คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่128 หลงเซียวตัดสินใจวางทุกอย่างเป็นเดิมพัน
ตอนที่128 หลงเซียวตัดสินใจวางทุกอย่างเป็นเดิมพัน
หลังจากที่พ่อและแม่จากไป ฉู่ลั่วหานเองก็ไม่ได้กลัวความตายเท่าไหร่นัก ความกลัวความตายทั้งหมดเป็นเพียงเพราะความยึดติดกับโลก แต่ตอนนี้เธอไม่มีอะไรให้ยึดติดอีกแล้ว
คิดไปเปลี่ยนชุดไปเข้างาน เมื่อถึงหน้าลิฟต์ที่เปิดออก คนที่เดินออกมาคือเกาหยิ่งจือ
ฉู่ลั่วหานไม่ได้ใส่รองเท้าส้นสูง เธอสูงพอๆกับเกาหยิ่งจือ สายตาทั้งสองประสานกัน
ฉู่ลั่วหานนำมือใส่ไว้ในเสื้อ ใบหน้าเยือกเย็น ไม่อยากพูดอะไรกับเธอ
เกาหยิ่งจือพูดออกมาก่อนว่า “คุณหมอฉู่คะ การปรากฏตัวของคุณตอนนี้ช่างไม่เหมาะสมจริงๆ แม้ว่าผลการตรวจจะถูกท่านรองปกปิดไว้ แต่ก็น่าจะนึกถึงคนอื่นบ้าง? ถ้ามีคนติดเชื้อขึ้นมาละก็……!”
“หุบปาก” เธอกล่าวออกมาเพียงสองคำ สายตาจับจ้องไปที่เกาหยิ่งจือ ภายในใจก็เริ่มขมขื่นและแค้น
เกาหยิ่งจือหัวเราะ “หึๆ พูดว่าอะไรนะ!”
ใบหน้าของฉู่ลั่วหานไร้ความรู้สึกใบหน้าสีขาวเรียบๆของเธอไม่ได้ถูกทาด้วยแป้ง แต่เป็นความงามที่แม้จะซีดเซียวแต่น่าหลงใหลยิ่ง มันไม่เคยลดลงเลยตั้งแต่รู้จักกันมา
“ฉันบอกว่าให้คุณหุบปากซะ ทำไมเหรอ หรือคุณอยากลองชิมรสชาติการติดเชื้อดูบ้าง ถ้าไม่อยากละก็สองสามวันนี้รบกวนอยู่ห่างๆฉันซะ!”
คำพูดของเธอทำให้ เกาหยิ่งจือตะลึง
นานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นคุณหมอฉู่ในท่าทางเช่นนี้ นานจนเกาหยิ่งจือเกือบจะลืมไปเสียแล้ว
ฉู่ลั่วหานก้าวขาเข้าไปในลิฟต์
ต้องไป เธอจะต้องไปจากที่นี่ ในวันนี้เธอมายื่นใบลาออก ถังจิ้นเหยียนสัญญากับเธอว่าจะปิดเป็นความลับ เธอจะต้องไปจากที่นี่ก่อนทุกคนจะรู้เรื่อง
คุณนายตระกูลหลง จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าติดเชื้อนี้
เธอทำจิตใจให้มั่นคงและหยุดน้ำตานั้นไว้ ฉู่ลั่วหานไม่ยอมให้ตัวเองดื่มด่ำกับความเศร้าโศก เธอควรจะจบทุกอย่างลง
ผู้อำนวยการเฉินตกใจเมื่อเห็นจดหมายลาออกจากเธอ “ทำไมต้องลาออก? คุณควรให้เหตุผลกับเรา ไม่อย่างนั้นเราคงไม่ให้คุณไป”
ฉู่ลั่วหานเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อำนวยการเฉินก็ไม่ต่างจากเด็กน้อยคนหนึ่ง เธอยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้อำนวยการเฉินคะ ได้ยินมาว่าโลกนี้กว้างขวาง ฉันเองก็อยากออกไปดู คุณไม่สามารถเติมเต็มความฝันขั้นแรกให้ฉันได้งั้นเหรอคะ?”
