คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่110 ออดอ้อนอย่างไม่ตั้งใจ
ตอนที่ 110 ออดอ้อนอย่างไม่ตั้งใจ
ทำไมต้องร้องไห้?
จะพูดออกมาได้อย่างไรกัน
ฉู่ลั่วหานปาดเช็ดน้ำตา เอ่ยอย่างขอไปที “บาดแผล…..เจ็บ”
หากเธอพูดออกไปตรงๆ หลงเซียวฟังแล้วจะคิดว่าเธอออดอ้อน ต่อหน้าสามี เรียกร้องอย่างไม่เหมาะสม ไม่ใช่ออดอ้อนหรือไง?
ท่านเซียวจ้องมองบาดแผลที่ลำคอของเธอ “เพิ่งทำแผลไปหมาดๆ ระหว่างแผลสมานอาจเจ็บนิดหน่อย ฉันจะไปบอกให้หมอช่วยจัดยาแก้ปวด เธอรออยู่ตรงนี้”
คำพูดประกาศิตประกาศลั่นออกไปแล้วจะเสียใจทีหลังไม่ได้อีก เธอทำได้เพียงพยักหน้า “ขอบคุณ”
ได้ยินคำขอบคุณ ท่านเซียวขมวดคิ้ว พูดอะไรกัน? กับเขายังต้องขอบคุณอะไรอยู่อีก?
หลงเซียวไปพบหมอด้วยตัวเอง ฉู่ลั่วหานเอื้อมคว้าโทรศัพท์ เพิ่งเปิดหน้าจอ เธอตกใจช็อค
พระเจ้า!
นี่มันข้อความอะไรกัน! ข่าวอะไรกัน!
เขาเลื่อนลงอ่านทีละหน้า ฉู่ลั่วหานเบิกตากว้างหลายเท่า เลือดในร่างกายสูบฉีดรวมตัวกันอยู่ที่จุดเดียว สมองเธอราวระเบิดในอีกไม่ช้านี้!
คุณหญิงใหญ่ตระกูลหลง หญิงสาวลึกลับ มือที่สามขึ้นแท่น เป็นข่าวเธอกับหลงเซียวเกือบครึ่ง
แถมยังมีบรรดาที่ด่าทอดูถูกโม่หรูเฟยอยู่ไม่น้อย ยืมมือเด็กในท้องเขี่ยภรรยาหลวงออกจากตระกูล
พระเจ้า ฉู่ลั่วหานมือลื่น โทรศัพท์ร่วงหล่นลงที่พื้น
เรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ เธอทำอย่างไรก็แก้ตัวไม่ขึ้นแล้วสิ
บ้าเอ้ย!
เธอนอนอยู่บนเตียงไม่ถนัดหยิบโทรศัพท์…..
เธอสลัดผ้าห่มออกสองเท้าวางลงกับพื้นเพื่อเก็บโทรศัพท์ ใครจะไปรู้ยังไม่ทันที่มือได้แตะโทรศัพท์ รองเท้าหนังคู่หนึ่งปรากฏกายยืนอยู่หน้าเธอ เปล่งรัศมียืนข้างโทรศัพท์ ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง เจ้าของรองเท้าหนังราคาแพงลิมิเต็ดคือหลงเซียวอย่างแน่นอน
ท่านเซียวโน้มตัวลง เอื้อมหยิบโทรศัพท์ด้วยทีท่าสง่าผ่าเผย ยื่นให้กับเธอ ไม่สนใจเธอที่ช็อคอึ้ง ริมฝีปากเผยรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์และอบอุ่น
ฉู่ลั่วหานนิ่งอึ้ง กำไว้ในมือลืมกดรับสายที่โทรเข้ามา สองเท้ายึดมั่นกับพื้น ฝีเท้าขาวผ่องประจันกับรองเท้าหนังสีดำ
“เป็นอะไร? ไม่รับหรือ?”
เอ่อ…..
อ๋อ …..
ฉู่ลั่วหานที่เพิ่งได้สติกดรับสายทันที ปลายสายลู่ซวงซวงร้องตะโกนลั่นราวเชือดหมู!
“ว้าว! ลั่วลั่วเธอดังแล้วนะรู้ไหม! ตอนนี้ทั้งโลกเป็นข่าวเธอเต็มไปหมดเลย! ฉันตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนดึกๆ เห็นโทรศัพท์ฉันแทบฉี่ราด! ความสัมพันธ์ของเธอกับหลงเซียวถูกนักข่าวแฉแล้วนะ รูปเธอเต็มไปหมดให้ตายเถอะ!”
