คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 91 ครั้งแรกที่เขาเรียกเธอว่าเมีย
ตอนที่ 91 ครั้งแรกที่เขาเรียกเธอว่าเมีย
ฉู่ลั่วหานวางแผนเอาไว้ว่าพรุ่งนี้จะเข้าทำงานตามปกติ ดังนั้นจัดการเรื่องออกจากโรงพยาบาลเสร็จก็รีบร้อนไปที่ห้องทำงาน เป็นเพราะเธอบอกออกไปว่าตนเองอาหารเป็นพิษ จึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจมากเท่าไรนัก
แต่ความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างเธอกับถังจิ้นเหยียนไม่รู้ว่าถูกแพร่กระจายกลายเป็นเวอร์ชั่นที่โอเวอร์ต่างๆ นาๆ ได้ยังไงกัน
“หมอฉู่ คุณกับรองคณบดีถังรู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้วหรอคะ?”
“หมอฉู่ ที่แท้คุณกับรองคณบดีถังเป็นคนรักกันมาตั้งนานแล้ว ดูไม่ออกจริงๆ ถ่อมตัวขนาดนี้”
“เฮ้!ภรรยาท่านรองคณบดี ฮิๆ ทำตัวนอบน้อมขนาดนั้นทำไมกัน โรงพยาบาลของเราก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยเรื่องการคบหากันในที่ทำงานสักหน่อย”
ฉู่ลั่วหานแทบจะจุกไปในทันที นี่แพร่กระจายออกมาจากที่ไหนกัน? เธอประหลาดใจจริงๆ !
จ้าวเหมียนเหมียนหัวเราะคิกคักพร้อมกับประชิดเข้ามา “หมอฉู่ เรื่องที่รองคณบดีถังช่วยชีวิตคุณอย่างไม่เสียดายชีวิตตอนนี้แทบจะกลายเป็นเรื่องราวดีๆ ที่ร่ำลือกันในโรงพยาบาลของพวกเราแล้ว จุ๊ๆ สร้างแรงบันดาลใจ โรแมนติก ร้อนแรงขนาดไหนกันนะ ตอนนี้เหล่าหมอผู้ชายต่างก็คึกมาก ตั้งตารอที่จะได้มีโอกาสแสดงเสน่ห์ของตนเอง”
น่าเบื่อจริงๆ
“ระหว่างฉันกับรองคณบดีถังไม่ได้มีอะไร ข่าวลือซุบซิบผ่านไปสักพักก็ไม่มีใครพูดถึงแล้ว เอาบันทึกการตรวจห้องผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจในคราวก่อนมาให้ฉัน หากคนไข้ไม่ไหวจริงๆ เกรงว่าจะต้องทำการผ่าตัดแล้ว”
“อยู่ดีดีๆ ก็พูดถึงคนไข้ทำไม”
แฟ้มที่อยู่ในมือของหมอฉู่เคาะไปบนศีรษะของจ้าวเหมียนเหมียนเบาๆ “หน้าที่ของหมอเปลี่ยนไปเป็นซุบซิบนินทาตั้งแต่เมื่อไรกัน? ผู้ป่วยกลับกลายเป็นอาชีพเสริม?”
“โอ๊ยๆ ฉันพูดสู้คุณไม่ไหว นี่ แฟ้มของผู้ป่วย ยังมีพวกนี้ พวกนี้ เป็นของคุณทั้งหมด อ๋อ ใช่แล้ว อันนี้คือตอนที่คุณไม่อยู่รองผู้อำนวยการเกาส่งมา”
เหี้ย งานเยอะขนาดนี้ได้ยังไงกัน!เธอเพิ่งจะไม่ได้ทำงานวันเดียวก็เท่านั้นเอง!อย่างกับผ่านไปครึ่งค่อนปี!
