คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 378 ฉันจะรอคุณเอาชัยชนะกลับมา
ตอนที่ 378 ฉันจะรอคุณเอาชัยชนะกลับมา
กอดเอวลั่วหานไว้ ทั้งสองเดินไปทางลิฟต์ หมอและพยาบาลที่อยู่เวรเห็นหลงเซียวมารับภรรยาเลิกงานด้วยตัวเอง ต่างก็มองกันด้วยสายตาอิจฉา
สิ่งที่สำคัญไม่ใช่มารับภรรยาเลิกงาน สิ่งที่สำคัญคือเขาอ่อนโยนขนาดนั้น
สิ่งที่สำคัญคือ เขาคือหลงเซียว คนที่พวกเขาได้แค่มองจากในทีวี ผู้ชายที่ไกลเกินเอื้อม แต่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
ร่างสูงใหญ่และความสง่าผ่าเผยที่หาที่เปรียบไม่ได้ ไปถึงไหนก็ดึงดูดสายตาผู้พบเห็น
ช่างมีเสน่ห์เหลือเกิน
ลั่วหานเอียงคอยิ้มให้หลงเซียว “ที่รัก สาวๆต่างมองแต่คุณ เพื่อนร่วมงานฉันหลงเสน่ห์คุณแล้ว”
หลงเซียวสายตามองแต่ข้างหน้าไม่ได้มองคนรอบด้านเลย แขนโอบลั่วหานไว้แน่น ท่าทางสง่าผ่าเผย “ใช่เหรอ? ทำไมผมไม่เห็น?”
ลั่วหานเอียงคอเงยหน้ามองคางสวยของเขา “ไม่เห็นเหรอ? ก็อยู่รอบด้านคุณไง ทั่วทุกทิศ มองอย่างเสียอย่างหมาป่า”
สายตาหลงเซียวมองมาที่ลั่วหาน “ผมเห็นแค่ภรรยาผม”
สายตาคนอื่นเป็นยังไง คนอื่นจะอยู่ไหนไม่สำคัญ เขาขอแค่ได้เห็นคนที่ตัวเองรักก็พอ
ลั่วหานได้ยินคำพูดของเขาแล้วยิ่งรู้สึกอบอุ่น ขยับตัวใกล้ชิดไปในอ้อมกอดเขาอีก
เดินถึงหน้าประตูโรงพยาบาล หลงเซียวกางร่ม ปกป้องลั่วหานไว้อย่างดี ให้หัวเธออยู่ใต้วงแขนเขา ไม่ให้เธอโดนฝนแม้แต่น้อย
ลั่วหานจับร่มในมือหลงเซียว ผลักร่มไปทางฝั่งเขา “ฉันไม่โดนฝน เสื้อคุณเปียกหมดแล้ว”
มือหลงเซียวไม่ขยับ ร่มยังคงอยู่เหนือศีรษะลั่วหาน “ผมเป็นผู้ชาย ผู้ชายก็ต้องฝ่าลมฝนได้”
ลั่วหานจับมือเขาไว้อย่างห่วงใย “ที่รัก คุณอย่าดีกับฉันขนาดนี้ เดี๋ยวฉันติด ติดแล้วเลิกยากนะ”
รถอยู่ไม่ไกลนัก หลงเซียวส่งลั่วหานขึ้นฝั่งข้างคนขับ กางร่มให้เธอขึ้นรถแล้ว ถึงพูด “ชอบความรู้สึกแบบนี้ไหม?”
ลั่วหานพยักหน้า สายตาเต็มไปด้วยความสุข “อืม ชอบ”
หลงเซียวกางร่ม ใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบแก้มเธอ ผิวนุ่มน่าสัมผัส “ถ้าชอบ ไม่ว่าติดไม่ติด ก็สนุกกับมันอย่างวางใจนะครับ”
ลั่วหานนั่งในรถ รอหลงเซียวขึ้นรถ มองดูท่าทางสง่าของเขาอย่างเสมอต้นเสมอปลาย “คุณไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ดูก็มีความสุขแล้ว”
หลงเซียวสตาร์ทรถ เสียงเครื่องยนต์ดังโคร่ง ที่ปัดฝนปัดฝนกระจกหน้ารถไปมา เหมือนปั่นป่วนความรู้สึกของใคร ความโศกเศร้าของใคร
แล้วกลับมาเป็นใบหน้าที่สงบ
“ถ้าวันหนึ่งผมเหลือแค่รูปลักษณ์ภายนอกที่ไร้ประโยชน์ละ? ไม่ทราบว่าเทพธิดาอย่างหมอฉู่ยังจะชอบอยู่ไหม?”
