จอมนักรบท้าโลก - ตอนที่ 826 เตะหมูเข้าปากหมา
นอกจากเจียงชื่อกับคนขับรถคนนั้น คนอื่นๆ ในกลุ่มไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ทุกคนยังคิดแค่ว่าเป็นงานออกงานสินค้าตามปกติ
ในระหว่างทางกลับ คนขับรถรู้สึกไม่สบายใจมาก เขาไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลยแม้แต่ครู่เดียว
และในเวลาเดียวกัน
ณ ด้านในสำนักงานออฟฟิศของผู้จัดการทั่วไปในเครื่องประดับเส้ายิน
โหวหยังถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสามจับไว้แน่นๆ เขาไม่สามารถขัดขืนได้เลย แค่เขาขยับตัวก็ถูกเฆี่ยนตีแล้ว และในตอนนี้ เขาทำได้เพียงเฝ้ารอความตายเท่านั้น
นี่ก็คือผลลัพธ์ที่กล้าต่อกรกับนายทุนรายใหญ่
เหวยซือมองดูนาฬิกาของเขา ตามเหตุผลแล้ว ตอนนี้การตรวจสอบของกรมศุลกากรควรจะสิ้นสุดลงแล้ว และถ้าหากทุกอย่างเป็นไปตามแผน เจียงชื่อก็ควรอยู่ในรถตำรวจและกำลังถูกนำส่งตัวไปยังสถานีตำรวจแล้ว
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!!! ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด!!!
และแล้ว สายจากกรมศุลกากรก็โทรเข้ามารายงานสถานการณ์
เหวยซือรีบรับสายทันทีและถามอย่างมีความสุขว่า “สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง? ไอ้เจียงชื่อถูกส่งตัวไปสถานีตำรวจแล้วใช่ไหม? ผมบอกให้คุณถ่ายรูปตอนที่เจียงชื่อทำหน้าเศร้า คุณถ่ายแล้วยัง?”
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง
เหวยซือเริ่มกังวลขึ้น “พูดสิ? สัญญาณไม่ดีเหรอ?”
“เออ คือว่า ท่านผู้จัดการทั่วไปครับ พอดีสถานการณ์ได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยครับ เกรงว่าอาจจะทำให้คุณผิดหวังนะครับ”
“ว่าไงนะ?”
เหวยซือรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ดีเลย
เป็นอย่างที่คิด ปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์ได้ส่งข่าวที่ไม่คาดคิดให้กับเหวยซือ หรือเรียกได้ว่าเป็นข่าวร้าย
“คืออย่างงี้ครับ ท่านผู้จัดการทั่วไป กล่องดำนั่นหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ และมันไม่ได้อยู่บนรถของเจียงชื่ออีกด้วยครับ”
“ดังนั้น เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรหามันไม่เจอ ก็เลยไม่ได้จับผิดเจียงชื่อครับ”
“ตอนนี้เจียงชื่อเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว เขากำลังพาคนกลับไปที่เครื่องประดับดาวฤกษ์แล้วครับ”
ครอกแครก!!
โทรศัพท์มือถือหล่นลงพื้น
ต่อให้เป็นชายที่เคร่งขรึมและมีความเป็นผู้ใหญ่อย่างเหวยซือ ในเวลานี้เขาก็ต้องตกใจจนยืนทื่อเหมือนตอไม้และไม่สามารถเชื่อความจริงนี้ได้
“เป็นไปไม่ได้”
“เราวางแผนเพอร์เฟคขนาดนี้ มันจะผิดพลาดได้ยังไงกัน?”
“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้แน่นอน”
เหวยซือรีบเข้าไปหาโหวหยังแล้วชักคอเสื้อของโหวหยังมาและตวาดอย่างเสียงดังว่า “สรุปแกได้ใส่กล่องดำเข้าไปในรถมันจริงไหม? ทำไมด่านศุลกากรหากล่องไม่เจอ?”
ในขณะนี้ โหวหยังก็รู้สึกโล่งอกขึ้นมาทันที
ทันใดนั้น เขารู้สึกว่าได้ขึ้นสวรรค์จากนรก และมีความสุขอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เขาไม่เคยรู้สึกมีความสุขขนาดนี้มาก่อนเลย เขาต้องขอบคุณฟ้า ขอบคุณเจียงชื่อที่ไม่ปล่อยให้แผนของเหวยซือประสบความสำเร็จ
สะใจ!!!
สะใจจริงๆ!!!
