คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 92 มา อาบน้ำนอน
ตอนที่ 92 มา อาบน้ำนอน
กินแค่ปลารู้สึกเหมือนตลอดการกินต่างก็กำลังให้เขาเกี้ยว ฉู่ลั่วหานจะอาหารไม่ย่อยอยู่แล้ว ต่อจากนี้ไป เกรงว่าเธอจะไม่กล้ากินปลาไปอีกนาน
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าน้ำเสียงของเขาบอกเป็นนัยได้คลุมเครือเหลือเกินหรือว่าเธอคิดมากเกินไปกันแน่ การหยอกล้อทั้งในและนอกคำพูด แทบจะทำให้เธอระเบิดกระจายอยู่แล้ว
ทานข้าวเสร็จ เธอไปล้างจานที่ห้องครัว
ตอนที่ออกมาท่านเซียวยังคงนั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก แต่คราวนี้ที่เขาอ่านไม่ใช่เอกสารทางการแพทย์เหล่านั้นของเธอ แต่เป็นหนังสือเก่าเล่มหนึ่งที่อยู่บนชั้นวางหนังสือ
เธอพิงไปบนขอบประตูของห้องครัวมองดูใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่ม เขาพิงไปบนโซฟาอย่างเป็นธรรมชาติ ขาที่เรียวยาวไขว้เข้าหากัน แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่การพลิกดูหนังสือง่ายๆ ก็ยังสง่างามดูแพงราวกับเจ้าชายอังกฤษก็ไม่ปาน
หน้ากระดาษที่ถูกนิ้วมือเรียวยาวขาวสะอาดพาดผ่าน ต่างก็ปนเปื้อนไปด้วยความสง่างามสูงส่งของชายหนุ่ม
เขาเป็นผู้ชายคนหนึ่งที่สามารถทำให้คนเสพติดได้ มีพิษ ราวกับฝิ่น
“ชอบแอบมองขนาดนี้เลย?”
เขาไม่ได้เงยศีรษะขึ้นมา แต่ความแน่นอนที่อยู่ภายในน้ำเสียงของเขาทำให้เธอจะปัดก็ปัดไม่หลุด
“ฉันแอบมองเมื่อไรกันคะ?” ในความร้อนรนเธอคว้าเอาผ้าขนหนูมาเช็ดน้ำที่อยู่บนมือ
“อู้ ไม่ใช่แอบมอง และก็ไม่ใช่การมองอย่างโจ่งแจ้ง มานี่สิ” นิ้วยาวของเขาจับกระดาษหน้าหนึ่งเอาไว้ จากนั้นพลิกไปอีกด้าน
การเชื้อเชิญของเขามักจะช่ำชองขนาดนั้นเสมอ หากเธอมีท่าทีเหนียมอายไม่อยากจะเข้าไปกลับยิ่งจะทำให้ตัวเองดูมีเลศนัยเสียด้วยซ้ำ
เธอเคลื่อนที่ไปยังข้างโซฟาอย่างอืดอาดยืดยาด โซฟาสำหรับสองคนขนาดเล็ก เขานั่งลงก็ยึดครองพื้นที่ไปเศษสองส่วนสามแล้ว แต่เศษหนึ่งส่วนสามก็มากพอให้เธอได้ใช้
คิดอยู่เล็กน้อย จากนั้นนั่งลงไปในทันที ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนมีเพียงแค่สองสามเซนติเมตรเท่านั้น เธอแค่ขยับก็สามารถกระทบไปโดนแขนหรือว่าขาของเขา การเสียดสีกันโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ กระตุ้นอุณหภูมิร่างกายของทั้งสองคน ละเอียดและแม่นยำเป็นอย่างมาก กลายเป็นความคลุมเครือไปหมด
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้วขึ้น นี่มันอะไรกับอะไรกัน? ทำไมข้อมูลคนไข้ของแผนกศัลยกรรมประสาทก็มาอยู่ที่นี่? ยังมีคนไข้อีกสองสามคนที่ไม่จำเป็นจะต้องทำการผ่าตัดเลยแม้แต่น้อยกลับถูกวินิจฉัยมายังแผนกผ่าตัดหัวใจ
“ตุ้บ!” พอฉู่ลั่วหานโมโหก็ลืมชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้างไปเสียสนิท โยนเอกสารลงบนพื้น…
นิ่ง
ท่านเซียวเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก “เป็นอะไรไป?”
