คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 411 นี่คุณ ... กระหายขนาดไหนกัน
ตอนที่ 411 นี่คุณ … กระหายขนาดไหนกัน
มันเป็นตัวเลือกที่ง่ายมาก ถ้าใครก็ตามที่มีสมองก็คงตัดสินใจไสหัวไปในทันทีหยังจื่อหยาง ได้แต่ก้มหน้าก้มตา แต่ก็ต้องพยักหน้าไปอย่างนั้นทั้งๆ ที่มันจะขัดใจตัวเองก็ตาม "ผม……ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ"
หลงเซียวถือดอกพุดซ้อนที่สวยงามไร้ที่ติไว้ในมือ แต่ใบหน้าของเขากลับเย็นชาเหมือนหิมะในหน้าหนาว เขาเปิดริมฝีปากเรียวบางของเขาและพูดประชดประชันว่า "คุณอาจไม่เข้าใจที่ผมพูด ผมบอกให้คุณไสหัวไปซะ"
หลังของหยังจื่อหยางกำลังมีเหงื่อไหลออกมา เขาเกือบจะทรุดลงบนพื้นด้วยความตกใจ สีหน้าของเขากลายเป็นสีตับหมูที่ไม่น่าดูเอาซะเลย เขาก็กลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก "คุณหลงครับ นี้ … ผม … "
ลั่วหานมองไปที่หยังจื่อหยางหนุ่มน้อยที่มักจะทำตัวเท่สมาร์ทเมื่ออยู่ต่อหน้าแฟน ๆ จากนั้นมองไปที่หลงเซียวที่กำลังทำท่าทางที่เย็นชาและน่ากลัว แล้วพูดว่า "ออกไปเถอะค่ะ"
หยังจื่อหยางไม่กล้าที่จะขยับตัว และมองไปที่หลงเซียว เขาแทบจะเห็นเงาสะท้อนของตัวเองจากภายในดวงตาของหลงเซียวเลย มันคือแววตาที่ต้องทำให้รู้สึกนับถือแบบน่าเกรงขาม เจ้าของดวงตาคู่นั้นเหมือนจะสามารถควบคุมอนาคตของเขาไว้ได้เลย
แต่ว่า……ทำไมอยู่ๆ เขาถึงมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ได้นะ? ทั้งๆ ที่ตอนนี้MBKน่าจะกำลังหารือเกี่ยวกับการร่วมมือกันอยู่นี่นา และได้ยินมาว่าหลงเซียวไม่อยู่ในเมืองหลวงด้วย
หลงเซียวยื่นแขนของเขามาโอบเอวของลั่วหานเอาไว้ “นี่ ที่รักจะปล่อยให้เขาออกไปทั้งอย่างนี้เลยเหรอครับ?”
หยังจื่อหยางได้แต่กลืนน้ำลาย ราศีของความเป็นนักแสดงในตัวเขาได้พังทลายลงตรงหน้าของหลงเซียวจนหมดแล้ว ตัวเขาในตอนนี้ดูด้อยค่ายิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไปเสียอีก
ลั่วหานซบลงบนอกของหลงเซียว “ก็ใช่สิคะ จะให้มีกขคมาอยู่แบบนี้มันดูเหมาะสมเหรอคะ?”
