บทที่ 253 เจ็ดส่วนที่เท่ากันของภูต
แน่นอนว่าเข็มของรุกกี้เดวิมอนสามารถทะลุผ่านช่องว่างของบอลกระดิ่งได้ แต่หลอดเข็มของมันไม่ได้ดีขนาดนั้น!
ดังนั้นมันจึงมองไปยังช่องแง้มของบอลกระดิ่งและทำได้เพียงบินกลับมาอย่างไร้ประโยชน์ ไม่นานหลังจากนั้น มันก็ลงมาเกาะลูกบอลเวทมนตร์ของฝั่งสีน้ำเงิน
พอได้นั่งบนลูกบอลเวทมนตร์ มันก็หวนคิดถึงช่วงชีวิตที่ผ่านมา
“เฮ้อ~ ชีวิตของรุกกี้เดวิมอนนี่น่าเบื่อจัง”
…
เมื่อสิงโตหน้ากากถูกนินิมกระแทกจนตาย รอบที่สองก็มาถึงจุดสิ้นสุด
แองเจเลียไม่ได้ทำอะไรมากหลังจากอัญเชิญบอลกระดิ่ง จึงเห็นได้ชัดว่าเธอกำลังรอการจั่วการ์ดรอบที่สาม
แม้ว่านินิมจะมีสกิลระยะไกลอย่าง [เสียงปลดอาวุธ] แต่ [เสียงปลดอาวุธ] นั้นใช้ไม่ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้ยิน และไม่สามารถนำมาใช้โจมตีลูกบอลเวทมนตร์ได้
ส่วนเข็มของรุกกี้เดวิมอนนั้นหนาเกินไปที่จะผ่านช่องว่างของบอลกระดิ่ง ดังนั้นมันจึงได้แต่นั่ง… โอ้ มันนอนอยู่
นินิมผู้ซึ่งสังหารสิงโตหน้ากาก ฮัมเพลงเบา ๆ ด้วยสีหน้าผ่อนคลาย มันดูไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด
สายตาหลายคู่ที่เห็นท่าทางของสปิริตสองตัวนี้ ก็ได้แต่คิดว่าพวกมันช่างสบายใจเหลือเกิน!
ขณะที่นักเรียนปีหนึ่งส่วนใหญ่คุ้นเคยกับความฉลาดเป็นกรดของสปิริตพวกนี้แล้ว ทว่าไม่ใช่กับนักเรียนรุ่นพี่ที่เพิ่งจะได้เห็น พวกเขาได้แต่ตาเบิกมองอย่างโง่งม
ศาสตราจารย์ฟ็อกซ์ในที่นั่งกรรมการตัดสินถึงกับกระตุกมุมปาก และในที่สุดก็เข้าใจว่าทำไมศาสตราจารย์โจนส์ถึงให้คุณค่ากับบุตรแห่งวัลคีรีมากขนาดนี้
…
เมื่อรอบที่สองกำลังจะจบลง
ดาร์กจ้องไปที่การ์ดมหาบาปทั้งสองใบอย่างระมัดระวัง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้เปิดใช้งานมัน
การใช้หนึ่งในการ์ดมหาบาปนี้สามารถทำให้รุกกี้เดวิมอนเปลี่ยนจากหนึ่งดาวเป็นสองดาวได้ แต่ในบรรดาสปิริตที่เหลืออยู่ของเขา ส่วนใหญ่เป็นสามดาวและสี่ดาว
หากไม่สามารถใช้สังเวยและอัญเชิญสปิริตสี่ดาวได้เพราะมันกลายเป็นสองดาว แสดงว่าการ์ดกำลังมีปัญหาจริง ๆ
ดังนั้นดาร์กจึงเลือกทางปลอดภัยไว้ก่อน เขาตัดสินใจรอให้ได้จั่วการ์ดเวทมนตร์ใบใหม่ในรอบที่สามก่อนแล้วค่อยพิจารณาอีกที
ติ๊ก!
ดาร์กวางนิ้วไว้บนสุดของเด็คแล้ว และจั่วการ์ดเวทมนตร์ใหม่สองใบในทันทีที่เปลี่ยนรอบ
▼
[สไลม์ขยะ]
[แคทมอน]
▲
“อืม!”
ดาร์กคิ้วกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะเปิดใช้งาน [อัตตา II เก่า] ทันที!
