ตอนที่ 9 ต่อให้ไม่มีฟักทอง ก็ยังคุยกันอยู่ดี
“ต่อให้ไม่มีฟักทอง ก็ยังคุยกันอยู่ดี”
ร่างกายของผมแข็งทื่อไปหมด
ผมขยับไปไหนไม่ได้
[…]
อนึ่งว่าตัวผมถูกพันธนาการเอาไว้ ผมไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไปว่านี่เป็นความจริงหรือความฝัน แต่ตอนนี้ผมขยับตัวไม่ได้จริงๆ ตอนนี้ผมโดนเข้าแล้วสินะ ใครก็ได้มาช่วยผมด้วย
[…]
แต่ตามคาด ร้องขอความช่วยเหลือคงไม่ได้ผล ต่อให้ผมจะแหกปากออกมาได้ แหกแทบตายก็คงไม่มีใครมาช่วย เพราะผมอยู่คนเดียวนี่นา
สุดท้ายก็ลงเอยแบบนี้เหรอ? จะจบแบบนี้เหรอ ยังจะมีสิ่งที่ผมทำได้อยู่อีกเหรอ?
[…]
อา… คงต้องยอมแพ้แล้วสินะ
ทุกอย่างล้วนมืดมัวไปหมด ร่างกายของผมยังคงแข็งทื่อเหมือนที่ผ่านมา ผมตกอยู่ในความอ่อนล้า แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงดังเข้ามา
[เดี๋ยวมันก็ไม่เป็นไรแล้ว ฮายาโตะคุง]
[ไม่เป็นไรแล้ว ฮายาโตะคุง]
นั่นมันเสียงของ…
แม้ไม่น่าเป็นไปได้ แต่นั่นเป็นเสียงของพี่น้องชินโจอย่างแน่นอน ผมเม้มริมฝีปากแน่น พยายามที่จะเปร่งคำพูดอันเบาบางของตัวเองเพื่อขอความช่วยเหลือ
ขอร้องล่ะ ช่วยด้วย!
[แน่นอน]
[ใช่แล้ว]
มือที่น่าจะเป็นของพวกเธอทั้งสองคว้า หมับ เข้าที่ร่างกายของผม มือบางที่สัมผัสตัวผมอย่างอ่อนเบา อนึ่งว่ากำลังปลอบประโลมผม ทำให้ผมรู้สึกสงบใจขึ้น
แต่ประเด็นคือ ทุกครั้งที่พวกเธอสัมผัสมือลงมาบนตัวผม ด้วยเหตุผลที่ไม่แน่ใจ ผมกลับรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
[ไม่เป็นไรหรอกฮายาโตะคุง ทำตัวตามสบายก็พอ]
[ใช่แล้ว พวกเราจะมีความสุขด้วยกัน… ตลอดไป]
มือของพวกเธอเลื่อนลงมา สัมผัสเข้ากับกับส่วน ‘นั้น’ อันแสนเปราะบางของผม ริมฝีปากกระซิบเสียงแผ่วแล้วพูดประโยคดังกล่าว ลมหายใจอุ่นราดรดใบหูของผม ผมตื่นทันทีหลังจากนั้น
[…?]
ผมเตะผ้าห่มออกไปอย่างสุดแรง แล้วรีบยันตัวลุกขึ้นนั่งขณะที่กำลังหอบหายใจเข้าออกสุดปอด
หลังจากผ่อนคลายลง ผมรู้สึกอายขึ้นมาทันที ใครจะคิดว่าตัวเองจะมาฝันถึงผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันไม่นาน แถมยังฝันว่าทำเรื่องอย่างว่าด้วยกันอีก
[…หรือเพราะเก็บกด?]