เขาพูดล้อเล่นและยิ้มให้เธอ รอยยิ้มที่อ่อนโยน
“ไม่เห็นเป็นไรเลย? คุณหลงรูปงามดั่งดอกไม้ ฉันหาเลี้ยงครอบครัว แบบนี้ยิ่งดี จะได้ไม่มีผู้หญิงอื่นมามองใบหน้าอันหล่อเหลาของสามีฉัน อีกหน่อยก็เก็บไว้ที่บ้านดูคนเดียว”
หลงเซียวเอามือข้างหนึ่งจับมือเธอไว้ วางบนตากของตัวเองอย่างวางใจ กดแล้วกดอีก เป็นมือขวาของเธอพอดี นิ้วเขาสัมผัสได้ถึงแหวนแต่งงานบนนิ้วนางของเธอ
“ได้ อีกหน่อยภรรยาผมก็หาเงินเลี้ยงครอบครัว ผมอยู่บ้านทำกับข้าวให้คุณกิน ต้มน้ำซุป เลี้ยงคุณให้อ้วนๆ ขาวๆ เลยยิ่งดี”
“ฮาๆ ไม่ดี ฉันไม่อยากกลายเป็นคนอ้วน”
“เป็นคนอ้วนไม่ดีตรงไหน คุณเข้ามาในใจผมตอนผอม อ้วนแล้วจะได้ออกไปไม่ได้ จะได้อยู่ข้างในตลอด”
“ฝึกมาจากไหนคะ? ในหนังสือเหรอ?”
“อันนี้ไม่สำคัญ ผมพูด ผมก็คือคนคิด”
“ท่านเซียว คุณยังคงเอาแต่ใจเหมือนเดิม ดูแล้วที่บ้านคงไม่เหมาะสำหรับคุณ”
ฝนค่อยๆ เล็กลงแล้ว เสียงฟ้าร้องสายฟ้าแลบก็ลดลงแล้ว ไฟถนนส่องทางเดิน เห็นทางได้ชัดขึ้น
น้ำที่ค้างตามถนนสะท้อนแสงไฟตามท้องถนน สีสันตระการตาดูแล้วสวยงาม
ลั่วหานร้องขึ้นมากะทันหัน “ที่รัก ฝนหยุดแล้ว”
ฝนตกมาทั้งวัน หยุดสักที หยุดอย่างรวดเร็ว แค่พริบตา เงยหน้าขึ้นมองทุกอย่างก็ดูชัดเจน
หลงเซียวมองไปด้านนอก ความเครียดที่อยู่ในใจก็ปล่อยวางลงเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ รู้สึกสดชื่นและมองไปท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สดใส “ใช่ ฝนหยุดแล้ว ท้องฟ้าสดใส เป็นเพราะคุณ รู้ไหม?”
