คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 990 ใครเอาความมั่นใจให้คุณ
บทที่ 990 ใครเอาความมั่นใจให้คุณ
“คุณบอกว่า คุณจะเดินทางไปลอนดอนก่อนกำหนดงั้นเหรอ คุณ…คุณมั่นใจเหรอ”
ผู้อำนวยการเฉินถอดแว่นออก ไม่กล้าเชื่อคำพูดของลั่วหาน เขาพูดยังไงก็ไม่สำเร็จ ตอนนี้เป็นอะไรไป
ลั่วหานพยักหน้าแข็งขัน “ใช่ค่ะ ฉันจะบินไปลอนดอนวันนี้ แต่ฉันจะไปดูคนไข้ตามกำหนดการณ์เดิม เวลาก่อนหน้านั้น ให้ฉันจัดการกำหนดการด้วยตัวเอง
“แน่นอน แน่นอน เธอไปลอนดอนก่อนก็ดีเหมือนกัน ถือว่าไปพักผ่อน อยากไปเที่ยวที่ไหนก็ไป ผมรู้ว่าคุณไม่สนใจเงินพวกนี้ แต่ว่า ค่าใช้จ่ายตลอดช่วงเวลาที่อยู่ลอนตอนของคุณออกโดยพวกเขา คุณวางใจได้”
เพียงได้ยินว่าลั่วหานจะบินไปลอนดอนก่อนกำหนด ผู้อำนวยการเฉินดีใจยิ่งกว่าหาสมบัติเจออีก เงื่อนไขต่างๆชัดเจน มอบการรับรองที่ดีให้กับเธอ
ลั่วหานยิ้ม “ในเมื่อเป็นแบบนี้ ฉันก็จะยอมปฏิบัติตามคำสั่งค่ะ”
“แน่นอน สมควรนะ คุณยังต้องการอะไรอีกไหม พอไปถึงแล้วต้องการคนขับรถหรือคนนำทางหรือไม่ พวกเขาจะเตรียมให้” ผู้อำนวยการเตรียมกระดาษและปากกา เตรียมจดสิ่งที่เธอต้องการ
ลั่วหานยิ้มบางๆ “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้ไปลอนดอนครั้งแรก ฉันคุ้นเคยกับที่นั่นมาก”
ผู้อำนวยการเฉินรีบปิดปากกา ใบหน้ายิ้มแย้ม “ดีเลย ดี ดี งั้นก็ดีเลย สำหรับคำขออื่นๆแค่เธอนึกขึ้นได้ ก็บอกมาได้ตลอดเลย”
เมื่อเจอการเอาอกเอาใจจากผู้อำนวยการ ลั่วหานกลับไม่ได้สัมผัสถึงการดูแลที่มีความสุข
ก่อนหน้าทำดีมากขนาดไหน หน้าที่ที่ได้รับก็จะยิ่งหนัก ข้อนี้เธอรู้ดี
ถังจิ้นเหยียนเองก็ช่วยเธอเตรียมเอกสาร รับงานต่อจากเธอ งานของลั่วหานส่วนใหญ่เป็นเขาถังจิ้นเหยียนเป็นคนรับช่วงต่อ
เมื่อจัดการเสร็จแล้ว ลั่วหานก็ไปที่แผนกคลินิก ขอยาลดไข้ที่นั่น
ถังจิ้นเหยียนเตรียมซองเอกสารสีน้ำตาลหน้ายื่นให้เธอ “นี่เป็นเอกสารทั้งหมด คุณจะลองตรวจดูก่อนไหม”
ลั่วหานมองดู “ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณทำงานฉันวางใจได้อยู่แล้ว”
อีกทั้งเอกสารเยอะขนาดนี้ ถ้าเธอจะตรวจคงใช้เวลานาน ถ้าต่อไปต้องการอะไรอีก ให้เขาส่งให้ก็ได้ นี่ไม่ใช่ปัญหาอะไร
สิ่งสำคัญตอนนี้ก็คือ เธอต้องกลับบ้าน
ถังจิ้นเหยียนไม่คิดว่าจะปล่อยเธอไปแบบนั้น “ลั่วหาน สามเดือน ไม่ใช่วันสองวัน คุณ…ดูแลตัวเองดีๆนะ”
