คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 387 บริษัทMBKแอบแอบปรับภายในของ
ตอนที่ 387 บริษัทMBKแอบแอบปรับภายในของ
หวังเค่ยกำลังมองลั่วหานด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิด กล่าวอย่างรู้สึกไม่ดีว่า “ขอโทษจริงๆลั่วหาน ไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะกล้ามาโรงพยาบาลแย่งลูก ทำให้พวกคุณเป็นเดือดเป็นร้อนกันหมด ขอโทษมากจริงๆ”
ลั่วหานใช้มือหยิกไปที่หน้าทรงไข่ของเถียนเถียน หัวเราะแล้วกล่าว “นี่มีอะไร? เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลของพวกเรา ฉันคือหมอ ต้องรับผิดชอบเป็นธรรมดา แล้วเถียนเถียนคือผลไม้แห่งความสุขของพวกเรา เธอได้รับความไม่ยุติธรรม แน่นอนว่าพวกเราต้องแสดงกำลังออกมา คุณหวังไม่จำเป็นต้องขอโทษ”
หวังเค่ยถอนหายใจหนึ่งเฮือก “ฮาย ความจริงแล้ว เกี่ยวกับปัญหาสิทธิ์เลี้ยงดูของเถียนเถียน ฉันคิดไว้ตั้งนานแล้วว่าต้องมีวันนี้ ตอนนั้นเธอเพราะลูก……”
พูดถึงจุดนี้ หวังเค่ยเห็นลูกอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองก็ไม่อยากจะกล่าวถึงอีก แต่เปลี่ยนหัวข้อสนทนาเสีย “คุณนายหลง ฉันวางแผนจะฟ้องจ้าวฟางฟาง ผมจำเป็นต้องเอาสิทธิ์ในการเลี้ยงดูลูกกลับคืนมา”
ลั่วหานหยักหน้าอย่างยึดมั่น “อันนี้เป็นสิ่งที่จำเป็น ฉันก็จะช่วยคุณสุกความสามารถ ด้านทนายความคุณไม่ต้องเป็นห่วง ค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องคดีทั้งหมดฉันจ่ายให้ก่อน ยังไงฉันก็รับปากว่าจะช่วยคุณแล้ว ก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด”
วันนี้จ้าวฟางฟางไม่เพียงทำผิดต่อคุณ ก็ยังทำผิดต่อฉันอีกด้วย เธอพูดจาไร้มารยาท บิดเบือนความจริงเรื่องสามีของฉัน ทำให้สามีและฉันเสียชื่อเสียง ยังโยงไปถึงพ่อตาของฉัน เรื่องนี้ฉันจะไม่ให้มันจบแค่นี้”
เผชิญกับเสียงที่ยืนหยัดของลั่วหานแบบนี้ ส้งชิงเซวี๋ยนชื่นใจมาก เขาปรบๆมือ “เสี่ยวลั่วลั่ว เธอโตขึ้นแล้ว มีเรื่องอะไรต้องการให้ฉันช่วยก็บอกได้ ผู้หญิงประเภทนี้ พวกเราไม่ต้องสุภาพกับเธอ”
ลั่วหานหัวเราะเบาๆ “อาจารย์ จะเอายังไง? คุณยังถกแขนต่อยคน? เมื่อกี๊ทำไมไม่ต่อย? ถ้าเมื่อกี๊ต่อยล่ะก็จะได้มีฉากคึกคักให้ดูอีก ทำงานก็น่าเบื่อแบบนี้ ไม่ใช่หาอะไรสนุกๆแก้เซ็งอย่างนั้นหรือ?