“คนมีความสามารถก็ต้องเหนื่อยมากหน่อย หมอฉู่ๆ สู้ๆ นะคะ”
จ้าวเหมียนเหมียนหัวเราะคิกคักพร้อมกับเดินจากไป
เหอะๆ หัวหน้าระดับสูงกดทับลูกน้องให้ตาย ตอนนี้เกาหยิ่งจือก็ยังมาได้ยินข่าวลือของเธอกับถังจิ้นเหยียนอีก ก็ต้องเปลี่ยนเป็นทรมานเธอหนักยิ่งกว่าเดิมเป็นธรรมดา
ได้ อยากจะเล่นก็เข้ามาสิ
หอบงานกองใหญ่เดินออกจากโรงพยาบาล คิดไม่ถึงว่าจะหกโมงกว่าแล้ว
เธอโบกรถกลับไปยังคอนโดของตนเองในทันที
นำกองเอกสารวางไว้บนโซฟา ฉู่ลั่วหานตัดสินใจทำอาหารให้ตัวเองทาน
ในตอนที่เธอสวมผ้ากันเปื้อนนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
เบอร์โทรศัพท์คิดไม่ถึงว่าจะเป็นหลงเซียว?!
เกิดอะไรขึ้นอีก?
“อยู่ที่ไหน?” เป็นการสอบสวนที่ง่ายและใจเย็นมาก
ฉู่ลั่วหานกัดฟัน “บ้านค่ะ”
หลงเซียวยกข้อมือขึ้นมาดูเวลา จากนั้นมือหนึ่งถือโทรศัพท์อีกมือหนึ่งหยิบกุญแจรถขึ้นมาเดินไปถึงหน้าประตูลิฟต์ “บ้านไหน?”
เธอไม่เคยนำบ้านที่รีสอร์ทหยีจิ่งพูดว่าเป็นบ้านมาก่อน ต่อให้พูดก็เป็นการพูดแบบไม่เต็มใจนัก คราวนี้พูดได้อย่างเป็นธรรมชาติขนาดนี้ จะต้องไม่ใช่ที่วิลล่าอย่างแน่นอน
“อยู่ที่…คอนโดของฉันเอง”
โกหกไม่ได้ผล ก็ได้แต่สารภาพอย่างตรงไปตรงมา
ดีมาก เธอไม่ได้ไปที่วิลล่า
พูดตามตรงแล้ว เขาก็ไม่อยากไปเช่นเดียวกัน
“ทานข้าวหรือยัง?” ท่านเซียวถามอย่างเป็นธรรมชาติขนาดนี้เกิดอะไรขึ้น?
“ยังค่ะ กำลังเตรียมตัวทำ” เธอตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติขนาดนี้เกิดอะไรขึ้นอีก?
ท่านเซียวบิดกุญแจสตาร์ทรถ เสียงแกร็กดังขึ้น โรลส์รอยซ์สีดำก็เริ่มทำงานขึ้นตามการบิดของกุญแจ “ที่บ้านมีกับข้าวอะไรบ้าง?”
ฉู่ลั่วหานยืนอยู่ที่หน้าประตูตู้เย็น กับข้าว…
เธอเศร้าเลย ในตู้เย็นมีเพียงแค่ค็อกเทลที่เหลือเอาไว้ ไม่ได้มีกับข้าวอะไร
คิ้วงามของหลงเซียวขมวดเข้าหากัน “ตอนนี้ลงมา รอผมที่หน้าประตูห้าง ผมประมาณสิบนาทีถึง”
หมายความว่ายังไง?
” ฮัลโหล?ฮัลโหล!”
สายโทรศัพท์ตัดไปแล้ว!
