บทที่ 168 สองในห้าของดาร์ก เดม่อน
→ [สัตว์อสูรมายา: อีบุย (อัตตา II)]
→ [พลังป้องกัน: (300 + 2,200) ÷ 2 = 1,250 หน่วย]
…
“แบ่งการป้องกัน!”
อย่างไรก็ตาม ชัคคารุใช้ท่าไม้ตายของมันในยามฉุกเฉิน [แบ่งการป้องกัน] จากนั้นพลังป้องกัน 2,200 หน่วยของมันถูกแบ่งให้กับพลังป้องกันของอีบุย 300 หน่วย แล้วแบ่งออกเท่า ๆ กันทำให้ค่าพลังป้องกันของอีบุยพุ่งสูงขึ้นจาก 300 หน่วยเป็น 1,250 หน่วยในทันที!
ด้วยพลังโจมตีเก้าร้อยหน่วยของอานูบิส มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเจาะการป้องกันของอีบุยในตอนนี้!
“โฮ่ง!”
อานูบิสไม่สามารถโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว และถอยห่างออกไปทันที
มันย่อตัวก่อนจะคำรามเสียงต่ำออกมา
แล้วนัยน์ตาของมันก็เผยร่องรอยของความมืด
…
แสงสีขาวจาง ๆ ปรากฏขึ้นเหนือร่างของอีบุย
นั่นคือพลังของชัคคารุ!
เพียงไม่กี่วินาทีของการโจมตีและการป้องกัน
ดาร์กไม่ได้สั่งการพวกมัน บนสนามมีเพียงอีบุยเป็นผู้ตัดสินใจเท่านั้น
อีบุยเลิกป้องกันและใช้ [เบบี้ดอลล์ อายส์] เพื่อหยุดการโจมตีครั้งสุดท้ายของนกเบนนู
ชัคคารุโยน ‘โล่’ ไปให้ เพื่อป้องกันการลอบโจมตีของอานูบิส!
ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้นราวกับสายฟ้า
ผู้ชมไม่แทบกลั้นหายใจดู ขณะที่สปิริตทั้งสองต่อสู้ร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม
พูดได้เพียงคำเดียวว่า นี่เป็นการประลองที่ยอดเยี่ยมมาก และมากพอที่จะบันทึกลงในตำราเรียน!
แต่เกมนี้ยังไม่จบ
อีบุยฉวยโอกาสตอนที่อานูบิสถอยกลับ
มันไม่ได้ใช้โอกาสนี้โต้อีกฝ่ายกลับแต่อย่างใด ทว่ากลับพุ่งเข้าไปหาสฟิงซ์แทน!
สกิลของชัคคารุมีระยะเวลาสั้นมาก และคูลดาวน์ก็นานมากเช่นกัน
เมื่ออีบุยผลักสฟิงซ์ให้ถอยร่นไปด้วยการข่วนเพียงครั้งเดียว พลังของสฟิงซ์ก็อ่อนแอลงมาก
”เหมียว!”
สฟิงซ์คำรามอย่างไม่เต็มใจ
แต่พลังเวทมนตร์ของมันก็ถึงจุดต่ำสุดแล้ว
เกมเข้าสู่ช่วงที่สองแล้ว ตั้งแต่มันล็อกชัคคารุด้วย ‘เหยียบเงา’ จนถึงตอนนี้ มันได้แต่ถูกบังคับให้ถอยเท่านั้น
…
”บ้าที่สุด!”
ซาร่ากัดฟัน เธออยากจะกัดอีบุยนั่นให้ตาย!
แต่เธอก็ยังเข้าใจสถานการณ์ในสนามอยู่
ท่าไม้ตายของอานูบิสและสฟิงซ์อยู่ในช่วงคูลดาวน์
อานูบิสยังคงสามารถต่อสู้ได้ แต่สฟิงซ์มาถึงจุดที่จะถูกบดขยี้ด้วยการสะกิดเพียงครั้งเดียวแล้ว
ในทางกลับกัน สปิริตที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้น
ชัคคารุได้ความคล่องตัวของมันกลับคืนมา
ส่วนอีบุยก็ยังแข็งแรง
สถานการณ์ตอนนี้จึงไม่เข้าข้างเธออย่างชัดเจน
แต่เธอก็ยังมีความหวังอยู่
นกเบนนูในอากาศได้รับผลกระทบแค่จาก [เบบี้ดอลล์ อายส์] เท่านั้น เมื่อมันหลุดพ้นจากเอฟเฟกต์แล้ว ลูกบอลเวทมนตร์ที่มีบาเรียพลังชีวิตเหลือเพียงสิบสามหน่วย ก็จะไม่สามารถต้านทานการโจมตีแบบสุ่มของมันได้อีกต่อไป!
