คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 39 อ้อมกอดที่แข็งแรงและอบอุ่น
ตอนที่ 39 อ้อมกอดที่แข็งแรงและอบอุ่น
ทำไมถึงเป็นเขา?
บนหน้าจอที่แสดงผล ใบหน้าที่คาดหวังของหลงจื๋อยืนไว้หน้าประตู ไม่รู้ว่ามีเรื่องดีอะไร หลงจื๋อในตอนนั้นยิ้มดีใจ
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้ว “คุณเรียกเขามาหรอ?”
หลงเซียวเชอะเสียงเยือกเย็น “ไม่ไปเปิดประตูหล่ะ?”
ในใจของท่านเซียวแอบแฝงความสงสัยอยู่เล็กน้อย
ประตูเพิ่งเปิดออก เสียงหัวเราะของหลงจื๋อก็ดังขึ้นไปจากชั้นหนึ่งจนถึงชั้นสอง “พี่สะใภ้ พี่ใหญ่ไปดูงานข้างนอกไม่อยู่บ้าน พี่นี่ก็ตื่นเช้านะครับ!”
ฉู่ลั่วหานอยากจะบอกเขาว่าหลงเซียวอยู่ชั้นบน แต่เธอยังไม่ทันพูดหลงจื๋อก็นั่งลงไปบนโซฟาแล้ว กระดกเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาเล่น “กระเป๋าใบใหม่ของพี่สวยดีนะ รุ่นใหม่ล่าสุด ก็เพิ่งวางขายที่ยุโรป”
“ไม่ใช่…”
“พี่สะใภ้! อาหารเช้าแบบวันนั้น ขออีกสักชุดสิครับ! ผมยังไม่ได้กินข้าว ก็เลยตั้งใจมากินอาหารฝีมือพี่นี่แหละ”
ฉู่ลั่วหานอารมณ์หงุดหงิดอยู่ เลยตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงไม่ดีว่า “หลงจื๋อ ฉันเพิ่งเลิกงาน ไม่มีแรงทำอาหาร นายกลับไปเถอะ”
หลงจื๋อหันข้างมาทำตัวออดอ้อน “พี่สะใภ้ ผมชวนพี่ไปกินข้าวพี่ก็ไม่ไป ทีหมอผู้ชายคนนั้นกลับดูสนิทสนมกัน ไม่ต้องพูดมากอะไรก็ตอบตกลงแล้ว ผมอุตส่าห์มาขอกินข้าวถึงที่ พี่ยังไม่ให้หน้าผมบ้างหรอครับ?”
“หลงจื๋อ!”
“เสี่ยวจื๋อ”
เสียงเรียกของทั้งสองคนก็ดังขึ้นพร้อมกัน หลงจื๋อเห็นพี่ใหญ่ยืนอยู่บนบันไดของชั้นสองสีหน้าก็เปลี่ยนไปกะทันหัน เขาลุกขึ้นยืนจากโซฟา พยายามยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ “พี่ใหญ่ พี่อยู่บ้านหรอ ไม่ใช่ว่าไปดูงานหรอครับ?”
ซวยแล้ว คำที่เขาพูดเมื่อกี้ เขาจะต้องได้ยินไปแล้วบ้างแน่ๆ
สีหน้าของหลงเซียวไม่ได้เปลี่ยนไปมาก เหมือนกับว่าไม่ได้ยินอย่างไงอย่างงั้นเลย พูดแค่น้ำเสียงที่เย็นชาว่า “กลับไป”
หลงจื๋อหัวเราะแหะๆ “พี่ใหญ่ ผมเพิ่งมาถึงพี่ก็จะไล่ผมกลับแล้วหรอครับ?”
“กลับไป!”
หลงจื๋อก้มหัวแล้วเดินออกบ้านไปอย่างสลดใจ
ห้องรับแขกที่กว้างใหญ่ เงียบอย่างกับป่าช้า
แววตาที่เยือกเย็นของหลงเซียว “คุณกะจะอธิบายกับผมว่ายังไง?”
