คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 369 ผมเคยรับปากกับภรรยาผม
ตอนที่ 369 ผมเคยรับปากกับภรรยาผม
โน้มน้าวใจ ไปทีละขั้น หลงเซียวบีบจนหวาเทียนไม่มีทางให้ถอยแล้ว สายตาที่คมลึกและเยือกเย็นดั่งน้ำแข็ง ตอนที่จ้องมองเขากลับทำได้อย่างเงียบๆ
มือทั้งสองของหวาเทียนได้กำไว้อย่างแน่น เงยหน้าจ้องตากับหลงเซียว กัดฟันแล้วยิ้มประชด “คุณชายหลงนี่ช่างล้อเล่นเก่งจริงๆ! ความแค้นระหว่างฉันกับคุณไม่มีความเกี่ยวข้องกับคนอื่นหรอก คนที่ทำให้พ่อแม่ฉันต้องตายก็คือคุณ คนที่อยากจะฆ่าคุณก็คือฉัน มันก็ง่ายๆแค่นี้เอง”
ส้งชิงเซวี๋ยนมองพวกเขาสองคน “รอเดี๋ยวๆ ให้ตาลุงแก่คนนี้พูดสักคำเถอะ หวาเทียน หลงเซียวอยากให้โอกาสแกแล้วนะ แกก็ยอมรับผิดและพูดออกมาเถอะ เอาความเป็นลูกผู้ชายออกมาหน่อย ได้มั้ย? แกวางระเบิดในรถเขา เขาไม่ส่งแกเข้าคุกโดยตรงก็ถือว่าให้หน้าแกมากแล้ว แกก็อย่าฝืนอีกเลย”
หวาเทียนทำเหมือนไม่ได้ยิน และยังจ้องมองที่หลงเซียว “กล้าทำก็กล้ารับ ฉันเป็นคนที่คิดจะฆ่าแกเอง แกอยากจะส่งฉันเข้าคุกก็ต้องมีวิธีของแกเองอยู่แล้ว ไม่ต้องมาเสแสร้งเป็นคนดีหรอก”
นิ้วมือที่สะอาดและเรียวยาวของหลงเซียวได้ช่วยจัดความเรียบร้อยคอเสื้อของหวาเทียน นิ้วมือดึงที่คอเสื้อเขาให้เรียบ แล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “คุณชายหวาเป็นคนที่กล้าทำกล้ารับฉันนับถือจริงๆ แต่ดูเหมือนคุณชายหวาจะลืมไปแล้วว่า หลังจากพ่อแม่ของคูณเสียไปแล้ว ป้ากับลุงได้เลี้ยงดูคุณเหมือนลูกแท้ๆของตัวเอง…..ฉันคิดว่า คุณคงไม่อยากเห็นพวกเค้าอายุวัยทองแล้วที่เสียคนในครอบครัวไปแล้วยังจะต้องเสียอีกนะ คุณชายหวานับถือป้าและลุงของตัวเองมาก ถ้าหากคุณทนเห็นได้ว่าตอนที่พวกเค้าแก่แล้วไม่มีคนคอยดูแล……”
“หลงเซียว! แกคิดจะทำอะไร!”
ทันใดนั้นหวาเทียนก็ดิ้นโมโหทันที เป็นเพราะความโกรธบนใบหน้าเต็มไปด้วยเส้นเลือด กัดฟันไว้อย่างแน่น ใบหน้าที่บิดเบี้ยวช่างน่ากลัวจริงๆ เสมือนสัตว์ร้ายที่กำลังดิ้นรนครั้งสุดท้ายในชีวิต
แต่หลงเซียวก็ยังชิวๆสบายๆเหมือนเดิม นิ้วมือเอาออกจากคอเสื้อเขา แล้วตบที่ไหล่เขาเบาๆ เหมือนกับว่ากำลังชมดูศิลปะของตัวเอง หลังจากนั้นก็จ้องมองสายตาที่โมโหของหวาเทียน “คุณชายหวารีบร้อนอะไรกัน? ก็เหมือนที่คุณชายหวาพูด ฉันก็เป็นแค่นักธุรกิจที่ฆ่าคนอย่างเลือดเย็นเท่านั้นเอง เรื่องที่ฉันทำทั้งหมดคุณน่าจะไม่รู้สึกว่ามันจะแปลกตรงไหนนี่น่ะ”
หวาเทียนขยับปาก ใบหน้ายิ่งน่ากลัวขึ้นมาอีก ในตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดแดง สายตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารลุกเป็นไฟ กัดฟันและตะโกนเสียงดัง“หลงเซียว แกกล้าแตะต้องพวกเขา ฉันจะทำให้แกปลาตายแหขาด!”