ถึงอย่างนั้น ทั้งชัคคารุและอีบุยต่างก็เป็นสปิริตที่สามารถเข้าถึงระดับความสูงของนกเบนนูได้
แต่ตราบเท่าที่สามารถลากเกมไปจนถึงช่วงนั้นได้!
…
ซาร่าสงบสติลงเล็กน้อยและสั่งให้อานูบิสกลับไปป้องกันทันที!
“ถ้าคิดจากมุมมองของดาร์ก ความเร็วในการเคลื่อนที่ของชัคคารุนั้นช้ามาก และมันก็ไม่มีความสามารถในการโจมตีระยะไกล”
”ส่วนอีบุยก็รั้งอานูบิสได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น”
“ทางเดียวสำหรับเขาในตอนนี้ ควรจะเป็นการอัญเชิญบูชายัญ!”
“แต่อีบุยเป็นสปิริตระดับสองดาว”
”สองดาวบวกสามดาวเท่ากับห้าดาว!”
“เว้นแต่ดาร์กจะมีการ์ดเวทมนตร์ระดับห้าดาวอยู่ในมือล่ะนะ เพราะถ้าไม่มี ฉันก็จะยังอยู่ยงคงกระพัน!”
เสียงอุทานที่ดังอยู่ข้างสนาม ไม่อาจส่งผลต่อความคิดของซาร่าได้เลย
เธอค่อย ๆ สงบจิตสงบใจลง
ติ๊ก!
จู่ ๆ ซาร่าก็มองไปทางฝั่งตรงข้ามที่อยู่ห่างออกไปสามสิบเมตร!
“ดาร์ก เดม่อน นายจะทำลายเกมนี้ยังไง?”
…
จะทำลายเกมอย่างไร?
ขณะที่ซาร่ากำลังคิดอย่างรวดเร็ว ดาร์กก็กำลังคำนวณอยู่
มีการ์ดเพียงสิบสองใบในเด็คของเขา
ในตอนเริ่มช่วงเตรียมตัว เขาจั่วการ์ดห้าใบ
แล้วก็จั่วการ์ดเพิ่มอีกสองใบในรอบที่สอง
ตอนนี้เหลืออีกห้าใบเท่านั้น
ความน่าจะเป็นที่จะได้ [ราคะ III] ในรอบที่สามคือเท่าไหร่?
คำตอบคือ…
สองในห้า!
”ความน่าจะเป็นของสองในห้านั้นสูงมาก!”
[30 วินาที]
รอบที่สามจั่วการ์ด!
ดาร์กจั่วการ์ดเวทมนตร์ใหม่สองใบจากเด็คและตรวจสอบทันที
▼
[คาถากระสุนเวทมนตร์]
[ราคะ III]
▲
”บิงโก!”
ความตื่นเต้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน
ดาร์กยกมือขึ้น [ราคะ III]!
การ์ดเวทมนตร์ที่มีหน้าการ์ดสีชมพูทองนี้ จู่ ๆ ก็ปล่อยแสงสีชมพูออกมาอย่างรุนแรง หลังจากการร่ายเปิดใช้งานในเวลาน้อยกว่าสี่วินาที!
นกเบนนูกระพือปีกในอากาศ มันกำลังกลับมาเป็นปกติ แต่แล้วมันก็ตื่นตกใจกับแสงสีชมพูในทันที
แม้แต่อานูบิสยังนิ่งไปครู่หนึ่ง
นักเรียนนอกสนามจ้องมองแสงสีชมพูที่ไม่ได้เจิดจ้านัก
นี่มัน…
นักเรียนทุกคนรู้สึกถึงลางสังหรณ์ไม่ดีโดยไม่รู้ตัว
นักเรียนบ้านขุนนางมองว่าสิ่งนี้เป็นสัญญาณการโต้กลับ!
