คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 90 ผ้าห่มหนึ่งผืนกับคนสองคน
ตอนที่ 90 ผ้าห่มหนึ่งผืนกับคนสองคน
หลงเซียวมองฉู่ลั่วหานก่อนจะตอบกลับ เขาอยากเห็นอารมณ์ที่แปรปรวนบนใบหน้าของเธอแม้เพียงเล็กน้อย แต่ผู้หญิงคนนี้กับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย เธอทำเพียงแค่เอนหลังลงอย่างเกียจคร้านท่าทางเตรียมพร้อมที่จะนอน
นิ้วเรียวยาวของท่านเซียวถือโทรศัพท์ “เรื่องนี้ไว้ค่อยคุย”
เขาเบื่อที่ต้องจัดการเรื่องเล็กน้อยในบ้านโดยเฉพาะเรื่องระหว่างโม่หรูเฟยและฉู่ลั่วหาน
โม่หรูเฟย เพียงแค่ให้เธอใช้อย่างเพียงพอ กระเป๋าใบใหม่และความอ่อนโยนเพียงเล็กน้อย เธอก็สามารถอยู่เป็นป้ายให้ตระกูลหลงได้อีกหลายปี
แต่ฉู่ลั่วหานเธออิสระ และไม่ต้องการให้เขาเป็นห่วงตั้งแต่แรก
ถ้าเป็นห่วงเธอ ก็ต้องเอาหัวใจทั้งดวง ไม่ หัวใจทั้งดวงก็ยังไม่พอ
“อะไรคือไว้ค่อยคุย! แกวันนี้ให้กลับมาบ้านใหญ่ โม่หรูเฟยท้องอยู่อารมณ์แปรปรวนจะส่งผลต่อเด็กในท้อง แกเป็นพ่อเด็กต้องมีความรับผิดชอบ!”
ลูก ลูกอีกแล้ว
เธอคิดไม่ออกว่าถ้าโม่หรูเฟยไม่มีลูก ก็คงไร้ค่าในสายตาของหยวนซูเฟินเช่นกัน?
“ผมมีธุระ คืนนี้ไม่กลับ” ท่านเซียวตอบอย่างเหนื่อยล้า
“ฉันไม่สนว่าแกจะมีธุระอะไร กลับมาที่บ้านใหญ่เดี๋ยวนี้ เซียวเอ๋อ โม่หรูเฟยคือลูกสะใภ้ที่ฉันเลือก พวกแกอยู่ด้วยกันมาก็หลายปีแล้ว โม่หรูเฟยตอนนี้ก็ทุกข์ใจเรื่องท้องมากพอแล้ว แกยังจะทำให้เธอทุกข์ใจเพิ่ม? ฉันไม่ยอม! ฉันจะประกาศว่าโม่หรูเฟยคือคุณหญิงของตระกูลหลง!”
ฉู่ลั่วหานได้ยินทุกประโยคอย่างชัดเจน ที่หยวนซูเฟินก็ทำจริงๆ
หยวนซูเฟินเก่งกาจขนาดไหน ยี่สิบปีที่แล้วก็สะเทือนคนไปทั่วทุกแห่ง เรื่องอื้อฉาวของตระกูลหลงนั้นถูกเธอจัดการทั้งหมด
หลงเซียวขมวดคิ้ว “ผมอยู่ต่างเมือง กลับไม่ได้ ตามนี้แหละ”
พูดจบหลงเซียวก็ตัดสายทันที
ฉู่ลั่วหานลืมตาขึ้นเห็นท่าทางลำบากใจและไม่สบายใจของเขา “คุณกลับไปเถอะ แม่คุณดูโกรธมาก”
“เธอก็เป็นแม่คุณ คุณคือคุณหญิงของตระกูลหลง เรื่องนี้มันเปลี่ยนกันไม่ได้” เขาย้ำสถานะของเธอไม่ให้เธอมีโอกาสหลีกหนี
ฉู่ลั่วหานอยากหัวเราะ “เมื่อกี้ที่คุณคุยโทรศัพท์ฉันได้ยินหมดแล้ว เธอยอมรับโม่หรูเฟยเป็นภรรยาคุณ เพราะงั้นหลงเซียวพวกเรา….”