หลงเซียวก็ยังยิ้มอย่างวางตัว ร่างที่สูงใหญ่ถูกสายลมพัดผ่าน ความสง่าและสูงส่งไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย “คุณชายหวาคงจะไร้เดียงสาเกินไปแล้ว ปลาจะตายแต่แหไม่มีทางขาดหรอก คุณชายหวาจ้องฉันมากี่ปีแล้วถึงได้มาลงมือตอนนี้ ก็คงเห็นได้ชัดแล้วว่า? คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ฉันหรอก”
หวาเทียนกำหมัดอีกครั้ง ลงไปที่หน้าอีกข้างนึงของหลงเซียวจะจู่โจมอีกครั้ง!
“แปะ!”
หมัดยังไม่ทันโดนที่หน้าของท่านเซียว มือใหญ่ข้างนึงหยุดหมัดของเขาไว้ และกำไว้ในฝ่ามืออย่างแน่น แล้วใช้แรงมือหมุน ข้อมือของหวาเทียนแทบจะถูกเขาหมุนจนหาก!
“อ้า!”
หวาเทียนเจ็บข้อมือ จนร้องเสียงดังออกมา มองดูข้อมือของตัวเองที่ถูกหลงเซียวหมุนจนบิดเบี้ยว ความเจ็บปวดกระจายไปทั่วร่างกาย ทันใดนั้นสีหน้าได้ขาวซีดทันที
มือของหลงเซียวรักษาท่าทางเอาไว้ แล้วพูดอย่างเสียใดว่า “คุณชายหวาเป็นศัลยแพทย์ มือคู่นี้มีความหมายที่ล้ำค่า รักษาให้ดีๆเถอะ!”
พูดจบ เขาก็ได้ปล่อยมือหวาเทียน หลังจากนั้นหวาเทียนเสียการทรงตัวจึงเดินถอยหลังไปก้าวใหญ่ แผ่นหลังดัง“ปัง” ชนที่รถ ถึงได้ยืนทรงตัวได้
“หลงเซียว ฉันรู้ว่าแกแข็งแกร่งมาก แต่อย่าลืมว่า กระต่ายตื่นกลัวแล้วก็กัดคนเป็นเหมือนกัน!”
ทันใดนั้นส้งชิงเซวี๋ยนปิดปากหวาเทียนเอาไว้ “ไอ้เด็กนี่ ยังจะพูดอีก! อยากจะตายนักรึไง!”
หวาเทียนคิ้มออกจากมือของส้งชิงเซวี๋ยน “หลงเซียว ความแค้นระหว่างฉันกับแกไม่จบง่ายๆแบบนี้หรอก!"
หลงเซียวเล่นมือถืออย่างชิวๆ และใช้นิ้วหมุนมือถือเล่น “กระต่ายตื่นแล้วก็กัดคนได้ แต่ถึงยังไงกระต่ายก็ยังเป็นกระต่ายอยู่ดี ถึงจะกัดยังไงก็หนีปืนของนักล่าไม่พ้นหรอก หวาเทียน ถ้าหากคุณอยากเห็นครอบครัวลุงกับป้าของคุณแตกสลายล่ะก็ เชิญคุณช่วยปกป้องคนที่อยู่เบื้องหลังต่อได้เลย”
พูดแล้ว หลงเซียวใช้มือถือยกคางของหวาเทียนขึ้น “กลับกัน ถ้าหากแกยอมพูดว่าใครเป็นคนอยู่เบื้องหลัง ฉันจะรับประกันความปลอดภัยของคุณเอง”
หวาเทียนจ้องหลงเซียวด้วยตาโต แล้วหายใจลึกๆ ในสมองกำลังวุ่นวายเหมือนทำสงคราม หลังจากนั้นได้กัดฟันไว้อย่างแน่น “มีอะไรที่ฉันถึงต้องเชื่อใจแก?”