ฉู่ลั่วหานถอดผ้ากันเปื้อนออกอย่างงงงวย เปลี่ยนรองเท้าออกจากบ้าน เดินไปยังห้างสรรพสินค้า เวลาก็ประมาณสิบกว่านาที เธอยังเดินไปไม่ถึงหน้าประตูห้างก็เห็นโรลส์รอยซ์เปิดประทุนคันหนึ่งจอดอยู่ท่ามกลางรถยนต์ธรรมดากองใหญ่อย่างไม่กลมกลืนเป็นอย่างมาก บริเวณรอบๆ หลายเมตรต่างก็ไม่มีใครกล้าจอดรถ
ช่วงพื้นที่นี้ไม่ค่อยจะดีนัก การจับจ่ายใช้สอยระดับปานกลาง รถน่ะนะ ที่หรูหรายิ่งน้อย พอคนรวยปรากฏออกมา ทุกคนต่างก็หลบแทบจะไม่ทัน หากกระทบไปโดนชนไปโดน ค่าซ่อมแซมแพงกว่ารถทั้งคันของพวกเขาเสียอีก
เงาร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งเดินออกมาจากภายในตัวรถ ชุดสูทเวอร์ซาเชสีดำ ใบหน้าหล่อเหลาที่เค้าโครงชัดเจน
บุคลิกลักษณะมีความเป็นผู้ใหญ่ ดูแพง ในความเย็นชาแสดงให้เห็นถึงการเข้าหาได้ยาก นั่นก็คือหลงเซียว
“หมายความว่ายังไงคะ?” เธอเดินเข้าไปพร้อมกับเอ่ยถาม
หลงเซียวมองดูอาคารห้างสรรพสินค้า “ซูเปอร์มาร์เก็ตอยู่ชั้นใต้ดิน?”
“ใช่ค่ะ ทำไมหรอ?”
ดีมาก
เธอยังไม่มีการตอบสนองกลับคืนมา คิดไม่ถึงว่าเขาจะยกขายาวๆ ที่ห่อหุ้มด้วยกางเกงสูทเดินไปแล้ว!
เธอนิ่งอึ้ง เขาหันหน้ากลับมา เอ่ยขึ้นอย่างรำคาญเล็กน้อย “ไม่ตามมา?”
เอ่อ…ตามไปๆ
แต่ว่า เดินห้างหมายความว่ายังไงกัน? อีกทั้ง…มือของเขายังเข็นรถเข็นช้อปปิ้ง? พระเจ้า!
ไม่เห็นสายตาของชายหญิงบริเวณโดยรอบที่มองเขาแทบจะกินเขาไปแทบทั้งตัวแล้วหรอกหรอ? ผู้ชายที่สูงสง่าโดดเด่นเช่นนี้ เดินไปที่ไหนก็เป็นเหมือนประภาคารหลังหนึ่ง พูดง่ายๆ ก็คือการมีอยู่ของเทพก็ไม่ปาน!
ฉู่ลั่วหานอยากจะรักษาระยะห่างกับเขาเป็นอย่างมาก…
“หลบไปไกลขนาดนั้นทำไม? มานี่”
เธอเคลื่อนไหวทีละนิดๆ …ผ่านไปนานก็ยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้หนึ่งก้าว
เขาขมวดคิ้วขึ้น มือใหญ่รั้งช่วงเอวของเธอเอาไว้ในทันที!
เกร็งไปหมดทั้งตัว!ลมหายใจถี่!เซลล์สมองกำลังลุกไหม้!
ฉู่ลั่วหานถูกเผาจนไหม้ไปหมดแล้ว
เผชิญหน้ากับสายตาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันของทุกคน ฉู่ลั่วหานยิ้มเจื่อนออกมาโดยที่ไม่รู้เนื้อรู้ตัว “ท่านเซียว นี่คุณกำลังทำอะไรคะ?”
หลงเซียวใบหน้าไม่เปลี่ยนสี เข็นรถเข็นช้อปปิ้งเดินช้าๆ อยู่ในโซนอาหารสด “ซื้อกับข้าว”
ฉู่ลั่วหาน “…”
“ยืนอยู่ตรงนั้นทำไม? ทำอะไรเป็นก็หยิบ ผมหิวแล้ว”
เธอเงยศีรษะขึ้นมองเขา กลืนน้ำลายเล็กน้อย “…”
ดวงตาของเขาดำขลับราวกับหมึก ดูค่อนข้างใจดำ ค่อนข้างแบด ค่อนข้างกำปั้นทุบดิน “ดูพอหรือยัง? ดูพอแล้วก็เริ่มซื้อกับข้าว”
ซื้อ…ซื้อกับข้าว?