ปฏิกิริยาของเขาเร็วกว่าแองเจเลีย และคราวนี้เขาก็เริ่มเร็วกว่าด้วย
ลูกบอลแสงสีทองเข้มบินออกมาจากพื้นผิวการ์ด และทะลุเข้าไปในหัวของรุกกี้เดวิมอนโดยฉับพลัน
รุกกี้เดวิมอนที่นอนอยู่บนฝั่งสีน้ำเงินทำตาโตและกระโดดขึ้นทันที!
ตราประทับสีแดงของ ‘อัตตา’ ปรากฏเหนือหน้าผากของมันเป็นที่เรียบร้อย
“เจ้าน้ายย…โอ๊ยย อุ๊บ-!”
รุกกี้เดวิมอนรีบปิดปากของตัวเอง มันรู้สึกถึงความอัปยศกำลังเล่นมันเข้าแล้ว!
‘ห้ามเปิดเผยว่าตัวเองพูดได้ต่อหน้าบุคคลภายนอก’ คำสั่งนี้ได้สร้างปฏิกิริยาสะท้อนกลับแบบมีเงื่อนไข
มันเชิดหน้าขึ้น ทำท่าทางเย่อหยิ่งและความยโสก็แทบจะล้นออกมาจากดวงตาของมัน
จากนั้นปีกก็สะบัด โผบินไปยังบอลกระดิ่งบนท้องฟ้า!
o( ≧口≦ )o
วันนี้…รุกกี้เดวิมอนผู้นี้! จะคว้าชัยชนะเพียงลำพังเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า ใครคือราชาตัวจริงกันแน่!
“กลับมา”
ทว่าในตอนนั้นเอง น้ำเสียงไม่แยแสก็ดังมาจากด้านหลังหัวของมัน นี่ทำให้รุกกี้เดวิมอนตัวแข็งทื่อไปในบัดดล จากนั้นมันก็แสดงสีหน้าข้องใจแล้วเริ่มทำสีหน้าดื้อรั้น
แต่ไม่ว่ารุกกี้เดวิมอนจะทำท่าดื้อรั้นแค่ไหน มันก็ไม่สามารถทรยศต่อความซื่อสัตย์ของร่างกายได้
สปิริตไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งบังคับของเจ้านายได้
ดังนั้นจึงทำได้เพียงบินกลับมาอย่างเชื่อฟัง
แต่ในตอนนี้เอง ในที่สุดแองเจเลียก็อัญเชิญสปิริตตัวใหม่ออกมา!
…
“จบลงแล้ว”
แองเจเลียที่อัญเชิญเสร็จแล้ว เอ่ยพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะสะบัดการ์ดเวทมนตร์ราวกับว่าเธอกำลังถือกระบอง
บนท้องฟ้า ปรากฏเสียงประสานดังก้องออกมาอย่างไพเราะ
“โด เร มี ฟา ซอล ลา ที~”
สปิริตกระโดดออกจากการ์ดเวทมนตร์ทีละตัว และเต้นรำไปในอากาศตามคลื่นของท่วงทำนอง
นี่คือเหล่าจิตวิญญาณแห่งสังคีต วงประสานเสียงภูตในตำนาน!
วงประสานเสียงที่ประกอบด้วยภูตทั้งเจ็ด!