ผมไม่เห็นตัวพวกเธอทั้งสอง แต่กลับได้ยินเสียงของพวกเธออย่างชัดเจน
แต่นั่นมันก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น… ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ไม่ ผมส่ายหน้าปฏิเสธความคิดวิตถารนั่น สู้อยู่กับจิตใจของตัวผมเอง
[อาริสะกับไอนะ… สองคนนั้น…]
…
…
…
จากเมื่อคืนที่ผมเจอพวกเธอสองคน พวกเราได้คุยกันอยู่อีกพักใหญ่
ผมไม่คิดเลยว่าไอนะจะจำผมได้ จากตอนนั้นที่เธอบอกว่าจำได้จากเสียงและส่วนสูงของผม ทำเอาผมแอบกลัวเลย ในตอนที่รู้ว่าเธอหาผมเจอด้วยข้อมูลแค่นั้น
แล้วจากนั้น ผมก็เริ่มเรียกอาริสะด้วยชื่อจริง ทำให้ผมได้มีโอกาศได้เรียกชื่อของทั้งสองโดยไม่ต้องสุภาพอะไร
[…ฮ่า]
แม้ว่าจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ผมก็รู้สึกดีใจมากที่ได้รู้จักพวกเธอ อย่างน้อยก็สำหรับผม ในฐานะนักเรียนม.ปลายเพศชายวัยกำดัด
[แม่ของพวกเราอยากเจอนาย วันหยุดสุดสัปดาห์นี้มาที่บ้านของพวกเราได้ไหม]
[ใช่แล้วๆ ถ้าเป็นฮายาโตะคุงก็พวกเรายินดีต้อนรับเลย ให้พวกเราได้ตอบแทนอะไรนายบ้างเถอะ]
ด้วยการที่คุยกันเรื่องนี่ ถ้าเกิดพวกผู้ชายในห้องผมที่แต่เดิมก็ชอบสองคนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รู้เรื่องที่พวกเราคุยกันล่ะก็ คงใจสลายกันเป็นแถบแน่นอน
จากมุมมองของสองสาวคนพี่ ผมเป็นคนที่ช่วยพวกเธอจากเหตุการณ์ครั้งนั้น พวกเธอเลยคิดว่าผมเป็นคนพิเศษกว่าคนปกตินิดหน่อย แต่สักวัน ทุกอย่างก็ต้องกลับเป็นเหมือนเดิม ผมเชื่อแบบนั้น
[เอาเถอะ ไปเตรียมตัวก่อนดีกว่า]
วันจันทร์แรกของสัปดาห์นี้ เป็นวันที่ผมรู้สึกเอื่อยสุดๆ แต่ผมเป็นนักเรียนนี่นะ งั้นก็ช่วยไม่ได้
…
…
…
คำพูดที่พวกเธอพูดก่อนแยกย้ายกันว่า ‘เจอกันพรุ่งนี้นะ’ กำลังรบกวรจิตใจผม แต่คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก
ในที่สุดผมก็เตรียมตัวเสร็จ บ้านหลังนี้ใหญ่เกินไปจริงๆ นั่นแหละ ใหญ่และเงียบเกินกว่าจะอยู่คนเดียว…
[ไปแล้วนะครับ]
พูดไปก็ไม่มีวันได้คำตอบกลับมา เป็นแบบนี้ตลอดมา เป็นเรื่องปกติของผม เป็นนิสัยจากก้นบึ้งของผม
ผมสะพายกระเป๋าแล้วเดินไปตามถนน
ระหว่างที่ผมเดินผ่านบ้านชินโจ
[…อ่ะ]
[…อ๊ะ!]
[…นายท่า─ อะแฮ่ม ฮายาโตะคุง]
พวกเธอทั้งสองก็เปิดประตูบ้านเดินออกมาพอดี
ไอนะเห็นผมก่อน ตามมาด้วยอาริสะ พวกเธอเลยวิ่งเข้ามาหาผมทันที ผมรีบเบือนหน้าหนีเพื่อไม่ให้เห็นหน้าอกของพวกเธอที่ถูกซ่อนไว้ใต้เครื่องแบบนักเรียน ซึ่งกำลังเด้งไปมาขณะวิ่ง
[อรุณสวัสดิ์ ฮายาโตะคุง]
[อรุณสวัสดิ์ ฮายาโตะคุง!]
[…อรุณสวัสดิ์ครับ ทั้งสองคน]
พอนึกย้อนดูดีๆ นี่คงครั้งแรกที่พวกเราคุยกันที่หน้าบ้านของพวกเธอแบบนี้ จนถึงเมื่อกี้ เราคุยกันแค่ไม่กี่คำ แต่ถ้าได้รู้จักกันมากกว่านี้ ก็คงได้คุยกันมากกว่านี้
[นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเราเจอกันที่นี่ ตั้งแต่ที่ฉันรู้จักนายด้วยชื่อฮายาโตะคุงใช่ไหม?]
[ก็จริง ตอนนั้นพวกเราไม่ได้เจอกันบ่อยนี่นา]
พวกเธอไปโรงเรียนด้วยกันเสมอตามเวลาของพวกเธอ ไม่เหมือนกับผมที่ช้าหรือเร็วก็อยู่ที่อารมณ์ ทำให้บางครั้งผมก็ได้เจอกับพวกเธอ หรือไม่ก็ไม่เจอเลย
[…]
[อาริสะ?]
[ไม่มีอะไร]
ไม่น่าใช่นะ…
เมื่อผมเรียกเธอ ตัวเธอก็กระตุกทันที เธอเป็นอะไรรึเปล่า ผมเห็นเธอส่ายสะโพกมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว อดคิดไม่ได้เลยว่าเธออยากไปห้องน้ำรึเปล่า แต่เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายอย่างผมควรพูด ผมเลยเงียบไป
[…อะแฮ่ม เรื่องเมื่อกี้ขอโทษทีนะ]
[อยู่แล้ว พี่น่ะควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้หรอก]
[ฉันไม่ได้อยากได้ยินคำนั้นจากเธอเลย ไอนะ…]
อื่ม…?
