จอมนักรบท้าโลก - ตอนที่ 840 ติดกับ
ดวงตาของสื่อเจิ้งกางเป็นประกาย หัวใจของเขาแทบจะพุ่งออกมาจากลำคอของเขา เขารู้สึกดีใจมาก “ขอบใจนะ ขอบใจสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นของน้องชาย!”
เหวยซือก็ปิดประตูแล้วหันหลังเดินจากไป และเขาสั่งลูกน้องของเขาว่าให้ดูแลที่นี่ให้ดี ห้ามใครมาขัดขวางความสุขของเจ้านายสื่อโดยเด็ดขาด
จากนั้นเขาก็เดินไปที่ล็อบบี้
หลังจากนั่งลงบนโซฟาเขาก็หยิบบุหรี่ออกมาแล้วจุดไฟ
“ไอ้เฒ่าหัวงู ติดกับเราจนได้”
“ได้ซัพพลายเออร์ใหญ่มาหนึ่งเจ้าแล้ว เหลืออีกสอง”
“เจียงชื่อ คุณทำใจรอได้เลย คอยดูนะว่าผมจะแย่งหินชั้นยอดที่คุณคัดแยกไว้ไปให้หมด”
“คุณอยากเล่นแผนจัดการตั้งแต่ต้นตอมากใช่ไหม? เหอะๆ เจอแผนจับเต่าในไหของผมไปก่อนละกัน! อยากหนีก็หนีไม่พ้นหรอก!”
เหวยซือยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข เขาถึงกับหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว
หลังจากกวาดซื้อหินชั้นหนึ่งมาหมด และหลังจากผ่านการเจียระไนเสร็จ ราคามันจะพุ่งสูงขึ้น และกำไรก็จะบานแน่นอน
นอกจากนี้ หลังจากการแข่งขันในครั้งนี้ เขาอาจจะได้ตำแหน่งที่ใหญ่ที่สุดในเครื่องประดับเส้ายินเลยก็ได้!
เพอร์เฟค
……
สองวันต่อมา
เจียงชื่อก็มาพบกับสื่อเจิ้งกางตามนัด เขาได้นั่งอยู่บนเก้าอี้ในสำนักงานแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เจ้านายสื่อ ผมต้องขออภัยจริงๆ นะครับ เงิน 2400 ล้านมันเป็นจำนวนมหาศาลมาก บริษัทผมจึงใช้เวลาในการระดับทุนนานไปหน่อย ตอนนี้เราพร้อมแล้วครับ เรามาเซ็นสัญญากันเถอะ”
ก่อนหน้านี้เจียงชื่อมา สื่อเจิ้งกางจะต้อนรับอย่างกระตือรือร้นมาก
แต่ในครั้งนี้มันกลับกัน สื่อเจิ้งกางดูเย็นชามาก เขาได้แต่อ่านหนังสือพิมพ์โดยไม่สนใจเจียงชื่อเลยแม้แต่น้อย
เจียงชื่อขมวดคิ้วแล้วพูดเสียงดังขึ้น “เจ้านายสื่อครับ เรามาเซ็นสัญญากันเถอะ?”
สื่อเจิ้งกางยกเปลือกตาขึ้นและเหลือบมองไปที่เจียงชื่อ จากนั้นพลิกหน้าหนังสือพิมพ์แล้วพูดอย่างเหลือทนว่า “คุณเจียง ขอโทษด้วยนะ สินค้าของคุณหมดแล้ว คุณกลับไปเถอะ”
“ว่าไงนะ?!”
เจียงชื่อลุกขึ้นยืนทันทีและพูดอย่างเหลือเชื่อว่า “นั่นเป็นสินค้าที่ผมคัดแยกเองกับมือโดยใช้เวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์นะ ทำไมถึงหมดได้? คุณรับปากว่าจะขายให้ผมแล้วไม่ใช่เหรอ?”
สื่อเจิ้งกางเกาหัวแล้วตอบว่า “ใช่เหรอ? ผมรับปากคุณเมื่อไหร่? ไหนสัญญา?”
“เจ้านายสื่อ คุณจะเบี้ยวผมงั้นเหรอ?”
“พูดดีๆ นะ ผมสื่อเจิ้งกางไม่เคยผิดสัญญากับใคร ถ้าเซ็นสัญญาไปแล้วผมต้องทำตามสัญญาแน่นอน แต่ผมยังไม่ได้เซ็นสัญญากับคุณนะ คุณจะโทษผมรับปากคุณได้ยังไง?”