ฉู่ลั่วหานขยับมุมริมฝีปากขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาตินัก “เรื่องงานค่ะ”
ท่านเซียวเหลือบตามองเอกสารที่อยู่บนมือของเธอ “ผู้ป่วยถูกจัดสรรผิดแผนก เป็นความผิดพลาดที่เห็นชัดมาก ก็สมควรให้โมโหจริงๆ”
เขารู้ได้ยังไงกัน?
“ไม่มีอะไรน่าตกใจ ผมดูเอกสารทั้งหมดแล้ว ตอนที่คุณกำลังทำอาหาร”
ฉู่ลั่วหาน “…”
ท่านเซียวค่อยๆ เหลือบสายตาขึ้น ดวงตาที่ล้ำลึกนิ่งสงบจนไม่อาจจะคาดเดาได้สะท้อนความฉลาดที่ไม่มีใครเปรียบ “ช่วยรินน้ำให้ผมแก้วหนึ่ง”
ไม่เห็นหรอว่าเธอกำลังโมโหมาก คิดไม่ถึงว่ายังจะให้เธอรินน้ำ? ฝันไปเถอะ!
ฉู่ลั่วหานไปรินน้ำจริงๆ แต่เพียงแค่แก้วเดียว อีกทั้งเธอยังดื่มไปคำหนึ่งแล้ววางไว้ที่ด้านหน้าของตนเอง “ไปเองค่ะ”
ท่านเซียวดูหนังสือต่อ ฉู่ลั่วหานดูเอกสารต่อไป มือข้างหนึ่งของท่านเซียวถือหนังสือเอาไว้ อีกข้างพาดไปบนพนักโซฟาที่อยู่ด้านหลังของเธอ นิ้วมือที่เรียวยาวห้อยตกลงมา แยกออกจากกันทีละนิ้วๆ งอแขนเล็กน้อย ราวกับโอบเธอเอาไว้ข้างในข้อพับแขน
ผ่านไปสักพัก เขาก็ดึงมือกลับมาพลิกหน้าหนังสือ ทุกครั้งที่ไปมาเช่นนี้ต่างก็ต้องกระทบมาโดนเส้นผมของเธอ บางครั้งยังกระทบมาโดนใบหูของเธอ
ทุกครั้งที่ผิวสัมผัสกัน ต่างก็กระตุ้นบรรยากาศที่คลุมเครือ กลิ่นหอมหลงเหลืออ่อนๆ ที่ล่องลอยอยู่ในอากาศมีอากาเว่ของเขา การ์ดิเนียของเธอ
ภายใต้โคมไฟตั้งพื้นโทนสีอบอุ่น ฉู่ลั่วหานไม่ได้ตั้งใจก็สามารถมองเห็นใบหน้าด้านข้างของเขา เขาก้มศีรษะลงเล็กน้อย ผมที่อยู่ด้านหน้าปิดบังไปครึ่งหน้าผาก หลงเหลือเงาไว้บนใบหน้า ทำให้เค้าโครงใบหน้ายิ่งเด่นชัดมากขึ้นไปอีก
มองไปมองมา มือของหลงเซียวก็ยื่นมาที่ด้านหน้าของเธอ หยิบแก้วน้ำจากไป ขอบแก้วแนบไปที่ข้างริมฝีปากของเขา สายตาของท่านเซียวไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย ก็นำน้ำในแก้วดื่มเข้าไปคำหนึ่งในทันที จุดที่ริมฝีปากสัมผัสนั้นเป็นตำแหน่งที่เธอดื่มน้ำเมื่อสักครู่นี้พอดี
นิ้วมือที่เรียวยาวขาวสะอาดกับแก้วกระจกเติมเต็มซึ่งกันและกันทำให้จุดเด่นของทั้งสองฝ่ายเด่นชัดขึ้น สวยงามจนราวกับผลงานศิลปะ
“อันนี้ ฉันดื่มไปแล้วค่ะ”
จูบ…ทางอ้อม
ชายหนุ่มไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง แก้วยังคงอยู่ที่ข้างริมฝีปาก ดูท่าทางแล้วเหมือนยังจะดื่มเข้าไปอีกคำ
“แก้วใบนี้ ฉันใช้ไปแล้ว ริมฝีปากสัมผัสไปแล้ว ไม่ถูกสุขลักษณะค่ะ”
ที่พูดสิ่งเหล่านี้ ก็แค่อยากจะกระตุ้นโรครักความสะอาดจนเกินเหตุของท่านเซียวผู้ยิ่งใหญ่สักหน่อย ฉู่ลั่วหานรอปฏิกิริยาตอบสนองของเขาอย่างเงียบๆ
“อืม” สายตาของท่านเซียวต่างก็ไม่ได้ละออกจากหนังสือ ตอบรับมาคำหนึ่ง แทบจะไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
ฉู่ลั่วหานกลัดกลุ้มเองแล้ว!