ส้งชิงเซวี๋ยนหัวเราะออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวลั่วลั่ว ตอนนี้เธอพัฒนาขึ้นเยอะนะ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าพูดล้อเล่นกับอาจารย์ได้ ฉันคนแก่ไม่พูดกับพวกเธอล่ะ ต้องรีบเช็คเถียนเถียนของฉันว่าหายดีทั้งหมดแล้วยัง? อย่าถูกหญิงเลวคนนั้นทำให้ตกใจซะล่ะ”
ส้งชิงเซวี๋ยนกับหวังเค่ยเข้าไปในห้องพักฟื้น พยุงเถียนเถียนขึ้นเตียงอบย่างระมัดระวัง เริ่มตรวจเช็ครอบด้านให้เธอ
ข้างในมีเสียงหัวเราะออกมาตลอด ส้งชิงเซวี๋ยนกับเถียนเถียนกำลังสนทนากันอย่างมีความสุข ลั่วหานไม่มองไปที่ข้างในอีก ได้ยินเสียงหัวเราะตนเองก็หัวเราะตาม
ไม่นานก็ขยับขา แล้วเดินกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง หลินซีเหวินและหวาเทียนเดินตามเธออยู่ข้างหลัง ทั้งสามก็เริ่มพูดคุยเรื่องการสัมภาษณ์ของรายการทีวี
ผ่านไปสักพัก หลินซีเหวินกล่าวอย่างล้อเล่นว่า “หมอฉู่ ฉันได้ยินมาว่าตอนที่ถ่ายรูป คุณหลงก็อยู่ ยังได้ยินมาอีกว่าพวกคุณยังทำให้พวกคนโสดอิจฉาตาร้อน พวกคุณโหดร้ายมาก ไม่ปล่อยแม้กระทั่งหมอและพยาบาล คุณไม่รู้ว่าพวกพยาบาลโสดเหล่านี้โดดเดี่ยวเดียวดายหรอ? ได้โปรดอย่าโหดร้าย ได้โปรดปล่อยพวกเขาไปเถอะ”
หวาเทียนกล่าว “พวกเขาต้องอิจฉาตาร้อนคุณไม่อิจฉา ข่าวลือตอนนี้คือคุณกำลังอยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน กับแฟนใหม่ของคุณแยกกันไม่ขาดเลยทีเดียว”
หลินซีเหวินหัวเราะเหอะเหอะ “ทำไมหรอ? หมอหวาเทียนคนโสดไร้คู่ เริ่มคิดถึงช่วงวัยล่ะอ่อนแล้วใช่ไหม เอาไงดี อยากให้แนะนำเด็กสาวแอ๊บแบ๊วที่สวยๆให้สักคนไหม มหาลัยของพวกเรามีเด็กผู้หญิงที่สวยเยอะมาก ทรัพยากรเหลือล้น เชิญเลือกได้ตามใจชอบ!”
อีกฝั่งของเมืองหลวง CBDศูนย์กลางธุรกิจ
รถของหลงจื๋อ ขับไปถึงชั้นล่างตึกอาคารทำการของMBK เขาเพิ่งเปิดประตูออกมา ก็เห็นรถของพ่อขับมาจากด้านหลัง
Bentleyสีดำเพิ่งถึง ด้านหลังก็ตามมาติดๆด้วยBenzสีดำอเนกประสงค์
หลงจื๋อขมวดคิ้ว นี่เกิดอะไรขึ้น? หรือพ่อยังจัดการ์ดมาด้วยหรอ?
เขาจำได้ว่าตอนที่ตนเองออกจากบ้านไม่เห็นใครที่มากับพ่อ นี่ทำไมถึงได้มีรถเพิ่มมาอีกคันนะ?
เต็มไปด้วยความสงสัย หลงจื๋อนืยอยู่ข้างหน้ารถเพื่อสังเกตการณ์ ไม่นาน รถคันหลังเปิดประตูออกมา คนที่ออกมาจากข้างในนั้นคิดไม่ถึงว่าจะเป็นพี่ชายฝั่งพ่อหลงยี่
หลงจื๋อขมวดคิ้วหยักขึ้นไปอีก พี่ชายฝั่งพ่อ? เขามาทำอะไรที่นี่?
เมื่อก่อนหลังจากที่เขาออกจากNBAแล้ว ก็ไม่เคยยุ่งเรื่องต่างๆของบริษัทอีกเลย แล้วชื่อเสียงก็ยังด่างพร้อย ถูกขึ้นรายชื่อเป็นบัญชีดำของบริษัท วันนี้ทำไมจู่ๆมาบริษัทได้นะ?
