คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 376 ตัดขาดกรรมสิทธิ์ในมือลูกชายลับหลัง
ตอนที่ 376 ตัดขาดกรรมสิทธิ์ในมือลูกชายลับหลัง
หลงเซียวกลับไปถึงออฟฟิศ นิ้วเรียวยาวกำลังดึงเนกไท เนกไทโดนเขาดึงออก ถึงรู้สึกหายใจโล่งสักที นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยอาการเหนื่อยล้า
เงยหน้า เห็นพายุสายฟ้าด้านนอก หลงเซียวรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อย
เวลาเดียวกัน หน้าจอคอมพิวเตอร์มีหัวข้อข่าวเด้งออกมา เป็นข่าวธุรกิจในเมืองหลวง ทุกครั้งต้องเกี่ยวข้องกับแวดวงธุรกิจหรือบริษัทยักษ์ใหญ่ในเมืองนี้
หลงเซียวกวาดสายตาดู หัวข้อข่าวนั้น
“หุ้นส่วนของบริษัทโม่ซื่อตก วันนี้มีการตกอีกระลอก จนถึงตอนนี้ อุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้างแบบดั้งเดิมได้มีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนเงินสองหมื่นล้านหยวนแล้ว”
หลงเซียวไม่ได้กดเปิดข่าวมาดู ชะตากรรมของโม่ซื่อเขารู้อยู่แล้ว จะช้าหรือเร็วเท่านั้น
สองมือประสานกัน วางอยู่บนโต๊ะทำงาน หลงเซียวถอนหายใจ จากนั้นก็หยิบเปิดแฟ้มเอกสาร หยิบเอกสารออกมาหนึ่งฉบับ
ประตูห้องทำงานถูกเคาะ น้ำเสียงอ่อนล้าของหลงเซียวพูดขึ้น “เข้ามา”
จี้ตงหมิงเดินเข้ามา ก้มตัว “ประธาน ท่านประธานบอกว่า ให้ท่านเปิดบัญชีส่วนตัว การเปิดขายหุ้นส่วนบริษัท เริ่มต้นตั้งแต่ตอนนี้”
มือหลงเซียวไม่ได้หยุดลง เซ็นชื่อลงในเอกสาร วางลง “ได้”
ได้ยินประธานตอบแค่ว่าได้คำเดียว จี้ตงหมิงพูดขึ้นด้วยความโมโหรู้สึกถึงความไม่ยุติธรรม “ประธาน วิธีของท่านประธาน เห็นได้ชัดว่าต้องการลงสิทธิของท่านลง”
หลงเซียวมุมปากโค้งขึ้น เงยหน้ามองสีหน้าของจี้ตงหมิง “นายยังดูออกเลย ฉันจะดูไม่ออกเหรอ?”
จี้ตงหมิงลิ้นพันกัน “แต่ว่าประธาน ถ้ารู้แล้ว ทำไม……ไม่ทำอะไรเลย?”
หลงเซียวเปิดหน้าตลาดหุ่นบนจอคอมพิวเตอร์ เส้นสีแดงสีเขียวพันไปมาบนหน้าจอ หุ้นสองตัวที่ราคาในตลาดหุ้นมั่นคงที่สุดในตอนนี้ ตัวแรกคือMBK อีกตัวคือบริษัทเซิ่งซื่อ บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งสองในประเทศ ควบคุมคนละฝั่ง
ต่างก็เฝ้ามองสถานการณ์อีกฝ่าย แต่ไม่มีการติดต่อโดยตรง
เปลี่ยนความคิด หลงเซียวไม่ได้ดูต่อ แต่ล็อกอินรหัสบัญชีตัวเอง ปล่อยหุ้นส่วนตัวเองตามอัตราออกไป
จี้ตงหมิงพูด “ประธาน หรือไม่ ประธานเปิดบัญชีอีกบัญชีหนึ่ง ซื้อหุ้นที่ปล่อยออกไปกลับมา?”
