คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 352 คำสารภาพของหลงจื๋อโดนดูถูก
ตอนที่ 352 คำสารภาพของหลงจื๋อโดนดูถูก
ห้องชุดของโรงแรมที่ได้รับการตกแต่งสวยงามและมีเฟอร์นิเจอร์ครบครัน แต่อย่างไรก็ตามสถานที่ในการหลบซ่อนนั้นเสี่ยงต่อการถูกพบได้ง่ายมาก สถานที่ใหญ่ขนาดนี้แต่ก็มีโอกาสที่จะถูกลากออกมาจับมัดแล้วซ้อมได้
หลินซีเหวินดึงคอเสื้อของหลงจื๋ออย่างกระวนกระวาย เสียงของเธอสั่นไปหมด “คุณชายรองหลง ทำยังไงดี? ”
หลงจื๋อสบถคำหยาบออกมา ดึงข้อมือหลินซีเหวินแล้วพาวิ่งไปที่ห้องชุด “มากับฉัน! ”
“อ๊ะ! ได้! ”
หลินซีเหวินไม่มีเวลามาออกความเห็นใดๆ ว่าตามหลงจื๋อไปที่ห้องชุดอย่างว่าง่าย ดวงตายังคงสอดส่ายหาที่หลบซ่อน หลงจื๋อกดหัวของเธอแล้วพูดว่า “มัวมองอะไร! รีบมุดไปข้างล่าง! ใต้เตียง! ”
อะไรนะ!
“ใต้เตียง? คุณเอาจริงเหรอ! ”
“ถ้าไม่อยากให้พวกมันมาเจอก็รีบเข้าไปซ่อนสักที มัวพูดไร้สาระอีกพวกมันก็เข้ามาแล้ว เร็ว! ”
หลงจื๋อกดหัวของหลินซีเหวินและช่วยดันร่างเล็กๆ ของเธอยัดเข้าไปข้างใต้ “ใต้เตียงมีที่ค้ำหรือเปล่า? เกาะที่ค้ำแล้วยกตัวเองขึ้นมาติดกับเตียงไว้แล้วอย่าส่งเสียงด้วย! ”
หลินซีเหวินขบเคี้ยวฟันอยากด่าคน “คุณคิดว่าฉันเป็น 007 รึไง ถ้าฉันมีฝีมือขนาดนั้นฉันออกไปสู้กับพวกมันให้ตายกันไปข้างหนึ่งแล้ว”
“หุบปาก! ”
ร่างของหลงจื๋อหลบไปที่ขอบหน้าต่างแล้วเปิดหน้าต่างออก จากนั้นก็ก้าวถอยหลังสองก้าวค่อยๆ คลานมุดเข้ามาใต้เตียง
เตียงกว้างมากและแผ่นกระดานที่รองอยู่ด้านใต้ก็ใหญ่มากพอ แต่ว่าพื้นที่ว่างนั้นกลับแคบเกินไปไหล่ของทั้งสองเบียดชิดติดกัน ลมหายใจร้อนสองสายปะทะกันไอร้อนที่ปนความตึงเครียดแผ่กระจายไปทั่วสถานที่ใต้เตียงอันคับแคบ อากาศเริ่มร้อนมากขึ้น และเสียงของฝีเท้าก็ยิ่งขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ……
“แล้วคนล่ะ! คนหายไปได้ยังไง! ”
เสียงร้องคำรามอย่างเดือดดาลดังมาจากห้องรับแขก ใช้เท้าถีบโต๊ะคว่ำจนทำให้เกิดเสียงกระทบดังลั่น “โครม——ปัง! ” ฝ่ายตรงข้ามมีคนอย่างน้อยห้าคน เพราะว่าเสียงของฝีเท้าดูปนกันมั่วจนไม่เป็นจังหวะ รองเท้าหนังเสียดสีพื้นอย่างแรงจนในบางครั้งก็มีเสียง “เอี๊ยด” แสบหูลอดออกมา
หลินซีเหวินเม้มปากเอาไว้แน่นไม่กล้าแม้แต่หายใจแรง เหงื่อกาฬไหลท่วมทั่วใบหน้าขาวซีดอย่างรวดเร็ว สะกดกลั้นลมหายใจกับเสียงของหัวใจที่กำลังเต้นรัวอย่างแรงยิ่งกระตุ้นให้บรรยากาศตึงเครียดเข้าไปอีก
มือทั้งสองข้างของหลงจื๋อเกาะที่ค้ำไว้แล้วเงยหน้าเหลือบมองไปทางหลินซีเหวิน ใบหน้าของเธอแดงก่ำจากการกลั้นหายใจ ผิวละเอียดเกลี้ยงเกลาถูกชโลมไปด้วยเหงื่อปรากฏให้เห็นสีชมพูนุ่มนวลของดอกซากุระ แพขนตาหนายาวงอนเรียงเส้นสวย และดวงตากลมโตสดใสเป็นประกายน่ามองโดยไม่มีแว่นสายตามาบดบัง
หลงจื๋อกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้สาวบ้านนอกจะดูดีขนาดนี้ เมื่อกี้เขาตื่นเต้นไปหน่อยไม่ทันได้ดูให้ดี พอมองตอนนี้แล้วก็รู้สึกเจริญหูเจริญตาดี
สาวบ้านนอกถูกใครแปลงโฉมให้เนี่ย?