จู่ ๆ เวอร์เธอร์ก็กำการ์ด [ความรักต้องห้าม] แน่น!
ภาพของดาร์กที่ใช้ [ราคะ III]
คล้ายกับวิธีการที่เขาใช้ [ความรักต้องห้าม]!
แต่แสงของ [ราคะ III] นั้นแข็งแกร่งกว่าหมอกสีชมพูของเขา และเอฟเฟกต์ที่ออกมาก็มีเสน่ห์ครอบงำยิ่งกว่า!
ความแตกต่างคือ [ราคะ III] ไม่ใช่จุดสนใจหลัก ดังนั้นหลังจากที่แสงจางหายไป สปิริตที่ได้รับผลกระทบจากแสงนั้นก็จะฟื้นคืนสติอย่างรวดเร็ว
หลังจากตระหนักว่า ดวงตาของอานูบิสกลับคืนสู่สภาพปกติแล้ว
เวอร์เธอร์ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
”มันยังคงแตกต่างกันอยู่”
…
แน่นอนว่ามันแตกต่าง!
ถ้าคิดว่าการกระโดดจากหนึ่งดาวเป็นสองดาวนั้นน่าตกใจพอสมควรแล้ว
ในเวลานี้ [สัตว์อสูรมายา: อีบุย] ไม่เพียงแต่ได้รับการพัฒนาจำนวนดาวและค่าพลังเท่านั้น ทว่ารูปแบบหน้าการ์ด ยังได้รับการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากภายใต้แสงสีชมพูสดใสด้วย!
…
“เป็นไปได้ยังไง!”
ซาร่า สวาติตบโต๊ะการ์ด!
ดวงตาคู่นั้นปรากฏความเหลือเชื่อออกมา
ผู้ชมที่อยู่ด้านนอกก็กลั้นหายใจ
บริเวณโดยรอบของสนามแข่งที่หนึ่งเงียบลงในบัดดล
ศาสตราจารย์โจนส์มองการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของอีบุยด้วยความประหลาดใจ
สัตว์อสูรมายาเป็นอสูรชนิดหนึ่ง ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็นอสูรที่ไม่มีร่างแน่นอน
พวกมันไม่มีตัวตน ซ้ำยังคาดเดาไม่ได้
อีกทั้งรูปร่างของพวกมันยังไม่มีความแน่นอนจนกว่าจะได้เห็น
อาจจะเป็นแมว หมา หรือแม้แต่มังกรก็ได้!
สัตว์อสูรมายาที่ทุกคนเห็นอาจมีรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
แต่หลังจากที่ได้รับการขัดเกลาเป็นสปิริตแล้ว
ในกระบวนการสร้าง [สัตว์อสูรมายา] จอมเวทจะรับรู้ถึงตัวมัน
และทันทีที่จอมเวทมองเห็น มันจะมีรูปร่าง ‘ตายตัว’ ในสายตาของจอมเวทเสมอ
จากสิ่งที่ศาสตราจารย์โจนส์เห็นและได้ยินมาจนถึงตอนนี้ เธอไม่เคยได้ยินว่า [สัตว์อสูรมายา] ที่มีรูปร่างตายตัวแล้ว จะยังสามารถเปลี่ยนแปลงทางกายภาพได้อีก!
ยิ่งมีความเข้าใจในเชิงลึกมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งน่าเหลือเชื่อมากขึ้นเท่านั้น
ดาร์ก เดม่อนได้ทำลายสามัญสำนึกเล็กน้อยนี้อย่างไม่ต้องสงสัย และเขาก็เป็นผู้เผยผลลัพธ์ที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย!
“เขาอยู่แค่ปีหนึ่งเท่านั้นเองนะ!”