หลังจากที่พวกเธอคุยกันในเรื่องที่ผมเข้าไม่ถึง ทั้งสองก็มองมาที่ผม อาริสะมองผมด้วยสายตาที่เย็นชาเหมือนเคย ส่วนไอนะยังคงยิ้มมีความสุขเหมือนเคย
[ไม่ไปกันเหรอครับ?] (ฮายาโตะ)
[? ไปสิ] (อาริสะ)
[ไปอยู่แล้ว?] (ไอนะ)
[งั้นไปกันเถอะครับ] (ฮายาโตะ)
[อื้ม] (อาริสะ)
[โอเค] (ไอนะ)
…
พวกเราสามคนยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับไปไหน ทำเอาผมสงสัยไปชั่วขณะ ผมเลยถามดูอีกที
[ทั้งสองอยากไปกับผมไหม?]
[แน่นอน]
[อื้ม]
อ่า ว่าแล้วเชียว
ผมเริ่มก้าวเท้าเดินไป พวกเธอก็เริ่มเดิมตามมา
อาริสะเดินประกบซ้ายผม ส่วนไอนะประกบขวาผม ทั้งคู่ก้าวขาเดียวกันกับผม
[─ถึงครึ่งทางแล้ว อย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งสองคนคงไม่อยากให้มีข่าวลือแปลกๆ หรอกใช่ไหมครับ?]
คงพูดยากอยู่นิดหน่อย เพราะผมไม่สนใจอยู่แล้วหากถูกนินทา แต่คงจะลากพวกเธอทั้งสองคนมาเอี่ยวด้วยไม่ได้ แต่ไม่ว่ายังไง ไอนะเหมือนรู้ความคิดผม
[ไม่เป็นไร พวกเราไม่ทำให้ฮายาโตะคุงต้องลำบากไปด้วยหรอก ใช่ไหมคะพี่]
[ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องกังวลหรอก?]
ผมรู้ว่าไอนะจะพูดแบบนั้นเพราะพวกเราเคยคุยกันมาก่อนแล้ว แต่ก็แปลกใจเล็กน้อยกับอาริสะ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสาวงามผู้เยือกเย็นคนนั้น กลับเห็นด้วยพร้อมรอยยิ้ม
อะไรกันเนี้ย เธอเองก็ยิ้มให้ผู้ชายได้ด้วยสินะ
[นอกจากไอนะแล้ว ผมก็แปลกใจอยู่นะที่ได้เห็นอาริสะยิ้มออกมา ก็พอจะได้ยินข่าวลือว่าเกลียดผู้ชายมาบ้างอยู่]
อืม ผมคนนึงแหละที่เชื่อข่าวลือนั้น
การจะเข้าใจความรู้สึกของกันและกันได้ บางครั้งก็ต้องมาจากการพูดคุยกันเท่านั้น ผมรู้สึกเหมือนได้เข้าใจอาริสะไปอีกระดับหนึ่ง
[เป็นเรื่องจริง ฉันยอมรับว่าฉันไม่ค่อยถูกกับผู้ชายเท่าไหร่ แต่ถ้าพวกเขาพูดกับฉัน ฉันก็พูดตอบ มันก็เท่านั้น แต่กับเรื่องนั้น ไอนะเหมือนจะหนักกว่าฉันนะ]
[งั้นเหรอ?]
อันที่จริง ผมคิดว่าไอนะจะไม่สนใจเรื่องพรรค์นั้นซะอีก
ผมมองไปที่เธอขณะที่เธอส่งรอยยิ้มมาให้ผม รอยยิ้มนั้นดูน่ากลัวยังไงชอบกล
[ถ้าถามฉันว่าชอบพวกเขาไหม ฉันไม่ชอบเลยสักนิด ถึงขนาดคิดว่าอยากผู้ชายทุกคนบนโลกใบนี้ยกเว้นฮายาโตะคุยหายไปซะด้วยซ้ำ… แค่พูดขำๆ น่ะ ไม่ต้องไปซีเรียสหรอก โอเคนะ?]
[ผมรู้ครับ]
แต่ถึงอย่างนั้น ผมกลับรู้สึกจริงจังขึ้นมา เมื่อฟังจากน้ำเสียงของเธอที่พูดมาแบบนั้น
แต่อย่าไปพูดแบบนั้นกับใครนอกจากผมนะ ทำเอาผมรู้สึกประหม่าขึ้นมาเลยนะรู้ไหม? จะทำยังไงถ้าเกิดผมทำเรื่องผิดมหันต์ขึ้นมา?