หลงเซียวยิ้มในความไร้เดียงสาของเขา “นายคิดว่าเขาคิดไม่ถึงเหรอ?”
จี้ตงหมิงพูดไม่ออก “แต่ปล่อยสิทธิ์ไปแบบนี้ มันรู้สึกไม่สบายใจ”
หลงเซียวส่ายมือ ห้ามเขาพูดเรื่องนี้ต่อ “คอมเตรียมเสร็จรึยัง?”
“เตรียมเสร็จแล้วครับ เดี๋ยวผมเอามาให้เดี๋ยวนี้”
“ได้”
จี้ตงหมิงเดินออกจากออฟฟิศ โทรศัพท์หลงเซียวดังขึ้น เบอร์ของไป๋เวย ดูแล้วน่าจะมีข่าวของโม่ซื่อ
“คุณไป๋” หลงเซียวถือโทรศัพท์ หลับตาแอนหลังบนเก้าอี้ ตอนี้เขาเตรียมตัวฟังข่าวดี
“คุณหลง ตอนนี้พวกเราเตรียมตัวตรวจสอบบริษัทโม่ซื่อแล้ว คุณมีอะไรจะสั่งไหม พวกเราจะรีบไปจัดการ”
มีเอกสารบึกใหญ่ตางหน้าไป๋เวย วางอย่างเรียบร้อย สูงได้ประมาณสามสิบเซนติเมตร ล้วนเป็นเอกสารเกี่ยวกับบริษัทโม่ซื่อ ควบคุมทุกด้าน
หลงเซียวใช้นิ้วนวดหน้าผากตัวเอง “โม่ซื่อร่วมมืออยู่กับสิบบริษัท หาวิธีทำลายให้หมด ตัดหนทางของโม่ซื่อให้หมด ถ้ามีปัญหาตรงไหนรีบติดต่อผม”
“ได้ค่ะ คุณหลง ฉันจะให้คนรีบไปทำ”
“ไม่ เรื่องนี้ คุณไปทำเอง ให้คุณชายกู้ไปกับคุณ ตั้งแต่ตอนนี้ไป คุณสองคนรับมือเรื่องรับซื้อโม่ซื่อทั้งหมด ผมต้องการซื้อบริษัทโม่ซื่อให้เร็วที่สุด”
ไป๋เวยรู้สึกแปลกใจ “คุณหลง เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อนมาก? ตอนนี้ผลกระทบของโม่ซื่อเพิ่งเริ่ม รอให้พวกเขาประคองไม่ไหวแล้วค่อยรับซื้อก็ไม่สาย อีกอย่างถึงตอนนั้นก็กดราคาได้”
“ถ้าอย่างนั้นก็ย่อเวลาให้สั้นลง”
เพราะว่าหลงเซียวไม่รู้ว่า เงินทุนของเขายังประคองได้ถึงตอนโม่ซื่อล้มไหม
ไม่มีคนรู้ ตอนนี้เขากำลังสู้รบกับเวลา การสู้รบครั้งนี้……หรืออาจจะเป็นการตัดสินหนทางข้างหน้าของตัวเขาเอง
“ได้ ฉันจะไปทำเดี๋ยวนี้”
กู้เยนเซินขมวดคิ้ว “ไม่เหมือนวิธีการของคุณชายหลง เขาทำงานหนักแน่นเด็ดเดี่ยว สำหรับเหยื่อแล้วเขาต้องเล่นจนเบื่อแล้วถึงบีบให้ตาย สำหรับโม่ซื่อแล้ว เขาเหมือนกลั้นไม่อยู่”
ไป๋เวยปิดคอม หยิบกุญแจบนโต๊ะ “พอแล้ว ไม่ต้องคิดแล้ว ทำตามคำพูดของคุณหลง ตอนนี้พวกเราต้องทำลายบริษัทหุ้นส่วนของโม่ซื่อให้หมด”
กู้เยนเซินรู้สึกอึดอัด “ไป๋เวย คุณทำไมถึงฟังคำพูดคุณชายหลงขนาดนี้? ลั่วหานเป็นผู้มีพระคุณของคุณ คุณตอบแทนเขาโดยการช่วยดูแลบริษัทก็แล้วไป แต่ตอนนี้คุณก็ฟังคำพูดของคุณชายหลง? เมื่อไหร่คุณจะฟังคำพูดของผมบ้าง?”