หลังจากความประหลาดใจของทุกคน เสียงชื่นชมก็ดังตามมา
ศาสตราจารย์โจนส์รู้สึกยินดีมากที่จอมเวทคนนี้มาจากสถาบันของเธอเอง
…
ในสนาม
ภายใต้แสงของ [ราคะ III] ตราสัญลักษณ์ [ราคะ] พลันปรากฏขึ้นบนหน้าผากของอีบุย
พร้อมด้วยแสงจันทร์สีชมพูอ่อน ๆ ที่ปล่อยออกมาจากหน้าผาก
ร่างกายที่เล็กกะทัดรัดของมันเปลี่ยนไปอย่างมากในแสงนั้น
จากความสูงเพียง 0.3 เมตร สูงขึ้นเป็นหนึ่งเมตรในทันที
ขนสีน้ำตาลที่ดูอ่อนนุ่มแต่เดิม ถูกย้อมเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว
ลวดลายวงแหวนบนเรือนร่างเปล่งรัศมีสีชมพูออกมา
มันเป็นตัวแทนของดวงจันทร์ที่มักปรากฏตัวในค่ำคืนที่มืดมิด และยังเป็นจิตวิญญาณทรงเสน่ห์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของราคะ!
กระบวนการทั้งหมดอาจดูเชื่องช้า แต่ที่จริงแล้วมันเร็วมาก
มันเงยหน้าขึ้น ประกายแสงที่เหลือทั้งหมดถูกรวบรวมกลับมาที่หน้าผากของมัน
แบล็คบุยเข้าสู่สนาม!
…
สี่วินาทีต่อมา
ดาร์กดึงการ์ด [อัตตา I] ออกมาโดยไม่ลังเล
ด้วยลูกบอลแสงสีทองเข้มพุ่งเข้าสู่ร่างกายของแบล็คบุย มันจึงถูกหยุดไม่ให้วิ่งออกจากสนามเพื่อมาหาเขา
“ลูกบอลเงา!”
มวลทรงกลมสีดำสนิทที่เปล่งออร่าอันชั่วร้ายได้ทำลายร่างกายของเบนนูในทันที
ขนปักษากระจัดกระจายกลายเป็นละอองแสงในสายตาของทุกคน
อานูบิสที่เฝ้าลูกบอลเวทมนตร์สีน้ำเงินไว้ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแสดงรูปลักษณ์ที่น่าสะพรึงกลัวของมันออกมา
แต่ขาหลังของมันแอบกระตุกแล้ว
มันก็แค่สั่นเกร็งเพราะถูกกดดันเท่านั้น
…
ซาร่าซึ่งอยู่บนแท่นผู้เล่นตรวจสอบการ์ดหกใบในมือของเธอ และลมหายใจของเธอก็เริ่มไม่คงที่
ทันทีหลังจากนั้น อานูบิสก็ถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยกรงเล็บของแบล็คบุยที่วิ่งเข้ามาดุจลมกระโชกแรง!
จากนั้นลูกบอลเวทมนตร์สีน้ำเงินก็ปรากฏขึ้นภายใต้อุ้งมือของมัน!
ซาร่า สวาติไม่ดิ้นรนอีกต่อไป
[1,000 → 0]
“จบการประลอง!”
“ผู้ชนะคือ ดาร์ก เดม่อน”
…
บึ้ม!
เสียงเซ็งแซ่ของผู้ชมกลับมาในทันที
นักเรียนบ้านขุนนางที่อยู่นอกสนามตะโกนเสียงดังลั่น และรีบวิ่งไปที่แท่นผู้เล่นฝ่ายแดงราวกับต้อนรับวีรบุรุษ
แม้ว่าจะมีองค์ประกอบที่เข้าใจยากอยู่บ้าง แต่การประลองครั้งนี้ถือเป็นการประลองที่เข้มข้นและน่าตื่นเต้นที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย!
ราวกับว่าพวกเขาได้เจอแชมป์แล้ว!
…
[จบการประลอง]
“ดาร์ก เดม่อน!”
เสียงที่คมชัดของซาร่าส่งผ่านกลไกขยายเสียงของโต๊ะการ์ด
ดาร์กพลิกการ์ดเวทมนตร์ของ [สัตว์อสูรมายา: อีบุย] เพื่อรับแสงดวงจันทร์จากแบล็คบุย
ในขณะเดียวกัน เขาก็เงยหน้าขึ้นตอบ
ซาร่าทุ่มสุดตัวแล้ว
เธอกัดริมฝีปากล่าง กลั้นความคับข้องในใจ ก่อนจะเบิกตากว้างและพูดว่า “มันยังไม่จบหรอกนะ!”