ฉู่ลั่วหานมองไปที่ชั้นวางของโบราณ “ฉันไม่มีอะไรจะอธิบาย รู้ตัวเองดีว่าไม่ได้ทำผิด”
หลงเซียวมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยสายตาสงสัย แสร้งทำตัวสลิดไปอ่อยคนเลวๆอย่างคางเฉิงเจี๋ย เข้าเวรกะดึกในโรงพยาบาลก็ยังไม่ลืมที่จะอ่อยผู้ชาย ตอนนี้ก็ได้ยินว่าเธอไปกินข้าวกับหมอผู้ชายคนอื่น เพิ่มเติม…หลงจื๋อที่คิดว่าเขาไม่อยู่บ้านแล้วมาหาเธออ้อนขอข้าวเช้ากิน
ฉู่ลั่วหาน ความเจ้าชู้หว่านเสน่ห์ของคุณ ผ่านมา3ปี ดูเหมือนจะยิ่งเกินความควบคุมแล้ว!
“ผู้หญิง ผมจะให้คุณได้เห็นผลลัพธ์ของการปากแข็งของคุณ”
เขาพูดจบก็คว้าเสื้อกันหนาวและกุญแจรถออกจากประตูไป ฉู่ลั่วหานรีบวิ่งไปดึงแขนเขาไว้ “คุณจะไปไหน?”
หลงเซียวเห็นเธอที่ดึงแขนของเขาไว้ พูดเสียงดังไปว่า “ปล่อย!”
“หลงเซียว คุณยังจะทำอะไรอีก? คุณยังอยากทำร้ายคนอีกกี่คนกัน?”
เธอถามเขา ยังอยากทำร้ายคนอีกกี่คนกัน ความโหดเหี้ยมนี้ ไม่สิ แล้วผู้หญิงไร้หัวใจคนนี้ เคยคิดไหมว่าเธอทำร้ายเขามากขนาดไหน?
ให้ตายสิ! เธอยังวางท่าเหมือนเป็นคนเสียสละ ผู้หญิงคนนี้ คุณยังอยากโกหกผมไปถึงเมื่อไหร่?
“คุณไม่ใช่ว่าอยากจะหย่าหรอ? ได้ ผมให้โอกาสคุณ”
ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะ มองเฉียงลงมาที่ผู้หญิงคนนี้ ลึกเข้าไปนัยน์ตาที่เหมือนไม่อาจขัดขืนได้ ไม่ยอมปล่อยให้พูด
“คุณหมายความว่าอะไร?”
นั่งอยู่บนรถของหลงเซียว ในใจของฉู่ลั่วหานคิดไปพันร้อยแปดอย่าง หลงเซียวตอบตกลงหย่าแล้วจริงๆหรอ? หรือที่หลงเซียวจะหย่าก็เพราะอยากให้เธอขายหน้า?
รถ ขับเร็วจนเหมือนจะบินได้ ความเร็วของรถพุ่งไปพร้อมกับความโกรธของเขา อารมณ์ของเขาแทบจะระเบิดออกมาแล้ว
เงยหน้า ข้างหน้ากลับเป็นประตูของโรงพยาบาลกลาง
มือของฉู่ลั่วหานกำเข็มขัดนิรภัยไว้แน่น “คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม?”
ในใจของเธอคิดอะไรไม่ออกแล้ว ทำไมหลงเซียวถึงทำอย่างนี้?
หลงเซียวเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงต้องมาที่นี่ เมื่อกี้สมองเขาสูบฉีดเลือดอย่างแรง ทนไม่ได้ที่จะบีบฉู่ลั่วหานให้ตายในกำมือ แต่ว่าตอนนี้ดูเขาเหมือนจะไม่กล้าทำอย่างนั้นแล้ว
พูดแล้วก็น่าตลก เขาเป็นถึงคุณชายตระกูลหลง เป็นถึงท่านหลง แต่กลับมีช่วงชีวิตอย่างนี้
รถโรสลอยด์สีดำจอดอยู่หน้าประตูโรงพยาบาล ภายในรถเงียบอย่างกับป่าช้า นอกรถก็มีผู้คนมากมายเดินไปมา
ท่านเซียวชกเข้าไปที่พวงมาลัย เขาสาบาน ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉู่ลั่วหานสามารถทำให้เขาเสียสติ
และแล้วในตอนที่เขากำลังจะขับออกไปจากโรงพยาบาล เสียงมือถือดังขึ้น บนหน้าจอคือสายเรียกเข้าจากตระกูลโม่
“คุณหลง คุณหนูเหมือนจะถูกอะไรกระทบกระเทือนจิตใจไม่รู้ แล้วก็ปวดท้องขึ้นมาทันที คุณนายกับคุณผู้ชายก็ไม่อยู่บ้าน คุณรีบมาเถอะค่ะ!”