ผู้อำนวยการเฉินขมวดคิ้ว “อาฉู่ เธอเป็นเสาหลักของที่นี่ เธอจะไปไหนไม่ได้ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น หรือเธออยากพักผ่อน ตำแหน่งนี้ฉันจะเก็บเอาไว้ให้เธอเสมอ”
ฉู่ลั่วหานส่ายหน้า “ไม่ต้องจริงๆค่ะ ฉันตัดสินใจดีแล้ว คนไข้ที่ดูแลฉันจะฝากให้หมอคนอื่นช่วยดู ไม่มีผลต่อการรักษาแน่นอน”
“แต่ว่า……!ฉันเห็นรายชื่ออาสาสมัครไปแอฟริกาของเธอ”
“ฉันยังจะเดินทางไปที่นั่น แต่ไม่ใช่ในฐานะหมอ ผู้อำนวยการเฉินคะขอบคุณมากที่ดูแลฉันมาตลอดสามปีนี้ ขอให้คุณสุขภาพแข็งแรงตลอดไป”
ฉู่ลั่วหานเอ่ยโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้อำนวยการเฉินพูดแทรก เธอมีเวลาไม่มากแล้ว หากทำอะไรได้ควรรีบทำตอนนี้
จากนั้นเธอก็โทรหาถังจิ้นเหยียน
ทั้งสองหันหน้าเข้าหากัน ประตูห้องรองผู้อำนวยการปิดแน่น สายตาของถังจิ้นเหยียนก็ลุกเป็นไฟและมือของเขาถูไปมาอย่างประหม่า “ งั้นการตัดสินใจของคุณคือตกลงไปแอฟริกาด้วยกันใช่ไหม?”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า ผ่านไปหนึ่งคืนเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน นิ่งสงบ เด็ดขาด “ไม่ผิดค่ะ ฉันจะไปแอฟริกา รบกวนท่านรองช่วยจัดการให้ฉันด้วย ฉันต้องรบกวนช่วยจัดการแล้ว ตอนนี้ฉันไม่อยากรักษาผู้ป่วย ฉันเป็นเพียงคนไร้ค่าคนหนึ่ง คุณแน่ใจว่าจะพาฉันไปด้วย?”
ถังจิ้นเหยียนส่ายหน้า มือเขาสั่นเพราะอยากจะยื่นไปจับมือเธอ แต่ก็กลั้นไว้แล้วพูดว่า “คุณไม่เคยเป็นคนไร้ค่าและจะไม่เป็น สำหรับคนบางกลุ่มแล้ว คุณมีค่ามากสำหรับพวกเขา”
คนบางกลุ่ม ก็รวมถึงเขาด้วย
ฉู่ลั่วหานกลั้นน้ำตาไว้ แล้วพูดด้วยเสียงสั่นเครือชวนให้สงสารและเห็นใจว่า “ฉันไม่สามารถแต่งงานกับคุณได้ คุณรับได้ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนหลับตาลง นี่คือคำตอบของเขา “จะแต่งงานกับหรือไม่นั้นไม่ใช่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของผม ผมเพียงแค่อยากอยู่เคียงข้างคุณ ยังมีเรื่องอะไรที่ผมช่วยได้อีก บอกมาได้เลย ผมจะทำให้คุณทุกเรื่อง”
มีอะไรอีกไหม?
ฉู่ลั่วหานส่ายหน้า เธอพบว่าในเมืองนี้ไม่มีอะไรที่เธอต้องยึดติดอยู่อีกแล้ว
คน……!ก็เหลือเพียงคนตาย”
เธอครุ่นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้วเม้มริมฝีปาก เอ่ยถามเขาอย่างไม่แน่ใจด้วยความยากลำบากและรู้สึกผิด “บ่ายนี้คุณช่วยพาฉันไปที่แห่งหนึ่งได้ไหม ยังไงก็ตามคุณอาจเป็นคนเดียวจะอยู่กับฉันไปจนตาย ดังนั้น ฉันอยากให้คุณไปดูด้วยกัน”
“ได้ครับ” ถังจิ้นเหยียนตอบไปอย่างไม่ต้องคิด
ณ คฤหาสน์ตระกูลโม่ ที่ห้องของโม่หรูเฟย
โทรศัพท์ในมือของเธอสั่นด้วยความตื่นเต้น ริมฝีปากสีแดงของโม่หรูเฟยเล็บคริสทัลของเธอจับไปตามคลื่นผม เธอยิ้มและพูดว่า "พี่คะวิธีนี้ดีจริงๆ! ตอนนี้ฉู่ลั่วหานไม่อยากหย่าก็ต้องหย่าแล้วละ นางแพศยา!”