ฉู่ลั่วหานกุมปิดโทรศัพท์แน่น แต่ปลายสายยังคงเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน
“ซวงซวง เธอใจเย็นหน่อย อย่าตื่นตระหนกจะได้ไหม”
ฉู่ลั่วหานไม่กล้าเงยหน้ามองดูปฏิกิริยาของหลงเซียว…..
“ใจเย็นบ้าบออะไรกัน! เธอกับหลงเซียวบนดาดฟ้ามันจริงใช่ไหม! พวกเธอทำอะไรกัน? ไททานิคหรือ? ฉันตกใจแทบฉี่ราด”
“ให้ตาย วันนี้ไอ้บ้าหลงเซียวเท่ระเบิด! ให้ตาย ตายแทนเธอ…..ฉันเกือบพ่ายให้กับเขาแล้วนะ นี่มันจริงหรือเปล่า…..ไม่ใช่นักข่าวตั้งใจ…..”
ฉู่ลั่วหานกดวางสายโทรศัพท์เสียดื้อๆ ตอนนี้ไม่เหมาะสมที่จะฟังฉู่ซวงซวงบอกเล่าความในใจอย่างชัดเจน
หลังเก็บโทรศัพท์ ฉู่ลั่วหานเงยหน้าขึ้น ชายหนุ่มร่างสูงจับจ้องมองเธออย่างผ่อนคลาย ฉู่ลั่วหานเขินอายจนหน้าแดงก่ำไปครึ่งหนึ่ง
อธิบายด้วยทีท่าลนลาน “เธอ…..เธอพูดจาแบบนี้เสมอ อย่าถือสาเธอเลย”
ท่านเซียวจับแขนเธอเอาไว้ด้วยมือเดียว สั่งให้เธอกลับไปนอนที่เดิม “ไม่หลอก ตอนนี้ฉันแค่อยากให้เธอหายสนิทดี อย่างอื่นไม่สำคัญหลอก”
ฉู่ลั่วหานล้มตัวลงนอนด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ กลับไม่พบแม้เงาหมอ
“หมอบอกว่าความเจ็บที่คอเป็นเรื่องปกติ ไม่แนะนำให้เพิ่มยาแก้ปวด ก่อให้เกิดปฏิกิริยาอื่น หากเธอรู้สึกเจ็บ ให้จับมือฉันเอาไว้ บางทีอาจจะดีขึ้น”
ท่านเซียวยื่นมือหนาแสนอบอุ่นตรงหน้าเธอ กุมมือเธอเอาไว้
ในใจฉู่ลั่วหานราวเส้นด้ายที่พันธนาการจนวุ่นไร้หนทาง เธอสลัดมือหนาไม่หลุด ทำได้เพียงให้เขากุมเอาไว้อย่างนั้น “หลงเซียว…..”
“อืม?”
เสียงอันทุ้มต่ำเซ็กซี่ ฉู่ลั่วหานไร้คำพูดใดๆ
“เป็นอะไร? ยังมีตรงไหนไม่สบายอีก? ว่ามาเลย”
ฉู่ลั่วหานขบริมฝีปากแน่น หยวนชูเฟินให้เวลาเธอเพียงหนึ่งอาทิตย์ เวลาเหลือไม่มากแล้ว แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น
ทำอย่างไรดี?
“ไม่มีอะไร แค่ง่วงนิดหน่อย”
ท่านเซียวลูบไล้เส้นผมนุ่มลื่นของเธอเบาๆ “โอเค งั้นเธอนอนต่อเถอะ ตอนนี้ตีสี่ นอนอีกตื่นหนึ่งฟ้าสางพอดี”
เฮ้อ ฟ้าสางแล้ว ข่าวที่ซ่อนอยู่ในที่มืดปิดไม่มิดแล้วสินะ
ฟ้า สว่างแล้วจริงๆ
สิ่งที่รอพวกเขาอยู่ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่ดีแต่อย่างใด แต่เป็นข่าวฉาวที่บ้าคลั่งมากกว่าเดิม
พายุลูกนี้ เกิดจากคฤหัสถ์เก่าตระกูลหลง
หลังหยวนชูเฟินเห็นข่าวโกรธอย่างบ้าคลั่ง หยิบยกแก้วน้ำชาขึ้นมาใส่พื้นจนแตกละเอียด
“บ้า! บ้าจริงๆ! หลงจื๋อ ติดต่อพี่ใหญ่แกเดี๋ยวนี้ สั่งให้เขากลับมาเดี๋ยวนี้”
หลงจื๋อเห็นข่าวเขาตกใจจนแทบช็อค “คุณแม่ ตอนนี้พี่ใหญ่มีเรื่องต้องจัดการหลายอย่าง รอให้ฝั่งนั้นจัดการเรียบร้อยก่อนค่อยเรียกเขากลับมาไหมครับ?”