…
[ชื่อการ์ด: แฟรี่คอรัส]
[ประเภท: การ์ดวิญญาณ]
[เลเวล: 3 ดาว]
[เผ่าพันธุ์: ภูต]
[คุณสมบัติ: ภูต]
[พลังเวทมนตร์: 700 หน่วย]
[พลังโจมตี: 700 หน่วย]
[พลังป้องกัน: 700 หน่วย]
[ท่าไม้ตาย: โซนาตา*[1] คันตาตา*[2]]
…
มีความแตกต่างของคำระหว่างนางฟ้ากับภูต ทว่าพวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตเลือดผสมทั้งคู่
ก็อบลินเป็นเผ่าพันธุ์อมนุษย์ ซึ่งคล้ายกับมนุษย์มาก
ส่วนภูตเป็นเผ่าพันธุ์ในจินตนาการ ตัวตนค่อนข้างต่างจากมนุษย์
ตามตำนานเล่าว่า ภูตเป็นลูกผสมระหว่างก็อบลิน มนุษย์ และเอลฟ์ แต่นั่นก็จำกัดอยู่แค่ในตำนานเท่านั้น เพราะไม่มีใครยืนยันได้
[แฟรี่คอรัส] เป็นภูตเจ็ดตัว แต่ละตัวสูงไม่ถึงครึ่งตัวคน พวกเขาแต่งกายด้วยชุดแปลก ๆ ที่แสดงความเป็นตัวของตัวเอง บนหัวมีหมวกรูปร่างแปลก ๆ และดูจะชอบเงยหน้าขึ้นสูงกัน
หัวใหญ่ จมูกแหลม หูแหลม ดูน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากมองไปนาน ๆ
พอถูกอัญเชิญ เหล่าภูตทั้งเจ็ดก็จับมือกันและเต้นรำไปรอบ ๆ บอลกระดิ่ง
แน่นอนว่านั่นไม่ใช่บทนำสู่ท่าไม้ตาย แต่เป็นเพียงพฤติกรรมอย่างหนึ่งเท่านั้น
ในฐานะที่เป็นสปิริตระดับสามดาว แฟรี่คอรัสจึงเป็นตัวตนที่สมบูรณ์ที่สุด
…
ดาร์กมีความรู้เกี่ยวกับสปิริตประเภทนี้เพียงเล็กน้อย และรู้ว่าพวกมันหายากและมีค่ามาก
ตัวอย่างเช่น ใน [แฟรี่คอรัส] นี้ แม้ว่าค่าพลังโจมตีและป้องกันจะมีเพียง 700 หน่วย แต่เนื่องจากมีภูตทั้งหมดเจ็ดตัว ดังนั้นหากฝ่ายตรงข้ามไม่มีการป้องกัน มันก็สามารถสร้างความเสียหายเป็นระลอกได้ถึง 4,900 หน่วย!
สิ่งนี้มีประโยชน์มากในบางช่วงเวลา
แน่นอนว่าจุดอ่อนของสปิริตประเภทนี้ก็ชัดเจนเช่นกัน
โดยทั่วไป ขนาดตัวของพวกมันค่อนข้างเล็ก ทำให้การทำลายแนวป้องกันของสปิริตที่มีขนาดสูงกว่าลงได้ยาก
เอาเป็นว่า มันไม่ใช่สปิริตที่มีภัยคุกคาม
แต่เมื่อ [แฟรี่คอรัส] อยู่ในมือของรุ่นพี่แองเจเลีย ดาร์กก็บังเกิดลางสังหรณ์ร้ายขึ้นมา!
เขาดูกังวลเล็กน้อย แต่มือก็ไม่ได้ช้าลงไปด้วย
หลังจากคูลดาวน์ของการอัญเชิญแบบปกติหมดลง [สไลม์ขยะ] ก็ถูกอัญเชิญออกมาทันที!
สไลม์ตัวเล็ก ‘แปะ’ ลงบนลูกบอลเวทมนตร์สีน้ำเงิน
จากนั้นมันก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จ้องมองเหล่าแฟรี่คอรัสในอากาศพร้อมกับนินิม ดูพวกเขาเต้นร้องรำกันด้วยความรู้สึกอึดอัดใจ
บังเอิญว่าเสียงเพลงที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ นินิมได้เปลี่ยนคีย์โน้ตแต่ยังคงฮัมเพลงต่อไป…
แล้วก็บังเอิญมากว่าในเพลงที่มันร้องนั้นดันมี [เสียงปลดอาวุธ] อยู่ด้วย!
ทันใดนั้น
ภูตตนหนึ่งในคณะแฟรี่คอรัสกระแทกเข้ากับบอลกระดิ่งอย่างแรง และภูตทั้งสองข้างก็รีบพยุงมันไว้ ทำให้มันเผลอ ‘ร้องเสียงเป็ด’ ออกมาชั่วขณะ!
นินิมมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มที่ชั่วร้าย
…
แน่นอนว่าการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์โดยรวม
เมื่อภูตเหล่านั้นเสียท่า แองเจเลียก็เปิดใช้งานการ์ดเวทมนตร์ใบต่อไป โดยใช้การอัญเชิญแบบปกติ!
การ์ดเวทมนตร์พิเศษ [การปลดปล่อยอันยิ่งใหญ่]!