หย่ากันเถอะ
แต่เขาไม่ให้โอกาสเธอได้พูดออกมา “ผมบอกพวกเขาไปแล้วว่าพวกเราไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง เพราะงั้นวันนี้จะกลับไม่ได้ กลับวิลล่าก็ไม่ได้ ดูแล้วคงกลับไม่ได้สักสองสามวัน”
ฉู่ลั่วหานกำผ้าห่มแน่น “งั้นคุณ….”
“ถึงห้องพักผู้ป่วยที่นี่จะธรรมดา แต่เหมือนว่าเตียงจะใหญ่พอ คืนนี้นอนที่นี่ก็แล้วกัน”
“….คุณจะค้างที่โรงพยาบาล?”
“ทำไม? คุณนายหลงไม่ยินยอมให้สามีนอนเฝ้าไข้? หรือคุณรอรองคณบดีถังกลับมาอยู่?” หลงเซียวคำพูดร้ายกาจ
เธอหมายถึงแบบนั้นซะเมื่อไหร่? เธออยากบอกเขาว่าโรงพยาบาลสภาพแวดล้อมไม่ค่อยดี เขาที่ใช้ชีวิตสุดหรูสุขสบายมาตลอดคงไม่ค่อยเหมาะกับที่นี่
“ที่นี่ไม่มีอุปกรณ์อาบน้ำ” เธอกลั้นอารมณ์เอาไว้แล้วเอ่ยถึงเรื่องจำเป็นแทน
“ช่างมัน” เขาตอบอย่างขอไปที
ก็ได้ ในเมื่อเขาไม่สนใจเธอเองก็ไม่จำเป็นต้องไปยุ่งวุ่นวาย
บอกว่าช่างมัน แต่เขากลับบอกให้จี้ตงหมิงเอาของใช้จำเป็นมาส่งให้
ฉู่ลั่วหานมองไปที่ประตูห้องพักวีไอพี หลงเซียวกำลังอาบน้ำ เธอทั้งโกรธทั้งตลก เมื่อนาทีก่อนยังทะเลาะกันอยู่เลย วิต่อมากลับจะนอนร่วมห้อง แต่ก็ช่างมันเถอะมาถึงขนาดนี้แล้ว
ฉู่ลั่วหานเปิดเปลือกตาอยู่ใต้ผ้าห่มสู้ความง่วงงุน
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว หลงเซียวเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วทิ้งตัวลงบนเตียง
ฉู่ลั่วหานตกใจไออุ่นจากร่างกายคนข้างๆ หลังตรงเครียดขึงทันที ลมหายใจอุ่นราวกับจะแผดเผาโอบรอบตัวเธอ แขนยาวและแข็งแรงของหลงเซียวสวมกอดเธอจากทางด้านหลัง
ฉู่ลั่วหานตกใจจนแทบจะผุดลุกขึ้นมา แต่ติดที่เขารู้ทันกดเธอไว้ได้ก่อน
“คุณ คุณทำอะไร?” เสียงของเธอสั่นเล็กน้อย
เขาทำแบบนี้ก็บ่อย เธอไม่ชินสักที
หลงเซียวอดนั้นตั้งแต่เมื่อคืนก่อนจนถึงวันนี้เพราะมัวแต่ช่วยคน ไหนจะไปจัดการเรื่องตระกูลคางอีก เขาไม่ได้พักเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว ทั้งเขายังกังวลตลอดเวลาใช้แรงกายมากเกินทั้งยังไม่ค่อยได้ทานข้าว เพราะงั้นไม่ว่าจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ฝืนไม่ไหว
เพราะท่านเซียวเหนื่อยแล้ว
“วางใจเถอะ ผมไม่มีอารมณ์กับคนป่วย” แม้ปากจะพูดแบบนั้นแต่การกระทำกลับอ่อนโยนจนน่ากลัว
อบอุ่นเกินไป อบอุ่นราวกับไม่รู้จัก
ฉู่ลั่วหานใจอ่อนเพราะท่าทีอ่อนโยนของเขา น้ำเสียงก็นุ่มลงไม่น้อย “ของใช้ในโรงพยาบาลกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อจะแรงหน่อย แต่ดมไปดมมาเดี๋ยวก็ชิน”
เขาครางคำรับหนึ่ง กอดเธอจากด้านหลังแน่เหมือนเด็กที่ต้องการอ้อมกอด เขาซุกหน้าลงในซอกคอของเธอทำให้ไม่ได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อแต่ได้กลิ่นแชมพูอ่อนๆ แทน
เธอหายใจถี่ขึ้นเอ่ยถามเบาๆ “คุณหนาวมากไหม?”