“เชอะ!” หลงเซียวยิ้มอย่างดูถูก “เพราะฉันคือหลงเซียวยังไงล่ะ”
หวาเทียนนวดข้อมือที่ถูกเขาหมุนจนเจ็บ ไม่พูดอะไร
ส้งชิงเซวี๋ยนใจร้อนจนขึ้นสมอง “หวาเทียน แกโง่รึไง? หลงเซียวถึงกับรับปากด้วยตัวเองแล้ว แกยังจะกลัวอะไรอีก? แกดูสิ อยู่ในเมืองหลวงยังมีใครกล้าต่อกรกับเขามั้ย? ขอแค่เขาอยากจะปกป้องแก แกก็จะปลอดภัยแน่นอน ยังไม่รีบพูดออกมาอีก”
ส้งชิงเซวี๋ยนเปิดทางลงให้แก่หวาเทียนแล้ว หวาเทียนคิดแล้วคิดอีก แล้วมองมาที่หลงเซียวซ้ำๆ
“ครอบครัวป้ากับลุงฉัน ฉันหวังว่าคุณจะรับประกันความปลอดภัยของพวกเค้าด้วย”
หลงเซียวพยักหน้า“แน่นอน”
หวาเทียนกัดฟันอีกครั้ง “เรื่องนี้ ฉันหวังว่าหลังจากคุณรู้แล้ว……”
“จะไม่มีใครรู้ว่าคุณเป็นคนพูด” หลงเซียวพูดขัดเขา ด้วยเสียงหนักแน่น
หวาเทียนกัดฟันแล้วมองไปรอบ “เราไปคุยกันในรถ”
หลงเซียวพยักหน้า “โอเค”
หวาเทียนเอารถRolls-Royceส่งให้ส้งชิงเซวี๋ยน “ศาสตราจารย์ส้ง ผมมีเรื่องที่ต้องคุยกับหลงเซียว รถคันนี้คุณขับกลับไปเถอะครับ”
ส้งชิงเซวี๋ยน“โอเค หวาเทียน สามีของลั่วลั่วของบ้านเรา เชื่อใจได้แน่นอน แกวางใจเถอะ” เวลาเดียวกันส้งชิงเซวี๋ยนมองไปที่หลงเซียว แล้วมีสายตาที่เห็นด้วย แล้วพยักหน้าพูดว่า“ไอ้น้องชาย แกต้องดีกับไอ้เด็กหวาเทียนคนนี้นะ!”
หลงเซียวไม่พูดอะไร หันหลังเข้าไปในรถ
หวาเทียนได้ขึ้นมานั่งที่ด้านข้างคนขับ ทั้งสองขึ้นรถแล้ว เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้น หลังจากนั้นรถได้ขับจากไป
เหลือเพียงส้งชิงเซวี๋ยนที่จับคางตัวเอง แล้วหัวเราะเฮอะๆ “ไอ้น้องชาย! ช่างมีสไตล์ของพ่อแกจริงๆ…..เฮ้อ น่าเสียใด ก่อนหน้านี้ที่อยู่ข้างกายคนอย่างหลงถิง ไม่รู้ว่าจะถูกหลงถิงเอาความคิดอะไรมาใส่ในสมองรึเปล่า ยังดีที่ยังไม่ได้กลายเป็นคนแบบเดียวกันกับหลงถิง อื้ม ไม่เลว ไม่เลว ในวันข้างหน้า ต้องมีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน! ไอ้หลงถิงที่สมควรตาย ไอ้เลว!”
ด่าจบแล้ว ส้งชิงเซวี๋ยนหันไปมองรถRolls-Royce แล้วรู้สึกปวดหัวทันที
“ขับกลับไป? ล้อเล่นรึไง! ตาลุงแก่ไม่มีใบขับขี่ด้วยซ้ำ ขับบ้าบออะไร?”
และแล้ว ส้งชิงเซวี๋ยนเอามือถือออกมา ยิ้มและโทรหาลั่วหาน ลั่วหานออกมาจากห้องผู้ป่วย เห็นว่าเป็นเบอร์ของคุณครู เลยยิ้ม “คุณครูคะ ไปลองนั่งรถหรูแล้วรู้สึกดีมั้ยคะ? มาโชว์ความสุขให้หนูหรอคะ?”