หลงจื๋อยืนอยู่หน้ารถไม่ได้ขยับไปไหน แล้วกำลังรอคนข้างหลังเดินมา ทักทายอย่างมีความสุข “พ่อ อรุณสวัสดิ์ พี่ชายฝั่งพ่อ อรุณสวัสดิ์”
หลงถิงพยักหน้า ถือเป็นการตอบรับแล้ว
หลงยี่ที่อยู่ด้านหลังทักทายอย่างอบอุ่นด้วยรอยยิ้ม “เสี่ยวจื๋อ อรุณสวัสดิ์ ตอนที่ออกจากบ้านเห็นเธอค่อนข้างรีบเลยไม่ได้ทักทาย วันนี้ฉันมาทำงานเป็นวันแรก คุณถือเป็นพนักงานเก่าแก่ของบริษัทแล้ว อนาคตภายภาคหน้าโปรดดูแลฉันด้วย!”
อะไรนะ? ทำงาน? ทำไมเขามาทำงานที่MBK?
เมื่อก่อนเป็นเพราะเขาและคุณลุงทิ้งบริษัทอย่างไม่ไยดีไปแอฟริกา เลยเกิดเป็นความขัดแย้งอย่างมากกับพ่อ ทำไมจู่ๆได้ถูกเชิญเข้ามาในบริษัทได้ล่ะ?
ภายในใจฉุกคิดขึ้นมา ตอนนี้พี่ชายใหญ่ไปเมืองเจียงเฉิงไม่อยู่ที่เมืองหลวง งั้น……
หลงจื๋อรับรู้ได้ถึงความไม่สงบใจหวิว พี่ชายเพิ่งจะไป พ่อกลับให้หลงยี่มาบริษัทรับงานแทน ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้……
ภายในใจกำลังคิดแบบนี้ ภายนอกหลงจื๋อไม่แสดงอาการใดๆ แล้วยังยิ้มต่อไป “พี่ชายฝั่งพ่อใช้ชีวิตอย่างสบายๆมาตลอด อยากทำอะไรก็ทำ ไม่มีใครบังคับ หรือชีวิตแบบนั้นไม่ดีหรอ? ทำไมต้องมาทำงานที่บริษัทให้เหน็ดเหนื่อย? กระนั้นแล้ว ตามสถานะทางสังคมของพี่ชายฝั่งพ่อ เกรงว่าMBKจะเชิญมาไม่ไหว!”
ถึงแม้น้ำเสียงจะสุภาพมากและกระตือรือร้นมาก แต่เสียงที่พูดออกมากลับแสดงออกถึงกลิ่นอายของการต่อต้านอย่างชัดเจน
หลงจื๋อกับหลงยี่ไม่ถูกกัน เขาก็ไม่ชอบการปฏิบัติตัวของหลงยี่ เฉกเช่นวันนี้ที่พี่ชายใหญ่ไม่อยู่ เขายิ่งระวังตัวมากขึ้น
ได้ยินมาว่าตอนที่พี่ชายใหญ่ไม่อยู่ จะมีคนมารับหน้าที่แทนชั่วคราว ในใจหลงจื๋อรู้สึกชะงักงัน ไม่ใช่มั้ง? หรือหลงยี่จะมารับช่วงต่อหน้าที่ประธาน? งั้นก็เป็นเรื่องที่สะเทือนปฐพีไปแล้ว ตลกเกินไปล่ะ!
หลงยี่เป็นพวกคนไม่เอาไหน ตอนแรกให้เขาดูแลบริษัทตัวเองอีกนิดเดียวเกือบล้มละลาย หลงจื๋อนึกถึงเรื่องนี้ ก็หยุดคิดทุกเรื่อง
หลงถิงถอนหายใจเบาๆ น้ำเสียงเบา ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆแล้วกล่าว “เอาล่ะ ขึ้นไปด้วยกันเถอะ!”