ผู้ชายข้างเธอกอดแน่นไม่พอไอร้อนจากร่างกายเขายังร้อนกว่าปกติ หรือว่าเป็นไข้?
เป็นไข้เชี้ยอะไรกัน นี้เป็นไฟราคะ
ท่านเซียวเอื้อมมือมากอดเอวเธอแล้วพลิกตัวเธอกลับมา หันหลังให้เขาไม่ชอบ
เมื่อโดนบังคับให้เผชิญหน้า ฉู่ลั่วหานใจเต้นแรงขึ้นเธอได้แต่มองผู้ชายที่ใช้หมอนเดียวกัน กัดริมฝีปากไม่กล้าพูดอะไร
หลงเซียวมองเธอ แขนกอดรัดเธอไว้ “มีเรื่องหนึ่งที่ผมเสียใจ”
ฉู่ลั่วหานกะพริบตา “เรื่องอะไร?”
หลงเซียวสูดลมหายใจเข้าลึก “ผมน่าจะปล่อยให้เรื่องที่คุณถูกลักพาตัวข่าวใหญ่มากกว่านี้”
ดีที่สุดคือคนทั้งเมืองทุกคนรู้ กลายเป็นหัวข้อข่าวประเด็นร้อน
ไม่ใช่ว่ารู้กันเพียงแค่สองคน
ฉู่ลั่วหานสำลักคำพูดของเขา
เธอยังไม่ได้ถาม เขาก็พูดต่อ “ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ เรื่องที่คุณคือคุณหญิงของตระกูลหลงทุกคนก็จะรู้ ข่าวลือจะสู้ข่าวที่ประกาศเองได้อย่างไร คุณจะยักคิ้วหลิ่วตากันกับคนแซ่ถังอีกต่อไป”
ประโยคแรกยังพอซาบซึ้ง แต่ประโยคหลังมันอะไรกัน?
ไม่รู้ควรพูดอย่างไร ท่านเซียวโหมดอ่อนโยนหายากเธอก็ไม่อยากขัดอะไร คนสองคนภายใต้ผ้าห่มหนึ่งผืน หันหน้าเข้าหากัน ลมหายใจเดียวกัน “วันนี้ ขอบคุณนะ ไม่ว่าจุดประสงค์คุณคืออะไร คุณก็ช่วยฉันไว้อยู่ดี ฉันควรขอบคุณ”
หลงเซียวโอบกอดเธอ มือใหญ่กว่าครึ่งแผ่นหลังทาบวางบนหลังเธอ อบอุ่น อ่อนโยน
“ถ้าอย่างนั้นคุณคิดจะขอบคุณผมอย่างไร?”
หืม? ถือโอกาสเอาเปรียบเธอ?
“คุณอยากให้ฉันทำอะไร?”