คิดไม่ถึงว่าเขาจะยอมรับความไม่ถูกสุขลักษณะที่เธอพูดไปโดยปริยาย?
เขาสลัดคนอื่นทิ้งด้วยคำว่าอืมคำเดียวได้ยังไงกัน? ช่างไม่ให้ความเคารพผู้อื่นเอาเสียเลย!
“ที่จริงแล้ว ก็ยังดี เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสโดน ไม่ได้กลืนแก้วเข้าไป”
เหี้ย เธอกำลังอธิบายบ้าอะไรอยู่!
“ปากของฉันไม่มีลิปสติก ไม่ได้ทำให้แก้วสกปรก”
คิดไม่ถึงว่าเธอยังจะเสริมเข้าไปอีกประโยค สมองมีปัญหาแล้วจริงๆ
หลงเซียวในที่สุดก็ละสายตาออกจากหนังสือ มองเธอด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง ริมฝีปากก็จิบน้ำเปล่าที่อยู่ในแก้วไปอีกหนึ่งคำ ยังคงเป็นตำแหน่งเดียวกับเมื่อสักครู่นี้ ดวงตาเปล่งประกายแสงสว่างที่ไม่อาจจะคาดเดาได้ “ดังนั้นล่ะ?”
ดังนั้นล่ะ?
อธิบายก็อธิบายไปแล้ว ยังจะดังนั้นบ้าอะไรอีก?
เดี๋ยวก่อน เมื่อครู่นี้เธอเน้นอยู่ตลอดว่าปากของตนเองสะอาดมาก ไม่ได้ทาลิปสติก ฟังดูแล้วเหมือนกับกำลังขอให้เขาจูบเลย
“ดังนั้น…ค่อยๆ ดื่ม ดื่มหมดแล้วยังมีอีกค่ะ” เธอพูดเรื่อยเปื่อยไปประโยคหนึ่ง จากนั้นดูเอกสารอย่างจริงจังต่อไป
ดูไปดูมา อยู่ๆ เสียงกริ่งที่หน้าประตูก็ดังขึ้น
ดึกขนาดนี้แล้วยังมีคนมากดกริ่ง?
หลงเซียวกับฉู่ลั่วหานสบตากันอย่างง่ายๆ หนึ่งวินาที
ฉู่ลั่วหานเคลือบแคลงสงสัย เดี๋ยวก่อน วันนี้วันที่เท่าไร? ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ค่าเช่า?
หลังจากที่คิดไปหนึ่งรอบ “ฉันไปเปิดประตู”
เปิดประตูบ้าน ด้านนอกคือผู้หญิงวัยกลางคนที่ไม่รู้จักคนหนึ่ง
“โอ้ย หนูอยู่บ้านจริงๆ ด้วย บ้านฉันเมื่อคืนนี้ถูกขโมยขึ้น ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมัวทำอะไรกันอยู่…ฉันรู้ว่าหนูเป็นเด็กผู้หญิงพักอยู่คนเดียว ดังนั้นจึงมาเตือนหนู ตกดึกจะต้องระวังความปลอดภัยนะ!ตอนนี้คนชั่วเยอะมากเลย เลือกลงมือกับเด็กผู้หญิงโสดโดยเฉพาะล่ะ!”
คือเพื่อนบ้าน หนึ่งในสี่บ้านที่ใช้ลิฟต์ร่วมกัน
ผู้หญิงคนนั้นยังคงกำลังเอะอะเสียงดังอธิบาย เสียงที่นุ่มลึกภายในห้องรับแขกก็ดังสะท้อนเข้ามาอย่างช้าๆ “มีเรื่องอะไร?”
พอชายหนุ่มเอ่ยปากพูด ด้านนอกก็เงียบลงในทันที!
ผู้หญิงคนนั้นมองชายหนุ่มที่ดูแพงไปทั่วทั้งตัวภายในบ้านอย่างกับกลืนแมลงวันดิบเข้าไป ตกใจจนปากอ้ากว้างออกไปหลายเท่า!
“ที่…ที่แท้หนูไม่ใช่ตัวคนเดียวหรอกหรอ?” น้ำเสียงนั้นดูเหมือนกำลังพูดว่า ทำไมอยู่ๆ ถึงมีผู้ชายเพิ่มเข้ามา?