ตู้ม!
ทันใดนั้นพลุขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นกลางวงภูตทั้งเจ็ด ดอกไม้ไฟก่อตัวเป็นคำว่า ‘การปลดปล่อยอันยิ่งใหญ่’ เสียงเพลงที่ลอยอยู่ในอากาศพลันเปลี่ยนไป และกลายเป็นเสียงเดินขบวนอันทรงพลัง
ภูตที่ศีรษะกระทบบอลกระดิ่ง จู่ ๆ ก็เงยหน้าขึ้นเหมือนตอบสนอง จากนั้นเท้าของมันก็ถูกรวบเข้าด้วยกัน หลังของมันตั้งตรง มันเอามือแตะที่หางคิ้ว และมองตรงไปข้างหน้า—ทำความเคารพ!
ในทางกลับกัน ภูตตนอื่น ๆ นั้นค่อนข้างเฉยเมย
แต่ท่วงทำนองได้ก้าวไปสู่จังหวะที่สูงสุดแล้ว
จู่ ๆ สายตาของพวกเขาก็เปลี่ยนไป ทั้งหมดยืดตัวตรง ทำความเคารพให้กันและกัน
จากนั้นก็…บึ้ม!
‘การปลดปล่อยอันยิ่งใหญ่’ ในอากาศระเบิดขึ้นออก
ทันใดนั้น ภูตทั้งเจ็ดก็โห่ร้องด้วยความตื่นเต้น แล้วเครื่องแต่งกายแปลก ๆ บนร่างกายของพวกมันก็เปลี่ยนเป็นเครื่องแต่งกายของสถานที่ต่าง ๆ ในพริบตา
บางตนใส่สูทและหยิบกระเป๋าเอกสาร บางตนสวมกระโปรงตัวเล็กและผูกโบว์ บางตนสวมชุดลำลองและหมวกลูกไม้ บ้างก็ใส่ชุดนักเรียนสะพายกระเป๋านักเรียนใบเล็กไว้ด้านหลัง…
ภูตทั้งเจ็ดได้รับการปลดปล่อยและภูตแต่ละตัวก็กลายเป็นอิสระ!
…
ศาสตราจารย์สองคนบนที่นั่งกรรมการยืดตัวมาข้างหน้าทันที แน่นอนว่าพวกเขารู้ว่าสิ่งนี้หมายความว่าอย่างไร จากความรู้ข้อมูลเชิงลึกของพวกเขา แต่พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าเด็กผู้หญิงคนนี้ซึ่งไม่โดดเด่นในหมู่นักเรียนปีสามจะทำการ์ดเวทมนตร์ชนิดนี้ได้!
คนธรรมดาดูเอาตื่นเต้น คนวงในดูที่ผลลัพธ์
การ์ดเวทมนตร์ใบนี้ แม้จะเป็นของสะสมของศาสตราจารย์ก็ยังหวงแหนและล้ำค่าอย่างยิ่ง!
ผู้ชมนอกสนามส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ
แม้แต่ดาร์กบนเวทีของฝ่ายสีน้ำเงินก็เข้าใจเพียงเล็กน้อยตามการคาดเดาก่อนหน้า
เพราะเวลาสำหรับรอบหนึ่งนั้นกระชั้นชิดเกินไป และเขาไม่มีเวลามานั่งคิดอย่างถี่ถ้วนว่ามันหมายถึงอะไร จึงทำได้เพียงทุ่มทั้งหมดเพื่อใช้เทคนิคการอัญเชิญต่อไปเท่านั้น
ณ ขณะนี้
ในมือของเขามีการ์ดเพียงสามใบเท่านั้น
▼
[แคทมอน]
[โลภะ II]
[สัตว์อสูรมายา: มอนสเตอร์ร้อยแปด]
▲
ในสิบห้าวินาทีของรอบที่สาม ดาร์กก็ร่าย [โลภะ II] ได้สำเร็จ!
