ในสายตาเลยด้วยซ้ำ
"มีอะไรพูดตรงนี้ก็พอแล้ว" หลี่โม่ยิ้ม
"ไอ้หนุ่ม ให้เกียรติแล้วไม่รับนะ" ชายชุดสูทคนอื่นเองก็เริ่มไม่พอใจขึ้นมา และรีบร้อนอยากจะทำภารกิจให้สำเร็จ พูดว่า "ยังจะเสียเวลาคุยกับมันทำไมกัน พาตัวไปเลย"
สายตาของชายหนุ่มผู้นำอันดับแรกมีความเย็นชาแวบเข้ามา เดินเข้าไปอยากจะจับตัวหลี่โม่
ถึงแม้ว่าการกระทำของอีกฝ่ายจะเร็วอยู่นิดหน่อย แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของหลี่โม่เร็วกว่า เขาพลิกตัวทีหนึ่ง จากนั้นก็หลบได้แล้ว
ชายชุดสูทและคนอื่นๆต่างก็อึ้งไป พวกเขาดูออกได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายมีพื้นฐานศิลปะการต่อสู้ พวกเขามีสีหน้าเคร่งขรึม ไม่เสียเวลาพูดกับหลี่โม่มากมาย ต่างก็เริ่มลงไม้ลงมือกัน
จาเจียเล่อร้อนรน เขาอยากจะช่วยเหลือ แต่กลับถูกตีสลบไปในทันที
หลี่โม่ใช้เพียงแค่ศิลปะการต่อสู้ง่ายๆ ก็จัดการกับพวกชายชุดสูทพวกนั้นจนหมดและพูดว่า "ลูกพี่ขอพวกนายอยู่ที่ไหน"
"อยู่ที่ห้องนั้น" แขนของชายชุดสูทผู้นำถูกหลี่โม่จับไว้ เขาไม่กล้าเหวี่ยงอารมณ์ใส่หลี่โม่ ไม่อย่างนั้นแขนของเขาได้หักแน่
"พาฉันไป" หลังจากที่หลี่โม่เหลือบมองแล้วก็พูดออกมา
ชายชุดสูทผู้นำชะงัก นี่มันอะไรกัน? เขาจับต้นสายปลายเหตุไม่ถูกเลยสักนิด ตามหลักแล้วหลี่โม่จะใช้โอกาสนี้หนีไป ทำไมอีกฝ่ายถึงไม่หนีแล้วยังจะเข้าไปเองอีก
นี่มันรู้ว่ามีอันตรายอยู่ แต่ก็ยังเดินเข้าไปไม่ใช่หรอไง?
ชายชุดสูทผู้นำทำได้เพียงเดินนำทางไปอย่างเชื่อฟังเท่านั้น
เมื่อพี่จ้วงเห็นว่าคนของตัวเองกลับมาแล้ว และก็เห็นหลี่โม่ เขาไม่พูดอะไรมากแล้วก็โบกมือพูดว่า "ลงมือ"
ชายชุดสูทพวกนั้นต่างก็มองหน้ากัน ไม่มีใครกล้าลงมือ เมื่อกี้พวกเขาต่างก็ถูกหลี่โม่สั่งสอนกันมาแล้ว จึงได้กลัว พวกเขาเองก็ไม่โง่ ถ้าหากว่าลงมืออีกครั้ง คนที่เจ็บตัวก็ยังเป็นพวกเขาอยู่ดี
"ยังจะนิ่งอยู่ทำไมกัน?" พี่จ้วงเห็นภาพนี้แล้วก็ขมวดคิ้วต่อว่า
"ลูกพี่ครับ พวกผมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาครับ" ชายชุดสูทคนนั้นสภาพออกไป
พี่จ้วงถึงได้สังเกตเห็นว่าคนพวกนี้จู่ๆก็มีรอยฟกช้ำบนใบหน้าเพิ่มเข้ามา เห็นได้ชัดว่าถูกทำร้ายมา เขาคิ้วกระตุก แล้วหยุดสายตาที่ตัวของหลี่โม่ ในใจคิดว่า หรือว่าไอ้นี่จะเป็นคนทำ?