หยวนชูเฟินขมวดคิ้วเป็นปม “ทำไม? พี่ใหญ่แกไม่เชื่อฉัน แกก็ไม่เชื่อฉันแล้วอย่างนั้นหรือ จะต่อต้านใช่ไหม!”
หลงจื๋อก้มหน้าลง “ผมไม่กล้าครับ คุณแม่รอเดี๋ยว”
หลงจื๋อกุมขมับ ต่อสายหาหลงเซียว
ภายในโรงพยาบาล หลงเซียวเห็นเบอร์หลงจื๋อที่โทรเข้ามา เขาเดินไปยังระเบียงของห้อง “ว่าไง”
“พี่ใหญ่ คุณแม่เห็นข่าวแล้ว โกรธมาก สั่งให้พี่กลับคฤหัสถ์เก่าเดี๋ยวนี้”
“ฉันไปไม่ได้”
“คุณแม่ยื่นคำขาด”
“บอกเธอ ฉันยุ่งอยู่ แค่นี้นะ”
หลงเซียวโยนโทรศัพท์ไปอีกทางอย่างเบื่อหน่าย คุณแม่ให้บัตรทองกับลั่วหาน ต้องบีบบังคับเธอออกจากตระกูลหลงอย่างแน่นอน ตอนนี้เรื่องราวบานปลายใหญ่โต กลับเป็นประโยชน์ต่อตัวลั่วหานเอง
หลงจื๋อรายงานตามที่ได้ยิน หยวนชูเฟินโมโหจนแทบหยิบปืนยิงเขาทิ้ง
“ออกรถ! ไปโรงพยาบาล!”
“คุณแม่ นักข่าวเต็มไปหมดเลย”
เป็นอย่างที่คิด หน้าคฤหัสถ์ตระกูลหลงเต็มไปด้วยนักข่าวหลายสิบคนรวมตัวกัน รอคำอภิปรายของหัวหน้าตระกูลหลง ในอดีตเขาสนับสนุนโม่หรูเฟยออกขนาดนั้น บัดนี้ข่าวฉาวโฉ่ว่อนไปทั่ว จะอธิบายว่าอย่างไร?
หยวนชูเฟินนิ่งสงบ “ตระกูลหลง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่จัดการนักข่าวตัวเล็กๆ ไม่ได้? ขับไล่ออกไปซะ!”
“ครับ”
หลงจื๋อเรียกบรรดาบอดี้การ์ดของตระกูล จัดการสลายม็อบนักข่าว
หยวนชูเฟินส่งยิ้มเย็นให้หลงจื๋อ “เสี่ยวจื๋ นายรู้ไหม สิ่งที่นายทำตอนนี้ โง่เง่าแค่ไหน? หลอกใช้นักข่าวขัดขวางฉัน?นายคิดว่าตลอดเวลาหลายปีมานี้ฉันผ่านอะไรมาบ้าง?”
หลงจื๋อโน้มตัวลง “ไม่กล้าครับ คุณแม่เชิญครับ”
ขณะนี้เองหลงถิงเดินลงมาจากชั้นสอง “ไปไหน?”
“ที่รัก ฉันจำเป็นต้องไปที่โรงพยาบาล คุณดูข่าวพวกนี้สิ มันอะไรกัน!”
หลงถิงก้มหน้าลงจับจ้องไปที่หนังสือพิมพ์ที่ตกหล่นที่พื้น “ฉันไม่เห็นว่านักข่าวเขียนผิดตรงไหน ฉู่ลั่วหานเป็นสะใภ้ตระกูลหลง เป็นเรื่องจริงนี่ โม่หรูเฟยเป็นตัวขัดความสัมพันธ์ของเขาทั้งสอง นี่ก้จริง เมื่อวันนี้หลงเซียววู่วาม นี่ก็จริงอีก เธอไปโรงพยาบาล จะไปทำอะไร?”