ลั่วหานพ่นลมหายใจบอก “ค่ะ สามเดือน เกือบหนึ่งร้อยวัน ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง แต่ว่า…” มุมปากของเธอปรากฏรอยยิ้มที่เขาไม่เข้าใจ “หน้าที่ของหมอยังมี แค่วางความรู้สึกต่างๆลงก็พอ”
ถังจิ้นเหยียนเห็นท่าทางของเธอว่าดีขนาดนี้จึงไม่ได้พูดมาก “อืม รอตอนที่คุณกลับมา บางทีคดีของหลงถิงอาจจะสำเร็จแล้วก็ได้”
คดีเหรอ
การสืบสวนครั้งนี้ ไม่รู้ว่าหลงเซียว จะปรากฏตัวในศาลไหม
“ฉันก็หวังให้มันเป็นแบบนั้นค่ะ”
“ดูแลตัวเองให้ดีก่อน โรงพยาบาลยังมีผม”
ลั่วหานยิ้ม “รองผู้อำนวยการถัง แต่ก่อนมีแต่ฉันที่คอยช่วยดูแลคนไข้แทนคุณ ตอนนี้ถึงตาคุณดูแลแทนฉันแล้ว ฉันไม่เกรงใจแล้วนะคะ”
“ไม่ต้องเกรงใจกับผมหรอก เหอะๆ”
ลั่วหานขับรถกลับบ้าน เก็บข้าวเก็บของ เพื่อง่ายต่อการเดินทาง เธอนำติดตัวไปแค่ไม่กี่ชิ้น อย่างอื่นสามารถไปซื้อที่โน่นได้
ก่อนอื่นต้องเตรียมเอกสารให้ดีก่อน วางครีมไว้อย่างดี เครื่องประดับเรียบง่าย ยังไงก็ต้องใกล้ชิดกับราชวงศ์ อาจจะต้องเข้าร่วมพิธีสำคัญบ้าง
เธอไม่ชอบงานเลี้ยงวุ่นวาย โดยเฉพาะกับราชวงศ์
ตอนนั้นงานราชวงศ์ของประเทศ M เธอเกือบจะหมดความอดทนกับมารยาทต่างๆมากมาย
วางของตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว ลั่วหานเปิดตู้เสื้อผ้าของหลงเซียว จัดระเบียบสะอาดสะอ้าน เสื้อผ้าที่มีกลิ่นอายที่เข้มข้นของหลงเซียวนั้นอยู่ตรงหน้า กลิ้นไอที่เข้มข้น ทำให้เธอเพ้อฝันไปอีกครั้ง
ช่วยหลงเซียวเลือกเนกไทสักเส้น กระดุมสองเม็ด มีเพชรสีดำผูกอยู่ วางอยู่ในกล่องกล่องหนึ่ง
แค่คิดว่าบินไปลอนดอนแล้วอาจจะได้เจอเขา ลั่วหานก็รู้สึกดีใจไม่น้อย คิดอยากจะมีปีกด้วยซ้ำ ไม่สิ ต้องมีเมฆลอยได้ด้วย เพียงแค่หลับตาก็สามารถไปโผล่อยู่ตรงหน้าเขาได้
เพื่อไม่ให้หยวนชูเฟินไม่สบายใจ ลั่วหานตัดสินใจไม่บอกตารางการงานกับเธอสักพัก ให้เธอได้พักผ่อนสักระยะ ยังดีที่มีเจมส์คอยอยู่เป็นเพื่อน เธอจะได้ไม่รู้สึกเหงา
นอกจากลูกสาวที่เธอห่วง นอกนั้นก็ไม่มีอะไร
กอดชูชูน้อยเอาไว้ หัวใจของลั่วหานสับสน “ลูกรัก แม่ต้องไปทำงาน หนูจะคิดถึงแม่หรือเปล่า แม่คงคิดถึงหนูมากแน่ๆ”
เด็กน้อยอาจจะลืม ไม่เจอแม่กี่เดือนอาจจะจำไม่ได้ว่าแม่ผู้ให้กำเนิดตัวเองคือใคร ได้เจอกันใหม่ก็อาจจะต้องเรียนรู้กันอีกครั้ง เธอกลัวจริงๆว่ากลับมาแล้วลูกสาวจะไม่รู้จักเธอ
ชูชูน้อยใช้สายตาใสแจ๋วราวกับลูกองุ่นมองแม่ของตน ดูเชื่อฟังเป็นเด็กดี
ทำให้อยากจะเอาทุกอย่างบนโลกมาวางไว้ตรงหน้าเพื่อเอาใจเธอ