“เจ้านายสื่อ คุณกะว่าจะไม่ขายสินค้าชุดนี้ให้ผมจริงๆ แล้วใช่ไหม?”
“ผมเป็นเถ้าแก่ ผมจะขายให้ใครก็เรื่องของผม”
“เข้าใจแล้วครับ”
เจียงชื่อเก็บเอกสารในมือแล้วลุกขึ้นพูดว่า “เจ้านายสื่อ คุณไม่ขายให้ผม ผมไม่เป็นไรครับ แต่คุณช่วยให้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลกับผมหน่อยได้ไหม?”
สื่อเจิ้งกางวางหนังสือพิมพ์ลงแล้วมองไปที่เจียงชื่อสักพัก จากนั้นพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณอยากได้คำอธิบายงั้นเหรอ? ไม่มีปัญหา ผมบอกคุณได้ ผู้จัดการทั่วไปของเครื่องประดับเส้ายิน เหวยซือ เขาแย่งซื้อสินค้าของคุณ โดยการเสนอซื้อในราคา 1 พันล้าน ผมเป็นพ่อค้า ไม่มีเหตุผลที่ผมจะต้องกดราคาตัวเองว่าไหม? คนอื่นให้ราคาดีกว่าคุณ คุณต้องยอมรับ ใครให้คุณไม่ทำสัญญาไว้ก่อนล่ะ?”
เจียงชื่อพยักหน้า “โอเค ผมเข้าใจแล้วครับ แต่ผมขอเตือนคุณไว้ก่อนนะครับเจ้านายสื่อ การที่คุณตัดสินใจแบบนี้ มันเป็นการทรยศ ครั้งนี้คุณทำเงินได้ก็จริง แต่สิ่งที่คุณต้องเสียก็คืออนาคต”
“เหอะๆ เสียอนาคตงั้นเหรอ?” สื่อเจิ้งกางพูดอย่างเหลือทน “ไอ้หนู มึงเพิ่งเข้าสู่วงการอุตสาหกรรมเครื่องประดับได้ไม่กี่เดือนก็กล้ามาอวดดีต่อหน้ากูแล้วงั้นรึ? ตอนกูเข้าวงการนี้ มึงแมร้งยังไม่เกิดด้วยซ้ำ ไสหัวออกไป กูเบื่อ!”
สื่อเจิ้งกางไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเจียงชื่อเลยด้วยซ้ำ เพราะคำพูดข่มขู่แบบนี้เขาฟังมาเยอะแล้ว
แต่เขาไม่รู้ว่าคำพูดของคนอื่นเป็นแค่การข่มขู่
แต่คำพูดของเทพแห่งสงครามชูร่านั้นเป็นความจริง
เจียงชื่อไม่ได้พูดอะไรต่อ ได้แต่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น จากนั้นเดินออกไปจากออฟฟิศอย่างจนใจ ซึ่งทำให้คนมองแล้วรู้สึกว่าเขาผิดหวังมาก
เมื่อเดินออกจากออฟฟิศ เจียงชื่อก็ขึ้นรถและเหยียบคันเร่งแล่นรถออกไป
จนกระทั่งรถวิ่งอยู่บนถนนในชนบทที่รกร้างว่างเปล่า สีหน้าความเศร้าบนใบหน้าของเจียงชื่อก็หายไป
เขาถอนหายใจดังๆ แล้วพึมพำกับตัวเองว่า “การแสดงมันเป็นเรื่องยากจริงๆ เกือบขำแตกแล้วสิเรา”
ในขณะนี้ เขาได้รับโทรศัพท์จากฉีเจิ้น
“น้องเจียง เป็นไงบ้าง?”
“ทุกอย่างโอเคครับ เหวยซือใช้เงิน 1 พันล้านเพื่อกวาดซื้อสินค้าเหล่านั้นแล้ว ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัย ซัพพลายเออร์อีกสองเจ้าก็จะตามไปครับ”
“จริงเหรอเนี่ย? ดีจริงๆ เลย ในที่สุดปลาก็ติดเบ็ดแล้วสินะ”
เจียงชื่อยิ้มตอบ “สิ่งที่เราต้องทำในขั้นตอนต่อไป ก็คือจับปลาเหล่านี้ทีละตัวครับ!”