หลังจากชายหนุ่มพวกนั้นเห็นหลี่โม่ ก็รีบฟ้องกับพี่จ้วง และร้องไห้งอแงไม่ต่างจากเด็กน้อย "ลูกพี่ครับ มันนั่นแหละครับ มันไม่เคารพลูกพี่"
"นายรู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร?" เดิมทีพี่จ้วงอยากจะให้คนสั่งสอนหลี่โม่สักหน่อย เพื่อเพิ่มความน่าเกรงขามของตัวเอง ตอนนี้เขาทำได้เพียงเปลี่ยนวิธีแล้ว
หลี่โม่ส่ายหัว พี่จ้วงยิ้มเยาะ "นายไม่รู้จักฉันก็ปกติ เพราะคนที่อยู่ในวงการนี้ ต่างก็รู้ว่าฉันเป็นใคร วันนี้ นายจ่ายฉันมาห้าแสน เรื่องนี้ก็ถือว่าจบ ไม่อย่างนั้น นายก็อย่าคิดจะออกจากห้องนี้"
ถึงแม้ว่าบอดี้การ์ดของตัวเขาจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่โม่ แต่ว่าบาร์แห่งนี้เป็นถิ่นของเขา ในบาร์แห่งนี้ คนกว่า 90% เป็นลูกน้องของเขาทั้งนั้น
แม้ว่าจะสู้กันโดยใช้กำลังคนมากมาย ก็มากพอที่จะให้หลี่โม่บาดเจ็บแล้ว
หลี่โม่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรเหมือนเดิม พี่จ้วงคิดว่าอีกฝ่ายถูกตัวเองข่มขู่จนหวาดกลัว เขาจึงยิ้มอย่างได้ใจ "นายต้องคิดวิเคราะห์ให้ดีละ"
ชายหนุ่มพวกนั้นต่างก็ใช้สายตาเยาะเย้ยมองหลี่โม่ เหมือนกับว่าเห็นภาพที่หลี่โม่คุกเข่าแล้วเอาเงินมาให้
"และแน่นอนว่ายังต้องกราบฉันอีกสามที นายทำร้ายคนของฉัน ทำให้ฉันเสียหน้ามาก" พี่จ้วงพูดต่อไปอย่างได้คืบเอาศอก
หลี่โม่ยิ้มถามว่า "ถ้าหากว่าฉันไม่ขอโทษละ?"
เมื่อพี่จ้วงได้ยินอย่างนั้นแล้ว ใบหน้าก็ปรากฏความโกรธขึ้นมาในทันที และด้านนอกห้องก็มีคนผ่านไปมาตลอด
"พี่ครับ คนนี้เหมือนว่าผมจะรู้จัก เหมือนว่าเขาจะเป็นเพื่อนของท่านเทียนครับ" จู่ๆเวลานี้ คนข้างกายของพี่จ้วงที่สำรวจมองดูหลี่โม่ซ้ำไปซ้ำมาก็พูดเตือนขึ้นมา
"คนข้างกายของท่านเทียน?" ทุกคนในเหตุการณ์ได้ยินแล้วต่างก็เข้าใจดี ท่านเทียนเป็นใคร? ท่านเทียนเป็นถึงบุคคลที่แค่กระทืบเท้าในเมืองฮ่าน เมืองฮ่านยังสั่นสะเทือน
พวกเขาไม่สามารถเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างหลี่โม่กับฉู่จงเทียนเข้าด้วยกันได้ พวกเขาดูท่าทางของหลี่โม่แล้ว ไม่ใช่นักธุรกิจที่ร่ำรวย ส่วนในเรื่องของการต่อสู้ พวกเขาก็คิดว่ายังขาดอะไรไป
พี่จ้วงไม่ได้ถือเป็นเรื่องจริงและพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า "นายตามัวรึเปล่า มันจะเป็นคนข้างกายของท่านเทียนได้ยังไงกัน แม้ว่ามันจะเป็นคนข้างกายของท่านเทียน ท่านเทียนก็ไม่มีทางมีปัญหากับฉันเพราะคนธรรมดาคนหนึ่งหรอก"
เขาไม่เชื่อว่าท่านเทียนจะลงโทษเขาเพียงเพราะคนธรรมดาคนเดียว แต่เขากลับไม่รู้ว่า ความอวดเก่งของตัวเอง จะนำพาเรื่องเลวร้ายมากขนาดไหนมาให้กับตัวเอง
คนคนนั้นพูดเสียงเบาว่า "บอกกับท่านเทียนสักหน่อยดีมั้ยครับ ยังไงซะก็ทำตามมารยาท"
"ไม่ต้อง คนรอบข้างท่านเทียนเยอะขนาดนั้น ฉันให้ค่าเคารพนับถือกับท่านเทียนมากขนาดนี้ทุกวัน ท่านเทียนให้ความสำคัญกับฉันมาก" เหตุผลที่พี่จ้วงอวดเก่งเพราะว่าตัวเองให้เงินเคารพกับฉู่จงเทียนเป็นจำนวนมาก