เกาหยิ่งจือจ้องดูที่คอมพิวเตอร์ เป็นประวัติของฉู่ลั่วหาน ช่างเป็นใบตรวจสุขภาพที่ทำให้คนตกใจดีจริงๆ แต่น่าเสียดาย ต่อไปนี้ก็จะกลายเป็นคนไร้ค่าคนหนึ่ง ถึงเวลานั้นถ้าเธอรู้ความจริง ชื่อเสียงคงเสียหายไปทั่วแล้ว
“ไม่เพียงแค่นั้นนะ ก่อนที่เธอจะออกจากบ้านตระกูลหลง เธอจะต้องทำให้หลงเซียวเบื่อหน่ายหมดหวังและไม่หันกลับไปมองอีก"
เมื่อมองดูเวลาโม่หรูเฟยก็ก้าวเท้าออกไปเธอเซ็กซี่และน่าหลงใหล "ยังมีเวลาอีกสิบชั่วโมงก่อนงานเลี้ยงวันเกิดของพ่อฉันจะเริ่มฉันรอคอยคืนนี้จริงๆ”
“ฉันก็เหมือนกัน”
โม่หรูเฟยกัดฟันเบาๆ “พี่คะ ฉู่ลั่วหานนังผู้หญิงสารเลวคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นโรคร้าย แต่ก็ไม่กล้าให้พี่เซียวรู้ แล้วเธอจะไปหาใครได้ล่ะ รุ่นพี่คนนั้นเหรอ เขาน่าจะเป็นตัวสำรองที่ดีทีเดียว ฉันส่งคนไปจับตามองเธอแล้ว ถ้าพี่เซียวเห็นรูปพวกเขากอดกันร้องไห้ละก็ น่าจะสนุกน่าดู”
ช่วงบ่าย ฉู่ลั่วหานลาหยุดครึ่งวัน
ถังจิ้นเหยียนลงไปรอที่ลานจอดรถใต้ดิน เมื่อเห็นฉู่ลั่วหานลงมาก็เปิดประตูรถแล้วพูดว่า “ให้ผมขับให้นะครับ”
เธอพยักหน้า แล้วรัดเข็มขัด “ไปกันเถอะค่ะ ที่สุสานอานหรานเมืองหลวง”
สุสาน?
ถังจิ้นเหยียนงงอยู่ไม่กี่วินาทีก็เข้าใจ เธอจะพาเขาไปหาพ่อแม่ของเธอนั่นเอง
ที่สุสานอานหรานเป็นสุสานที่ดีที่สุดของเมืองหลวง บรรดาผู้ที่นอนอยู่ล้วนเป็นผู้มีฐานะและอำนาจทั้งสิ้น
แต่ต่อให้สุสานสวยงามแพงใดหรือสูงแค่ไหน มันจะไปมีประโยชน์อะไรกัน?
ไม่ได้มาที่นี่นานมากแล้ว แดดร้อนเปรี้ยงในยามบ่ายเมื่อถูกลมพัดเธอกลับหนาวขึ้นมา
ฉู่ลั่วหานถือดอกไม้มาช่อหนึ่งแล้วเดินไปพร้อมกับถังจิ้นเหยียน จนกระทั่งมาถึงหน้าสุสานของพ่อแม่
นี่เป็นครั้งแรกที่ถังจิ้นเหยียนเห็นหน้าพ่อแม่ของเธอ รูปของคุณนายฉู่นั้นยังสาวอยู่มาก สวยงามเหมือนกับเธอจริงๆ ส่วนคุณชายลู่นั้นก็อ่อนโยนเมตตาด้วยรอยยิ้ม
ดูจากรูปภาพก็รู้ได้ว่าท่านทั้งสองเป็นคนดี
ฉู่ลั่วหานวางดอกไม้ลง “พ่อคะแม่คะ หนูมาแล้ว……!”
เมื่อมองไปที่รูปถ่ายนั้น ฉู่ลั่วหานไม่สามารถอดทนไว้ในใจได้เธอร้องไห้อย่างขมขื่น "พ่อ … แม่เจอกันเร็ว ๆ นี้นะคะ พวกท่านคิดถึงฉันไหม ฉันหวังว่าพวกเราสามคนจะกลับมารวมตัวกันอีกครั้งในไม่ช้า ?”
ผู้หญิงอ่อนแอคนนี้ร้องไห้ออกมาโดยไม่มีเสียงถังจิ้นเหยียน ลังเลและจับเธอมาไว้ในอ้อมแขนของเขาด้วยความเจ็บปวดมือใหญ่ที่อบอุ่นปัดหลังของเธอเบาๆ " คุณลุงและป้าไม่อยากเห็นคุณร้องไห้แน่นอนพวกเขาหวังว่าคุณจะได้ใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุขนะรู้ไหม?”
ฉู่ลั่วหานอยู่ในอ้อมอกอุ่นของเขา ร้องไห้ไม่หยุด “ฉันจะทำอย่างไรดี?ฉันควรทำอะไรตอนนี้? ใครช่วยบอกฉันได้ไหม?”
