คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 41 คนของผม ผมปกป้องเอง
ตอนที่ 41 คนของผม ผมปกป้องเอง
ฉู่ลั่วหานเปลี่ยนสายตาและอารมณ์ของเธอจากหลงเซียวไปที่ถังจิ้นเหยียน วินาทีที่เขามาถึง เธอก็รู้ว่าเธอได้รับความรอด
เมื่อเห็นคนดูแลโรงพยาบาลมา หลงเซียวอุ้มโม่หรูเฟยไปอีกฟากหนึ่งของหน้าประตูลิฟต์
เขาคิดว่า เขาสามารถรอถึงคำขอความช่วยเหลือจากเธอ คิดไม่ถึงว่า เธอยอมที่จะให้ผู้คนมารุมล้อม ก็ไม่ยอมอ่อนข้อให้
แต่เธอแม้แต่ท่าทีที่อยากรู้จักเขาก็ไม่มี เหมือนกับคนแปลกหน้า ไม่ แม้แต่คนแปลกหน้ายังเทียบไม่ติด
เขากำลังรอคอย คิดว่าเธอจะดึงเขาไว้ บอกให้กับนักข่าวตรงๆ ฉันมีสามี เขาอยู่ที่นี่!
เช่นนั้น เขากดอารมณ์โมโหทุกอย่างไว้เพื่อช่วยชีวิตเธอหนึ่งครั้ง
ผู้หญิงของเขา เขาสามารถรังแกได้ คนอื่น ไม่ได้!เป็นแค่นักข่าวเล็กๆ ยิ่งไม่ได้!
แต่เธอไม่เลย เธอใช้การเงียบต่อต้านทุกสิ่ง ไม่เผยความหวาดกลัวหรือความอ่อนแอแม้แต่น้อย
ฉู่ลั่วหาน ไม่ต้องการเขา
โลกของเธอ สามารถยอมรับผู้ชายที่น่าเกลียดเข้ามาคนแล้วคนเล่า แต่ไม่สามารถยอมรับแค่เขาคนเดียว
เธอเลือกทางเอง งั้นก็ให้เธอไปเดินเองละกัน!ไม่มีการร่วมทางของเขา เธอจะเดินไปยังไง รอดูแล้วกัน
แวบแรกถังจิ้นเหยียนก็เห็นฉู่ลั่วหาน จากนั้นก็เห็นหลงเซียว
ที่จอดรถถูกล้อมรอบไปด้วยนักข่าวและในขณะนี้ถูกรุมล้อมอีกครั้ง ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา
เช่นนั้น สิ่งต่างๆก็ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ถังจิ้นเหยียนไม่ได้ใส่แบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่สามารถพิสูจน์ตัวตนของเขาได้ แต่เมื่อมองดูสถานการณ์ตัวตนของเขา สถานะก็ไม่ได้ดูต่ำเกินไป
นักข่าวจำต้องตรวจเช็ดสีหน้าก่อน "คุณเป็นใคร?"
แขนที่ยาวของถังจิ้นเหยียน ข้ามผ่านผู้คนจากนั้นปกป้องฉู่ลั่วหานไว้ที่ด้านหลังของตนเอง ความปรารถนาอันแรงกล้าที่อยากปกป้อง ทำให้ผู้คนต่างตกตะลึง
สายตาของท่านเซียวเก็บทุกรายละเอียดไว้ ดังนั้น เขาเป็นหมอคนนั้นเหรอ?
ดวงตาที่ราวกับหัวแร้งกดต่ำลงไปอีกนิด เห็นผู้ชายจับมือเธอกะทันหัน!
สมควรตายจริง!
“ผมเป็นคนที่สามารถตอบทุกคำถามของพวกคุณ!”