โหวหยังหัวเราะออกมาดังๆ และเป็นเสียงหัวเราะที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
“หัวเราะหาแมร้งเหรอ?” เหวยซือง้างมือแล้วตบหน้าโหวหยัง
เหวยซือที่ไม่เคยชอบใช้กำลังก็สุดจะทนแล้ว ซึ่งสามารถมองเห็นได้ว่าความล้มเหลวนี้มันร้ายแรงแค่ไหน
ประการแรก มันพิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่ากลยุทธ์ของเหวยซือนั้นมันทำอะไรเจียงชื่อไม่ได้เลย
ต่อให้เขาจะหลอกคนของเขาเอง ต่อให้เขาจะใช้โหวหยังที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลย แต่มันก็ทำอะไรเจียงชื่อไม่ได้อยู่ดี
เหวยซือยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าปัญหาที่เขาเจอนั่นมันคืออะไร
ทั้ง ๆ ที่ทุกอย่างได้วางแผนไว้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้ง ๆ ที่ไร้จุดบกพร่องแล้ว ต่อให้เป็นคนที่ฉลาดที่สุดในโลกก็ไม่สามารถมองทะลุปรุโปร่งแผนการนี้ได้
แต่ทำไมเจียงชื่อถึงมองทะลุปรุโปร่งได้
มันทำได้อย่างไร?
เขาไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ
ยิ่งไม่เข้าใจเรื่องนี้ เหวยซือก็ยิ่งกังวลมากขึ้น และความโกรธทั้งหมดของเขาก็ต้องระบายที่ตัวของโหวหยังเท่านั้น
ส่วนประการที่สอง เหวยซือไม่เพียงแต่พ่ายแพ้ในด้านความเฉลียวฉลาดเท่านั้น ซึ่งการกำจัดเจียงชื่อในครั้งนี้ เขาได้ทุ่มเงินก้อนใหญ่เข้าไป ต้องเข้าใจว่าหยกกล่องนั้นมันมีมูลค่ามากกว่า 30 ล้านเลยทีเดียว!
นั่นคือหยกอันล้ำค่า
เดิมทีคิดว่าจะยัดของผิดกฎหมายให้กับเจียงชื่อ รอให้เจียงชื่อถูกจับไปก่อน แล้วเขาค่อยใช้วิธีนำหยกเหล่านั้นกลับมาอย่างถูกกฎหมาย และเขาจะไม่ขาดทุนเลยสักแดง
แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แค่แผนการล้มเหลวอย่างเดียวเท่านั้น เขายังต้องเสียกล่องหยกอันล้ำค่านั้นไปอีก
ถ้าเจียงชื่อพบมันจริงๆ แล้วเก็บมันไว้เอง เขาจะไม่มีวันเอากลับมาได้อีก และมันก็จะถูกเจียงชื่อนำของไป ‘ระบาย’ อย่างถูกกฎหมายแน่นอน
ช่างเป็นการเตะเนื้อหมูเข้าปากสุนัขจริงๆ มีแต่เสียและไม่มีวันหวนคืน
ซึ่งครั้งนี้เขาแพ้อย่างน่าเจ็บใจมาก
เหวยซือยังคงตบหน้าโหวหยังอย่างไม่หยุด ตบจนปากของโหวหยังบวมช้ำและเต็มไปด้วยคราบเลือด แต่โหวหยังไม่สนใจ เขายังคงหัวเราะอย่างมีความสุข ต่อให้จะหัวเราะไม่ออกเสียง เขาก็ยังแสดงรอยยิ้มอันขมขื่นของเขา
“ยังยิ้มอีกเหรอ?”
“กูจะฆ่ามึง!”
เหวยซือเตะไปที่หน้าท้องของโหวหยังและโหวหยังก็กระเด็นออกไปหลายเมตร
ทำให้โหวหยังได้แต่นอนกุมหน้าท้องอยู่บนพื้นอย่างขยับตัวไม่ได้
จากนั้นรปภ. คนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วพูดว่า “ผู้จัดการครับ ให้ผมจัดการมันเลยไหมครับ?”
เหวยซือขมวดคิ้วสักพัก ด้วยความลังเล แต่สุดท้ายโบกมือแล้วพูดต่อ
“ไม่”
เหวยซือเป็นคนมีไหวพริบที่ดี เขาไม่เคยทำอะไรไม่รอบคอบ แม้การฆ่าโหวหยังเป็นเรื่องง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แต่ปัญหาที่จะตามมาภายหลังนั้นมีมากมาย
ตำรวจจะตามสืบเขาแน่นอน และเขาจะไม่สามารถเป็นผู้บริสุทธิ์อีก
ดังนั้น เขายังไม่สามารถฆ่าคนคนนี้ได้
“อัดมันให้เจ็บจนปางตาย แล้วทิ้งมันที่ถังขยะ”
นี่คือการระบายครั้งสุดท้ายของเหวยซือ
“รับทราบครับ!!!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเข้าไปแล้วรุมอัดโหวหยังอย่างสาหัส กระทั่งบวมช้ำไปทั้งตัวและไม่มีชิ้นดีอีก
แต่ถึงอย่างนั้น โหวหยังยังคงดีใจ
เพราะเขารู้ดีว่า วันนี้ไม่ใช่วันตายของเขาอย่างแน่นอน!