หลงเซียวใช้นิ้วม้วนผมของเธอเล่น แล้วขำออกมา “ภรรยาของผมพูดถูก……แต่ว่าไปที่ไหนก็มีแต่โปสเตอร์เต็มไปหมดถ้าคุณไปเห็นเข้าคงจะรู้สึกไม่สบายใจมากเลยใช่ไหมครับ? ถ้าอย่างนั้น……”
ลั่วหานคิดในใจ แย่แล้ว ความหึงหวงของคุณหลงนี่ไม่ธรรมดาเลยหยังจื่อหยางซวยแล้ว เธอจึงรีบพูดขึ้นว่า “คุณหยังเป็นคนมีชื่อเสียง ว่ากันว่าในทุกปีคุณน่าจะได้ค่าพรีเซนเตอร์ตั้งหลายล้าน คุณหยังยินดีที่จะใช้ค่าพรีเซนเตอร์มาชดเชยค่ารักษาพยาบาลไหมคะ? บริษัทของฉันมีสินค้าตัวหนึ่งที่เหมาะสมกับคุณพอดีเลยค่ะ”
หยังจื่อหยางในตอนนี้จะนั่งก็ไม่ใช่ จะยืนก็ไม่ถูก สีหน้าที่แสดงออกมานั้นค่อนข้างเขิน เลยได้แต่ขำแห้งๆ ออกมา “แน่……แน่นอนอยู่แล้วครับ ได้มีโอกาสได้เป็นพรีเซนเตอร์ให้คุณนั้นมันช่างเป็นเกียรติสำหรับผมมากเลยครับ”
“ดีมากค่ะ งั้นสิบปีต่อจากนี้หวังว่าเราจะทำงานร่วมกันอย่างมีความสุขนะคะ”
สิ สิบปี?!
เข้าใกล้เธอแค่ครั้งเดียวต้องเป็นพรีเซนเตอร์ให้เธอฟรีๆ ถึงสิบปีเลยเหรอ?!
สีหน้าของหยังจื่อหยางเกินกว่าคำว่าดูไม่ดีแล้ว “ไม่……ไม่มีปัญหาครับ”
ลั่วหานเหมือนจะคิดอะไรได้ แล้วพูดออกมาด้วยความยินดีว่า “ฉันไม่เพียงรักษาให้คุณหยังอย่างฟรีๆ ฉันยังมีกิ๊บก้างปลามอบให้คุณอีกชิ้นหนึ่ง คุณหยังคะ กิ๊บนี้แพงมากขอให้รักษามันไว้ดีๆ นะคะ”
จะไม่ให้แพงได้ยังไงหล่ะ? สิบปีหลายสิบล้านลอยหายไปเลย
“ครับ……ผม……จะรักษามันไว้เป็นอย่างดีครับ งั้นคุณหลง คุณนายหลงผมของตัวก่อนนะครับ แหะๆๆ”
แขกที่ไม่ได้รับเชิญจากไปอย่างหดหู่ใจ ตอนนี้ภายในสตูดิโอก็เหลือเพียงแค่สองสามีภรรยาแล้ว ลั่วหานจ้องเขม็งไปยังช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือเขา จากนั้นเธอก็ยิ้มออกมาอย่างเปิดเผย “นี่คุณกลับมาได้ยังไงคะเนี่ย?”
หลงเซียวหมุนแขนอีกครั้งแล้วดึงลั่วหานให้มาอยู่ระหว่างเขากับโต๊ะทำงาน ยืนขวางเธอเอาไว้ หัวเข่าของเขายันอยู่ตรงหน้าขาของเธอ หายใจเข้าออก กลิ่นหอมของดอกโคมและดอกพุดซ้อนบนตัวเขาลอยเข้ามาในจมูกของเธอ “ภรรยาของผมเกือบถูกคนอื่นรังแก แล้วจะไม่ให้ผมมาได้ยังไงหล่ะครับ?”
ลั่วหานขำออกมา “ก็ได้ค่ะ ถือว่าเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้น แล้วนี่มานานหรือยังคะ? ทำไมถึงเพิ่งเข้ามา?”
ลมหายใจที่รุนแรงของหลงเซียวยังคงกระทบอยู่บนใบหน้าของเธอ ช่อดอกไม้ที่ขวางกั้นถูกย้ายไปอยู่ด้านหลังเธอจากนั้นหน้าของเขาก็ลงมาสัมผัสกับหน้าผากของเธอ ทุกๆ การกระทำไปได้อย่างอ่อนโยนและเย้ายวนใจ
“พอได้ยินภรรยาของผมพูดว่าหัวใจเต้นเร็วมากผมก็เข้ามาเลย เหมือนคุณเคยบอกว่าการที่หัวใจเต้นเร็วเกิดจากความตื่นเต้นอันมากมาย คุณลองสัมผัสดูสิครับว่าตอนนี้หัวใจของผมกำลังเต้นเร็วกว่าปกติอยู่หรือเปล่า?”