หลงถิงออกคำสั่ง หลงจื๋อกับหลงยี่เดินตามหลังเขาขึ้นไป ร่างที่ตรงสง่าของทั้งสามเดินเข้าไปในประตูกระจก พนักงานต้อนรับหญิงเห็นทั้งสามคนเดินเข้ามาพร้อมกัน กำลังมองอย่างแปลกใจไปที่ผู้ชายหน้าตาไม่คุ้นในกลุ่มนั้น
แยกอย่างละเอียดแล้ว ถึงได้รู้ว่านี่คือหลานอีกคนของตระกูลหลง
เรื่องภายในของเศรษฐี พนักงานธรรมดาไม่กล้าคาดเดา ได้แต่กล่าวอย่างสุภาพว่า “ท่านประธานอรุณสวัสดิ์ คุณชายทั้งสองอรุณสวัสดิ์”
หลงยี่มองไปที่พนักงานต้อนรับหญิงคนสวยด้วยสายตาที่เฉียบแหลม แล้วก็มองไปที่ของประดับตกแต่งไฮคลาสภายในตึกสูงใหญ่ แล้วหัวเราะเบาๆ
ทั้งสามขึ้นลิฟท์VIPพร้อมกัน ตอนแรกหลงจื๋ออยากจะกดลิฟท์ไปหยุดที่ชั้นบัญชีก่อน แต่หลงถิงหยุดการกระทำของเขา ให้ตามลิฟท์ขึ้นไปบนชั้นสูงสุด
เข้าไปในห้องทำงานของหลงถิง หลงถิงนั่งที่เก้าอี้ประธานตัวเดิมของตนเอง นำเอกสารหนึ่งฉบับออกมาจากแฟ้ม วางไว้บนโต๊ะแล้วส่งให้กับหลงยี่ “นี่คือรายงานแผนกการตลาดในช่วงนี้รอบเดือนนี้ของบริษัท เธอดูอย่างละเอียด ทำความคุ้นเคยกับระบบการทำงานนี้สักหน่อย ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปเธอต้องรับผิดชอบงานเกี่ยวกับการตลาด”
“โอเคครับ ลุงรอง”
“แต่ฉันให้เธอมาบริษัทไม่ใช่เพื่อเลี้ยงดูพวกขี้เกียจ เธอน่าจะรู้ว่าระดับคนที่MBKใช้นั้น พวกเราใช้พวกที่มีความสามารถเท่านั้น ถ้าสิ่งที่เธอทำทำให้ฉันไม่พอใจ ฉันไล่เธอออกได้ตลอดเวลา”
หลงยี่หยิบเอกสารนั้นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เปิดดู ดูอย่างละเอียด แล้วพยักหน้า “ลุงรอง คุณวางใจได้ ผมจะทำเพื่อบริษัทอย่างเต็มที่ ยังไงนี่ก็คือบริษัทตระกูลหลงของพวกเรา แน่นอนว่าผมจะทำอย่างเต็มที่!”
หลงจื๋อหัวเราะคิคิ แต่ใบหน้าไม่แสดงอาการใดๆ
เพียงก้มหน้าด้วยความอาย แล้วกำลังมองไปที่พ่ออย่างละเอียด เขาจะทำอะไรกันแน่? ทำไมเขาดูไม่ออกเลย
เสร็จเรื่องมอบงานให้หลงยี่แล้ว หลงถิงมองไปที่หลงจื๋อ มือขยับอย่างช้าๆไปที่ปากกาหมึกซึมสีดำ จากนั้น ได้หยิบเอกสารสีดำอีกหนึ่งฉบับออกมา เปิดออกมาแล้วเซ็นชื่อของตนเองลงบนกระดาษนั้น
“เสี่ยวจื๋อ ต่อจากวันนี้ไป แกรับตำแหน่งงานของพี่ใหญ่แกไปชั่วคราว งานของพี่ใหญ่แก แกคุ้นเคยกับมันสักหน่อยล่ะกัน”
นี่เป็นคำสั่ง เขาพูดเหมือนมันไม่สำคัญ คิดไม่ออกเลยว่าความคิดนี้มันจะตัดสินอะไรได้!