เสียงรองเท้าส้นสูงของไป๋เวยกระทบกับพื้น ร่างบางเดินเข้าลิฟต์อย่างรวดเร็ว ยื่นนิ้วกดลิฟต์ “ประธานกู้ คุณหลงเป็นประธานใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทฉู่ซื่อ สำหรับประธานแล้วฉันก็ต้องเชื่อฟังซิ”
ประตูลิฟต์ปิดแล้ว กู้เยนเซินยื่นมือไปกอดเอวเธอ ยืนปากไปชิดกับแก้มเธอ “แล้วผมละ? ผมเป็นผู้ชายของคุณ”
ไป๋เวยหัวเราะ ใช้มือผลักหน้าเขาออก “ผู้ชาย? แฟนก็ต้องเอาไว้รังแก ถ้าไม่ยอม ก็ออกจากตำแหน่งได้ตลอด”
“เห้ย” —— ลั่วหานถูกเสียงฟ้าผ่าฟ้าแลบทำให้ใจไม่สงบทั้งวัน จัดการผู้ป่วยฉุกเฉินเรียบร้อยแล้ว ก็กลับออฟฟิศจากชั้นหนึ่ง พอเดินถึงหน้าลิฟต์รองเท้าก็ลื่น ทำให้ยืนไม่นิ่งเกือบล้มลงไป
“หมอฉู่ ระวัง”
ดีที่มีมือข้างหนึ่งมาประคองเธอไว้ได้ทัน มือที่แข็งแรง มาได้ทันเวลา ลั่วหานเกือบคิดไปว่าหลงเซียวกลับมาแล้ว
หันไปมอง ลั่วหานเห็นหวาเทียน ยิ้มปกปิดอาการลำบากใจ “หมอหวา บังเอิญจัง”
หวาเทียนยักคิ้ว “ไม่บังเอิญ ผมเดินอยู่หลังคุณพอดี เห็นคุณเดินเอียงไปเอียงมา ล้มได้ตลอด คิดไม่ถึงว่าจะ……”
เขายักไหล่
ลั่วหานสายตาเป็นแววประกายความเฉลียวฉลาด “ฝนตกมาทั้งวัน จนรู้สึกหงุดหงิดเลย”
หวาเทียนมองนอกหน้าต่าง “อืม น่าหงุดหงิดเหมือนกัน อากาศแบบนี้ น่าจะหลบอยู่ในบ้าน นั่งกินขนมดูทีวีบนโซฟา วันฝนตกไม่เหมาะกับการทำงาน โดยเฉพาะงานแบบเรา”
ลั่วหานหัวเราะ “พูดแบบนี้ หมอหวาหวังให้ฉันให้คุณหยุดงาน?”
หวาเทียนยักไหล่ “ตอนนี้ดูแล้ว คนที่ต้องการหยุดงานน่าจะเป็นหมอฉู่ หมอฉู่เวลาเดินระวังหน่อย ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบเดินตามหลังหมอนะ”
“ความผิดพลาดเรื่องเดียวกัน ฉันจะไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก”
ประตูลิฟต์เปิด ลั่วหานกับหวาเทียนเดินเข้าไปในลิฟต์ ทั้งสองคนยืนเงียบในลิฟต์
หลายวินาทีผ่านไป ลั่วหานพูดขึ้น “ครั้งที่แล้วคุณกับศาสตราจารย์ส้งขับรถออกไป หลงเซียวพาคุณไปกะทันหัน คงไม่ได้พาคุณไปนั่งรถเล่นหรอกนะ?”