ลั่วหานรับรู้ได้ถึงความเอาแต่ใจของเขา ร่างกายที่ผอมบางพยายามขยับตัว “เดียวมีคนเห็น นี่มันสถานีโทรทัศน์นะคะ”
หลงเซียวไม่ได้สนใจ เขายังคงทำตัวเอาแต่ใจอยู่อย่างนั้น “คุณเจอหน้าผมแล้วรู้สึกตื่นเต้นบ้างไหมครับ?”
ระหว่างที่พูดมือใหญ่ๆ ของเขาก็ค่อยๆเลื่อนเข้าหาหัวใจของเธอ นิ้วมือที่เรียวงามของเขาสัมผัสเข้าที่กระเป๋าเสื้อกาวที่เธอใส่อยู่___
ตึกตึกตึก………
แล้วหัวใจของเธอก็เต้นเร็วขึ้นจริงๆ ก่อนหน้านี้ที่เขาโผล่มาอย่างไม่ทันตั้งตัวนั้นมันทำให้เธอตื่นเต้นก็จริง แต่การที่ต้องมาเผชิญหน้ากับการหยอกล้อของเขาแบบนี้ยิ่งทำให้เธอยากที่จะหนี ไม่เพียงแค่หัวใจเต้นเร็วแต่ร่างกายก็เริ่มสั่นแล้ว
“คุณหลงเซียวนี่คุณหิวกระหายเกินไปไหมคะ?”
“นี่เป็นเพราะผมแสดงออกมากไปคุณถึงสังเกตเห็นไปใช่ไหมครับ? ผมควรให้รางวัลที่ในที่สุดคุณก็สังเกตเห็นจนได้หรือควรลงโทษคุณที่รู้ตัวช้าเกินไปดีครับ?”
พอหลงเซียวพูดจบเขาก็กัดเข้าไปที่ริมฝีปากของเธอ กัดกินลิปสติกสีชมพูที่ทาอยู่บนปากของเธอ ค่อยๆ ลบเลือนเครื่องสำอางให้ออกจากริมฝีปากของเธอ
หลังของลั่วหานแนบชิดอยู่กับโพเดียม เบื้องหน้าของเธอถูกเขากระทำจนรุ่มร้อนไปหมดแล้ว ถ้ายังเป็นอย่างนี้ต่อไปภาพในห้องส่งแห่งนี้ต้องถูกถ่ายทอดสดออกไปจริงๆ แน่
โชคดีที่ในที่สุดเขาก็ยอมปล่อยเธอออกแล้ว “คุณชอบไหมครับ?”
สายตาที่แหลมคมของลั่วหานหรี่เล็กลง “นี่คุณหลงไปอยู่เมืองเจียงเฉิงมากี่วันแล้วได้ฝึกอะไรมาเนี่ย? ไปเรียนเอาใจสาวมาใช่ไหมคะ?”
หลงเซียวดีดจมูกของเธอเล่น “แล้วผลที่เรียนมาเป็นยังไงบ้างหล่ะครับ? ไม่ทราบว่าคุณภรรยาจะให้คะแนนผมเท่าไหร่ครับ?”