ในกรณีนั้น ถ้าเป็นไอนะคงลงเอยด้วยรอยยิ้มแน่ๆ
[มีอะไรที่อยากถามกับพวกเรารึเปล่า? อะไรก็ได้ที่อยากถาม อย่างสามไซส์ของเราหรืออะไรแบบนั้น?]
[ไม่ล่ะ ผมไม่─]
[พี่คะ ฮายาโตะคุงเขาถามสามไซส์ของพี่น่ะ]
[นั่นสินะ? จากข้างบนขึ้นไปก็ 88 57─]
[อาริสะ!]
[…พรืด─ อะฮ่าฮ่าฮ่า!]
นอกจากไอนะที่กำลังหัวเราะมือกุมท้องอยู่ ทำไมอาริสะถึงตอบด้วยท่าทางจริงจังแบบนั้นล่ะ พอผมบอกให้หยุด เธอก็หยุดทันที แต่เธอก็มองมาที่ผมอนึ่งไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด…
หรืออาริสะจะเป็นคนประเภทซื่อๆ กัน?
[ฮ่าห์~ แกล้งนายนี่สนุกจังเนอะ ฮายาโตะคุง]
[อย่างแกล้งกันสิ มันไม่ดีต่อใจผมนะ]
[ห้ามทำไมเหรอ?]
[…เอ๊ะ?]
ความสนใจของผมกลับไปอยู่ที่อาริสะอีกครั้ง
เธอพูดต่ออย่างเฉยเมย ไม่มีท่าทีที่เดือดร้อนอะไรเลย
[ฮายาโตะคุง นายรู้ไซส์ของชุดนาย และกับชุดที่ใส่อยู่ตอนนี้ใช่ไหม?]
[? อ่า]
[รู้เพราะเป็นของตัวเองใช่ไหม?]
[ครับ]
[งั้นก็ไม่เห็นแปลกอะไร]
[หมายความว่าไงนะครับ?] ผมนึกอยากตบมุขอยู่กรายๆ ในใจ
ผมกับอาริสะเริ่มพูดคุยกัน แต่เนื้อหาที่พูดนั้น ค่อนข้างล้ำลึกอยู่หน่อยๆ
แต่หากช้าไปกว่านี้คงไปโรงเรียนสายแน่นอน ที่แย่กว่าคือยังอีกไกลกว่าพวกเราจะถึงโรงเรียน
[…ทำไมถึงรู้สึกเหนื่อยขนาดนี้นะ?]
ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ
Chapters
Comments
- ตอนที่ 15 แม่ผู้มีทุกอย่าง อย่างที่ลูกสาวเองก็มี กรกฎาคม 8, 2023
- ตอนที่ 14 คมหอกของรักอันขื่นขมที่ทิ่มแทง กรกฎาคม 6, 2023
- ตอนที่ 13 จะสวมมันอีกครั้งก็คงช้าไป จนพวกเธอหัวเราะ กรกฎาคม 4, 2023
- ตอนที่ 12 จะหัวเราะให้ความรู้สึกอันเร่าร้อนนี้ได้เหรอ? กรกฎาคม 3, 2023
- ตอนที่ 11 ความยุ่งเหยิงระหว่างความหวาน กรกฎาคม 3, 2023
- ตอนที่ 10 ทั้งแม่ทั้งลูกเหมือนอย่างกับแกะสมคำล่ำคือ กรกฎาคม 2, 2023
- ตอนที่ 9 ต่อให้ไม่มีฟักทอง ก็ยังคุยกันอยู่ดี กรกฎาคม 1, 2023
- ตอนที่ 8 ฟักทองที่เย้ยหยันหัวใจความเป็นทาสอันผลิบาน มิถุนายน 30, 2023
- ตอนที่ 7 ชื่อของฟักทองคือแจ็ค มิถุนายน 30, 2023
- ตอนที่ 6 แมงมุมที่เล็ดลอดเข้าไปในช่องว่างของฟักทอง มิถุนายน 30, 2023
- ตอนที่ 5 ผู้ช่วยชีวิตคือคนที่สวมหมวกฟักทอง กุมภาพันธ์ 20, 2023
- ตอนที่ 4 คำต้องห้ามก็คือ ฟักทอง กุมภาพันธ์ 20, 2023
- ตอนที่ 3 ไม่มีหมวกฟักทอง ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น กุมภาพันธ์ 19, 2023
- ตอนที่ 2 พอถอดหมวกฟักทองออกก็แค่คนธรรมดา กุมภาพันธ์ 18, 2023
- ตอนที่ 1 สิ่งที่พึ่งได้คือหมวกฟักทอง กุมภาพันธ์ 12, 2023
MANGA DISCUSSION