พลังงานและอัตราเวทมนตร์ของคนแต่ละคนล้วนมีจำกัด
อันที่จริง จอมเวทไม่สามารถใช้ทุกวินาทีในการประลองได้อย่างมีประสิทธิภาพเสมอไป
ดาร์กบอกได้แค่ว่า เขาทำดีที่สุดแล้ว
ด้วยการเปิดใช้งาน [โลภะ II] สไลม์ขยะที่วางอยู่บนลูกบอลเวทมนตร์สีน้ำเงินก็เหมือนกับรุกกี้เดวิมอน จาก [สไลม์ขยะ] หนึ่งดาวไปเป็น [สไลม์โลภะ I] ที่มีระดับสองดาว
แต่นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแล้ว มันก็ยังทำอะไรไม่ได้
หากไม่มีพลังโจมตีและป้องกัน มันก็เป็นได้แค่นักล่าสมบัติเท่านั้น
จากนั้นเป็นเวลาสามวินาทีครึ่ง!
ดาร์กเริ่มอัญเชิญ [แคทมอน] ด้วยกำลังทั้งหมดของเขา!
…
เกือบจะในเวลาเดียวกัน
แองเจเลียที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้เริ่มอัญเชิญการ์ดเวทมนตร์เช่นเดียวกัน!
ทั้งสองฝ่ายใช้เทคนิคการอัญเชิญบูชายัญ!
ในเรื่องนี้ แองเจเลียรักษาความเร็วได้สูงกว่ามาตรฐานการประเมินของปีสองเท่านั้น
แต่ดาร์กยังไม่ถึงระดับนั้น
ดังนั้นแองเจเลียจึงอัญเชิญบูชายัญเสร็จเร็วกว่าเขา
หนึ่ง สอง สาม…
ภูตผู้เป็นอิสระทั้งเจ็ด เริ่มจากตัวสีแดง กลายเป็นแสงสว่างทีละตัว!
ในตอนนี้ ดาร์กได้ยืนยันการคาดเดาของเขาแล้ว และเขาก็ไม่กล้าที่จะเสียสมาธิ
ผู้ชมนอกสถานต่างอุทานไม่หยุด เนื่องจากภาพตรงหน้าแตกต่างจากที่หลายคนคาดคิดไว้อย่างสิ้นเชิง
ภายใต้สถานการณ์ปกติ หากใช้ [แฟรี่คอรัส] เป็นเครื่องสังเวย ภูตทั้งเจ็ดจะต้องกลายเป็นแสงสว่างพร้อมกัน
ซึ่งหมายความว่า [แฟรี่คอรัส] ทั้งหมด จัดเป็นเครื่องสังเวย ‘ตัวเดียว’
แต่การที่พวกเขากลายเป็นแสงทีละตัว ๆ อย่างนี้ ก็มีความหมายอีกอย่างหนึ่ง…
“เธอจะอัญเชิญสปิริตเลเวลไหนออกมากันนะ?”
เมื่อภูตตัวที่ห้ากลายเป็นแสง ในที่สุดก็มีคนอดพูดไม่ได้!
“สปิริตของดาร์ก สูงสุดคือสี่ดาวใช่ไหม?”
นักเรียนชั้นปีหนึ่งยังคงคาดหวังให้ดาร์กชนะเพื่อนำเกียรติยศมาให้ชั้นปี แต่พวกเขาก็เริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมาเล็กน้อยในเวลานี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอ็มม่าที่เคยแพ้อย่างน่าสังเวชมาก่อน ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะประหม่า
ไดแอนนาที่นั่งข้างโรสถึงกับลืมเคี้ยวทอฟฟี่ในปาก!
แต่แล้วในตอนนั้นเอง
ภูตตัวที่หกกลายเป็นแสง!
…
ภูตตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอย่างโง่งม เฝ้าดูสหายทั้งหกกลายเป็นส่วนหนึ่งของวงเวทอัญเชิญขนาดใหญ่ มันอ้างว้างและทำอะไรไม่ถูก
แต่ในตอนนี้ไม่มีใครให้ความสนใจกับมัน
เพราะสัตว์ร้ายสีดำที่มีขนาดเทียบได้กับสัตว์ประหลาดกำลังคำรามออกมาจากวงเวทอัญเชิญสังเวย!
ตู้ม!
ราวกับเป็นการประกาศการมาถึงของมัน
กอริลล่ายักษ์สีดำกระโดดลงมาจากอากาศและกระทืบลงบนพื้น!