“ศูนย์คะแนนค่ะ?” ทำท่าทำทางเหมือนจะโกรธ แต่ก็เคลิบเคลิ้มไปกับการคุกคามของเขาไปแล้ว
“หือ?” หลงเซียวขมวดคิ้ว “ทำไมถึงได้ศูนย์คะแนนครับ? ดูท่าผมคงต้องสอบแก้ซะแล้ว” ว่าแล้วเขาก็เข้าประชิดเธออีกครั้ง เคลื่อนไหวด้วยความนุ่มนวล หมุนวนด้วยความหวานซึ้ง……
ลั่วหาน “……”
อสุจิขึ้นสมองแล้วมั้ง? กลับมาถึงก็ทำตัวเกเรเลยนะ
“พอแล้วพอแล้ว ครั้งนี้ให้คะแนนเต็มค่ะ คะแนนเต็ม!” ลั่วหานดันอกที่แข็งแรงของเขาออก เธอกลัวใครจะมาเห็นเข้าจริงๆ
หลงเซียวยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ โอบเอวเธอเอาไว้แล้วจูบลงไปเป็นครั้งที่สาม ครั้งนี้มันดูลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม ดูเร้าใจยิ่งกว่าเก่า
ลั่วหาน “……นี่ๆ ฉันบอกว่าคะแนนเต็มแล้วไงคะ คุณหลง!”
หลงเซียวปลดปล่อยริมฝีปากของเธอออก เหมือนริมฝีปากจะบวมขึ้นมานิดหน่อย สีชมพูเงางาม ดูสวยงามกว่าทาลิปสติกเสียอีก “ในเมื่อคุณภรรยาให้คะแนนผมสูงขนาดนี้ แสดงว่าคุณคงเคลิบเคลิ้มกับการจูบผม ผมดีใจที่ทำให้ภรรยามีความสุขครับ”
โอเค! ไม่ว่ายังไงเขาก็ถูก เธอไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้เขาเลย
หลังการจูบที่ร้อนแรง หลงเซียวก็มอบดอกไม้ให้เธอ “ขอให้การเปิดตัวครั้งแรกของคุณประสบความสำเร็จมากๆ นะครับ”
พอรับช่อดอกไม้มาลั่วหานก็ยกมันขึ้นมาดม “หอมมากเลย ขอบคุณค่ะ”
“ดอกไม้หรือผมที่หอมครับ?”
“……” เรื่องอย่างนี้ยังจะเอามาเปรียบเทียบอีกเหรอเนี่ย?
“มันก็หอมทั้งคู่แหละค่ะ……” หลังเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ลั่วหานก็ตัดสินใจตอบแบบเป็นกลางดีกว่า!
หลงเซียวขำออกมาอย่างชอบใจ นัยน์ตาสีดำของเขาขยับเข้าใกล้ดวงตาของเธออีกครั้ง “ผมไม่ได้แค่หอมแต่ยังอร่อยมากอีกด้วย”
ลั่วหานอุ้มช่อดอกไม้แล้วเดินจากไป ไม่ต่อล้อต่อเถียงกับหลงเซียวอีกแล้ว หลงเซียวก็เดินตามหลังเธอมา ยิ้มๆ แต่ไม่พูดอะไร
พอลงบันไดมา จี้ตงหมิงก็ได้รออยู่แล้ว ต้อนรับทั้งคู่ขึ้นรถ จากนั้นก็ถามขึ้นว่า “ท่านประทานครับ ไม่ทราบว่าจะให้ไปส่งที่ไหนครับ?”
ลั่วหานดูนาฬิกา นี่มันสี่โมงเย็นแล้ว “คุณจะลองไปดูที่บริษัทหน่อยไหมคะ?”
“ไม่ครับ” แล้วหันไปมองลั่วหานที่อุ้มช่อดอกไม้อยู่ “ไม่ทราบว่าคุณภรรยาอยากไปไหนครับ? มีจะบินไปเมืองเจียงเฉิงตอนหกโมงเย็น ตอนนี้เรายังมีเวลาเหลืออีกประมาณชั่วโมงกว่าๆ ครับ”
“อะไรนะ?!! ยังต้องกลับไปอีกเหรอคะ? แถมยังเร่งมากอีกด้วย?!”