ขาหนึ่งข้างของหลงเซียวก้าวเข้าไปในลิฟต์
คำพูดของถังจิ้นเหยียนพูดออกมา
ประตูลิฟต์ถูกปิด หลงเซียวโอบกอดโม่หรูเฟยไว้โดยไม่พูดสักคำ เตรียมตัวไปห้องคนป่วย VIP
นิ้วมือของโม่หรูเฟยดึงคอเสื้อของเขาไว้ ดูน่าสงสาร “พี่หลงเซียว ฉันกลัวจังเลย ฉันกลัวว่าเธอจะทำเรื่องที่ทำร้ายลูก….. พี่เซียว ฉันสู้เธอไม่ได้ ไม่ก็ พวกเราเปลี่ยนโรงพยาบาลกันเถอะ?”
“ไม่ต้องหรอก เธอไม่กล้าทำอะไรคุณหรอก “ผู้ชาย น้ำเสียงเย็นชาเหมือนเกล็ดน้ำแข็ง
ดวงตาของโม่หรูเฟยบีบน้ำตาออกมาไม่กี่หยด”พี่เซียว ฉันคิดไม่ถึงจริงๆว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ เมื่อก่อนความสัมพันธ์ของฉันกับเธอ ดีขนาดนั้น เธอกลับทำแบบนั้น….. พี่เซียวคุณอยู่กับฉันที่โรงพยาบาลหน่อยนะ?ถ้าหากฉันอยู่ที่นี่คนเดียว แล้วมีนักข่าวมา….. ”
“ได้ “
ก็ยังคงเป็นเสียงที่เย็นชา
แต่ว่า เพียงพอแล้ว
สิ่งที่เธอรักก็เป็นผลแบบนี้
โม่หรูเฟยซบหน้าเข้าไปในไหล่และแขนของเขา ปากที่แดงยิ้ม
เธอต้องขอบคุณเด็กในท้องนี้ เธอต้องปกป้องดูแลเด็กคนนี้ให้ดี
ในระเบียงทางเดิน ฉู่ลั่วหานกับถังจิ้นเหยียนก็ยังคงถูกนักข่าวรุมล้อม
“ในเมื่อคุณเป็นคนดูแลโรงพยาบาลนี้ รบกวนคุณอธิบายให้ชัดเจน คุณหมอฉู่ลั่วหานให้ยาคนท้องที่ทำร้ายเด็กทารก ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายใช่ไหม?และ ต้องถูกไล่ออกจากโรงพยาบาล?”
ถังจิ้นเหยียนแม้แต่รอยยิ้มมารยาทก็ไม่ยิ้มให้เขา พูดด้วยใบหน้าบึ้งตึง “ไม่ว่าจะมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายในยาหรือไม่ จำเป็นต้องตรวจสอบก่อนจึงจะทราบ นอกจากนี้ ต้องตรวจสอบด้วยว่าผู้ป่วยมีสารตกค้างในร่างกายเดียวกันหรือไม่”
เขาพูดอย่างราบรื่น ไม่มีความรู้สึกกลัว และออร่าที่แข็งแกร่งที่เผยออกมา ทำให้คนอื่นรู้สึกวางใจ
“อย่างไรก็ตามคุณโม่หรูเฟยได้รับบาดเจ็บจากการทานยาตามที่ฉู่ลั่วหาน เห็นจากความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ของทั้งสอง…..ฉู่ลั่วหานมีแรงจูงใจที่ชัดเจนสำหรับการฆ่าเธอ”
หา!แม้แต่คำว่าฆ่าคนก็โผล่ออกมาแล้ว
ถังจิ้นเหยียนก็ยังคงปกป้องเธอไว้ที่บริเวณของเขา สายตาของเขาดุร้าย “ฆ่าคน?คุณผู้ชาย คำพูดนี้ของคุณ ผมมีสิทธิ์ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทและใส่ร้าย คุณได้โปรดระวังการใช้ภาษาของคุณด้วย”
นักข่าว “………. ”
“ไม่ว่าเป็นเพราะแพทย์ของเราใช้ยาผิดโดยไม่ตั้งใจ หรือผู้ป่วยรับประทานอาหารที่ขัดกับยาโดยที่รู้ไม่เท่าทัน ยังคงต้องตรวจสอบให้ชัดก่อน แต่ทุกท่านสามารถวางใจได้ เมื่อสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นในโรงพยาบาลของเรา เราจะทุ่มสุดแรงในการสืบหาความจริง แล้วเปิดเผยให้ทุกท่านได้รับทราบ ทุกท่านรอฟังข่าวก็พอแล้ว”
เขาพูดอย่างสบายๆ เพียงไม่กี่คำก็สามารถทำลายการไล่ถามของนักข่าว สำหรับนิสัยของฉู่ลั่วหาน เขาไม่เชื่อเธอจะทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้ ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีโอกาสทำ แต่เธอไม่ลดตัวไปทำแบบนี้
ฉู่ลั่วหานเป็นคนยังไง ในเรื่องเล็กๆก็สามารถเห็นนิสัยใจคอของคนคนนั้นได้
และคนที่ชื่อโม่หรูเฟย ตอนเขาอยู่ที่เมืองนอก เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้ แต่เมื่อวันนี้ได้ยินข่าวคราว ก็แค่คนธรรมดา!