หยวนชูเฟินสะดุดฝีเท้าลง “ที่รัก! ผู้หญิงอย่างฉู่ลั่วหานไม่เหมาะแก่การเป็นสะใภ้ตระกูลหลง! ลูกในท้องของหรูเฟยเป็นเด็กของตระกูลหลง! คุณทนดูเธอถูกเตะออกจากบ้านตระกูลหลงได้หรือ! ฉันทนไม่ได้!”
หลงถิงเดินลงบันไดช้าๆ “ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ คอยดูหลงเซียวจัดการเถอะ หากต้องการ คุณไม่ต้องยุ่งเกี่ยว ผมจะจัดการเอง”
“ที่รัก ฉันไม่ยอมให้ฉู่ลั่วหานอยู่ในตระกูลหลงต่อไป! ไม่ได้เด็ดขาด!”
“ชูเฟิน ผมบอกว่า ผมจะจัดการเอง ทานอาหารเช้าเถอะ”
หลงจื๋อพินิจปฏิกิริยาของผู้เป็นพ่อ การถอยให้ก้าวหนึ่งของเขา ไม่ใช่การยอมรับอย่างแน่นอน เขาเพียงปกป้องเกียรติและศักดิ์ศรีของตระกูลหลงเท่านั้น!
หากเขาออกโรงจัดการด้วยตัวเอง ฉู่ลั่วหานคงมีอันตรายอย่างถ่องแท้
บรรยากาศภายในคฤหัสถ์เก่าตระกูลหลง ประหลาดมากกว่าเดิม การร่วมโต๊ะอาหารเช้าของทั้งสาม ต่างคิดกันไปคนละทิศละทาง
หลงถิงเอ่ยขึ้นกะทันหัน “เสี่ยวจื๋อ เดี๋ยว ไปโรงพยาบาล บอกพี่ใหญ่ของแก ไม่อยากได้ตำแหน่งแล้วบอกมาเลยตามตรง อย่าทำตระกูลหลงเสื่อมเสียชื่อเสียง”
หลงจื๋อตระหนกจนตะเกียบหลุดออกจากมือ “พ่อครับ นี่ไม่ใช่ความผิดของพี่ใหญ่”
“ผู้หญิงที่ตัวเองเลือก หรือจะผิดที่ใครอื่นใด?”
หลงจื๋อถูกตอกกลับอย่างไร้คำพูด
ถึงโรงพยาบาล หลงจื๋อไม่กล้าเอ่ยไปตามตรง “พี่ใหญ่ เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทไม่น้อย พี่ต้องจัดการให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุด”
หลงเซียวขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นนวดขมับ “ฉันรู้”
ขณะนั้นเองจี้ตงหมิงเดินเข้ามา เอ่ยด้วยเสียงแผ่ว “เจ้านาย คณะกรรมการต้องการเปิดการประชุมด่วนครับ ข่าวของคุณกระทบต่อบริษัทเมื่อเช้านี้เสียหายไปกว่า0.3เปอร์เซ็นต์…..”
หลงจื๋อปิดปากแน่น เรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้ เขาไม่กล้าปริปากส่งเสียงใดๆ
หลงเซียวพยักหน้า “ดูแลพี่สะใภ้นายดีๆ ฉันกลับบริษัทก่อน”
จี้ตงหมิงโค้งคำนับหลงจื๋อ ก่อนตามหลังหลงเซียวออกจากโรงพยาบาลไปติดๆ
หลงจื๋อสูดหายใจลึกเข้าเต็มปอด ภาระของพี่ใหญ่หนักมากจริงๆ หากเป็นเขา คงตายเป็นร้อยๆ รอบแล้ว
“พี่สะใภ้! ไม่คิดว่าเราจะมีวาสนาต่อกันขนาดนี้ ถึงได้เจอกันที่โรงพยาบาลได้”
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้ว “นายมาได้อย่างไร?”
หลงจื๋อหย่อนก้นลงนั่งบนโซฟา เอื้อมมือหยิบส้มลูกหนึ่งเกลือกกลิ้งในมือไปมา “มาหาสาวสวยสิ เสียดายสาวสวยกลายเป็นผู้ป่วย ผู้ป่วยอยากกินส้มไหม? คุณชายอย่างฉันจะดูแลเอง”
“นายกินเองเถอะ ว่าแต่ พี่ใหญ่นายหละ?”