หลงเซียวพยักหน้า “คืนนี้ผมมีประชุมอีกที จึงยังไปต้องกลับไปอีกครับ”
ความรู้สึกดีอกดีใจที่มีเมื่อกี้ก็ต้องพังทลายลงอีกครั้ง นึกว่าเขาสามารถอยู่ต่อได้ซะอีก พอคิดว่าอีกหนึ่งชั่วโมงต้องจากกันอีกในใจก็รู้สึกเหว่ว้าขึ้นมา
“งั้นเราไปแถวๆ สนามบินก็ได้ค่ะ จากที่นี่ไปสนามบินตั้งครึ่งชั่วโมงแหนะ เดี๋ยวฉันไปส่งคุณเอง เราไปหาอะไรกินแถวนั้นดีไหมคะ?”
“ได้ครับ”
รถวิ่งออกไป มือของลั่วหานยื่นมาจับมือของหลงเซียว จากนั้นเธอก็พูดขึ้นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยว่า “ตอนอยู่ที่เมืองเจียงเฉิงคุณไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองใช่ไหมคะ? สีหน้าดูไม่ค่อยสู้ดีเลย”
หลงเซียวกุมมือเธอเอาไว้ จากนั้นก็ค่อยๆ ประสานมือเข้ากับเธอ “ครับ ไม่ดีเท่าไหร่ โบราณว่าไว้เพื่อคนที่เรารักแล้วแม้ต้องลำบากก็ยินดี ผมว่าน่าจะเป็นเพราะเหตุผลนี้นะครับ”
ลั่วหานขำออกมา แล้วใช้กำปั้นทุบลงที่หน้าอกของเขาเบาๆ “ปากหวานจังเลยนะคะ อีกชั่วโมงก็ต้องบินแล้ว ยังจะมาพูดปลอบฉันอีกทำไม?”
หลงเซียวทำหน้าอาลัยอาวรณ์ ลดเสียงต่ำลงแล้วยื่นหน้าเข้าใกล้ใบหูของเธอ “เป็นเพราะว่าทำอะไรไม่ได้เลยต้องปลอบ แต่ถ้าสามารถทำได้ละก็……ผมก็คงไม่ต้องพูดมากแบบนี้แล้วครับ”
ลั่วหานเงื้อมช่อดอกไม้ขึ้นมาหวังจะฟาดเขา แต่กลับถูกเขาดึงเข้าไปกอดไว้ทั้งคนทั้งดอก “รอผมอีกหน่อยนะครับ พอเสร็จเรื่องทางนั้นแล้วผมจะรีบกลับมาทันที”
“ค่ะ คุณทำงานไปเถอะ ฉันโตขนาดนี้แล้วดูแลตัวเองได้ค่ะ”
“แล้วคุณไม่กลัวว่าผมจะดูแลตัวเองไม่ดีเหรอครับ?”
“ฮึ!”
เขายิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่แล้ว
“คุณมีผู้ช่วยเลขาอยู่รอบตัวตั้งเยอะ ยังดูแลคุณไม่ดีอีกเหรอคะ?”
หลงเซียวจูบลงบนหน้าผากเธอด้วยความรักใคร่ “เรื่องบางเรื่องเลขาผู้ช่วยก็ช่วยดูแลให้ไม่ได้นะครับ”
แววตาที่เป็นประกายเหมือนหยดน้ำของลั่วหาน งดงามจนน่าหลงใหล “พูดซะน่าสงสารขนาดนี้ เดี๋ยวฉันซื้อตุ๊กตายางให้สักตัวดีไหมคะ?”
หลงเซียวกระซิบข้างหู “ตุ๊กตาหน่ะได้ แต่ไม่เอาแบบเติมลม ผมชอบตุ๊กตาที่ต้องกินนม ร้องไห้โวยวาย และเรียกผมว่าพ่อด้วย”
นี่ไม่เท่ากับพูดมาตรงๆ ว่าอยากมีลูกเหรอ?