“ลูกรัก แม่คงจะคิดถึงหนูมาก แต่แม่รับปากแล้ว แม่ต้องรีบกลับมา”
คนยังไม่ทันได้ไป ดวงตาของลั่วหานก็ห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เด็กน้อยในอ้อมแขนน่ารักขนาดนั้น หัวใจเต้นกระหน่ำ เธอจะวางใจได้ยังไง
ไม่ได้เช็ดน้ำตาให้ลูกเห็น จากนั้นส่งลูกให้ป้าหลาน น้ำตาของลั่วหานก็ไหลลงมาอย่างห้ามไม่อยู่
ลั่วหานนั่งเที่ยวบินกลางคืน เมื่อมาถึงโซนวีไอพี ก็โทรหาลู่ซวงซวง
“ที่รัก เธอต้องไปทำงานนานขนาดนั้น ลูกสาวฉันจะทำยังไง ฮือ ลูกสาวตัวน้อยถ้าไม่เจอหน้าแม่ต้องร้องไห้นักมากแน่ๆ” ลู่ซวงซวงคว้ากุญแจรถแทบอยากบินไปเจอหน้าเธอ
“ดังนั้นฉันเลยโทรมาหาเธอไง ถ้าเธอมีเวลาก็ไปที่บ้านฉันบ่อยๆ ช่วยฉันเลี้ยงเธอหน่อย ถ่ายรูปส่งให้ฉันเยอะๆ ฉันไม่อยากพลาดการเจริญเติบโตของลูกแม้ช่วงเวลาใดก็ตาม” ลั่วหานมองนาฬิกาแขวนผนัง อีกยี่สิบนาทีเครื่องจะออกแล้ว
“แน่นอนสิ เธอยังไม่ขึ้นเครื่องใช่ไหม ฉันจะไปสนามบินตอนนี้ ฉันขับรถเร็วมาก”
“ไม่ทันหรอก เธออยู่ที่บ้านนั่นแหละ ไม่ต้องมาส่งฉันหรอก ฉันกลัวที่สุดเลยที่จะมีคนมาส่ง”
ไม่มีใครมาส่ง ตัวเองจะได้บินอย่างอิสระสักนิด
ลู่ซวงซวงพึ่งเปลี่ยนรองเท้าอยู่ปากบ่น “ทำไม ทำไมถึงไม่บอกฉันให้เร็วกว่านี้”
“นี่ รอฉันกลับมานะ”
เครื่องออกเดินทางตรงเวลา ลั่วหานนั่งอยู่ในชั้นธุรกิจ ไม่นานก็สามารถมองเห็นก้อนเมฆนอกหน้าต่าง ความสูงสองหมื่นฟุต ยิ่งบินยิ่งไกลออกไปจากหัวใจเธอ
ลอนดอน ห้องประชุมลับแห่งหนึ่ง
จี้ตงหมิงวางมือทั้งสองข้างลงบนหัวเข่า เก้าอี้ตัวนี้นั่งลำบากกว่าการนั่งบนก้อนหินด้วยซ้ำ รู้สึกไม่สบายไปทั้งเนื้อทั้งตัว
หลายครั้งที่เขาเงยหน้ามองหลงเซียว เขานิ่งสงบราวกับคนที่ฝึกฝนมานาน แม้เพียงความรู้สึกเล็กน้อยก็ไม่แสดงออกมาให้เห็น
ในความเงียบ ภาษาอังกฤษของชายหนุ่มยังคงแข็งแรงเหมือนเมื่อสักครู่ ““LongXiao,i whish you know ,I'm not asking for your opinion, I'm telling you my decision” (ผมไม่ได้ขอความเห็นจากคุณ แต่กำลังบอกคุณถึงการตัดสินใจของผม)
หลงเซียวยังคงนิ่งสงบ “I expected it.”(ผมรู้ตั้งนานแล้วล่ะ)
จี้ตงหมิงกลืนน้ำลาย สายตาเหลือบมองนาฬิกาข้อมือ นี่ก็ผ่านไปเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว พวกเขาอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร
บอดี้การ์ดชุดดำข้างชายหนุ่มได้รับสัญญาณ เปิดกล่องซิการ์ มือที่สวมแหวนทองคำคีบซิการ์ขึ้นมา บอดี้การ์ดช่วยเขาจุดไฟ