ลั่วหานไม่กล้ารับ “สภาพอากาศฉันเปลี่ยนไม่ได้ คุณหลงก็ยกย่องเกินไปค่ะ”
“คุณทำได้”
คุณเปลี่ยนแปลงอากาศของธรรมชาติไม่ได้ แต่คุณเปลี่ยนอากาศในใจผมได้ คุณอยู่ตรงนี้ รอยยิ้มของคุณ เสียงของคุณ กลิ่นอายบนตัวคุณ……ทำให้โลกของผมสดใส —— ค่ำคืนหลังฝน ท้องฟ้าปลอดโปร่ง อากาศหลังฝนในเมืองหลวงดีเป็นพิเศษ แสงแดดสองเข้ามาจากหน้าต่าง ส่องอยู่บนหน้าอย่างอบอุ่น ลมเบาพักต้นไม้ดอกไม้ข้างนอก เป็นเช้าวันใหม่ที่สดใสและดีงาม
ลั่วหานตื่นมาพบว่า หลงเซียวออกไปออกกำลังกายแล้ว เธอพลาดเวลาออกกำลังกายตอนเช้าอีกแล้ว ลุกขึ้นแต่งตัวเข้าครัว
ไม่ได้ทำอาหารให้เขากินนานแล้ว วันนี้ลั่วหานอยากทำอาหารเช้าให้เขา
ความซาบซึ้งที่เขาทำให้เธอเมื่อคืน เธอคิดว่าก็ต้องตอบแทนเขาหน่อย
ถึงแม้ระหว่างสามีภรรยาไม่มีปัญหาเรื่องการตอบแทน
หลงเซียววิ่งเสร็จ ทำท่ายืดกล้ามเนื้อแขนอยู่ กดเบอร์โทรออกเชื่อมหูฟังบลูทูธ
กู้เยนเซินตื่นแล้ว แต่น้ำเสียงก็ยังคงเหมือนคนนอนไม่อิ่ม “คุณชายหลง โทรหาผมแต่เช้า คงไม่ได้จะสั่งงานผมหรอกนะ? ผมเพิ่งตื่นนะ”
สายตาหลงเซียวมองไปที่ดอกทิวลิปที่ล้มไปเพราะพายุฝนจากเมื่อวาน สายตาสลด “เมื่อวานคุยกับหุ้นส่วนของบริษัทโม่ซื่อเป็นไงบ้าง? จัดการได้กี่รายแล้ว?”
กู้เยนเซินหาว และมีเสียงดื่มน้ำ “เมื่อวานฝนหนักขนาดนั้น ก็มีการล่าช้าหน่อย แต่สามรายที่ติดต่อไปก็แสดงถึงความไม่มั่นใจในโม่ซื่อ เตรียมตัวจะถอนทุนจากโม่ซื่อ แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดจะลงทุนกับบริษัทฉู่ซื่อ และดูเหมือนจะอยากร่วมงานกับเกาจิ่งอาน ช่วงนี้ธุรกิจเกาจิ่งอานไปได้ค่อนข้างดี”
หลงเซียวหรี่ตา “ได้ วันนี้นายกับไป๋เวยไปติดตามส่วนที่เหลือ ฉันต้องเอาโม่ซื่อให้ได้ในอาทิตย์นี้”
“พรวด”
กู้เยนเซินพ่นน้ำชาที่ดื่มเข้าไปออกมา “แค่กๆๆ สำลักเกือบตาย นายพูดอะไรนะ? อาทิตย์นี้? คุณชายหลง ล้อเล่นใช่ไหม? ตอนนี้แค่ติดต่อกับหุ้นส่วนให้พวกเขาถอนทุนที่ร่วมงานกับโม่ซื่ออยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าโม่ซื่อจะล้มละลายในวันสองวัน คุณชายหลง โม่ซื่อไม่ใช่บริษัทเล็กๆนะ ต้องใช้เวลา”
“ฉันรู้ เพราะฉะนั้นฉันต้องเร่งเวลา ไม่ต้องถามเพราะอะไร ฉันต้องการให้โม่ชื่อเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนสกุล”
กู้เยนเซินเช็ดปากอย่างไม่มีคำจะพูด “ได้ ฉันกับไป๋เวยจะพยายามเร่ง ฉันว่านะคุณชายหลง ชีวิตฉันทำไมถึงได้ลำบากขนาดนี้ บริษัทที่บ้านฉันไม่อยากดูแล ตอนนี้ดีละ ฉันต้องลำบากลำบนมาช่วยนายจัดการกับคู่แข่ง เห้อ ชีวิตลำเค็ญ”
หลงเซียวหัวเราะ ให้คำสัญญากับกู้เยนเซินที่คุ้มค่า “เรื่องนี้สำเร็จ ฉันให้หุ้นสามเปอร์เซ็นต์ของโม่ซื่อให้นาย นายจะจัดการยังไงก็ได้”
“พรวด”
กู้เยนเซินพ่นน้ำที่เพิ่งดื่มเข้าไปออกมาอีก
“เฮ้ย หุ้น? นายให้หุ้นโม่ซื่อ? สามเปอร์เซ็นต์ นายรู้ไหมว่าราคาหุ้นของโม่ซื่อตอนนี้ สามเปอร์เซ็นต์แปลว่าอะไร? นายให้ฉัน…….”