ถังจิ้นเหยียนกอดผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ไว้ ดูเหมือนเธอผอมลงไปในชั่วคืน ตาลึกโบ๋บ่งบอกถึงความหมดหวังในตัวเธอ
“คุณลุงและคุณป้าอย่ากังวลที่จะมอบเธอให้ผม ผมขอสัญญาว่าจะปกป้องเธอด้วยชีวิตของผม และไม่ปล่อยให้เธอต้องเสียใจ "
ถังจิ้นเหยียนก้มคำนับตามธรรมเนียมของลูกเขย จากนั้นจับมือฉู่ลั่วหานพูดว่า “ลั่วหาน ต่อไปนี้ทุกนาทีนำมันมอบให้ผม การต่อสู้ในครั้งนี้ผมจะไม่ยอมให้คุณแพ้แน่นอน”
ฉู่ลั่วหานไม่พูดอะไรออกมา ไม่ทราบได้ว่าเธอยอมรับหรือปฏิเสธ
แต่ทั้งสองไม่รู้เลยว่าตอนนี้ข้างหลังห่างไปไม่ไกลนัก มีนักสืบแอบถ่ายรูปพวกเขา ณ MBKนานาชาติ ห้องทำงานประธานบริษัท
หลงเซียวยกดูนาฬิกาที่ข้อมือ นาฬิกาแสดงเวลาของมัน เขากำลังหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะโทรหาหัวหน้าเลขานุการชื่อว่าแอนดี้รับสาย
“ท่านประธาน”
"ยกเลิกนัดหมายทั้งหมดหลังหาโมง”
“รับทราบ”
“สั่งดอกกุหลาบเก้าร้อยเก้าสิบดอกให้ส่งก่อนหนึ่งทุ่มตรง แล้วใส่ไว้ในท้ายรถของฉัน"
“รับทราบ ท่านประธาน”
กุหลาบ … แม้ว่าจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่ดอกไม้ที่เธอชอบคือดอกพุด
“เพิ่มดอกพุดอีก520ดอก”
“รับทราบ ท่านประธาน”
หลังวางสาย หลงเซียวเร่งอ่านรายงานของวันนี้ ใกล้สิ้นเดือนแล้วเอกสารต่างๆมากมายต้องจัดการให้เสร็จ หลงเซียวหยุดชั่วครู่แล้วเปิดลิ้นชัก
กล่องผ้ากำมะหยี่วางอยู่ในลิ้นชัก เขาขมวดคิ้ว แล้วเปิดกล่องออก สิ่งที่เขาติดค้างเธอไว้ เขาจะค่อยๆชดใช้ให้หมด
คืนนี้ เริ่มที่ก้าวแรกแล้วกัน
โทรศัพท์สั่นขึ้น หลงเซียวปิดลิ้นชัก
หลงเซียวมองเห็นวิดีโอที่ส่งมา ภาพนั้นทิ่มแทงไปที่หัวใจของเขา ทำให้เขาเย็นชาไปทั้งตัว!
ฉู่ลั่วหานกับถังจิ้นเหยียน ทำไมถึง!
ดวงตาเขาแข็งแกร่งจ้องมองเพียงสิบวินาทีแล้ววางมือถือลง
เขาเดาถูกว่าเป็นฝีมือของโม่หรูเฟย และเข้าใจถึงความหมายนี้ดี เขาไม่สามารถลืมภาพของทั้งสองที่ใกล้ชิดกันเมื่อครู่ได้
แต่ว่า……!
หลงเซียวกำปากกาไว้ในมืออย่างแน่นจนเป็นรอย ฉู่ลั่วหานพาถังจิ้นเหยียนไปที่สุสานพ่อแม่เธอทำไมกัน!
ผู้หญิงโง่! คุณกำลังคิดจะทำอะไรกันอยู่!
หลงเซียวกระแทกแฟ้มลงบนโต๊ะไม้อย่างรุนแรงและโยนไป เขาเดินไปที่หน้าต่าง การที่เขารังเธอไว้นั้นถูกต้องแล้วหรือไม่?
จี้ตงหมิงเปิดประตูออกมา โค้งแล้วพูดว่า “ท่านประธาน ให้คุณนายไปลองชุดเลยไหมครับ?”
หลงเซียวฝืนกล่าวออกมาว่า “ได้”
หากเธอไม่รักเขาแล้ว เขาจะยังทำแบบนี้ต่อไปดีไหม?
“ครับ”
จี้ตงหมิง กำลังจะโทรหาฉู่ลั่วหาน แต่ถูกหลงเซียวห้ามไว้ “ออกไปก่อน เดี๋ยวผมโทรเอง”
เมื่อเขาออกไป ภายในห้องนี้ก็เงียบลง มันดูกว้างขวางราวกับสนามรบ แม้คู่ต่อสู้ไม่ปรากฏตัวแต่ก็น่าเกรงกลัว
หลงเซียวใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการรวบรวมสติ เขาตัดสินใจให้โอกาสความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองอีกครั้ง ถึงแม้จะต้องแลกมาด้วยทุกอย่าง ก็จะไม่เสียดาย
เมื่อเสียงเรียกเข้าดังขึ้น ก็ได้ยินเสียงหวานดังไวน์แดงลอดออกมาจากสาย
“อยู่ที่ไหนครับ ผมต้องการพบคุณ”