คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 389 ชั้นเชิงการดื่มเหล้าของหลงเซียว
ตอนที่ 389 ชั้นเชิงการดื่มเหล้าของหลงเซียว
เงียบสงัดไม่นาน หลงเซียวก็ฟื้นสภาพกลับไปนิ่งสงบตามเดิม เสียงทุ้มที่ดังขึ้นเหมือนเสียงรถที่กำลังขับเคลื่อนอย่างเหนื่อยล้า แต่ก็ไม่มีทางสยบ “พ่อให้เขามาบริษัท ต้องมีเหตุผลของเขาแน่นอน อย่าคิดมาก แต่แกอยู่ที่บริษัทพยายามอย่าขัดแย้งกันซึ่งๆหน้า”
หลงจื๋อรู้สึกร้อนอกร้อนใจแล้วกล่าว “พี่ใหญ่ ช่วงนี้คุณกับพ่อพูดจาแปลกๆ เกิดอะไรขึ้นกันแน่พี่บอกผมหน่อย อย่างน้อยผมก็ร่วมกันหาวิธีแก้ไขปัญหาได้”
“ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้แกคือประธานของบริษัท จำนวนงานในมือกับงานบัญชีของแกไม่เหมือนกันเลย รีบๆหาเวลาคุ้นเคยกับงาน ไม่เข้าใจให้ถามจี้ตงหมิง หรือถามฉัน”
หลงจื๋อยังคงรู้สึกร้อนอกร้อนใจ “พี่ใหญ่…….”
“เอาล่ะ ฉันยังมีธุระ เท่านี้ก่อน”
พูดสิ่งเหล่านี้จบ หลงเซียววางสายโทรศัพท์ แสงแดดสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา ร่างที่สูงยาวอาบแดดอยู่ใต้แสงอาทิตย์ ทำให้มีประกายรอบๆตัวเขา
ไม่ได้ให้เวลาในการพักผ่อนกับตัวเองมากนัก หลงเซียวหงายข้อมือขึ้นดูนาฬิกาปาเต็กฟิลิปป์า หากผู้รับผิดชอบทางนี้ทำงานคล่องแคล่ว วันนี้เขาก็มีหวังจะได้เจอกับข้าราชการระดับสูงของที่นี่
กลับมาวิเคราะห์แบบแปลนอย่างละเอียดอีกครั้ง หลงเซียวดูลายมือ ใช้สายตาคาดเดา แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ นำสิ่งก่อสร้างรอบๆมาดูอย่างละเอียดอีกครั้ง
มือพิมพ์ตัวอักษรอย่างรวดเร็ว เลือกเนื้อหาสำคัญออกมา แววตาเหมือนเหยี่ยวที่หาอาหารอยู่บนตัวอักษรบินไปบินมา โครงการนี้……
เหอะ!
ที่แท้หลงถิงก็ทำร้ายเขา พูดตามตรง นี่เป็นงานที่ไม่สามารถทำได้สำเร็จเลย หลายสิบปีมานี้ ต้องการขออนุญาตสร้างตึกสูงในระดับเดียวกันนี้นับไม่ถ้วน แต่ล้วนโดนตีกลับทั้งหมด
จุดต่ำที่สุดเมืองเจียงเฉิงติดกับทะเล อากาศของฤดูร้อนที่นี่แย่มากเกินบรรยาย เกือบจะทุกๆปีจะถูกโจมตีจากไต้ฝุ่น ในช่วงที่หนักที่สุดไต้ฝุ่นได้ทำให้กระจกทั้งหมดของสิ่งปลูกสร้างที่สูงๆแตกเป็นหน้ากอง ตึกที่มีมากกว่าหนึ่งร้อยชั้นจะทำให้ความสามารถในการต้านภัยธรรมชาติลดลง เป็นภัยเงียบต่อความปลอดภัยอย่างมาก
หลงเซียวกำลังเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ มือหนึ่งจับคาง บ่นพึมพำ
ตอนบ่ายสี่โมงเย็น หลงเซียวได้รับโทรศัพท์จากผู้รับผิดชอบหวังเจี้ยนโทรมา
“ท่านประธาน นัดคนไว้เรียบร้อยแล้วครับ คืนนี้สองทุ่มเจอกันที่คลับฟู่ลี่ สาระสำคัญผมได้ส่งให้คุณทางอีเมลแล้ว คุณดูอีเมลนะครับ อาจมีประโยชน์ต่อคุณในการพบปะกันคืนนี้”
“โอเค”
ในอีเมลมีเมลส่งมาอย่างรวดเร็ว ข้างในแนะนำข้อมูลของผู้ดูแลระดับสูงที่นี่อย่างละเอียด หลงเซียวดูอย่างผ่านๆ ต่อมาคือข้อมูลการแก้ไขของโครงการ
คือความสูงทั้งหมดของตึกลดลงห้าสิบเมตร ให้เหมือนกับตึกที่สูงที่สุดเมืองเจียงเฉิงตอนนี้
หลงเซียวเหอะเบาๆ
“ท่านประธาน ข้อมูลแก้ไขโครงการพวกเราได้เอาให้คนที่นี่ดูแล้ว ความสูงระดับนี้สามารถได้รับใบรับรองการก่อสร้างได้ แต่……แบบแปลนเดิม ไม่ได้”
“หากเป็นแบบนี้ สำนักงานใหญ่จะให้ฉันมาทำไม? ให้มาชื่นชมภูเขาและแม่น้ำ?”