ร่างใหญ่โตนั้นคำรามสะเทือนฟ้าเมื่อตกลงมาถึงผืนพสุธา
กอริลล่ายักษ์สีดำยกร่างกายท่อนบนขึ้น ดวงตาสีแดงฉานของมันมองไปยังบริเวณโดยรอบ สองแขนที่แข็งแรงกระแทกลงบนพื้นราวกับค้อนขนาดใหญ่ ทันใดนั้นพลันเกิดระลอกคลื่นและออร่าที่รุนแรงก็ปกคลุมผู้ชม!
นินิมที่อยู่ตรงข้ามเลิกคิ้วมอง และริบบิ้นสีชมพูสองเส้นก็แกว่งไปมาเหมือนงูพร้อมที่จะเคลื่อนไหว
ทว่ามันมองร่างกายของอีกฝ่ายแล้วจึงก้มมองของตัวเอง ความรู้สึกอิจฉาผุดขึ้นมาบนใบหน้า
พลังของสปิริตระดับหกดาวถูกเปิดเผยอย่างเต็มที่
…
“สปิริตระดับหกดาว!”
ในเวลานี้ดาร์กเพิ่งอัญเชิญบูชายัญเสร็จ เขาวางมือลงและดวงตาก็เต็มไปด้วยความตกใจ ตอนนี้รู้สึกเพียงว่าการต่อสู้ครั้งนี้อาจจะพ่ายแพ้แล้ว!
วิธีอัญเชิญอย่างรวดเร็วของรุ่นพี่แองเจเลียนี้ก็ช่างน่าประหลาดใจจริง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอมโบของ [แฟรี่คอรัส] กับ [การปลดปล่อยอันยิ่งใหญ่] มันเปิดหูเปิดตาของเขาสุด ๆ จนดาร์กอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา นี่หมายความว่าความรู้ของเขายังไม่เพียงพอ
แต่พิจารณาจากความจริงที่ว่ามีภูตเหลืออยู่ตัวเดียวในสนาม นี่ควรจะเป็นจุดที่บอกถึงข้อจำกัดของคอมโบชุดนี้
อัญเชิญบูชายัญสปิริตขั้นสามต้องมีสปิริตขั้นสองหนึ่งตัวเป็นรากฐานเป็นอย่างน้อย ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ชุดคอมโบนี้เพื่ออัญเชิญสังเวยสปิริตเจ็ดดาว
แต่ถ้าสามารถหาวิธีที่จะปลดข้อจำกัดนี้ได้…
ดาร์กครุ่นคิดเล็กน้อยและกลับมาจดจ่อกับเกม
สำหรับการอัญเชิญบูชายัญ [แคทมอน] ออกมา เขาใช้การ์ดเวทมนตร์ทั้งหมดห้าใบ โดยมีรุกกี้เดวิมอนสองดาวและสไลม์โลภ I สองดาวเป็นเครื่องสังเวย และในที่สุดก็ทำสำเร็จ
แต่แค่นี้มันก็เกือบจะกินเวลาของการประลองรอบที่สามทั้งหมดแล้ว
จังหวะของทั้งสองฝ่ายช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกัน แองเจเลียก็ไม่รีบปล่อยให้กอริลล่ายักษ์สีดำเข้าโจมตี
เวลาล่วงเลยผ่านไป จนกระทั่งเข้าสู่รอบที่สี่ในชั่วพริบตา
แคทมอนที่เพิ่งปรากฏตัวพลันรู้สึกถึงออร่าที่รุนแรงจากเจ้าลิงจ๋อสีดำตรงหน้า ขนแมวที่หางระเบิดพลังออกมา และสีหน้าของมันก็จริงจังอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน!
ติ๊ก!
เสียงของการเปลี่ยนรอบกลายเป็นเสียงบอกการเริ่มต่อสู้
“เหนือกว่า!”
แองเจเลียพูดขึ้นมา
กอริลล่าสีดำทุบอกของมันเสียงดังราวกับกลองศึก
เมื่อพอใจแล้ว มันก็คำรามไปข้างหน้า!
“โฮกกกกก!”
[1] โซนาตา เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า ‘ฟัง’ มันแบ่งเป็นสองประเภท คือ การบรรเลงแบบเดี่ยวกับการบรรเลงแบบกลุ่ม
[2] คันตาตา เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า ‘เพลงร้อง’ มักใช้ในงาานพิธีกรรมทางศาสนาและงานรื่นเริงทั่วไป
MANGA DISCUSSION