จอมนักรบท้าโลก - ตอนที่ 828 ลึกลับจนไม่สามารถวัดได้
เขาเคาะโต๊ะเบาๆ แล้วถามว่า “โหวหยัง สำหรับคุณแล้ว ผมไม่น่าจะมีบุญคุณอะไรต่อคุณนะ มีแต่ความเกลียดชังมากกว่า แล้วคุณขอบคุณผมเรื่องอะไร?”
โหวหยังยืดอกแล้วกัดริมฝีปากของตน
หลังจากหายใจเข้าลึกๆ หลายๆ รอบ โหวหยังก็เล่าความจริงที่เกี่ยวข้องกับการสมรู้ร่วมคิดที่เกิดขึ้นเมื่อสามวันก่อนให้กับเจียงชื่อฟัง
ว่าเขาให้ความร่วมมือกับเหวยซือในการวางแผนทำร้ายเจียงชื่ออย่างไร แล้วเขาถูกเหวยซือหลอกใช้อย่างไร และสุดท้ายเขารอดมาได้เพราะใคร ซึ่งรายละเอียดทุกอย่างนี้ เขาก็เล่าออกมาอย่างหมดเปลือก
ถ้าหากเจียงชื่อไม่ได้ทำลายแผนของเหวยซือ โหวหยังในเวลานี้ก็คงนอนอยู่ในคุกแล้ว
บุญคุณนี้มันยิ่งใหญ่เหมือนกับภูผา
จนกระทั่งตอนนี้ เจียงชื่อถึงจะเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
ที่ผ่านมาเจียงชื่อคิดอยู่ตลอดว่าหยวนหยาเหว่ยเป็นคนวางแผนจะทำร้ายเขา เพราะภารกิจนี้และคนขับทั้งหมดก็มาจากหยวนหยาเหว่ยทั้งนั้น
ดังนั้น หลังจากผ่านวิกฤตมาได้ เจียงชื่อไม่ได้รีบร้อนที่จะคิดบัญชีกับหยวนหยาเหว่ยเลย
เพราะถึงอย่างไรแล้ว พวกเขาทั้งสองเป็นถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ถ้าหากเกิดความขัดแย้งกันอย่างเปิดเผยแบบนี้ เกรงว่าจะไม่เป็นผลดีต่อบริษัทแน่นอน
แต่หลังจากที่ได้ยินข้อเท็จจริงจากปากของโหวหยังแล้ว เจียงชื่อถึงจะตระหนักได้ว่าหยวนหยาเหว่ยเป็นแค่หมากรุกตัวหนึ่ง ส่วนต้นตอของแผนการทั้งหมดนี้คือเหวยซือต่างหาก
เหวยซือคนนี้ได้สร้างความขัดแย้งต่อเขาตั้งแต่เริ่มแรกที่ย้ายเข้ามาในเขตเจียงหนานแล้ว เจียงชื่อเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาไปเหยียบเท้าเทพหายนะคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เขาได้แต่ถอนหายใจยาวๆ
“ถ้าหากหยวนหยาเหว่ยแค่เกลียดผม แล้วตั้งใจจะต่อกรกับผม ผมอาจจะอดทนเพื่อภาพลักษณ์ของบริษัทก็ได้”
“แต่ถ้าเขาร่วมมือกับคนนอก ทำตัวเกลือเป็นหนอน งั้นผมจะปล่อยเขาไว้ไม่ได้อีก”
“คนคนนี้ จะต้องถูกกำจัด!”
เมื่อกลายเป็น ‘แบล็กลิส’ ของเจียงชื่อเมื่อไหร่ บุคคลนั้นก็จะถึงจุดจบของชีวิตทันที
หยวนหยาเหว่ย หมดกัน
เพื่อพิสูจน์เพิ่มเติมว่าสิ่งที่โหวหยังพูดนั้นเป็นความจริงและเชื่อถือได้ เจียงชื่อจึงได้ค้นออฟฟิศของเขา และในที่สุดก็พบบัญชีการลักลอบนำเข้าในตู้หนังสือของเขาจริงๆ
เพราะสองสามวันที่ผ่านมานี้ เขาให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก หยวนหยาเหว่ยจึงไม่มีโอกาสที่จะเข้ามาหยิบเอกสารชุดนี้ไปได้ ดังนั้นมันจึงยังอยู่ที่เดิม
เจียงชื่อเปิดดูและเห็นว่ามันเป็นไปอย่างที่โหวหยังพูด พวกเขาทั้งสองถูกหลอกใช้พร้อมกัน
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเจียงชื่อพบกล่องดำนั้นก่อน เกรงว่าทั้งสองคงติดคุกหัวโตไปแล้ว
“เฉียดฉิวจริงๆ”
เจียงชื่อเก็บเอกสารนั้นแล้วมองไปที่โหวหยังและพูดกับเขาว่า “ความจริงแล้วคุณไม่ต้องขอบคุณผมก็ได้นะ เพราะทั้งหมดที่ผมทำ ก็เพื่อจะปกป้องตัวเองเท่านั้น และผมก็แค่บังเอิญช่วยคุณไว้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะช่วยคุณด้วยซ้ำ”
นี่คือความจริง
และการที่กล้าพูดอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ มันก็ยิ่งทำให้โหวหยังซาบซึ้ง
จากนั้นเขาถามอย่างสงสัยว่า “คือว่า คุณเจียงครับ ผมยังสงสัยอยู่เลยว่าคุณไปเจอกล่องดำนี้ได้ยังไงครับ?”
เจียงชื่ออุบเรื่องนี้ไว้ “เรื่องนี้ผมไม่สะดวกบอกคุณหรอกนะ”
“แล้ว……กล่องดำไปไหนแล้วครับ?”
เจียงชื่อกางมือออก “จู่ ๆ บนรถมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาแบบนี้ ผมก็ต้องโยนมันทิ้งสิ”
“โยนทิ้งเลยเหรอครับ?”
“ใช่ ก็โยนทิ้งข้างทาง ตอนนี้คงถูกคนเก็บไปแล้วล่ะ”
แต่อันที่จริงแล้ว ในระหว่างการขนส่งสินค้า เจียงชื่อได้ให้ซุนจ้ายเย้นพาคนมารับกล่องหยกนั้นไปแล้ว ถือว่าเป็นรายได้พิเศษของบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งไป
มีคนเอาของขวัญมาให้ฟรีๆ แบบนี้ ทำไมเขาต้องปฏิเสธล่ะ?
ของขวัญชิ้นใหญ่จากเหวยซือนี้ เจียงชื่อเก็บมันไว้ตั้งนานแล้ว แต่ไม่สะดวกที่จะบอกให้โหวหยังฟังก็เท่านั้น
แต่แน่นอนว่าโหวหยังไม่ใช่คนโง่อยู่แล้ว และเขาก็รู้ว่าการ ‘โยนทิ้ง’ ที่เจียงชื่อพูดนั้นก็แค่ข้ออ้าง กล่องหยกนั่นต้องเสร็จเจียงชื่ออย่างแน่นอน
และมันก็ยิ่งทำให้โหวหยังชื่นชมเจียงชื่อมากขึ้น
ผู้ชายคนนี้ ลึกลับจนตามไม่ทันจริงๆ เขาไม่เพียงแต่รอดพ้นจากภัยพิบัติ แต่ยังสร้างกำไรอันมหาศาลให้ตนเองอีกด้วย
ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