ฉู่ลั่วหานยกตาขึ้น ใต้ตามีความรู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อย แต่สักพักก็ได้ก้มลงไป
“งั้น คุณมีความคิดเห็นและคุณจะอธิบายยังไงเกี่ยวกับเรื่องที่มีหมอของโรงพยาบาลของคุณหยอดล้อคำหวานกับผู้ชายแปลกหน้าในเวลาทำงาน?”
“ใช่ๆ!เรื่องที่เลวร้ายแบบนี้!เธอจะแก้ตัวยังไง?!”
ฉู่ลั่วหานกัดฟัน เธออยากเอ่ยปากถังจิ้นเหยียนดึงข้อมือของเธอไว้
“หยอดคำหวาน?ผมเห็นแค่หมอในโรงพยาบาลของพวกเราทำงานอย่างหนักในห้องทำงาน เพื่อนของเธอ หรือแฟนของเธอ ส่งอาหารดึกให้เธอ ทำไม?อาหารที่เต็มด้วยความรัก กลับส่งมอบการด่าทอแบบนี้ออกมาเหรอ ถ้าข่าวนี้ถูกปล่อยออกไป ต่อไปคงไม่มีใครกล้าส่งอาหารให้คนรักของตนในที่ทำงานแล้วมั้ง?”
คำพูดของเขา พูดได้อ่อนโยนและกินใจคน เหมือนลมพัดและกวาดฝุ่นบนตัวเธอออกจนหมด เขาไม่โกรธ ไม่วู่วาม น้ำเสียงดูใจกว้าง ไม่รู้สึกไม่เหมาะสมเลย
“คุณเป็นใครกัน?คุณปกป้องเธอขนาดนี้ เป็นเพื่อนร่วมงานของเธอจริงหรือ?หัวหน้า แค่นี้เองเหรอ?”
ในที่สุดสีหน้าของถังจิ้นเหยียนก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ใช่ เขาหัวเราะ จากรอยยิ้มเย็นชาที่ยิ้มให้นักข่าวและรอยยิ้มอบอุ่นที่ยิ้มให้เธอ การเปลี่ยนแปลงนี้ใช้แค่วินาทีเดียว
“เช่นนั้นก็หมายความว่าคุณไม่โชคดีเหมือนคนในโรงพยาบาลเรา ที่มีเพื่อนร่วมงาน หัวหน้าดีๆแบบนี้ อีกอย่าง ผมจะทุ่มสุดแรงปกป้องคนของผม ข่าวต่างๆที่จงใจใส่ร้าย ถ้าพรุ่งนี้ก่อนเที่ยงยังไม่ลบออกอีก ผมจะให้กฎหมายมารักษาสิทธิของตนเอง”
เขาพูด คนของผม…..
คำพูดนั้นกำกวม!