หลงเซียวเลิกคิ้ว “จูบผม”
คำขอของเขาไม่ได้มากเกินไป อีกทั้งยังอยู่ใต้ผ้าห่ม เพียงแต่มันเกินคาดเกินไปสำหรับพวกเธอที่กำลังจะหย่า เหมือนกลายเป็นคู่ข้าวใหม่ปลามัน
ไม่ได้หรอกไม่ได้ เธอคิดมากไปเอง
มือเรียวของเธอจับต้นแขนของเขาแล้วเลื่อนใบหน้าขึ้นไปจูบเบาๆ ที่ริมฝีปากบาง
จูบนี้มาช้าไม่พอยังไปเร็วอีก ราวกับกบกินน้ำเขายังไม่ทันได้ลิ้มรสชาติอะไรเลย
ไม่พอ
ท่านเซียวใช้มือใหญ่ของตัวเองกดเธอไว้กับตัวเขาแน่น แล้วบดจูบอย่างล้ำลึกร้อนแรง ไล้ชิมทั่วทุกมุม…..
ท่านเซียวบดริมฝีปากเธออย่างไม่ลดละ อยากจะสอดลิ้นเข้าไปแต่นึกถึงแผลที่ลิ้นเธอขึ้นมาได้ข่มความอยากตัวเองเอาไว้อย่างน่าเสียดาย
เขารุกล้ำรุนแรงเธอเองก็ชินแล้วและยังชอบรสชาติของเขามาก
ท่านเซียวกอดเธอไว้ “หลับเถอะ ผมตอนนี้หิวมาก เกรงว่าจะกินไม่เลือก”
ฉู่ลั่วหาน “…..” รีบหลับตาลงทันที
ในความมืด ท่านเซียวลอบยิ้ม คิดอะไรอยู่? เขาหมายถึงหิวจริงๆ เมื่อกี้น่าจะกินขนมปังสักก้อน
ในอ้อมกอดของเขา คืนนี้หลับลึกทั้งคู่
วันต่อมาหลงเซียวตื่นแต่เช้า ความสัมพันธ์ของพวกเขายังไม่ได้ประกาศชัดเจน เขาไม่อยากให้เธอถูกต่อว่าเป็นมือที่สาม
พอฉู่ลั่วหานลืมตาตื่นมาที่นอนข้างๆ ก็ว่างเปล่าแล้ว ของใช้ในห้องน้ำก็ไม่มีเช่นกัน ราวกับว่าเมื่อวานหลงเซียวไม่ได้มาค้างที่นี่ ราวกับว่าเธอฝันหวานไปเอง
หลังจากใช้เวลาในโรงพยาบาลทั้งวัน ร่างกายของฉู่ลั่วหานเกือบจะฟื้นตัวแล้ว
ข้ามถังจิ้นเหยียนไป ฉู่ลั่วหานก็ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลให้ตนเอง
ตอนบ่าย ตึกใหญ่บริษัทMBK
หลงเซียวนั่งอยู่ที่โต๊ะตำแหน่งประธาน จอภาพด้านหน้าฉายวิดีโอใบหน้าอันหล่อเหลาของ กู้เยนเซิน
“สืบถึงไหนแล้ว? อย่ามาแค่หัวเราะฮาฮา”
กู้เยนเซินเกาหัว “อย่ารีบ เรื่องมันหลายปีมาแล้ว จะถามตรงๆ ก็ไม่ได้อีก ฉันก็ไม่ได้มาจากแผนกบุคคลของโรงพยาบาล ถ้าไม่ระวังก็ถูกจับได้น่ะสิ? นี่ไม่ใช่ว่ากำลังหาโอกาส?”
“แกเมื่อก่อนทำอะไรรวดเร็วออก ทำไม? ไม่ได้รับอิทธิพลจากฉันเลยด้อยลง? รีบไสหัวกลับมา ฉันจะสอนแกเอง”
มุมปากหลงเซียวเอียงขึ้นอย่างหยอกล้อ
คุณชายกู้ทำปากขมุบขมิบ “คิดหาทางได้แล้ว ฉันว่า ถ้าแกชอบเธอจริงแล้วแคร์เธอมากขนาดนั้น ไม่ว่าตอนนั้นจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ไม่ว่าเธอจะใช้วิธีไหน ยังไงตอนนี้ก็อยู่ด้วยกันแล้ว ไม่ดีแล้วเหรอ?”
