จอมนักรบท้าโลก - ตอนที่ 831 พรรคพวก
หลายๆ วันถัดมา ชีวิตของเจียงชื่อค่อนข้างราบรื่น และไม่มีใครมาโจมตีเขาอีก
ด้วยความล้มเหลวครั้งล่าสุด หยวนหยาเหว่ยระมัดระวังตัวมากขึ้น
ในวันนี้ ฉีเจิ้นประธานบริษัทได้กลับมาที่บริษัท และคนแรกที่เขาพบก็คือเจียงชื่อ
เขาเดินเข้ามาในออฟฟิศด้วยรอยยิ้ม จากนั้นถอดเสื้อคลุมออกแล้วแขวนไว้บนหลังเก้าอี้และพูดกับเจียงชื่อว่า “น้องเจียง ผมได้ข่าวว่า ช่วงนี้คุณกำไรบานเลยนะ”
เจียงชื่อยิ้มตอบ “อย่าพูดถึงมันเลยครับ ผมเซ็นสัญญาไว้กับคนกลุ่มหนึ่ง ต้องไปดูหินให้พวกเขาทุกคน เหนื่อยแทบแย่เลย ตอนนี้ผมอยากยกเลิกสัญญากับพวกเขามากกว่า จะได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง”
ฉีเจิ้นตอบ “มีกำไรให้กอบโกยแบบนี้ ยังบ่นเหนื่อยอีกนะ จริงๆ เลย”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เขาก็พูดต่อ “พูดเรื่องจริงจังหน่อยนะ ครั้งนี้ผมกลับมาก็เพื่อจะพัฒนาบริษัทสาขาเขตเจียงหนานให้เต็มที่ ให้เครื่องประดับดาวฤกษ์ได้กลายเป็นบริษัทเครื่องประดับอันดับหนึ่งในเขตเจียงหนาน!”
เขาถามเจียงชื่อต่อว่า “น้องเจียง ตอนนี้บริษัทจะทำการบุกตลาดเต็มรูปแบบแล้ว คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้ไหม?”
เจียงชื่อยักไหล่ “ผมเป็นแค่ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อนะครับ ไม่ยุ่งกับการกลยุทธ์ในการบุกตลาดหรอก ท่านประธานมีแผนอะไร ผมว่าท่านประธานน่าจะรู้ดีกว่าผมนะ”
ฉีเจิ้นพยักหน้าด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย “ไม่มีใครรู้จักผมดีกว่าเจียงชื่อแล้วจริงๆ อย่างที่พูด ก่อนที่ผมจะกลับมา ผมได้ปรึกษากับคณะกรรมการว่าจะขยายธุรกิจในเขตเจียงหนานแล้ว ตอนนี้ได้มีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มรูปแบบ และคู่แข่งหนึ่งเดียวของเราก็คือเครื่องประดับเส้ายิน พวกเขาไม่มีทางทิ้งเนื้อในปากไปง่ายๆ อย่างแน่นอน ดังนั้น เพื่อที่จะแย่งชิงตลาดของเขตเจียงหนาน เกรงว่าจะต้องมีการต่อสู้นองเลือดแน่”
เจียงชื่อขมวดคิ้วแล้วเตือนว่า “ท่านประธานครับ ผมมีคำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ อยากจะบอกครับ”
“ว่ามาเลย?”
“ก่อนที่จะปล่อยหมัดออกไป ผมแนะนำให้ท่านตรวจสอบปัญหาภายในให้ละเอียดก่อนจะดีกว่านะครับ”
“หมายความว่ายังไง?” ฉีเจิ้นรู้สึกสับสนเล็กน้อย
เจียงชื่อพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า “ผมหมายถึง ตอนนี้ในบริษัทมีสายสืบครับ และไม่ใช่แค่คนสองคนเท่านั้น แต่เป็นพวกเลยนะครับ ที่บังเอิญกว่านั้นคือ สายสืบพวกนี้เป็นของเครื่องประดับเส้ายินหมดเลยครับ”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของฉีเจิ้นก็บูดบึ้งทันที
ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องแปลกที่บริษัทจะมีสายสืบ เพราะทุกบริษัทมักจะส่งสายของเขาไปที่บริษัทคู่แข่งอยู่แล้ว
แต่ถ้าเป็นกลุ่มเลย มันก็คงมากไปหน่อยแล้ว
และที่มากไปกว่านั้น เจียงชื่อพูดต่อ “สายพวกนี้ยังมีอำนาจในมือ และยังอยู่ในตำแหน่งสำคัญ ถ้าไม่จัดการคนกลุ่มนี้ก่อน ความลับในบริษัทต้องรั่วไหลอย่างแน่นอนครับ”
และถ้าความลับรั่วไหลออกไป คู่แข่งก็จะมีเวลาเตรียมตัว และยังมีเวลาวางแผนต่อกรอีกด้วย แผนการขยายตลาดของเครื่องประดับดาวฤกษ์ก็จะมีอุปสรรค แล้วยังจะบุกตลาดอะไรอีก?
ฉีเจิ้นเริ่มกังวลแล้วถามว่า “่เจียงชื่อ คุณบอกผมมาตรงๆ ว่าสายสืบที่คุณบอกคือใคร?”
่เจียงชื่อไม่ได้บอกชื่อคนนั้นทันที แต่มอบบัญชีการลักลอบนำเข้าให้กับฉีเจิ้นดู
“ท่านประธาน ท่านดูเอกสารชุดนี้ก่อนสิครับ”
“นี่คือเอกสารที่มีคนจงใจจะขุดหลุมกับดักให้ผมไปติดกับในช่วงที่ท่านไม่อยู่ พวกเขาตั้งใจจะเล่นงานผมครับ”
ฉีเจิ้นหยิบเอกสารขึ้นมาดู และเขายิ่งดูก็ยิ่งตกใจ
ถ้าตำรวจได้เอกสารชุดนี้ไป ผลที่ตามมามันจะเลวร้ายมาก เจียงชื่อต้องเข้าคุกเป็นเวลาสิบปีขึ้นไปอย่างแน่นอน
“ฝีมือใคร?” ฉีเจิ้นโกรธมาก
เจียงชื่อไม่ได้ตั้งใจจะเก็บเป็นความลับ ดังนั้นจึงพูดชื่อนั้นทันที “หยวนหยาเหว่ย”
“มันนะ?”
ฉีเจิ้นถึงกับใจหาย ไม่แปลกใจที่เจียงชื่อบอกว่าสายสืบคนนี้อยู่ในตำแหน่งที่สำคัญของบริษัท