“ครับ!”
เขารีบวางสายโทรศัพท์ “ลงรถ!”
ฉู่ลั่วหานตกใจ เธอตามอารมณ์ของเขาไม่ทัน
“ลงไป!”
ครั้งนี้ เธอได้ยินชัด และก็เข้าใจแล้ว
นิ้วมือที่เรียวยาวเปิดประตูลงรถอย่างแรง ฉู่ลั่วหานยืนเอ๋ออยู่ข้างทาง มองดูรถของหลงเซียวที่ขับแล่นออกไป
ถ้าหากสถานที่มันไม่ใช่หน้าประตูโรงพยาบาล บางทีสถานการณ์ต่อไปก็คงจะไม่น่าอึดอัดอย่างนั้น นั่นสินะ คนจะซวย แค่นิดเดียวก็เกิดขึ้นได้
“คุณหมอฉู่ ทำไมหมอถึงยังยืนอยู่ตรงนี้หล่ะ? หมอรีบกลับไปดูเถอะค่ะ ตอนนี้ที่โรงพยาบาลนั้นระเบิดแตกหมดแล้ว”
คนหนึ่งที่สวมชุดกาวน์ สีขาวที่วิ่งออกมารับรถฉุกเฉิน เห็นฉู่ลั่วหานก็เลยตะโกนเรียก
“ทำไมหรอ?” ฉู่ลั่วหานไม่เข้าใจ
“อั้ยหย่า หมอก็ลองไปดูเองเถอะ”
ฉู่ลั่วหานขมวดคิ้ว “โอเค”
เธอกับหลงเซียวก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว ยังจะมีเรื่องอะไรที่เชี่ยกว่านี้อีกหรอ?
อันที่จริงแล้ว ก็มีจริงๆ
ฉู่ลั่วหานที่ไม่ได้นอนมาทั้งวัน ตาหมีแพนด้าของตัวเองก็ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองกำลังเห็นอยู่
เธอจับเม้าท์ไว้แน่น ดูฟอรั่มยอดนิยมด้วยความตกใจ ข่าวแรกในหน้าหลัก คือรูปคู่ของเธอกับถังจิ้นเหยียนที่พูดไปเชิงลบ
พาดหัวข่าวสีดำไว้อย่างชัดเจน —- เป็นถึงหมอแต่ฉวยโอกาสเวรกะดึก พาผู้ชายเข้ามากุ๊กกิ๊กกันในห้องทำงาน!
บทความข้างล่างก็แต่งขึ้นมาแต่กลับทำให้คนเห็นแล้วเชื่อและคิดว่าไอ้เรื่องเชี้ยๆนั้นเป็นเรื่องจริง
ความหมายรวมๆก็คือ ฉู่ลั่วหานนั้นร่าน หน้าไม่อาย ไร้จริยธรรม อยู่โรงพยาบาลก็มักจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับ หมอ คนไข้ หรือแม้กระทั่งญาติคนไข้ เป็นพวกคนชั่วที่ขาดศีลธรรม
ฉู่ลั่วหานเป็นคนอวดเก่ง คิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นเลยไม่เห็นหัวใคร ยังไปท้าทายอำนาจของหัวหน้า และยังทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยอีกมากมายนับไม่ถ้วน
แต่ละเรื่อง แต่ละตอน เขียนจนอย่างกับว่าเป็นเรื่องจริง
“หมออย่างนี้ นั้นเป็นความอับอายของโรงพยาบาล เป็นการทำให้หมอ คำนี้เสื่อมเสีย!” คำพูดนี้ เป็นบทสรุปในตอนท้าย
เส้นเอ็นบนหน้าผากของฉู่ลั่วหานแทบจะระเบิดออก เส้นเลือดบนหลังมือก็ผุดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด!
จ้าวเหมียนเหมียนยืนอยู่ข้างๆเธอ ถูกไอเย็นเหมือนน้ำแข็งที่แผ่มาจากตัวเธอ ยืนอยู่ตรงนั้นไม่กล้าพูดอะไร
จางได้จุนเดินมา พูดเสียงต่ำว่า “คุณหมอฉู่ คำนินทาเหล่านี้มันไม่มีผลต่อคนฉลาด อย่าเอาไปใส่ใจเลย เมื่อคืนคุณเข้าเวรดึก กลับไปพักผ่อนเถอะ”
กลับไป? เวลานี้แล้วเธอจะกลับไปได้ยังไง?