”ใช่” ดาร์กพยักหน้าเล็กน้อย “ฉันจะรอเธอในรอบชิงชนะเลิศ”
…
เมื่อเขาก้าวลงจากเวที ดาร์กก็ถูกเพื่อนร่วมชั้นรายล้อมทันที
“โอ้!”
“ดาร์กสมกับเป็นนายจริง ๆ!”
“สมเป็นผู้ชนะตำแหน่งดาวเด่น แตกต่างจากผู้กล้าบางคนลิบลับเลย”
“ตอนแรกฉันคิดว่านายจะแพ้แล้ว แน่นอนว่านี่คือเสน่ห์ของการประลองสินะ?”
”นายทำได้ดีมาก!”
มีทั้งการสรรเสริญที่ไม่โอ้อวด และการเหยียบย่ำอีกฝ่ายอย่างไร้ความหมาย
นักเรียนบ้านขุนนางแสดงอารมณ์อย่างเต็มที่
ดาร์กถูกล้อมรอบอยู่ตรงกลาง เมื่อเผชิญหน้ากับความกระตือรือร้นของเพื่อนร่วมชั้น เขาก็ทำได้แค่ปฏิเสธว่า “ไม่หรอก ฉันแค่โชคดี ทุกอย่างเป็นไปได้เพราะฉันชนะโอกาสสองในห้า”
…
เมื่อถึงเวลาที่นักเรียนสงบลง ก็เป็นช่วงสิ้นสุดของรอบที่สี่เกมนี้แล้ว
ผู้เล่นแปดคนถูกแบ่งออกเป็นผู้ชนะและผู้แพ้
ผู้ชนะ: หมายเลข 1 หมายเลข 2 หมายเลข 5 หมายเลข 17
ผู้แพ้: หมายเลข 9 หมายเลข 12 หมายเลข 10 หมายเลข 7
ไดแอนนาเอาชนะนักเรียนของบ้านคนเขลาได้สำเร็จ
ขณะที่เอ็มม่าก็ชนะการประลองกับเด็กชายจากบ้านนักปราชญ์ได้เช่นกัน
แต่นักเรียนอีกคนของบ้านอัศวินแพ้ให้กับนักเรียนของบ้านคนเขลา
เกมต่อไปจะเป็นการแข่งขันแบบน็อกเอาต์ โดยคัดเลือกจากสายผู้แพ้สี่คน ให้เหลือเพียงสองคน
กลุ่มผู้ชนะจะเล่นเกมต่อ และสองคนจะถูกเลือกจากสี่คน
สองคนที่ตกไปสายผู้แพ้จะต่อสู้กับสมาชิกที่รอดตายสองคนของสายผู้แพ้ จากนั้นทั้งสองจะถูกตัดสิน
…
ในระหว่างเกม
ดาร์กนั่งอยู่บนม้านั่งและมองการ์ดแต่ละใบอย่างพิจารณา
อันที่จริง เด็คของเขามีข้อบกพร่องที่สำคัญอยู่
สิ่งอันตรายที่สุดคือ คูลดาวน์ที่ยาวนานมากของการ์ดเมจิกหมวดมหาบาป
คูลดาวน์ของ [อัตตา I] คือ 59 นาที
คูลดาวน์ของ [อัตตา II] คือ 180 นาที!
