จอมนักรบท้าโลก - ตอนที่ 802 เชิญดื่มชา
หลังจากวางสาย
ติงเฟิงเฉิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เพราะเขาหวังว่าเจียงชื่อเป็นคนช่วยเขาในครั้งนี้ เขาจะได้แสดงความขอบคุณได้ แต่ตอนนี้เขาไม่รู้จะไปขอบคุณใครเลย
ในอีกด้านหนึ่ง
ณ อาคารสำนักงานของบริษัทหลัก คนสองคนเครียดจนจะเสียคน
ติงจื่อยวี่ฉีกเอกสารบนโต๊ะเป็นชิ้นๆ เธอโกรธจนสั่นไปทั้งตัว แทบอดไม่ได้ที่จะเรียกคนมาตบหน้ารัวๆ
ส่วนติงหงเหย้านั่งเงียบอยู่บนที่นั่ง แม้สีหน้าของเขาจะดูสงบมาก แต่ถ้าสังเกตอย่างละเอียด ดวงตาของเขานั้นแดงก่ำและดูเหมือนจะกินคนได้ทันคน
เขาเป็นผู้ชายที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก เขาคิดเสมอว่าไม่มีใครสามารถหยุดพ้นไปจากน้ำมือของเขาได้หรอก
โดยเฉพาะคนไร้ค่าอย่างติงเฟิงเฉิง ไม่เคยอยู่ในสายตาของติงหงเหย้าเลยด้วยซ้ำ
แต่ที่น่าอึดอัดใจคือ แม้เขาจะใช้กลวิธีที่ดีที่สุด แต่ก็ยังล้มเหลวง่ายๆ!
เดิมทีคิดว่าซุนเค่เฉินหนีไปต่างประเทศแล้วทุกอย่างก็จบจะลง แต่ใครจะไปรู้ว่าไอ้โง่คนนี้ถูกจับที่ต่างประเทศแถมยังถูกส่งกลับประเทศอีก ช่างโง่ยิ่งกว่าอะไร!
ที่สำคัญ กลับมาครั้งนี้ ทำให้ติงเฟิงเฉิงได้โรงงานไปฟรีๆ ยกผลประโยชน์ให้กับติงเฟิงเฉิงชัดๆ ถ้าแบบนี้ วันหลังติงเฟิงเฉิงผลิตวัตถุดิบเองโดยไม่จำเป็นต้องง้อใครเลยก็ได้
แต่ที่น่ารำคาญกว่านั้นคือ เงินจากบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งเหมือนถูกลมพัดเข้ามาให้เขา
ได้เงินทุน 300 ล้านโดยไม่ต้องทำอะไร ไม่ใช่แค่ยกเงินทุนให้ แถมยังซื้อวัตถุดิบแล้วส่งไปให้ถึงบ้านอีกด้วย
เหอะ ๆ จะใจดีเกินไปไหม?
ต่อให้เป็นบริษัทที่ร่วมมือกัน มันก็ไม่ดีขนาดนี้ไหม?
พัง ทุกอย่างพังไปแล้ว
ติงหงเหย้ายิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด แผนการทุกอย่างมันพังทลายไปหมด ไม่เพียงแต่จะทำอะไรติงเฟิงเฉิงไม่ได้ แต่กลับดูเหมือนส่งเสริมเขาอีกด้วย น่าเจ็บใจที่สุด!
ติงจื่อยวี่พูดขึ้น “พี่คะ แต่หนูไม่ได้คิดว่ามันจะง่ายขนาดนั้นเลยนะ ทำไมซุนเค่เฉินถึงถูกจับ? ทำไมศาลถึงให้ความร่วมมือขนาดนั้น ถึงขั้นเอาโรงงานเป็นหลักประกัน? ทำไมบริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งถึงยินดีที่จะสนับสนุนเขา? มันจะบังเอิญไปไหม ข้อสงสัยในนี้มันมากเกินไป ดูเหมือนว่าจะมีใครบางคนที่กำลังบงการอยู่เบื้องหลังมากกว่านะ”
สิ่งที่ติงจื่อยวี่คิดได้ติงหงเหย้าก็คิดได้เช่นกัน
เขาจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วตอบว่า “น้องสาว สิ่งที่เธอพูด พี่ก็กำลังคิดอยู่เหมือนกันนะ แต่ใครกันที่มีอำนาจขนาดนั้น ไม่ใช่ติงเฟิงเฉิงแน่นอน ต่อให้เป็นคุณปู่ มันก็เป็นไปไม่ได้”
ในขณะที่คิดอยู่นั้น ติงจื่อยวี่ก็พูดชื่อคนคนหนึ่ง “หรือว่าจะเป็น เจียงชื่อ?”