ส้งชิงเซวี๋ยนเงยหน้ามองท้องฟ้ากับที่รกร้างว่างเปล่าที่มองไม่เห็นขอบเขต ฮะๆๆยิ้มแบบเซ่อๆ “ลั่วลั่วเอ๊ย ตอนนี้หนูไม่ยุ่งใช่มั้ย? คือว่า หนูขับรถพาหมอหลินออกมาทีสิ ตาลุงคนนี้หลงทางซะแล้ว หนูสองคนมาด้วยกันนะ!”
ลั่วหานขมวดคิ้ว ถามกลับด้วยความสงสัย “คุณอยู่กับหวาเทียนจะหลงทางได้ยังไงคะ? ในรถก็มีGPS”
“โอ้ย! พูดแล้วมันยาว ฉันสูบบุหรี่ก่อน พวกหนูรีบๆมานะ”
ลั่วหานมองดูที่หน้าจอมือถือ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?
…………
“พูดเถอะ”
สองมือของหลงเซียวจับพวงมาลัยไว้ น้ำเสียงที่เรียบเฉยไร้อารมณ์
หวาเทียนคิดอยู่สักครู่ คิดย้อนไปเรื่องในอดีต แล้วจัดเรียงคำพูด ต้องรับความเจ็บปวดเหมือนหนอนผีเสื้อที่ถูกลอกไหมออก “แปดปีก่อน พ่อแม่ฉันตายในเวลาใกล้เคียงกัน ช่วงเวลานั้นฉันยังเด็กไม่รู้เรื่องอะไรเลย และก็รู้สึกหลงทางในชีวิต ฉันไปหาคนที่บริษัทMBK ถูกพวกเค้าไล่ออกไปนอกประตู”
หลงเซียวหรี่ตามองเขา ขยับมุมปาก เป็นเรื่องที่อยู่ในความคิดอยู่แล้ว
“หลังจากนั้น ฉันได้เจอกับผู้ชายคนนึงที่ชื่อว่าเหลียงหยู้คุน เขาบอกว่าทั้งหมดนี้ประธานของบริษัทMBKเป็นคนออกคำสั่งเอง ให้ฉันไปหาประธานของบริษัทMBKโดยตรง ซึ่งก็คือคุณ”
หลงเซียวยกมุมปาก ขยับนิ้วบนพวงมาลัย “อ๋อ? เหลียงหยู้คุน…….เฮอะ!"
ไปๆมาๆ กลับย้อนกลับมาที่ตัวเหลียงหยู้คุนอย่างงั้นหรือ น่าสนใจหนิ!
แต่ว่าหลงเซียวจำไม่ได้ว่า แปดปีก่อนเงื้อมมือของเหลียงหยู้คุนได้ยื่นเข้ามาในบริษัทMBKแล้ว หรือว่าจริงๆแล้วเหลียงหยู้คุนมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทMBKตั้งนานแล้ว? ตอนนั้นบริษัทย่อยในประเทศอังกฤษได้เกิดการเปลี่ยนแปลงพนักงานครั้งใหญ่หลายครั้ง และยังมีการเทคโอเวอร์บริษัทอื่นๆเข้ามา วุ่นวายมาก
เหลียงหยู้คุน……คนๆนี้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทMBKกันแน่นะ?
หวาเทียนมองหน้าหลงเซียว แล้วสูบหายใจลึกๆ ในเมื่อพูดออกมาแล้ว ก็พูดเรื่องทั้งหมดของเขาออกมาพร้อมๆกันเลย “เหลียงหยู้คุนมีอิทธิพลใหญ่มาก คนของเขาอาจจะปรากฏตัวได้ตลอดเวลา คุณต้องระวังให้ดี ฉันติดว่าเขามีความแค้นกับคุณ ก่อนหน้านี้ เขาเป็นคนที่ให้ระเบิดนี้แก่ฉันเอง ให้ฉันรีบๆลงมือ ฉันคิดว่า เขาอยากจะให้คุณตาย”
ถ้าอย่างนั้น ก็คือหลังจากที่หลงเซียวเผชิญหน้าโดยตรงกับเหลียงหยู้คุนล่ะสิ?