“ตัวเลขนายรู้ก็พอ”
หลงเซียววางสาย จากนั้นก็โทรหาผู้จัดการของMBKทางสาขาอเมริกา เสียงที่สุขุมเคร่งขรึมด้วยภาษาอังกฤษดังอยู่ท่ามกลางสวนในยามเช้า
“Kreis มีเรื่องหนึ่งต้องช่วยฉันตอนนี้ ฟังนะ อย่างนี้……”
หลงเซียวพูดจบ ก็วางสาย
โทรศัพท์ทั้งสองสายเสร็จ หลงเซียวก็ยืดกล้ามเนื้อหลังวิ่งเสร็จ ร่างสูงสง่าเดินด้วยความมั่นใจเข้าไปในคฤหาสน์
เข้าไป ก็ได้กลิ่นหอมอบอวล หลงเซียวเงยหน้าก็เห็นลั่วหานถือจานกับข้าวเดินมาพอดี กลิ่นหอมทำให้น่าลิ้มลอง
“เสร็จแล้วเหรอ? ล้างมือเตรียมกินข้าวค่ะ”
หลงเซียวเปลี่ยนรองเท้าในบ้าน ขมวดคิ้ว “ที่บ้านมีแม่บ้านไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณถึงลงมาทำกับข้าวเอง?”
“กับข้าวที่แม่บ้านทำ จะได้รสชาตินี้เหรอ?”
หลงเซียวไม่ได้รีบไปล้างมือ แต่เดินตามลั่วหานเข้าไปในห้องกินข้าว เห็นเธอวางจานลง ร่างสูงโน้มตัวไปหาเธอ น้ำเสียงครุมเครือพูดข้างหูเธอ “หือ? รสชาติอะไร? รสชาติของภรรยา?”
กลิ่นหอมของดอกไม้ผสมกับกลิ่นเหงื่ออบอวลในห้อง ลั่วหานหันหลัง ปากเธอโดนปากเขาพอดี ไออุ่นพร่าไปทั่วร่าง นิ้วมือสั่นเครือ
“เช้าตรู่แบบนี้ อย่าทำเรื่องไม่ดีนะ คุณหลง”
“หือ? ผมกับเมียรักใคร่กัน ไม่ได้ทำอะไรไม่ดี?”
ลั่วหานจะหันกลับ แต่กลับถูกเขากดทับไว้ระหว่างอกเขากับโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมน่าดม แสงอันอบอุ่น ช่างเป็นเวลาอาหารเช้าที่ดีงาม
“กินข้าว”
“หือ?” เขาไม่ยอมหลบ จ้องอยู่ที่ริมฝีปากของเธอ
“ฉันบอกว่า กินข้าว”
“กับข้าวเมื่อกี้ คุณกินรึยัง? ชิมรึยัง?” ร่างหลงเซียวก้มลงยิ่งอยู่ยิ่งต่ำ ร่างใหญ่ของเขาจะทับบนร่างของลั่วหานแล้ว
ลั่วหานกลืนน้ำลาย ผู้ชายคนนี้ชั่ง……ทำให้คนบ้าคลั่ง
“กินแล้ว ไม่เค็มไม่จืด ไม่ใส่ผักชีกับขิง อะไรที่คุณไม่ชอบ ไม่ได้……อือ”
ลั่วหานกำลังอธิบาย ทันใดนั้นริมฝีปากร้อน ถูกปากเขากดทับลงมาแน่น
เนิ่นนาน
“อืม รสชาติใช้ได้ เมียผมพูดถูก มีแต่อาหารที่คุณทำเท่านั้น ถึงมีรสชาตินี้”
สายตาอันชาญฉลาดของลั่วหานมองที่ตาของเขา “คุณหลง คุณแกล้งฉัน”
หลงเซียวปล่อยเธอ พูดประโยชน์หนึ่งออกมาที่ฟังดูลึกลับ “ผมมีสงครามหนักต้องไปสู้รบ เมียผมก็คือกองหนุนของผม ผมต้องเติมพลังจากคุณก่อน”
“หือ? สงครามอะไร?”
ทำไมรู้สึกแปลกๆ
“ระหว่างผู้ชาย”
ลั่วหานกอดอก ยิ้มอย่างสดใส “ให้ฉันเป็นกองหนุนได้ คุณหลงต้องเอาชัยชนะกลับมานะคะ”
“ครับ แน่นอน”