เจียงชื่อ?
ติงหงเหย้าหรี่ตาลง “มันฉลาดก็จริง แต่ต่อให้มันจะฉลาดแค่ไหน เป็นไปไม่ได้ที่มันจะเก่งขนาดนี้หรอก ต้องรู้นะว่าอำนาจการสั่งการในครั้งนี้มันไปถึงต่างประเทศเลยนะ ไม่ใช่แค่นี้ ยังมีสถานีตำรวจของเขตเจียงหนาน ศาล บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่ง หน่วยงานที่มีอำนาจขนาดนี้ ยังรวมไปถึงอำนาจใต้ดิน อำนาจทางการ อำนาจทางการตลาด ทั้งหมดทั้งมวลนี้ ไม่ใช่ใครเพียงลำพังจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน”
“เจียงชื่อน่ะเหรอ ไม่น่าจะเป็นไปได้”
“คิดแบบรอบคอบ ถ้าเป็นฝีมือของเจียงชื่อจริงๆ แสดงว่าสถานะตัวตนของมันต้องอยู่เหนือกว่าพวกเราอยู่แล้ว”
“ถ้าเขามีอิทธิพลขนาดนี้ เขาจะจัดการพวกเราได้แบบสบายๆ แล้วจะรอถึงทุกวันนี้ได้ไง?”
ติงจื่อยวี่พยักหน้าตอบอย่างเห็นด้วย
เจียงชื่อเกลียดพวกเขาขนาดนี้ ถ้าเขามีอำนาจจริงๆ คงจัดการพวกเขาไปนานแล้ว
เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ฝีมือของเจียงชื่ออย่างแน่นอน
“แล้วพี่คะ ถ้าไม่ใช่คุณปู่ ไม่ใช่เจียงชื่อ แล้วจะมีใครอีก ติงเมิ่งเหยนเหรอ? ไม่ใช่อยู่แล้ว”
ติงหงเหย้าถอนหายใจ “ณ ตอนนี้ พี่บอกได้แค่ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ ซุนเค่เฉินบังเอิญถูกจับ ตำรวจก็บังเอิญให้ความร่วมมือในการส่งมอบผู้ต้องหา ศาลก็บังเอิญให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ บริษัทเทคโนโลยีจิ้นเมิ่งก็บังเอิญมอบเงินทุนให้พวกเขา ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้มันเป็นแค่เรื่องบังเอิญ เป็นแค่โชคตาลิขิต!”
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ติงหงเหย้าไม่เชื่อเรื่องโชคตาที่สุด แต่เรื่องมันก็มาถึงจุดนี้แล้ว ต่อให้เขาไม่อยากเชื่อ เขาก็ต้องเชื่ออยู่ดี
ในขณะเดียวกัน ณ วิลล่าเก่า
เจียงชื่อวางสายลงและติงเมิ่งเหยนก็เดินเข้ามาถามว่า “เฟิงเฉิงโทรมาเหรอ?”
“อื้ม”
“เขาว่าไงบ้าง? คงกลัวแย่เลยสิ?”
เจียงชื่อยิ้มพูด “ไม่นะ เขามีความสุขมากกว่า เรื่องเงินทุนจัดการเรียบร้อยแล้ว เขายังได้โรงงานไปฟรีๆ อีก ตอนนี้เขาสบายแล้ว”
“หา?” ติงเมิ่งเหยนดูตกตะลึงมาก ทำไมเรื่องมันถึงหักมุมได้ขนาดนี้?
ก่อนที่ติงเมิ่งเหยนจะถามคำถามต่อไป เสียงโทรศัพท์ของเจียงชื่อก็ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นสายโทรเข้าจากคุณปู่ติงจ้ง
เจียงชื่อกดรับสายทันที
“ฮัลโหลครับ คุณปู่ ว่าไงครับ?”
“เจียงชื่อ ว่างไหม? แกมาที่บ้านหน่อย ปู่อยากชวนดื่มน้ำชา”