จ้าวเหมียนเหมียนและจี้ซือหยู่กำลังเดารูปของผู้ชาย พวกเขาไม่ค่อยได้เจอกับถังจิ้นเหยียน เลยดูไม่ออกว่าเป็นเขา
ทันใดนั้นฉู่ลั่วหานก็ลุกขึ้นมา เดินออกไปข้างนอก
ความรู้สึกแรกของจ้าวเหมียนเหมียนก็คือ พี่กำลังจะไปฆ่าคน?
“หมอฉู่! พี่จะไปไหน? พี่อย่าใจร้อนนะ! ใจร้อนจะเป็นปีศาจนะ! พี่อย่า…”
“ฉันจะไปห้องกล้องวงจรปิด! ฉันจะไปตรวจสอบว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังกันแน่”
จี้ซือหยู่ดึงเธอไว้ “ไม่มีประโยชน์หรอก สถานะของพี่ ไม่มีสิทธิ์ไปขอดูกล้องวงจรปิดได้หรอก”
ใช่ เธอไม่มีสิทธิ์ แต่มีคนหนึ่งเขาสามารถทำได้
หน้าเพจเดียวกัน ก็โผล่ขึ้นมาบนคอมของถังจิ้นเหยียน เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อคืน วันนี้ก็ถูกเอาไปเล่นข่าวจนใหญ่โต ฝ่ายตรงข้ามนั้นเตรียมการไว้ก่อนแล้ว
แต่ว่า…ถังจิ้นเหยียนคิ้วขมวด คนที่ถ่ายภาพนั้น ถ่ายชัดแต่หน้าของฉู่ลั่วหาน และบังเอิญไม่โดนเขา นี่คือการโจมตีฉู่ลั่วหานโดยเฉพาะ
ใครคือคนที่ทำข่าวสกปรกนี้? ฉู่ลั่วหานไปทำให้ใครโกรธแค้น?
เขาทิ้งเม้าท์ไว้ แล้วเดินออกไป
“ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้ว อย่าดูปกติว่าหน้าเขาดูแบบเงียบๆนิ่งๆ แต่จริงๆแล้วข้างในนั้นโคตรสกปรก!”
พยาบาลอัดกันอยู่หน้าจอคอม พูดคุยและด่าว่า ทุกคำพูดไม่มีตกหล่นก็ได้ฟังเข้าไปในหูของฉู่ลั่วหาน เธอกำลังเดินออกมาจากห้องเข้าเวร และกำลังจะไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปชั้นบน ตอนผ่านโต๊ะของพยาบาลในแผนกหัวใจ ฝีเท้าของเธอก็หยุดเดิน
“กล้ามากที่มาพลอดรักกับผู้ชายที่ห้องทำงานในโรงพยาบาล หน้าไม่อายจริงๆ เสียดายที่ฉันเคยชื่นชมเธอที่อายุน้อยแล้วยังมีความสามารถอีก”
“ไม่แน่นี่อาจจะเป็นแค่ส่วนหนึ่ง เธอไม่เห็นหรอว่าในบทความนั้นเขาเขียนว่าไง? เรื่องเมื่อก่อนที่เธอเคยทำ มันน่ารังเกลียดยิ่งกว่านี้อีก”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอยสีแดงของฉู่ลั่วหาน หัวเราะเบาๆ มือข้างหนึ่งของเธอพาดไว้ที่ไม้กระดาน มุมปากกระตุกขึ้น เพราะเธอรู้สึกว่ามันช่างน่าขำและไร้สาระจริงๆ แต่ยังกลับใจเย็นได้
“ข้างล่างยังบอกอีกนะว่า นางด่าตีแม่เลี้ยงของตัวเองด้วย ไม่เคารพแม่เลี้ยงเลย”
“โอ้ มาย ก้อด! ยังมีคนบอกอีกว่าฉู่ลั่วหานนั้นเป็นคนมีสามีแล้ว และตั้งใจปิดบังเรื่องที่เธอแต่งงานแล้ว ก็เพื่อที่จะได้อ่อยผู้ชายคนอื่น”