“ไม่……ไม่ใช่ ความหมายผมคือ สำนักงานใหญ่นั่นให้แบบแปลนมาแบบ……ท่านประธาน คืนนี้มอบให้คุณล่ะกันครับ”
หลังจากวางสาย หลงเซียวดูแบบแปลนอย่างใกล้ๆ ด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดา
ช่วงค่ำเวลาสองทุ่มตรง หลงเซียวนั่งรถเก๋งBentleyสีเงินมาถึงตึกคลับฟู่ลี่
คลับฟู่ลี่คือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่หรูหราแห่งหนึ่งของเมืองเจียงเฉิง นักธุรกิจชั้นนำ ข้าราชการระดับสูง ทหารเป็นต้นและผู้ที่ไม่สามารถแสดงตัวตนได้ก็จะเลือกมาเจอกันที่นี่
ในทุกๆเมืองแสงสีจะต้องมีจุดนัดพบแบบนี้ ไม่แปลกอะไร
“ท่านประธาน ถึงเวลาแล้ว พวกเราเข้าไปเลยไหม?”
หลงเซียวดูนาฬิกาปาเต็กฟิลิปป์าข้อมือผ่านๆ สองทุ่ม “พวกเขามาถึงหรือยัง?”
“ถึงแล้วสามคน ยังมีอีกสองคนน่าจะกำลังเดินทางมา สองคนนี้ตัดสินใจว่าโครงการจะผ่านหรือไม่ผ่าน ดังนั้นพวกเราไม่กลัวเพราะมีที่พึ่ง
ริมฝีปากบางหลงเซียวยิ้มออกมา สายตามองไปข้างนอก แสงไฟด้านนอกกระทบกับสายตากับนอกหน้าต่าง ทำให้เกิดความรู้สึกยากที่จะคาดเดา
“ไม่รีบ คนของพวกเขาถึงแล้วพวกเราค่อยเข้าไป”
“ใช่ครับ ท่านประธาน”
เวลาสองทุ่มสิบนาที มีรถBenzสีดำสองคันเข้ามายังประตูทางเข้าคันหนึ่งนำหน้าคันหนึ่งตามหลัง การ์ดที่อยู่นอกประตูดูออกว่ารู้จักรถสองคันนี้ เห็นจากไกลๆก็ยืนตรง
“ท่านประธาน รถคันหน้านี้คือรัฐมนตรีกรมพัฒนา คันหลังคือ……”
“ฉันรู้”
หลงเซียวพูดเสียงต่ำสามคำ เขาดูข้อมูลหมดแล้ว คนพวกนี้ขับรถอะไร ป้ายทะเบียนอะไร เขารู้แน่นอน
รถสองคันหยุดลง แยกเป็นจากข้างในเดินออกมาสองคน ลักษณะอายุราวๆสี่สิบกว่าปี ไม่ได้สวมชุดสูท แต่เป็นชุดคลุมนอกสบายๆสีดำและสีน้ำตาลธรรมดา ก่อนเข้าประตูได้มองไปรอบๆด้าน จากนั้นตัวเองก็เดินขึ้นบันไดของตึกหลัก
เหอะ!