“ไม่ได้ ฉันไม่สามารถอยู่กับเธออย่างสับสนได้ หากเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ใช่ความผิดเธอ ฉันต้องรับผิดชอบทุกอย่างในสามปีมานี้”
“ถ้าเป็นเรื่องจริงล่ะ?”
หลงเซียวเงียบไป “แกสืบดูก่อน ถ้าได้เรื่องยังไงบอกฉันด้วย”
“ได้ จะว่าไปแกกับโม่หรูเฟยเป็นอย่างไรบ้าง? ฉันเห็นโปสเตอร์ในอเมริกาเหมือนว่าโม่หรูเฟยมาจะมาโปรโมทหนังที่นิวยอร์ค
โม่หรูเฟยไปนิวยอร์ค?
หลงเซียวกลับรู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าละอายใจ
“ไม่รู้สิ ไม่อยากรู้”
“หา แกไม่สนใจเธอเลยเหรอ”
“สถานะของเธอตอนนี้ค่อนข้างพิเศษ จะทำอะไรก็ทำเลยไม่ได้ นายจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน”
“เออเออ ฉันวิ่งเต้นให้แกเอง”
หลงเซียวเคาะปลายนิ้วลงบนโต๊ะ หาโอกาสที่พลาดไป “มีวิธีไหนประกาศความสัมพันธ์ของฉันกับเธอได้บ้าง? ที่มันจะไม่กระทบต่อชื่อเสียงและชีวิตเธอ”
กู้เยนเซินเกือบอ้วกออกมา “แกอยากประกาศมีเมีย? เชี้ย สมที่เป็นหลงเซียว ผู้หญิงที่อยู่ข้างล้วนย่อมเป็นที่สนใจ อย่าพูดถึงภรรยาตัวจริงอีก ฉู่ลั่วหานต้องถูกสื่อรุมทึ้งอย่างแน่นอน อีกอย่างการใช้ชีวิตอย่างง่ายๆคงไม่สามารถสงบอีกต่อไป เรื่องนี้แกควรคิดให้ดี”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “ฉันก็กังวลเรื่องนี้”
“โธ้ย คุณรักเธอแล้วจริงๆ คุณชายหลงของพวกเราจริงใจกับคนอื่นเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? ฉันแนะนำว่าให้แกคุยกับเธอ ให้เธอได้เตรียมใจรับการออกไปข้างนอกแล้วถูกสัมภาษณ์ หรือถูกถ่ายภาพขณะช้อปปิ้ง”
ให้ตายเถอะนี่เป็นครั้งแรกที่หลงเซียวรู้สึกรำคาญสถานะของตัวเอง
“อีกอย่าง…..” ท่านเซียวจิ้มนิ้วนวดหางคิ้วของเขา “มีวิธีง่ายๆ ที่ตรวจเช็กได้ว่าในใจเธอมีฉันอยู่ไหม?”
กู้เยนเซินจะอ้วกจริงแล้ว “คุณชายหลง แกแน่ใจนะว่าแกคือผู้ชายที่แต่งงานมาสามปีแล้ว ถามเหมือนเด็กที่พึ่งเคยมีความรัก? แก…..หลงเธอเข้าแล้ว!”
“อย่ามั่ว! พูด!”
“วิธีแรก เข้าใกล้เธอ ใช้ความหน้าด้านทั้งหมดเข้าหาเธอและทำตัวติดกับเธอ..”
“วิธีที่สอง!” นี่มันวิธีบ้าอะไรกัน!
“ฮาฮา วิธีที่สองคืออ่อนโยนกับโม่หรูเฟยให้เธอหึง ถ้าเธอถึงแปลว่าเธอรู้สึกกับแก แต่ถ้าไม่มีปฏิกิริยาอะไรก็แปลว่าแกอกหักแล้วไง”
หลงเซียวเคาะนิ้วลงบนหัวเข่า ดูเหมือนว่าวิธีแรกจะเข้าท่ากว่า
“ไสหัวไปหาข้อมูล!”
“แล้วแกจะใช้วิธีไหน?”
“ฉันจะตัดสินใจเอง”