“เรื่องนี้ยิ่งกว่า รางวัลที่ชนะเลิศในการแข่งขันแผนการรักษานั้น ที่จริงแล้วเพราะว่าเธอไปนอนกับกรรมการคนหนึ่ง! จริงหรอเนี่ย…”
“ไม่ต้องพูดแล้ว เขาอยู่นี่”
น้ำเสียงต่ำๆของคนคนหนึ่ง คนอื่นๆก็เงียบเสียงทันที
“ทำไมไม่พูดแล้วหล่ะ? คนที่พวกเธอพูดถึงอยู่ก็คือฉัน ไม่ใช่ว่าอยากให้ฉันได้ยินหรอกหรอ?” ใบหน้าของเธอไม่มีความรู้สึกอึดอัดเลยสักนิด แต่กลับเป็นพวกพยาบาลที่พูดถึงเธอนั้นหน้าแดงกันเป็นแถว
“คุณหมอฉู่…”
“คิดว่าฉันเป็นคนอย่างนั้นหรอ?” เธอหัวเราะตัวเอง
พยาบาลต่างก็มองหน้ากัน ไม่มีใครพูดอะไร
“ฉู่ลั่วหาน เธอนี้มันเกิดมามีหน้าที่ดูคนดี ขนาดฉันเองยังดูไม่ออกเลย เธอที่อยู่ในชุดกาวน์ สีขาวนี้ แต่ในไส้พุงเธอนั้นกลับซ่อนสิ่งสกปรกพวกนั้นไว้”
น้ำเสียงประชดของเกาหยิ่งจือดังขึ้นมา ตามด้วยเสียงรองเท้าส้นสูงของเธอที่กระทบกับกระเบื้อง ในมือของเธอถือแฟ้มประวัติคนไข้ ดูเหมือนว่าบังเอิญผ่านมาพอดี
ฉู่ลั่วหานกำหมัดไว้แน่น “ท่านรองเกา ระวังพูดแล้วกัดโดนลิ้นนะคะ!”
เกาหยิ่งจือทาลิปสติกสีแดง “ป่านี้แล้วก็ยังไม่ลืมที่จะด่าคนอื่น? ฉู่ลั่วหาน ฉันคาดหวังมาก กับพฤติกรรมต่อไปของเธอที่จะทำในโรงพยาบาล อ่อ ใช่แล้ว ถ้ากลัวว่าจะถูกไล่ออก เธอสามารถมาหาฉันได้ ในฐานะที่เธอก็ทำงานเป็นวัวเป็นควายให้กับโรงพยาบาลนี้ ฉันก็อาจจะช่วยพูดให้เธอบ้าง”
ตอนพูดประโยคสุดท้าย เธอมองเขาด้วยสายตาดูถูก ขาที่ใส่กางเกงยีนส์นั้นก็ก้าวเท้าเดินจากไป
พวกพยาบาลก้มหัว หัวเราะคิคิ
ใบหน้าขาวๆของฉู่ลั่วหาน ก็ถูกว่าจนซีดไปหมด เธอเดินไปถึงหน้าลิฟต์แล้วกดปุ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง ช่วงที่หงุดหงิดอยู่ ประตูลิฟต์ก็เปิดออก
ฉู่ลั่วหานยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าไปในลิฟต์ มือที่มีแรงมหาศาลก็ยื่นออกมาจากด้านใน ใช้แรงกระชาก แล้วก็ลากตัวเธอเข้ามา
เธอไม่ทันได้ตั้งตัวและมองว่าเป็นใคร รู้สึกแต่ว่าจู่ๆข้างหน้าก็มืดไป กลิ่นแบบสะอาดๆก็แตะเข้าจมูกเต็มๆ กลิ่นที่คุ้นๆ บรรยากาศที่เงียบนั้นก็ต้องหายไป
“อ้าก!”
แผลที่หัวเข่าของฉู่ลั่วหานก็เฉียดโดน พอเจ็บ ก็ทำให้เธอขาดสติ เท้าก็ลื่น ร่างกายเอนล้มไปทางด้านหลัง!
สิ่งที่คาดไม่ถึง ด้านหลังกลับนุ่มๆ เธอได้ล้มเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดที่แข็งแรงและอบอุ่น