หวาเทียนพยักหน้า “ไม่ใช่ แต่ผมเล่ารายละเอียดให้คุณฟังไม่ได้ หลายเรื่องไม่รู้จะดีกว่า”
ลั่วหานเงยหน้ามองหวาเทียน สายตาอันชาญฉลาดของเธอเหมือนมองทะลุสายตาของหวาเทียน “ไม่อยากให้ฉันรู้?”
“หมอฉู่ถามผมแบบนี้ แสดงว่าคุณหลงก็ไม่ได้เล่าความจริงให้คุณฟัง? ถ้าสามีคุณยังไม่พูด ผมก็ยิ่งพูดไม่ได้”
เห้อ สองคนนี้ช่างน่าสนใจจริง
เหลือเวลาเลิกงานอีกครึ่งชั่วโมง ลั่วหานไม่มีอะไรพิเศษ เลิกงานปกติได้ เก็บเอกสารบนโต๊ะทำงาน ลั่วหานก็เปิดหนังสือการแพทย์อ่านไปรอรถหลงเซียวมารับเธอ —— หลงเซียวดูนาฬิกาข้อมือ ใกล้เวลาเลิกงานของลั่วหานแล้ว ฝนยังคงตกหนัก รถติดบนท้องถนน หลงเซียวตัดสินไปรับเธอก่อนเวลา
ปิดคอมหยิบเสื้อสูทบนเก้าอี้ หลงเซียวก็ลุกจากเก้าอี้
“ประธาน ท่านประธานใหญ่หา เชิญท่านไปที่ออฟฟิศชั้นบนค่ะ” ออกจากประตู หลงเซียวก็โดนเลขาของหลงถิงขวางไว้
หลงเซียวรู้สึกไม่พอใจ สายตาเฉียบคมมองที่เลขา จนเลขารู้สึกตกใจ
“เรื่องอะไร?” รู้สึกได้ถึงอารมณ์ สามคำสั้นๆแต่ชัดเจน
“ท่านประธานบอกให้ท่านต้องไป มีเรื่องสำคัญ รบกวนท่านไปตอนนี้หน่อยค่ะ” เลขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง ไม่กล้าพูดมากแม้แต่คำเดียว
หลงเซียวเม้มปากแน่น สูดอากาศเข้าอย่างแรง “อืม”
ในออฟฟิศหลงถิง เป็นสถานที่หลงเซียวไม่อยากมาที่สุด ไม่มีลำดับสอง
หลงเซียวเดินเข้าไป หลงถิงนั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เหลียงจ้งซุนนั่งอยู่อีกฝั่ง ภายในออฟฟิศมีเพียงเขาสองคน บรรยากาศก็อึดอัดพอแล้ว
“พ่อ หาผม”
คำถามเรียบง่าย ร่างสูงยืนในออฟฟิศ เปิดปากถามอย่างเรียบง่าย
หลงถิงชี้เก้าอี้ตรงหน้า “นั่งก่อนค่อยพูด”
หลงเซียวมองนาฬิกาแขวนบนผนังห้อง เขาต้องการจบการสนทนาที่น่าเบื่อนี้อย่างรวดเร็ว แล้วไปรับลั่วหานกลับบ้าน
“ไม่ต้องแล้ว พ่อมีอะไร ก็พูดเถอะ”
หลงถิงถอนหายใจ “การประชุมในวันนี้ พ่อไม่ได้เจาะจงใครทั้งนั้น เศรษฐกิจในท้องตลาดเป็นแบบนี้ การเข้าสู่ตลาดก็เหมือนการรวมแม่น้ำทุกสายมารวมกัน เข้าใจความหมายใช่ไหม”
หลงเซียวรู้สึกเหมือนประชด น้ำเสียงยังเรียบเฉย “ถ้าเป็นเพราะเรื่องนี้ พ่อไม่ต้องเสียเวลาแล้ว”