เหล่านักข่าวพ่ายแพ้ให้กับคำพูดของถังจิ้นเหยียน….. ไม่มีใครกล้าเสียมารยาทอีกแม้แต่คำเดียว
คนที่รอดูความสนุก กลับไปอย่างเสียอารมณ์ สีหน้าที่ตึงเครียดของฉู่ลั่วหานคลี่คลายลง
ในลิฟต์ ฉู่ลั่วหานพูดอย่างมีมารยาท “เมื่อกี้ขอบคุณมากนะ”
คนด้านหลังของถังจิ้นเหยียนก็รู้จักกาลเทศะ เหลือลิฟต์ไว้ให้พวกเขาสองคน และเป็นพื้นที่ปิดแน่นความรู้สึกของเธอได้เปลี่ยนไป
ความรู้สึกของเขา ก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว
“ถ้าอยากขอบคุณผมจริงๆ ก็อย่าทำหน้าเหมือนผมติดหนี้คุณ เรื่องมันก็ได้แก้ไขแล้ว อารมณ์ยังไม่ดีอีกเหรอ?”
ฉู่ลั่วหานหัวเราะออกมา “คิดไม่ถึงว่าคนอ่อนโยนอย่างรองคณบดีเมื่อเผชิญกับพวกนักข่าว จะเก่งกาจขนาดนี้”
พูดเก่งแบบนั้น เคยไปแข่งพูดมาแล้วกี่ครั้งจึงสามารถพูดได้แบบนี้?
ถังจิ้นเหยียนมองดูมือขวาตนเองที่เมื่อกี้ได้จับมือเธอ ยิ้ม “ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน ว่าผมจะสามารถพูดได้แบบนี้ คุณเคยทำวิจัยวิชาชีววิทยาไหม?นกอินทรีบางครั้งสามารถต่อสู้กับหมาป่าในขณะที่ปกป้องลูกนกอินทรี”
เอิ่ม…..เหมือนการเปรียบเทียบนี้รู้สึกแปลกๆนะ
ครั้งนี้ฉู่ลั่วหานขำกับคำพูดเขาจริงๆ “เข้าใจแล้ว เป็นเพราะความรักของแม่จากตัวรองคณบดีพุ่งออกมา ขอคุณแม่อินทรีมาก ลูกอินทรีรู้แล้ว”
ถังจิ้นเหยียนเอานิ้วที่เล็กยาวของเขานวดกลางคิ้ว ผิดแผนแล้ว!
“ใช่แล้ว ผมสามารถถามคำถามหนึ่งได้ไหม? คุณกับหลงเซียวเป็นอะไรกันแน่ เมื่อกี้สายตาที่เขามองคุณ…..รู้สึกพิเศษนะ”
นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเอ่ยถาม เธอกลับตอบอย่างไม่ตั้งใจเหมือนเดิม
“ไม่ได้เป็นอะไรกัน “
ดูแล้ว เขาเดาถูก สามีที่ไม่รู้ว่าเป็นใครของฉู่ลั่วหานก็คือหลงเซียว
สามีฉู่ลั่วหาน เป็นคนที่จัดการยากแบบนี้ ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้วอีกครั้ง ความยากมากกว่าเดิม คนอย่างหลงเซียว ไม่ธรรมดา
“ดูจากสภาพ ผมคงต้องแก้ไขแผนใหม่แล้ว “เหมือนเขากำลังพูดกับตนเอง
“แผนอะไร?”
“เอิ่ม…..แผนขุดค้นเก่งมาที่ทีมเรา”
“………. ”
เพื่อหาหลักฐานยืนยันว่าฉู่ลั่วหานไม่ได้ทำผิด ในฐานะรองคณบดีสั่งการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับยาบำรุงในเลือดที่เธอได้ทาน และขอให้ตรวจสอบเลือดและปัสสาวะของโม่หรูเฟย
เมื่อโม่หรูเฟยได้ยินว่าจะตรวจ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ปฏิเสธทันที
หลงเซียวยืนอยู่ข้างเตียง หมอที่รับผิดชอบมาสุ่มกลุ่มตัวอย่างไม่กล้าบังคับเธอ
“คุณหลงเซียว เรื่องมันเกี่ยวโยงถึงชื่อเสียงการเป็นอยู่ของคุณหมอเรา หวังว่าคุณจะให้คุณโม่หรูเฟยให้ความร่วมมือด้วยนะ”
“ฉันไม่ตรวจ !นี่มันเป็นการสร้างความอัปยศให้แก่ฉัน พี่หลงเซียว ให้พวกเขาออกไป!”