ดูแล้วมาใช้บริการที่แน่บ่อยๆ
ผ่านไปสิบนาที หลงเซียวติดกระดุมชุดสูท “ได้ล่ะ พวกเราเข้าไปเถอะ”
“ครับ ท่านประธาน”
เดินขึ้นบันไดสูงของคลับฟู่ลี่ หลงเซียวสวมชุดสูททั้งตัวไฮคลาสของอาร์มานี่ปรากฏตัวอยู่ใต้โคมไฟห้อยระย้าที่ทางเข้า เขาคลำนาฬิกาปาเต็กฟิลิปป์แล้วคลำอีก แล้วกำลังเดินไปที่หนึ่งในห้องคาราโอเกะ
หวังเจี้ยนที่ตามมากับหลงเสียวเปิดประตูห้องคาราโอเกะออก ด้านในนั่งกันอยู่ห้าคน ทุกๆคนล้วนเป็นระดับสูงของเมืองเจียงเฉิงที่ลงหนังสือพิมพ์บ่อยครั้ง
สามารถนัดคนเหล่านี้รวมตัวกันได้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย
อำนาจของตระกูลหลง มากน้อยก็ยังพอมีให้เห็นอยู่บ้าง
เห็นหลงเซียวเข้าประตูมา สายตาทั้งห้าคนมองไปที่เขาโดยไม่ได้นัดหมาย ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนยังไม่สามสิบปีเต็ม ร่างกายสูงตรงดูไม่เย่อหยิ่ง
“ขอโทษครับ ผมมาช้า“ หลงเซียวพยักหน้าช้าๆ ร่างกายที่ทะนงพร้อมด้วยความสง่างาม
“ไม่เป็นไร คุณหลง เชิญนั่ง”
ยิ้มที่มุมปาก แล้วประเมินเขาจากสายตา
หวังเจี้ยนลากเก้าอี้ออกมา ร่างกายอันสูงตรงหลงเซียวได้นั่งลง ก็กล่าวอย่างนิ่งสงบ “ทุกท่านช่วงยุ่งๆยังสละเวลามาได้ ผมได้รับเกียรติอย่างยิ่ง ผมมาสาย ลงโทษสามแก้ว ทุกท่านตามสบาย ผมดื่มก่อนแล้วกันทุกท่านค่อยตาม”
“โอ้ว? เหอะเหอะเหอะ คุณหลงจริงๆแล้วเป็นคนที่สบายๆนะ!
“ฮ่าฮ่า คุณหลงสุภาพขนาดนี้ พวกเราเริ่มรู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว”
พวกคนเจ้าเล่ห์กำลังพูดแบบเกรงใจ กลับไม่มีใครรั้งให้หยุดเลย แสดงว่าอยากให้หลงเซียวแสดงระดับการดื่มแอลกอฮอล์
หลงเซียวค่อนข้างคุ้นชินกับกฎของการร่วมโต๊ะอาหารของประเทศจีน บนเวทีธุรกิจสถานะของเขาวางอยู่ตรงหน้า แม้เขาไม่ดื่ม ก็มีคนอยากร่วมงานกับเขาด้วย แต่สำหรับงานในค่ำคืนนี้ ไม่ดื่มถือว่าผิดกฎ
นิ้วที่ไว้เล็บยาวของหลงเซียวจับแก้วเหล้าขึ้นมา แก้วกระจกใสใส่เหล้าขาวในปริมาณสองในสาม ตั้งวางอยู่ข้างๆคือขวดเหล้าพิเศษเหมาถายหนึ่งขวด ห้าสิบสองดีกรี
ยกแก้วเหล้าขึ้นมา หลงเซียวดื่มทีเดียวหมด ไม่ขมวดคิ้วเลยสักนิด
“เปียะเปียะเปียะ!”
ทั้งห้าคนปรบมือให้
“คุณหลงสบายๆชิลๆ! ใจกว้าง!”
“ระดับการดื่มแอลกอฮอล์ดี นับถือ!”