หลงจื๋อกำลังมองพ่ออย่างตกใจ “พ่อคุณพูดว่าอะไรนะ? คุณให้ผมทำหน้าที่แทนพี่ใหญ่? ไม่ได้ พี่ชายแค่ไปสัมมนาไม่ใช่จะไม่กลับมาแล้ว ทำไมต้องมีคนมาทำงานแทนเขา? เนื้องานของเขาเยอะสามารถส่งอีเมลหาเขาได้ ให้เขามาจัดการ ไม่จำเป็นต้องเชิญใครมาทำหน้าที่แทน พี่ใหญ่อยู่ที่เมืองเจียงเฉิงก็ไม่ใช่ว่าจะต้องดูแลโครงการทุกวัน งานหลักของเขาก็ต้องทำให้ดีด้วย แล้วตำแหน่งประธานจะให้ใครมาแทนที่ง่ายๆได้ยังไง ความสามารถของผมยังไม่พอ ไม่มีความสามารถนี้”
“ไม่มีความสามารถนี้? เสี่ยวจื๋อ คำพูดประโยคนี้ของแกหมายถึงจะให้ฉันหาคนอื่นมาแทนที่ตำแหน่งพี่ใหญ่แก? โอเค แกแนะนำให้ฉันสักคนล่ะกัน”
หลงถิงนั่งเอนไปข้างหลัง แววตาร้ายกาจมองไปที่หลงจื๋อ มองที่หลงจื๋อแล้วกลืนคำพูดทั้งหมด
หลงจื๋อกัดฟันแล้วกัดฟันอีก ไม่สนิทใจ แต่ไม่มีทางเลือก ต้องเผชิญหน้ากับอำนาจแรงกดดันของพ่อ ภายในใจเต้นอย่างรัวๆ “พ่อ ตำแหน่งของพี่ใหญ่เป็นตัวแปรสำคัญ เกี่ยวพันกับนโยบายของบริษัทโดยตรง เชื่อมต่อกับหลายๆโครงการ ยิ่งไปกว่านั้นยังกระทบกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดหลักทรัพย์ ทำไมคุณถึงสามารถมอบให้ใครก็ได้ล่ะ!”
“แน่นอนว่าฉันจะไม่เอาเรื่องสำคัญแบบนี้มอบให้ใครอย่าภาระการ ดังนั้นฉันถึงได้มอบให้แก ฉันเชื่อว่าสิ่งที่แกเรียนรู้จากพี่ใหญ่ เพียงพอที่แกจะขับเคลื่อนตำแหน่งนี้ อีกอย่าง ฉันจะให้ลุงเหลียงของแกช่วยแกจนถึงที่สุด ผู้ช่วยพิเศษของพี่ใหญ่แกในบริษัทนี้ มีเรื่องอะไรไม่เข้าใจถามเขาได้ตลอด แกไปคุ้นชินกับงานซะ ไม่มีธุระอะไรแล้วก็ออกกันไปเถอะ!”
ไม่ว่ายังไงหลงจื๋อก็ไม่ได้คาดการณ์ไว้ เขายังกังวลคนที่มาแทนตำแหน่งของพี่ใหญ่นั้น สุดท้ายแล้วกลายเป็นตัวเองเสียอย่างนั้น
ควรจะดีใจ หรือเสียใจดีนะ?
ในใจเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด ความรู้สึกไม่สงบใจหวิวๆเต็มไปบนใบหน้า
เกิดออกจากประตูห้องทำงาน หลงยี่ตบบ่าเข้าแล้วตบอีก “เสี่ยวจื๋อ ยินดีกับแกด้วยจริงๆ พี่ใหญ่ของแกไม่อยู่ที่บริษัท อีกไม่นานแกก็แทนที่ตำแหน่งประธานแล้ว ดูกันต่อไป……”
หลงจื๋อเงยหน้าขึ้นมาดูเขาอย่างดุร้าย “พี่ชายฝั่งพ่อพูดอะไรระวังหน่อยก็ดีนะ ระวังสิ่งที่พูดไปจะเข้าตัวนะ”
หลงยี่ไม่ถกเถียงกับเขาอีกต่อไป แต่หันกลับแล้วยิ้มเดินไปที่ลิฟท์ “ฮาย ฉันก็แค่ทำงานที่บริษัทเท่านั้น ลุงรองไม่สามารถให้ฉันเข้าไปมีอำนาจได้หรอก แต่เสี่ยวจื๋อ แกยังเด็กยังมีกำลัง อนาคตไกล ต้องฉวยโอกาสไว้ให้ดี ยังไงตำแหน่งประธานก็เจริญก้าวหน้า แต่มนุษย์เรามีความโลภนะ!”