คำนวณดูแล้ว เวลามันก็เทียบเคียงกันจริงๆ
หลงเซียวขยับมุมปาก รอยยิ้มยิ่งมืดมน มองเห็นแต่ก็ไม่อาจอธิบายได้ “แน่นอนเขากับฉันมีความแค้นกันอยู่แล้ว คุณหลงกลแล้วหวาเทียน คุณถูกเหลียงหยู้คุนหลอกให้เป็นแค่หมากตัวนึง ตั้งแต่แรกเขาก็อาศัยความแค้นของคุณเพื่อมากำจัดฉัน กำจัดบริษัทMBKเท่านั้น”
หัวของหวาเทียนพิงอยู่ที่ๆนั่ง แล้วยิ้มอย่างประชด “สำคัญหรือ? ไม่ว่าใช่คุณรึเปล่า พ่อแม่ฉันก็ตายเพราะการกดขี่บริษัทMBK”
หลงเซียวขมวดคิ้ว “การตายของพ่อแม่คุณบริษัทMBKอาจจะมีความผิด แต่ไม่เกี่ยวกับฉัน ถ้าหากคุณอยากจะใช้ช่องทางๆกฎหมายเพื่อทวงความยุติธรรมของพ่อแม่คุณ ฉันไม่คัดค้านอะไร”
คำพูดของหลงเซียวทำให้หวาเทียนอึ้งไปเลย “คุณเห็นด้วยที่ฉันจะฟ้องบริษัทMBK?”
หลงเซียวรู้สึกขำ “แน่นอน ฉันอยากจะเห็นว่าหลังจากไข่ไปชนกับหินแล้ว ไข่จะแหลกเป็นเสี่ยงๆยังไง ถ้าคุณอยาก ก็ลองดูได้เลย ฉันสามารถช่วยคุณทางเรื่องกฎหมายได้ แต่คุณชายหวาก็ต้องเตรียมตัวที่จะยอมรับความพ่ายแพ้ที่ราบคาบ”
หวาเทียนรู้สึกเจ็บใจ ความโมโหพลุ่งพล่านในใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่หลงเซียวพูดก็ไม่ผิด ถึงแม้ผู้ชายคนนี้จะพูดจาเผด็จการ แต่คิดไปคิดมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่เคยคิดร้ายกับตัวเองเลย
“คุณช่วยฉันทำไม? ตั้งแต่เมื่อกี๊จนถึงตอนนี้ คุณช่วยฉันทำไม? ตามสไตล์ของคุณชายหลงอย่างคุณแล้ว เมื่อกี๊ควรจะให้ตำรวจจับตัวฉันไปแล้วนี่น่ะ หรือไม่ก็อาจจะฆ่าฉันโดยตรงเลยก็ได้”
หลงเซียวหมุนพวงมาลัย รถได้วิ่งไปตามบนทางด่วนที่กลับเมืองหลาว
“ช่วยคุณ? คุณชายหวาคิดดีเกินไปแล้วมั้ง ฉันไม่ได้ช่วยคุณ”
“งั้นเพื่ออะไร? ฉันไม่เข้าใจ หลายปีมานี้ฉันเห็นมาเยอะกับวิธีการที่คุณใช้กับศัตรู บอกตำตรงฉันไม่กล้าที่จะคิด ในโลกของคุณชายหลงอย่างคุณ เงินสามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ เงินแก้ไม่ได้ ก็ยังใช้กำลังได้ ไม่จำเป็นต้องมาฟังฉันพล่ามหรอก”
หวาเทียนคิดแล้วก็ยังรู้สึกไม่น่าเชื่อ หลงเซียวที่เขารู้จัก ไม่ใช่คนแบบนี้แน่นอน คนของตระกูลหลง ไม่มีทางที่จะเป็นแบบนี้
ในที่สุด หน้าที่เย็นชาของหลงเซียวก็ได้มีรอยยิ้มปรากฏออกมา “ฉันเคยรับปากกับคนๆนึง จะเปลี่ยนวิธีที่แก้ไขปัญหา”
เขาเคยรับปากกับภรรยาเขา ว่าจะยอมเปลี่ยนวิธีอีกแบบนึง และเขาจะทำให้ได้
หวาเทียนหรี่ตา ถามอย่างไม่ค่อยแน่ใจ“คนที่ว่าคือ หมอฉู่?”
แววตาที่คมลึกของหลงเซียวกระจายความอบอุ่นออกมา “ไม่ เธอเป็นภรรยาฉันเอง”