ฉู่ลั่วหานยังไม่ทันจะอธิบาย ท่านเซียวก็ได้ลุกขึ้น ขาที่เรียวยาวเดินมาถึงที่หน้าประตู “ผมอยู่บ้าน จะไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น”
คราวนี้ผู้หญิงคนนั้นถูกทำให้ตกใจจนนิ่งอึ้งไปจริงๆ ผู้ชายคนนี้ช่างดูดีเหลือเกิน!เธอไม่เคยเห็นผู้ชายที่หล่อดูดีขนาดนี้มาก่อน “คุณ…คุณคือ?”
มือใหญ่ของหลงเซียวก็ได้พาดเอาไว้ที่หัวไหล่ของฉู่ลั่วหานเช่นนี้ บนใบหน้าที่หล่อเหลาอย่างหาใดเปรียบเปล่งประกายออร่าออกมา “สามีของเธอ”
ผู้หญิงคนนั้นเดินจากไปด้วยความตกตะลึง ในปากยังคงกำลังคำนึงถึง ช่างเป็นชายหนุ่มที่ไม่เลวจริงๆ เลย!
วันนี้เขาพูดเมียสามีพูดจนเสพติดไปแล้วจริงๆ
ฉู่ลั่วหานสะบัดมือของเขาออก “คุณไม่ต้องอธิบายขนาดนี้ ตอนที่พวกเราแต่งงานกันคุณเคยบอกเอาไว้ว่า ความสัมพันธ์ของเราจะไม่บอกให้ใครรู้ ตอนนี้คุณหมายความว่ายังไงกันคะ?”
ดวงตาที่ล้ำลึกเจ้าเล่ห์ของชายหนุ่มส่องประกายความแบดออกมา แขนยาวผ่านเลยเหนือศีรษะของเธอไปปิดประตู “วันนี้กับวันนั้นไม่เหมือนกัน อีกทั้ง ผมทำอะไรดูอารมณ์มาโดยตลอด”
อะไรที่เรียกว่าทำอะไรดูอารมณ์? งั้นวันหลังอารมณ์เปลี่ยนเนื้อหาที่พูดก็ต้องเปลี่ยนไปด้วยใช่หรือเปล่า?
ช่างไม่มีเหตุผลจริงๆ
“ดึกมากแล้ว ไปอาบน้ำนอน” หลงเซียววางหนังสือลง ลุกยืนขึ้น
“คุณไปอาบน้ำเถอะค่ะ ฉันยังมีงานต้องทำ” เธอยังคงกำลังวิจัยเอกสารปึกนั้น
แม่เจ้า พรุ่งนี้ทำงานต้องใช้ คิดไม่ถึงว่าจะมากมายขนาดนั้น นี่ไม่ใช่ว่าจะฆ่าเธอให้ตายหรอกหรอ?
มือใหญ่ของหลงเซียวหยิบเอาเอกสารที่อยู่ในมือของเธอออก “หมอฉู่? คุณหมอไพ่ใบเอกแห่งแผนกอายุรกรรมหัวใจ? รองศาสตราจารย์ที่อายุยังน้อย?” การเรียกแบบประชดประชันแปลกๆ ที่มาเป็นชุดอย่างกะทันหันเช่นนี้หมายความว่ายังไงกัน?
เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ …
“ถือยศมากมายขนาดนี้ ประสิทธิภาพในการทำงานกลับเป็นเช่นนี้? คุณยังมีเซอร์ไพรส์อีกเท่าไรรอผมอยู่?”
แหม่!
ฉู่ลั่วหานลุกยืนขึ้นในทันที “ท่านเซียว ฉันก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาทั่วไปจริงๆ สำหรับชื่อเสียงจอมปลอมที่วงการมอบให้กับฉันนั้น แค่ฟังๆ ก็พอ เหตุใดจะต้องคิดเป็นจริงเป็นจังคะ?”
ร่างกายของหลงเซียวที่สูงกว่าเธอมากบดบังแสงไฟของโคมไฟตั้งพื้น นำเธอซ่อนเอาไว้ในความมืดสลัว “ดังนั้นวางแผนที่จะโต้รุ่งทำงานขยันชดเชยความโง่?”
ใบหน้าที่ประณีตของเธอแหงนขึ้น “ไม่ได้เหรอ?”
“ไม่ได้ โต้รุ่งทำให้สมองโง่ลง ผลที่ได้ตรงข้ามกับความคาดหมาย วิธีที่บำรุงสมองที่ดีที่สุดก็คือรับประกันเวลานอนหลับให้เพียงพอ” ท่านเซียวพูดอย่างเผด็จการจบก็ดึงข้อมือของเธอขึ้นมา “ไปอาบน้ำ ตอนนี้”
“…”
เคยเห็นแบบนี้หรือเปล่า!