หลงจื๋อยักไหล่ “ไปบริษัทแล้ว เขายุ่งจะตาย”
ในเวลาเดียวกันนี้ ประตูได้ถูกผลักออก
“เสี่ยวฉู่ ดีขึ้นบ้างไหม?”
คณบดีเฉินกับอีกหลายคน เห็นหลงเซียวจากไปแล้วจึงรีบเร่งเข้ามาขอความช่วยเหลือ
หลังได้ฟังคำของคณบดีเฉิน ฉู่ลั่วหานเอ่ยขึ้น “พวกคุณสบายใจเถอะ ฉันไม่ให้เขาปิดโรงพยาบาลหลอกค่ะ”
หลังส่งคณบดีเฉิน ปรากฏแขกที่ไม่ได้รับเชิญขึ้น!
หลงจื๋อยันตัวลุกขึ้น “คุณโม่ มาเยี่ยมพี่สะใภ้ผมด้วยตัวเองเลยหรือครับ? มหัศจรรย์จริงๆ!”
โม่หรูเฟยหัวเราะแห้ง “ฉันมีเรื่องต้องคุยกับเธอ นายออกไปจะดีกว่า”
ฉู่ลั่วหานส่งสัญญาณ “นายออกไปก่อนเถอะ”
โม่หรูเฟยจับจ้องเธออย่างยโส “เห็นข่าวแล้วใช่ไหม”
“เห็นแล้ว บทความซาบซึ้งมาก”
ฉู่ลั่วหานเอ่ย
“เพราะเธอ ฉันเกือบสูญเสียทุกสิ่ง นังแพศยา!”
เหอะ! ถูกประณามเช่นนี้ ยังกล้าเรียกร้องอีกหรือ?
“แต่ว่านะฉู่ลั่วหาน ที่ฉันมาในวันนี้ ไม่ได้มาเพื่อขอร้องเธอ ฉันอยากบอกเธอล่วงหน้า ใครเป็นมือที่สาม ใครที่เป็นส่วนเกิน ไม่แน่หลอกนะ!”
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัย
“ฉันกับพี่เซียวรู้จักกันตั้งแต่เมื่อ5ปีก่อนที่อเมริกา ระหว่างเรามีใจต่อกัน เพราะการปรากฏตัวของเธอทำลายความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่ มือที่สาม คือเธอต่างหาก!”
พอแล้วจริงๆ!
“โม่หรูเฟย เธอออกไป อย่ามาทำเสียบรรยากาศฉัน ฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอ”
โม่หรูเฟยหัวเราะอย่างได้ใจ “ไล่ฉันหรือ ได้ สักวันเธอจะขอร้องฉัน”
จบคำโม่หรูเฟยเดินออกจากห้อง ด้านหลังเธอนักข่าวกลุ่มหนึ่งที่จัดการเตรียมมาก่อน
“คุณโม่ ในข่าวบอกว่าคุณเป็นมือที่สามของคุณเซียวกับคุณหมอฉู่ คุณปรากฏตัวที่โรงพยาบาลในวันนี้ เพื่ออะไร?”
โม่หรูเฟยบีบน้ำตาหยดไหลอย่างเสแสร้ง เธอหยิบทิชชูขึ้นซับน้ำตา “ไม่ว่าอย่างไร เราเคยเป็นเพื่อนสนิทกัน เห็นสหายตัวเองบาดเจ็บเช่นนี้ ฉันเสียใจจริงๆ”
อะไรนะ? เพื่อน? สหาย!
“ใช่แล้ว ฉันกับฉู่ลั่วหานเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเมื่อสามปีก่อน…..”
โม่หรูเฟยพลิกบทบาท เรื่องราวเปลี่ยนทิศทันที!
โม่หรูเฟยไม่สนใจข่าวฉาวเข้าเยี่ยมคุณหญิงตระกูลหลง ประกาศลั่นตนรักเพียงหลงเซียว สามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตได้เพียงลำพัง ไม่ต้องการตำแหน่งใดๆ ทั้งนั้น
หญิงสาวผู้ทรงสง่า โม่หรูเฟยกลายเป็นไอดอลของชาวเน็ตอีกครั้ง!