ชายหนุ่มดูดซิการ์ จากนั้นควันสีขาวก็ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง
บอดี้การ์ดชุดดำส่งซิการ์มาทางหลงเซียว
หลงเซียวเหลือตามอง “cigarette,thanks.”(บุหรี่ ขอบคุณ)
บอดี้การ์ดได้รับคำอนุญาต เปลี่ยนซิการ์เป็นบุหรี่แทน หลงเซียวคีบบุหรี่สีขาว ใช้ปากคาบเอาไว้ บอดี้การ์ดช่วยจุดไฟ ชายหนุ่มพ่นควันสีขาวออกมา“The Mafia won't let you go, your only choice is me, to avoid them, you'll have to listen to me.”
(พวกมาเฟียไม่ยอมปล่อยคุณไปแน่ ตัวเลือกเพียงตัวเดียวของคุณก็คือผม อยากหลีกเลี่ยงพวกเขา ก็ต้องฟังผม)
ฝ่ามือจี้ตงหมิงนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ ถ้ายังติดอยู่ในทางตันแบบนี้ เขาเกรงว่าจะมีใครทนไม่ไหวชักปืนออกมา
ในที่สุดใบหน้าเรียบนิ่งของหลงเซียวก็เผยรอยยิ้มเย็นออกมาเมื่อถูกเย้ยหยัน นิ้วมือหมุนบุหรี่ ดูดบุหรี่ช้าๆ ใช้ภาษาสเปนเย้ยหยัน“ Crees que eres su rival Quin te dio la confianza ”(คุณคิดว่าตัวเองเป็นคู่แข่งของพวกเขาเหรอ ใครให้ความมั่นใจกับคุณขนาดนั้นกัน)
“The royal family and the rights of my hands!”(ราชวงศ์อังกฤษกับอำนาจในมือผมไง)
หลงเซียวนั่งสูบบุหรี่สบายๆ ภายใต้แสงไฟสะท้อน เม็ดกระดุมข้อมือของเขาสว่างวาบ สะท้อนเข้ามาในดวงตาทะมึน “The royal family does not interfere with Mafia affairs. The only thing that has a say is this.”(ราชวงศ์ไม่ยื่นมือเข้ามาแทรกแซงงานของมาเฟีย อย่างเดียวที่มีอำนาจพูดเรื่องนี้คือเจ้านี่)
มือซ้ายของเขาขยี้บุหรี่ มือขวาทำท่าทางถือปืน เล็งไปที่หัวคิ้วของชายตรงหน้า
“ฮ่าๆ” ชายหนุ่มระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เอนตัวเข้าใกล้หลงเซียวไม่กี่เซนติเมตร กลิ่นนิโคตินเข้ม “I can't handle the Mafia, but I can manipulate the royal family.”(ผมควบคุมมาเฟียไม่ได้ แต่ผมควบคุมราชวงศ์ได้)
หลงเซียวไม่ได้รู้สึกอะไร
ราชวงศ์เป็นสิ่งที่เขาอยากแตะก็แตะได้อย่างงั้นเหรอ ไร้เดียงสาเกินไปจริง
“Is that right I'll see.”(อ้อ ผมจะรอดู)
“You only have three days, or the people of Italy will track you, and I'm not sure what will happen.”
(คุณมีเวลาเพียงสามวัน ไม่งั้นคนที่อิตาลีฝั่งนั้นตามคุณเจอแน่ ถึงตอนนั้น ผมก็คงไม่กล้ารับปากว่าจะเกิดอะไรขึ้น)
หลงเซียวพ่นควันออกมา “Would I care about that ”(คุณคิดว่าผมสนใจเหรอ)
เหอะ