ริมฝีปากบางของหลงเซียวกำลังขยับ “ทุกท่านชมเกินไป เหล้าทุกตัวดีๆไม่กี่แก้ว ผมกับทุกท่านเจอกันครั้งแรกแต่เหมือนรู้จักกันมานาน ดื่มสักกี่แก้ว ขอทุกคนอย่าแปลกใจ”
ขณะกำลังพูด เขาก็ยกแก้วที่สองขึ้นมา ดื่มทีเดียวหมดอีกแล้ว เมื่อดื่มหมดก็คว่ำแก้วลงแล้วยกขึ้น
ผู้คนมากมาย พวกเขาคุ้นเคยกับการเรียนรู้คน แต่วัยรุ่นที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ เห็นครั้งแรกรู้สึกสง่าดูดี ถ้ามองลึกๆจะรู้สึกได้ว่ามีกุศโลบายยากเกินกว่าคาดเดา ในรอยยิ้มที่สงบนั้น แฝงไว้ด้วยแผนการมากมาย ทุกคนเงียบชั่วขณะ
“แก้วสุดท้าย ฉันแนะให้ทุกคนดื่มร่วมกัน ตามที่กล่าวไป ทุกท่านดูผมดื่มคนเดียว เกรงว่าจะไม่สนุก มา แก้วนี้ผมหมดแก้ว ทุกท่านตามสบาย”
อำนาจของหลงเซียวตั้งอยู่ตรงนี้ ต่างคนต่างเห็นกันและกัน ความจริงคือหลงเซียวหาพวกเขาเพื่อทำธุระ เขามาช้าก็ชั่ง วันนี้คนที่นั่งในห้องคาราโอเกะ หลายคนกลับรู้สึกว่าพวกเขาเพียงแค่มาสร้างสีสัน หลงเซียวสิจึงจะถือเป็นตัวหลักของคืนนี้
แก้วที่สามตกถึงท้อง ใบหน้าของหลงเซียวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง เหล้าสามแก้วเปลี่ยนเป็นคำพูดหนึ่งคำ แก้วประกายเจิดจรัส แสงเงาสะท้อนบนใบหน้าที่อ่อนเยาว์ เงาขยับ ไปเรื่อยๆ
“คุณหลงกล้าหาญ สมกับที่เป็นทายาทของMBK เทียบกับพ่อของคุณ ศิษย์ได้รับการอบรมจากครู แต่เก่งกว่าครูเสียอีก เก่งนำคนรุ่นก่อนแล้ว! เก่งนำคนรุ่นก่อน!”
“ตอนนี้เป็นยุคของเด็กรุ่นใหม่แล้ว พวกเราแก่แล้ว!”
อ้อมค้อมกับคำพูดเก่าๆที่ล้าสมัย หัวหน้าของคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติกล่าว “คุณหลง ผมรู้เหตุผลครั้งนี้ของคุณ แต่เงื่อนไขที่แน่ชัดผมคิดว่าคุณเห็นแล้ว แบบแปลนที่บริษัทส่งมาความสูงเกินกว่ากฎเกณฑ์ ดังนั้น……”
“รัฐมนตรีเฉิน คืนนี้พวกเราดื่มเหล้ากินอาหารให้อร่อย คุณพูดเรื่องนี้เพื่ออะไร?”
ครึ่งหนึ่งเป็นแววตาสุภาพ อีกครึ่งเป็นแววตากดขี่ ประโยคที่ไร้ซึ่งน้ำเสียง พูดจนรัฐมนตรีเฉินหัวเราะแห้งๆเหอะเหอะเหอะหลายครั้ง
“ถูกต้อง คืนนี้เราแค่มาดื่มกันเท่านั้น”
“คุณหลง เชิญ!”
สายตาของหลงเซียวมองไปรอบๆใบหน้าเหล่านั้น ความคิดความอ่านของพวกเขา เขาได้มองออกอย่างชัดเจนมานานแล้ว
“ทุกท่านล้วนอายุมากกว่าผม คืนนี้รุ่นอายุน้อยขอดื่มร่วมกับทุกท่าน นับว่าเป็นบุญวาสนาจริงๆ ผมยังได้ยินมาว่าผู้อำนวยการหลี่เล่นหมากรุกเก่ง สองสามวันข้างหน้าถ้าว่าง ต้องไปหาท่านเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้เสียแล้ว
“ ฮ่าฮ่า ไม่ขนาดนั้นไม่ขนาดนั้น! ผมไม่มีงานอดิเรกอย่างอื่น เวลาว่างก็เล่นหมากรุกจริง”
หลงเซียวมองไปที่คนตรงกลางหนึ่งคน “คุณลุงจิ้ง พ่อบอกผมว่าคุณชอบค้นคว้าเรื่องฮวงจุ้ย ผมเตรียมจะซื้อบ้านซักหลัง อยากเชิญคุณมาตรวจสอบให้หน่อย คิดเสียว่าดูแลรุ่นเด็ก เป็นไงครับ?”