“เวลาการผลิตค่อนข้างนาน คุณลูกค้าต้องรอถึงสิบเดือนเลยนะคะ”
“แต่ผมรอมาตั้งห้าปีแล้วนะครับ”
“……” โอเค แพ้แล้ว
รถขับมาถึงแถวสนามบิน ทั้งคู่ลงจากรถแล้วเดินเข้าร้านอาหารแถวนั้นไป ร้านกาแฟที่อยู่ใกล้เคียงสนามบินได้ตั้งราคาไว้ค่อนข้างสูง ลูกค้าส่วนมากจึงถูกคัดกรองออกไป ดังนั้นในร้านจึงมีคนอยู่เพียงน้อยนิด
เลือกที่นั่งติดหน้าต่าง สั่งกาแฟที่ตัวเองต้องการดื่มและอาหารหลักอีกนิดหน่อย ตอนนี้เหลือเวลาอีกแค่ครึ่งชั่วโมงแล้วลั่วหานตักข้าวใส่จานของหลงเซียวครั้งแล้วครั้งเล่า “คุณกินเยอะๆ เดี๋ยวก็ออกเดินทางแล้วไหนยังต้องประชุมอีก คงไม่มีเวลามานั่งกินข้าวแล้ว อาหารบนเครื่องก็แย่มาก ดังนั้นมื้อนี้ต้องกินให้เยอะๆ เลย”
หลงเซียวกินไม่ทันแล้ว ตอนนี้ในจานของเขามีภูเขาขนาดย่อมๆ ตั้งอยู่ หลงเซียวจับตะเกียบไว้ในมือแล้วมองไปยังลั่วหานที่กำลังดูเร่งรีบอยู่อีกฟากของโต๊ะอาหาร “คุณครับ คุณทำแบบนี้มันจะทำให้ผมไม่อยากไปนะครับ”
“คุณหลงคะ อย่ามาทำตัวเป็นเด็กๆ นะ”
หลงเซียวคลายคิ้วที่ขมวดออก “ผมอยากพาคุณไปด้วย”
ลั่วหานเอามือกุมแก้มแล้วมองเขา “แต่ฉันไม่ได้พกบัตรประชาชนมาด้วย ขึ้นเครื่องไม่ได้หรอกค่ะ”
“แต่ผมสามารถเอาคุณแพ็กใส่กระเป๋าไปได้นะครับ”
“ในกระเป๋าเขาห้ามพกสิ่งมีชีวิตค่ะ”
หลงเซียวป้อนบรอกโคลีชิ้นหนึ่งให้เธอ “เด็กโง่”
ในขณะที่กำลังเคี้ยวผักที่เขาป้อนให้ ในใจของลั่วหานก็รู้สึกอบอุ่น รู้สึกหวานแหวว “จริงสิ ฉันได้ยินหวังเค่ยบอกว่าคุณจะพัฒนาบริษัทที่เพิ่งซื้อกิจการมาให้เป็นบริษัทการเงินใช่ไหมคะ? ฉันพอมีเงินหมุนเวียนอยู่ในมือที่สามารถนำไปช่วยได้ลงบันทึกไปในบัญชีของบริษัทไว้ก็ได้ค่ะ หลุมของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปนี่ลึกน่าดูเลยนะคะ”
การแสดงออกอย่างจริงจังกับเรื่องเงินของลั่วหานทำเอาหลงเซียวที่เห็นเข้าถึงกับต้องขำออกมาเลย “แล้วคุณคิดจะร่วมหุ้นเท่าไหร่ครับ?”
“เงินหมุนเวียนที่สามารถใช้ได้มีไม่น้อยเลย ฉันแค่อยากจะอุดรอยรั่วคงไม่เป็นปัญหาอะไรมั้ง เดี๋ยวฉันจะให้ไป๋เวยลงบัญชีให้อีกทีค่ะ”
หลงเซียวส่ายหน้า แล้วพูดขึ้นว่า “ผมไม่ได้ขัดสนเรื่องเงินไง คุณลองไปลงทุนด้วยวิธีอื่นดีไหมครับ”