หลงเซียวก้มหน้ามองเธอ “เจาะเลือดทำการตรวจเช็ด คุณควรให้ความร่วมมือ”
โม่หรูเฟยร้องไห้ฟูมฟาย “ฉันไม่!คุณไม่เชื่อใจฉันเลยเหรอ!คุณให้ฉู่ลั่วหานมาพูดกันให้รู้เรื่อง!คุณลองถามเธอดูว่าเธอมีใจที่อยากฆ่าฉันหรือไม่!”
เธอทั้งร้องทั้งโวยวาย หมอไม่รู้จะทำยังไงดี จึงเลือกถอยออกไป
หลังจากที่หมอจากไป หลงเซียวกดมือที่ดิ้นรนของโม่หรูเฟยไว้ “คุณยังไม่ยอมพูดความจริงอีกเหรอ?”
โม่หรูเฟยเบิกตากว้าง มองดูเขาด้วยความไม่สบายใจ หลบสายตาไป “คำพูดนี้ของพี่หลงเซียวหมายความว่าไง?”
หลงเซียวสะบัดมือของเธอทิ้ง “งั้นก็คิดทบทวนดีๆที่นี่ก่อนนะ.” หันหลังกลับไปแล้วเดินออกไปจากห้อง ขณะเดียวกันเขาโทรให้จี้ตงหมิง “ส่งคนมาจับตาดูเธอไว้ ”
“ครับ เจ้านาย นักข่าวเมื่อกี้ เจ้านายจะจัดการยังไง?”
“เหลือของไว้ ปล่อยคนไป “
ฟังจากน้ำเสียง ไม่ได้ปล่อยไปง่ายๆแบบนี้ ในใจจี้ตงหมิงรู้ดี มีคนจะซวยแล้ว
“ครับ เจ้านาย งั้น….. ฝั่งคุณผู้หญิง ให้ผมไปดูหน่อยไหม?เกิดเรื่องแบบนี้คุณผู้หญิงคง ”
“จี้ตงหมิงคุณทำแค่เรื่องที่คุณควรทำก็พอแล้ว!”
จี้ตงหมิงที่อยู่อีกฝั่ง ไม่กล้าตัดสินใจเอง แต่ในใจเขารู้สึกว่า เรื่องนี้คนที่ได้รับผลกระทบที่สุด ก็คือคุณผู้หญิง
เจ้านายไม่ถามไถ่อะไรเลย เขาดูแล้วรู้สึกสงสาร
“หาคนลบโพสต์ในเวทีสนทนา "ก่อนที่เขาจะวางสาย เขาสั่ง และเพิ่มประโยคอื่น" บล็อกบัญชีของเขา "
“ครับ!เจ้านายวางใจ “
หลังจากฟังคำสั่งเสร็จ หลงเซียวเดินออกไปหน้าประตูโรงพยาบาล เขานั่งอยู่ในรถโรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์ด้วยอารมณ์ที่ย่ำแย่ หมัดทุบไปสุดแรงที่พวงมาลัยรถ
เมื่อคิดถึงภาพที่มีหมอผู้ชายปกป้องฉู่ลั่วหานไว้ด้านหลังของเขา ในใจของเขาก็มีไฟลุกไหม้!
สิ่งที่น่าโมโหกว่านั้น เธอกลับให้เขากอดเธอไว้แบบนั้น ไม่มีแม้แต่ดิ้นรน!
หลงเซียวโมโหมาก เขาอยากถามให้เข้าทั้งหมด ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร!เป็นอะไรกับเธอ!
ใช่หรือไม่ เป็นผู้ชายบนเว็บ เป็นเขา!ใช่หรือไม่ ผู้ชายที่หลงยี่เคยเอ่ยถึง!
ดีที่สุดคือ ความจริงไม่ใช่แบบที่เขาคิดไว้!
เพราะว่าหลงเซียวที่เกรี้ยวกราด ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาก็ทำออกมาได้หมด!