คูลดาวน์ของ [ราคะ III] คือ 120 นาที
แม้ว่าจะมีช่วงพักครึ่งชั่วโมงระหว่างการแข่งแต่ละนัดก็ตาม ทว่าตั้งแต่เริ่มรอบคัดแปดคนเหลือสี่คนจนถึงรอบชิงชนะเลิศ มันจะมีเพียงสี่ช่วงเท่านั้น ซึ่งรวมเป็นร้อยยี่สิบนาที
ซึ่งหมายความว่า [อัตตา II] จะไม่ได้ใช้อีกเลย
[อัตตา I] สามารถเล่นได้หลังจากผ่านไปสองรอบ
[ราคะ III] สามารถใช้ได้แค่ในรอบชิงชนะเลิศเท่านั้น
ต่อไป เขาต้องปรับเปลี่ยนเด็คบางอย่าง
การประลองกับซาร่า สวาติทำให้ดาร์กตื่นตัวขึ้นเช่นกัน
ไม่ใช่เขาคนเดียวในกลุ่มนักเรียนปีหนึ่งที่มีความก้าวหน้า
แต่เพื่อนคนอื่น ๆ ก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นกัน
…
ก่อนรอบต่อไปจะเริ่มขึ้น
ในที่สุดดาร์กก็ปรับเด็คเสร็จ
ก่อนอื่นต้องใช้การ์ดเวทมนตร์เพียงหกใบเท่านั้น
ประการที่สองคือ เปลี่ยนการ์ดที่ไม่มีประโยชน์และเพิ่มการ์ดเสริม
ผลลัพธ์สุดท้ายคือ
▼
[สัตว์อสูรมายา: อีบุย] [สไลม์ขยะ] [ชัคคารุ]
[แคทมอน] [อูชิ] [นินิม]
[ผลักออก] [สกัดกั้น] [สกัดกั้น]
[กระสุนเวทมนตร์] [พรางตา] [เคลื่อนย้ายในพริบตา]
▲
ยังมีการ์ดเวทมนตร์อีกสิบสองใบ
อัตราส่วนของสปิริตกับการ์ดเวทมนตร์ประเภทอื่นคือ 1:1
แม้ว่าเด็คนี้จะดูไม่น่าเชื่อถือนัก แต่ก็เป็นเด็คที่ปรับแต่งได้ดีที่สุด
ดาร์กวางเด็คที่ปรับแล้วให้เข้าที่ จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นเดินไปที่กระดานตาราง แล้วดูกำหนดการสำหรับรอบต่อไป
นักเรียนคุยกันอยู่รอบกระดานตารางเงียบ ๆ
เมื่อพวกเขาเห็นผู้เล่นแปดอันดับแรกมา ทั้งหมดก็หลีกทางออกไป
ดาร์กกับเพื่อนร่วมชั้นที่กระตือรือร้นสองคนทักทายกัน แล้วพวกเขาก็มาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของไดแอนนา ซึ่งกำลังเงยหน้าขึ้นมองเป็นกังวล
”มีอะไรผิดปกติเหรอ?” ดาร์กถามอย่างเป็นกันเอง
โรสหันกลับมาและขยิบตาให้เขาก่อน
ไดแอนนาหันหน้ามาทันทีและพูดอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่มีความสุข เพราะฉันจะแพ้”
ดาร์กมองดูตาราง “ตารางการแข่งเพิ่งจะประกาศเองไม่ใช่เหรอ? ทำไมเธอถึงจะแพ้… เอ่อ… ( ⊙ o ⊙ )”
อย่างไรก็ตาม บรรทัดแรกของกลุ่มผู้ชนะถูกเขียนว่า: หมายเลข 1 vs หมายเลข 2!
…
กลุ่มผู้ชนะ
สนามที่ 1: หมายเลข 1 vs หมายเลข 2
สนามที่ 2: หมายเลข 5 vs หมายเลข 17
กลุ่มผู้แพ้
สนามที่ 3: หมายเลข 9 vs หมายเลข 10
สนามที่ 4: หมายเลข 7 vs หมายเลข 12
…
“งั้นคู่ต่อสู้ของฉันในรอบต่อไปก็คือเธอเหรอ?”
ดาร์กพาไดแอนนาออกจากฝูงชน
ไดแอนนาขมวดคิ้วและกระซิบ “ฉันคิดว่าอย่างน้อยฉันจะได้ประลองกับนายในรอบรองชนะเลิศ”
ดาร์กปลอบ “ดูถูกตัวเองมันไม่ดีนะ เธอต้องเชื่อในการ์ดเวทมนตร์ของตัวเอง แม้แต่ฉัน ฉันก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะชนะ”
“แต่ฉันไม่มีแม้กระทั่งการ์ดเวทมนตร์ขั้นสองเลยนี่นา”
ดาร์กพูดด้วยความอ่อนใจ “การประลองไม่ได้วัดที่ใครมีสปิริตระดับสูงกว่ากัน ฉันเกือบแพ้ในการประลองกับซาร่า สวาติก่อนหน้านี้ เด็คของเธอแข็งแกร่งมาก และเธอก็เป็นคู่ปรับที่ต้องระวังเช่นกัน!”
”คู่ปรับเหรอ? หึ ๆๆ ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำให้ดีที่สุด!”
”นั่นแหละ คู่ปรับ”
MANGA DISCUSSION