จอมนักรบท้าโลก - ตอนที่ 847 สะใจจริงๆ
ในเวลาเดียวกัน ณ สำนักงานผู้จัดการทั่วไปของเครื่องประดับดาวฤกษ์ ชายสองคนนั่งโง่ๆ อยู่บนเก้าอี้ ถึงแม้จะใส่เสื้อหลายตัว แต่ก็ยังรู้สึกหนาวไปทั้งตัวอยู่ดี
ซึ่งสองคนนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหยวนหยาเหว่ยกับฉังหยัง
ทั้งสองคนเป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่รออยู่หน้าคอมพิวเตอร์เพื่อดูการถ่ายทอดสดตัดหินของเครื่องประดับเส้ายิน และทั้งสองยังคิดว่าจะได้เห็นฉากที่สมดังปรารถนา เพราะทั้งสองมีสถานะพิเศษกว่าคนอื่น จึงไม่เหมาะสมที่จะเข้าร่วมในงานได้ ทำได้เพียงชมผ่านคอมพิวเตอร์ในออฟฟิศ แต่สถานการณ์มันน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้ โดยเฉพาะภาพที่เหวยซือเป็นลมกลางเวทีและถูกคนหามไปขึ้นรถพยาบาล มันทำให้ชายทั้งสองในออฟฟิศหดหู่อย่างอธิบายไม่ได้
แต่เรื่องมันมาถึงจุดนี้แล้ว แม้แต่คนโง่ก็คงรู้ตัวว่าตัวเองถูกหลอก
หยวนหยาเหว่ยปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของเขาแล้วหายใจหอบเหนื่อยมาก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นการปิดกั้น ‘หนทางรอด’ สุดท้ายของเขาไปแล้ว
เพราะเหวยซืออาจคิดว่าเขาได้วางแผนร่วมมือกับเจียงชื่อก็ได้?
ณ ตอนนี้ ทุกอย่างหมดกัน แผนการล้มละลาย
หยวนหยาเหว่ยขมวดคิ้วแน่นๆ เขายิ่งคิดยิ่งตื่นตระหนก ขาทั้งสองข้างก็สั่นอย่างไม่หยุด
ฉังหยังที่อยู่ข้างๆ ได้แต่ถอนหายใจแล้วพูดว่า “ยอมแล้ว ยอมแล้ว ผมยอมแพ้เจียงชื่อคนนี้แล้วจริงๆ ไอ้หมอนี่มันเล่นเหลี่ยมกับเรา ทำให้เราเข้าไปติดกับกลอุบายมัน แต่พวกเราก็ดันไปหลงกลมันจริงๆ เหอะๆ โง่จริงๆ”
อันที่จริง พวกเขาต้องหลงกลอยู่แล้ว
เพราะข้อมูลที่เจียงชื่อให้มานั้น มันเป็นการกดดันพวกเขา ถ้าพวกเขาไม่แย่งสินค้าล็อตนี้ เครื่องประดับดาวฤกษ์จะทำเงินได้มหาศาล และจะปิดกั้นช่องทางกำไรของเครื่องประดับเส้ายิน
เพื่อประโยชน์ของตนเอง เหวยซือและหยวนหยาเหว่ยกับคนของเขาต้องถูกล่อลวงจนหลงกลแน่นอน
เพราะนั่นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แม้หยวนหยาเหว่ยจะเกลียดเจียงชื่อมาก แต่ในเรื่องนี้ เขาจำเป็นต้องยอมแพ้
“แล้วตอนนี้จะเอายังไง?” หยวนหยาเหว่ยตื่นตระหนกมาก
ฉังหยังตอบ “จะทำอะไรได้ล่ะ? แล้วมันไม่เกี่ยวกับพวกเราครับ เราจะทำอะไรก็เรื่องของเราสิ”
“ไงนะ?”
หยวนหยาเหว่ยหน้าด้านพออยู่แล้ว แต่ไม่นึกเลยว่าฉังหยังจะหน้าด้านกว่าอีก
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แต่เขายังทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อย่าพูดเลย มันเป็นไปได้จริงๆ
ฉังหยังอธิบายว่า “เหวยซือหมดกัน การที่เครื่องประดับเส้ายินจะล้มละลายก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ตอนนี้เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้วด้วย สู้เสียอยู่ต่อที่เครื่องประดับดาวฤกษ์ดีกว่าครับ”
“โชคดีที่เราแค่เป็นคนปล่อยข่าวให้กับเหวยซือเท่านั้น ส่วนคนที่ลงมือดำเนินตามแผนคือเขาคนเดียว ถ้าพวกเขาจะตรวจสอบ เราก็คงไม่โดนไปด้วยหรอกครับ”
“พวกเรา ยังสามารถเป็นผู้บริหารและรับเงินเดือนของเครื่องประดับดาวฤกษ์ได้อย่างเช่นเคย”
“สิ่งที่เราสูญเสียไปก็คือโอกาสในการเปลี่ยนงานเท่านั้น ถึงแม้จะเสียดาย แต่เราไม่ถึงกับตายนะครับ อนาคตถ้ามีบริษัทดีๆ รองรับ เราค่อยดีดตัวออกไปก็ได้ ต่อให้ไม่มีบริษัทอื่นจริงๆ เรายังคงใช้ชีวิตอยู่ในเครื่องประดับดาวฤกษ์สาขาเจียงหนานนี้ต่อไปได้ รายได้ของเราก็เหมือนเดิม ไม่มีการขาดทุน”
“แต่สิ่งเดียวที่รบกวนเราก็คือไอ้เจียงชื่อคนนั้น”
“ไหน ๆ ก็เกิดเรื่องนี้ขึ้นแล้ว เราอดทนไว้ก่อนดีกว่า อย่าเพิ่งต่อกรกับเจียงชื่อเลย พวกเราใช้ชีวิตอย่างสันติไปก่อน รอให้สถานการณ์ในช่วงนี้ซาลงก่อน เราค่อยคิดหาวิธีจัดการเจียงชื่ออีกครั้ง”
การวิเคราะห์นี้ค่อนข้างรอบคอบ
หยวนหยาเหว่ยก็นึกได้และพยักหน้าตอบ “ใช่ๆ จะว่าไปเราไม่ได้สูญเสียอะไรเลยนะ คนที่ต้องสูญเสียจริงๆ คือเหวยซือ คือเครื่องประดับเส้ายินมากกว่า ส่วนพวกเราไม่ใช่คนของเครื่องประดับเส้ายินอยู่แล้ว ดังนั้น พวกเราจะเกี่ยวอะไรด้วย?”