โลกสั่นตามไปหมดแล้ว
ฉู่ลั่วหานเลือกกับข้าวที่ทำง่ายสองสามอย่าง เน้นผักเป็นหลัก เนื้อเป็นรอง เนื้อปลาเป็นอันดับสุดท้าย
“เสร็จแล้วค่ะ”
ในรถเข็นมีของแค่ไม่เท่าไร ท่านเซียวขมวดคิ้วขึ้น “แค่นี้?”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า “อาหารมื้อเดียวใช้กับข้าวแค่ไม่เท่าไรค่ะ”
ท่านเซียวคลายคิ้วที่ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย หากไม่ใช่มื้อเดียวล่ะ?
ช่างเถอะ ไม่พูดจะดีกว่า
โซนชำระเงินมีคนจำนวนไม่น้อยกำลังต่อแถว ฉู่ลั่วหานเห็นหลงเซียวท่าทางเช่นนี้ ก็กลัวว่าข้างหน้าจะตีฆ้องเปิดทางให้กับเขา จึงคิดดันรถเข็นจากมือของเขาเข้ามา “ฉันไปชำระเงิน คุณออกไปก่อนเถอะค่ะ”
แต่ใครจะรู้ว่า มือของเธอเพิ่งจะกระทบเข้ากับด้ามจับรถเข็น มือใหญ่ของเขาก็ทับลงมาเบาๆ ธรรมชาติขนาดนั้น เผด็จการขนาดนั้น…
“ไปด้วยกัน”
ก็คือทำให้เธอเกรงใจที่จะปฏิเสธ
“ขอโทษนะคะเงินสดหรือว่ารูดบัตรคะ?” แคชเชียร์มองหลงเซียวอย่างบ้าผู้ชาย ดวงตาทั้งสองข้างค้างเติ่ง…
ในใจของฉู่ลั่วหานไม่สบอารมณ์นัก แนบไปด้วยอารมณ์โกรธ “Alipay!”
รีบร้อนออกจากบ้าน พกมาแค่โทรศัพท์มือถือ ได้แต่Alipay
หลงเซียวหยิบเอากระเป๋าสตางค์ออกมา วางใส่ในมือของเธอ หยิบโทรศัพท์มือถือของเธอมาไว้ที่มือของตนเอง “เงินสด”
ฉู่ลั่วหาน “…”
คนประเภทนี้ออกจากบ้านคิดไม่ถึงว่ายังจะพกเงินสด? ช่าง…อยู่นอกเหนือความคาดหมายจริงๆ
“ค่ะๆ คุณผู้ชาย”
แคชเชียร์จะหยิบเอาแบงค์ร้อยจากมือของฉู่ลั่วหานที่เพิ่งจะควักออกมาจากข้างในกระเป๋าสตางค์ แต่นิ้วมือของฉู่ลั่วหานบีบแน่นไม่ยอมปล่อย ทั้งสองคนทำสงครามกันอยู่หลายวินาที…
“เมียครับ จ่ายเงินแล้ว”
ตู้ม!
ระเบิดปรมาณูในสมองของฉู่ลั่วหานแตกกระจาย!
เธอคลายมือออกอย่างตกตะลึง เงินถูกหยิบออกไป ระดับสติปัญญาของเธอก็ถูกหยิบเอาไปด้วยเช่นเดียวกัน!เมื่อครู่นี้หลงเซียวเรียกเธอว่าอะไรนะ?
จะสี่ปีแล้ว ตั้งแต่แต่งงานจนมาถึงตอนนี้ เธอไม่เคย ไม่เคยได้ยินคำว่าเมียคำคำนี้ออกมาจากในปากของเขามาก่อน ไม่เคย!
เธอเปลี่ยนสายตาที่ตกตะลึงกลายเป็นนิ่งอึ้งขึ้นมา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเลื่อนลอย โลกทั้งใบเหลือเพียงแค่ใบหน้าของหลงเซียว
ใบหน้านั้นปนเปื้อนไปด้วยเสน่ห์อย่างที่ไม่มีใครเสมอเหมือน ดวงตาที่ล้ำลึกนิ่งสงบยิ่งเพิ่มความลึกซึ้งและกว้างใหญ่ นำออร่าและความสูงศักดิ์ทั้งหมดปิดผนึกเอาไว้ในนั้น ไม่สามารถที่จะวัดระดับได้
“เฮ้ย!ข้างหน้าจะไปหรือไม่ไปกันแน่!พวกเรารีบจะชำระเงินนะ!”