“ตรงนี้เป็นเอกสารแผนงานโครงการหนึ่ง MBKจะเตรียมเปิดโครงการอาคารสำนักงานหรูในเมืองเจียงเฉิง พ่อหวังว่าลูกจะเป็นคนรับผิดชอบโครงการนี้”
หลงถิงยื่นเอกสารให้หลงเซียว กำชับซ้ำ “บริษัทวางแผนจะสร้างความสูงของตึกนี้ให้สูงร้อยสิบชั้น แต่คณะกรรมการพรรคเทศบาลเมืองเจียงเฉิงกับสำนักงานการบริหารอสังหาริมทรัพย์มีปัญหาสงสัยเรื่องความปลอดภัย พ่อหวังว่าลูกจะจัดการเรื่องนี้ให้ดี ให้โครงการเริ่มได้ตามกำหนด”
หลงเซียวเปิดเอกสาร ขมวดคิ้ว “ความสูงระดับนี้ จะเป็นตึกที่สูงที่สุดในเมืองเจียงเฉิง ผู้ว่าเมืองเจียงเฉิงไม่อนุมัติโครงการนี้ให้ MBKแน่นอน”
หลงถิงลุกจากเก้าอี้ มือใหญ่ตบไปที่ไหล่ของหลงเซียว จากนั้นก็หัวเราะ ใบหน้าที่ชราแล้วมีร้อยย่น “ในฐานะประธานMBK ความสามารถแค่นี้ก็ไม่มีหรือ? ลูกชายพ่อ ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์”
สายตาหลงเซียวเย็นชาไปทันที “ปัง”โยนเอกสารไปบนโต๊ะ “นโยบายมันแข็งเกินไป พ่อไม่ได้จะแข่งขันกับผม แต่จะแข่งกับรัฐบาล พ่อ แขนหรือจะบิดสู้ขาได้ MBKยังไม่ได้ร่ำรวยค้ำประเทศขนาดนั้น”
หลงถิงหัวเราะคิกคิก แล้วหยิบเอกสารขึ้นมา “หลงเซียว ลูกเป็นอัจฉริยะในการบริหารงานที่พ่อสอนมากับมือ เป็นนักเจรจาที่ทุกคนยอมรับ คนอื่นทำไม่ได้ พ่อเชื่อว่าลูกทำได้ โครงการใหญ่นี้ พ่อหวังว่าลูกจะทำสุดความสามารถ”
หลงเซียวมองเอกสารฉบับนั้น สายตาดูถูกที่ไร้ร่องรอย “ความหมายของพ่อคือ ให้ผมไปเมืองเจียงเฉิง?”
สายตาที่ยากจะคาดการณ์ของหลงถิงมองที่ลูกชาย “ใช่ ระยะแรกของโครงการ พ่อหวังว่าลูกจะเข้าร่วมและดูแลตลอด รอจนโครงการคงที่แล้วค่อยกลับมา ช่วงนี้ งานในมือ พ่อจะให้คนมาดูแลแทน”
เหอะ
สองพ่อลูกจ้องตากัน เสมือนสู้รบกันกลางอากาศ
จะมีใครดูไม่ออก นี่เป็นการให้เขาไปทำงานนอกพื้นที่เพื่อดึงสิทธิ์อำนาจของเขาทั้งหมดออก อะไรโครงการเมืองเจียงเฉิง อะไรความรับผิดชอบสูง ก็แค่เป็นอุบายต้องกายยึดอำนาจของเขานั่นเอง
หลงเซียวพยักหน้า ไม่ได้มีการคัดค้าน หยิบเอกสารฉบับนั้นม้วนไว้ในมือ จับไว้แน่น “ได้”