ฉู่ลั่วหานที่ถูกเขาดันเข้าไปในห้องอาบน้ำ เริ่มอาบน้ำด้วยความโมโห
หลงเซียวที่อยู่ด้านนอกประตูเอามือกอดอก เพิ่งจะออกจากโรงพยาบาลก็ทำงานโต้รุ่ง เธอไม่เอาชีวิตน้อยๆ นี่แล้ว
เธอเข้าประตูไป โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโซฟาก็ดังขึ้น
โม่หรูเฟยโทรศัพท์หาเธอ
ท่านเซียวรับดูหน่อยอย่างไม่สนใจ
เขาเลื่อนเปิดปุ่มรับสาย
“มีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับเธอ บอกกับผมก็ได้”
โม่หรูเฟยที่อยู่ในวิลล่าสั่นไปทั่วทั้งตัว “พี่เซียว…ทำไมพี่ถึง?”
“ดูเหมือน คุณไม่มีอะไรจะพูด”
น้ำเสียงเริ่มที่จะหงุดหงิด
นิ้วมือของโม่หรูเฟยออกแรงจิกไปที่หมอนข้าง “พี่เซียว ฉันเพียงแค่อยากจะถามเธอสักหน่อยว่า ปวดเอวในระหว่างการตั้งครรภ์มีวิธีบรรเทาบ้างหรือเปล่า ตอนนี้ปวดเอวง่ายมาก…”
เดิมทีอยากจะจับฉู่ลั่วหานมาทะเลาะกันสักยก แต่พอหลงเซียวเอ่ยปากเธอก็ไม่กล้าพูดอะไรแล้ว หาเหตุผลมั่วๆ ออกไป
ท่านเซียวสายตาเยือกเย็นคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “ต่อไปเรื่องพวกนี้ถามหมอจ้าว”
เขาจะไม่เป็นห่วงสักหน่อยเลยหรอ?
โม่หรูเฟยนั่งอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ของวิลล่าที่ว่างเปล่าคนเดียว โกรธแค้นไร้ที่ระบาย ดันอยู่ต่อหน้าของหลงเซียวทำได้เพียงอดทนเอาไว้ “ฉันรู้แล้วค่ะ พี่เซียว…ฉันอยู่ที่บ้านรอพี่กลับมา”
“ไม่ต้องแล้ว คืนนี้ผมไม่กลับไป”
โม่หรูเฟยอยู่ๆ คิดถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ “พี่เซียว พี่ไม่ได้บอกว่าช่วงนี้ไม่อยู่ที่เมืองหลวงหรอกหรอคะ? กลับมาตั้งแต่เมื่อไรกัน?”
หลงเซียวไม่แยแสที่จะอธิบาย “หรูเฟย คุณดูเหมือนลืมสถานะของตัวเองไปแล้ว เรื่องบางเรื่อง คุณยังไม่มี สิทธิ์พอที่จะมายุ่ง”
เขาวางสายโทรศัพท์ลง ฉู่ลั่วหานออกมาจากห้องอาบน้ำ
หญิงสาวที่ผอมบางสวมชุดนอนฤดูร้อนที่หลวมสบาย รูปแบบที่มิดชิดเรียบร้อย แต่สามารถมองเห็นเค้าโครงที่มีเสน่ห์น่าดึงดูดได้รางๆ ผมที่เปียกชื้นถูกผ้าขนหนูห่อเอาไว้ที่บนศีรษะ ใบหน้าที่ละอองน้ำปกคลุมแดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย
บางส่วนบนร่างกายของชายหนุ่มกำลังเตรียมตัวที่จะโจมตี
เห็นโทรศัพท์ที่อยู่บนมือของเขา ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย “คุณถือโทรศัพท์มือถือของฉันเอาไว้ทำไมคะ?”
หลงเซียวเดินเข้าไปทีละก้าวๆ แขนยาวค้ำไปบนประตูห้องน้ำ นำตัวเธอติดอยู่ระหว่างประตูห้องน้ำกับแผ่นอกของตนเอง เงาร่างที่สูงใหญ่ของชายหนุ่มโน้มลงมา ดึงระยะห่างระหว่างทั้งสองคนให้เข้ามาใกล้ จุดติดความร้อนระอุภายในอากาศ
“คุณทำอะไรคะ?”
ลมหายใจที่อุ่นร้อนรดลงบนใบหน้าของเธอ “บนโต๊ะอาหารผมบอกคุณเอาไว้แล้วว่า กิน…ต้องกินที่กระตุ้นอารมณ์หน่อย”