มือใหญ่ของหลงเซียวโอบไหล่ของเธอเอาไว้ พาหญิงสาวที่กำลังนิ่งอึ้งเดินออกไป
“ทอนเงินให้คุณค่ะ…”
คนสองคนที่ประคองกันจากไปดูเหมือนจะไม่ได้ยิน
ขึ้นมาบนรถ แนวโค้งการตอบสนองที่ยาวเกินมาตรฐานของฉู่ลั่วหานในที่สุดก็ดีดกลับคืนมา “เมื่อครู่นี้คุณ…หมายความว่ายังไงกันแน่คะ?”
หลงเซียวเคลื่อนรถออก เอ่ยขึ้นอย่างดูดายเป็นอย่างมาก “ไม่ได้หมายความว่ายังไง”
เรียกเมียของตัวเอง ต้องการความหมายอะไรกัน?
แต่…เมื่อครู่ตอนที่เขาเรียกเธอว่าเมียคำคำนี้ ทำไมถึงได้สบายสดชื่นขนาดนั้น?
ขึ้นมาชั้นบน เดินเข้าประตู ฉู่ลั่วหานเตรียมตัวทำกับข้าว
หลังจากที่สวมผ้ากันเปื้อน ท่าทางของสาวน้อยที่อยู่บ้านดูน่ารักอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ความดุเดือดในเวลากลางวันในที่สุดก็ถูกทำให้เรียบลงแล้ว ท่านเซียวพอใจมาก
“คุณจะทานนึ่งหรือว่าต้มคะ?”
เธอพูดถึงปลา
เขานั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ขาทั้งสองข้างไขว้เข้าหากันอย่างเป็นธรรมชาติ ภายในมือยังคงกำลังพลิกดูเอกสารข้อมูลของเธอ “คุณอย่างไหนสบาย ผมทานอย่างนั้น”
ที่เขาพูด คือคน
ใบหน้าของฉู่ลั่วหานร้อนระอุขึ้น แม่ง!กินแค่ปลาก็ยังไม่ลืมที่จะเกี้ยวเธอ!
ผัดซอสแดงให้กับเขา ใส่พริกเยอะๆ !ให้เขาเผ็ดตายไปเลย!
อาหารมื้อหนึ่งทำเสร็จ กับข้าวสี่อย่างน้ำแกงอีกหนึ่งอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก อาหารบ้านๆ ทำขึ้นมาแล้วยิ่งไม่ต้องกล่าวถึง
“ทานได้แล้วค่ะ” เธอวางถ้วยกับตะเกียบเสร็จก็เรียกหลงเซียว
ร่างกายที่สูงใหญ่ของหลงเซียวแสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขาม ลมหายใจที่อยู่บนร่างกายแผ่กระจายรังสีออกมา ห้องรับแขกที่เล็กและแคบถูกเขาคนเดียวยึดครองจนเต็มพื้นที่ไปหมด
เขาตรงไปนั่งลงบนเก้าอี้รับประทานอาหาร ยื่นมือออกไปจะหยิบตะเกียบ
“ฉันว่า…คุณล้างมือหรือยังคะ?”
เป็นคำถามที่ธรรมชาติมาก
ท่านเซียวนำมือยื่นออกมา “สะอาดมาก”
หมอฉู่แทบจะช้ำในไปในทันที “เมื่อครู่นี้คุณหยิบเอกสาร สิ่งนั้นถูกคนจับไปเท่าไร ไม่สกปรกก็มีแบคทีเรีย ล้างมือก่อนค่อยทานค่ะ”
เธอเก็บตะเกียบกลับไปในทันที ไม่ให้เขา
ท่านเซียวขมวดคิ้วอย่างอารมณ์ดี “ครับ”
เสียงน้ำไหลช้าๆ กลิ่นฮอร์โมนที่ทระนงองอาจแพร่กระจายจากห้องน้ำทางนั้นมาถึงที่ปลายจมูกของเธอ ทุกลมหายใจที่ออกมาต่างก็เป็นสิ่งเย้ายวนที่อันตรายของชายหนุ่ม
เขาล้างมือเสร็จก็มาแบออกให้เธอดู “ตอนนี้ล่ะ?”