“ได้แน่นอน! คุณอยากซื้อแถวไหน? ซื้อคอนโดหรือว่าวิลล่า?”
ที่แท้ เมื่อกล่าวถึงสิ่งที่ตนเองชอบ คนก็จะตื่นตัวขึ้นมา
“คุณลุงจิ้งมีข้อเสนอแนะอะไร? ผมฟังคุณหมดครับ”
หลงเซียวเจียมเนื้อเจียมตัว ในความถ่อมตนก็ยังมีอำนาจอยู่ งานเลี้ยงเหล้าเขาก็ได้คิดแผนการอุบายต่างๆ ผู้ชนะพันลี้ วิศวกรรมเป็นหนึ่งคำที่ไม่ได้พูดถึง เอาใจทั้งห้าจนหน้าตาแดง หัวเราะตลอดเวลา
ดวงตาที่ตกใจของหวังเจี้ยนที่สังเกตการณ์อยู่อีกนิดเดียวแทบจะถลำออกมา
มื้ออาหารจบลง หลงเซียวส่งทั้งห้าคนขึ้นรถ โบกมืออย่างสุภาพ
รถของทั้งห้าขับออกไป หลงเซียวใบหน้าสงบอย่างตึงเครียดมาสองชั่วโมงสุดท้ายก็กลั้นไว้ไม่อยู่ ความเจ็บของกระเพาะและหัวใจเจ็บครั้งแล้วครั้งเล่าได้ทำลายประสาทของเขา
มืออันใหญ่ได้ลูบที่หน้าอก ใบหน้าหลงเซียวเปลี่ยนเป็นสีขาว ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นเดียวกัน พยุงร่างเข้าไปในรถ เสียงแหบอย่างโทนต่ำ “กลับโรงแรม!”
“ท่านประธาน คุณ……สีหน้าคุณดูไม่ดีเอามากๆเลย เมื่อสักครู่คุณดื่มเหล้าไปไม่น้อย กระตุ้นไปกระเพาะแล้วใช่ไหม? ผมพาคุณไปส่งโรงพยาบาล”
” หลงเซียวโบกมือ “ไม่ต้อง ส่งผมกลับโรงแรม เร็ว”
“ครับ!”
สถานะของหลงเซียวพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นเมืองหลวงหรือเมืองเจียงเฉิง เขาล้วนเป็นบุคคลที่นักข่าวติดตาม เฉกเช่นวันนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของโครงการ เขาไม่สามารถให้นักข่าวถ่ายรูปเผยแพร่ได้
พยายามอดทนกับความเป็นปวดทั้งมดของหน้าอกและช่องท้อง เหงื่อไหลเต็มไปทั้งหัว หลงเซียวปิดตาให้สนิท เริ่มหายใจลำบาก
รถไปถึงโรงแรม หลงเซียวเดินลงจากรถ กล่าวอย่างเยือกเย็น “เรื่องคืนนี้ หุบปากไว้ซะ”
“ท่านประธานวางใจได้ครับ ผมส่งคุณขึ้นห้องพักผ่อน ต้องการยาอะไร ผมจะไปซื้อให้เดี๋ยวนี้”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “ไม่ต้อง ช่วยผมเช็คให้ละเอียดห้าคนนี้ภายในสัปดาห์นี้วางแผนทำอะไรบ้าง แล้วก็ เช็คให้ละเอียดสมาชิกในครอบครัวของพวกเรา คืนนี้ส่งอีเมลให้ผม”
“ครับ”
อาการปวดแสบปวดร้อนจากพิษแอลกอฮอล์รับรู้ได้ถึงการบีบของหัวใจตลอดทาง เจ็บจนหน้าหลงเซียวบีบเกร็ง
หลงเซียวเดินเข้าไปในลิฟท์ มือกำลังจับแผ่นเหล็กของลิฟท์ไว้ เจ็บจนเขาเอาไม่อยู่ ส่งเสียงโอดครวญออกจากลำคอ