ลมหายใจของเธอติดขัดเล็กน้อย “…ได้แล้วค่ะ”
ทั้งสองคนนั่งลง สายตาของท่านเซียวถูกปลาที่มีสีแดงสดตัวนั้นดึงดูดความสนใจเข้าให้แล้ว นี่ใส่พริกไปเท่าไรกัน?
เธอร้องทักเขาด้วยรอยยิ้มจนตาหยี “อาหารบ้านๆ ท่านเซียวถูๆ ไถๆ ทานไปก่อนนะคะ นี่ค่ะ ปลาตัวนี้ตั้งใจทำให้กับคุณเป็นพิเศษ คุณทานเยอะหน่อย”
รู้ว่าเขาไม่ชอบกินเผ็ด ยังบอกว่าตั้งใจทำให้กับเขาเป็นพิเศษ ให้เขาทานเยอะหน่อย?
ผู้หญิงคนนี้ กำลังรนหาที่ตาย
“ได้”
เขาใช้ปลายตะเกียบแผ่พริกและพริกไทยเสฉวนที่อยู่ด้านบนออก ในที่สุดก็เผยให้เห็นเนื้อปลาที่ขาวนุ่ม “ที่แท้นี่ก็คือแบบที่คุณสบาย?”
อื้ม? เธออย่างไหนสบาย เขาทานอย่างนั้น…
ฉู่ลั่วหานที่ในปากมีถั่วแขกอยู่ แทบจะถูกทำให้สำลักตาย “คุณจะทานไหมคะ?”
คำพูดไร้สาระเยอะจริงๆ
เขาคีบเนื้อปลาชิ้นหนึ่ง หัวคิ้วไม่ได้ขมวดเข้าหากันเลยสักนิด “ทาน คุณรู้สึกสบาย ใส่ยาพิษผมก็จะทาน”
ปัจจัยความคลุมเครือกำลังขึ้นสูง…อากาศเปลี่ยนเป็นร้อนระอุ…หมอฉู่หน้าแดงแล้ว
“เอ๊ย!”
เนื้ออยู่ที่ข้างริมฝีปากของเขา ฉู่ลั่วหานไม่แข็งใจ “อันนี้ค่อนข้างเผ็ด คุณเปลี่ยนอีกอันดีกว่าค่ะ”
นัยน์ตาของหลงเซียวสะท้อนความเจ้าเล่ห์ขึ้นมาแวบหนึ่ง เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ ว่า “เผ็ด ทานขึ้นมาถึงได้มีรสชาติ ถลกหนังด้านนอกทิ้งไปก่อน เนื้อที่ละเอียดนุ่ม เข้าไปละลายในปาก เผ็ด มีรสชาติที่ยังติดลิ้นอยู่ กระตุ้นอารมณ์”
กินแค่เนื้อปลา ทำไมอย่างกับเสื้อผ้าทั่วทั้งร่างกายถูกเขาเลิกออกจากกันยังไงอย่างงั้น!
ไฟที่อยู่ในปากของท่านเซียวกำลังเผาไหม้ ผู้หญิงคนนี้ทำใจได้จริงๆ !
ฉู่ลั่วหานคีบชิ้นใหญ่ชิ้นหนึ่งวางใส่ในถ้วยของเขาอย่างเชิงรุกมาก “ท่านเซียวทานปลาได้เชี่ยวชาญขนาดนี้ งั้นทานเยอะหน่อยนะคะ”
ไม่เชื่อหรอกว่าจะทำให้คุณเผ็ดไม่ได้!
ท่านเซียวนิ่งสงบ “ความต้องการมากขนาดนี้ ดูเหมือนครั้งเดียวจะทำให้พอใจไม่ไหว งั้นกี่ครั้งถึงจะเหมาะสม? ผมจะให้ความร่วมมือ ร้อนในก็ไม่เป็นอะไร”