“ค้นหา!!! ที่นี่คือชั้นบนสุด มันหนีไปไม่ได้หรอก”
ปังๆๆ เสียงเตะและขว้างปาสิ่งของยังคงดังต่อเนื่องอยู่ในห้องรับแขก เสียงฝีเท้าขยับเข้ามาใกล้ห้องนอน……
. หลินซีเหวินตกใจจนเกือบกรีดร้องออกมา พยายามปิดปากเอาไว้แน่น
หลงจื๋อหัวใจจะวายจริงๆ ถ้าเธอส่งเสียงออกไป เราสองคนจบเห่แน่
“ไม่มีคน! หาไม่เจอ! ”
“ไม่ว่าที่ไหนก็ค้นให้ทั่ว! ถ้าคุณชายรองหลงหายไป พวกแกก็เตรียมไสหัวได้เลย! ”
“ครับ! ”
ขาคู่หนึ่งในกางเกงสแล็คสีดำยืนอยู่หน้าเตียงนอน จากนั้นก็ใช้มือข้างเดียวดึงผ้าคลุมเตียงจนร่วงลงมา……
แม่เอ๊ย!!!
ยังระทึกได้กว่านี้อีกไหม?
ชายคนนั้นเปิดผ้าคลุมเตียงออก ก้มหน้าชำเลืองมองบนพื้นก็ไม่พบใคร
“พี่ใหญ่ครับ หน้าต่าง! หน้าต่างห้องนอนเปิดอยู่ มีท่อน้ำกับคอมเพรสเซอร์แอร์อยู่ข้างล่าง หรือเขาไปตามท่อน้ำแล้วครับ? ”
“ชิบหาย! ไป! ตามออกไป! ”
“ครับ!!! ”
ฝีเท้าดุดันก้าวออกไปจากห้องชุดอย่างรีบร้อน “ปัง! ” ประตูปิดลงอย่างแรง
“ตุ้บ! ”
สุดท้ายหลินซีเหวินก็ต้านแรงต่อไปไม่ไหวจึงปล่อยตกลงมา “เฮ้อ… โคตรระทึกเลย นี่คุณชายรองหลง คุณไม่รู้หรอว่าคุณชายบ้านคนมีเงินเนี่ยโดนลักพาตัวง่ายมากเลยนะ? ต่อไปจะออกจากบ้านก็พาบอร์ดี้การ์ดมาด้วย โอเคไหม! พี่สาวตกใจแทบตาย! ”
หลงจื๋อคลายมือแล้วตกลงมาเช่นกัน และเป็นจังหวะที่คนข้างกายตีพื้นพอดี ทั้งสองคนจึงหันหน้ามามองกันแทบจะในเวลาเดียวกัน สายตาสองคู่สบเข้าหากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพียงชั่วพริบตาความร้อนก็แผ่กระจายลอยขึ้นมาทันที
หลินซีเหวินสบตาเข้ากับหลงจื๋อโดยไม่ทันตั้งตัว ดวงตาคู่นั้นเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มมีความแข็งกร้าวเล็กน้อย จู่ๆ ก็มองกลับมาที่เธอด้วยความจริงจัง เพียงชั่วครู่สายตาก็มาบรรจบรวมกันคล้ายกับไม่มีที่สิ้นสุด
อึก——
หลงจื๋อกลืนน้ำลายอึกใหญ่และน้ำเสียงที่ดูไม่เป็นตัวเอง “สาวบ้านนอก…เธอ ทำไมสวยขึ้น? ”
เดิมทีหลินซีเหวินก็ตกใจกลัวเกือบตายแล้ว และเมื่อกี้ตอนที่มองเขาก็แอบสั่นไหวไปชั่วครู่ แล้วมาได้ยินที่หลงจื๋อชมเธอเป็นครั้งแรกอีก หัวใจก็พลันเต้นรัวเหมือนกลองเลย
“คุณ ยังไม่ออกไปอีก! ”
หลงจื๋อเลยถือโอกาสเอียงศีรษะทำใจกล้ามองเธอเสียเลยแล้วจุ๊ปากถอดถอนหายใจอย่างกวนๆ “สาวบ้านนอก ทำไมเธอยอมถอดแว่นล่ะ? พอไม่สวมแว่นก็ดูดีไม่น้อยเลย ต่อไปก็ใส่คอนแทคเลนส์เถอะ”
หลินซีเหวินกัดฟันเบาๆ “คุณชายรองหลง คุณจะออกหรือไม่ออกไป! ”
“รีบทำไม คุณชายยังพูดไม่จบเลย เฮ้ สาวบ้านนอก วันนี้แต่งหน้าเพื่อมาพบคุณชายเหรอ มีความตั้งใจอย่างมาก! ”
เธอเคยชินกับเวลาที่ถูกหลงจื๋อกดขี่ แต่จู่ๆ มาได้ยินที่เขาชมเธอแบบนี้ หลินซีเหวินรู้สึกว่ามันเต็มไปด้วยเจตนาที่ไม่ดีจึงไม่ได้คิดอะไรกับสถานการณ์นี้
หลินซีเหวินหัวเราะหึหึ “คุณชายรองหลง คุณทำดีหวังผล” น้ำเสียงไม่มีชะงัก ข้อศอกค่อยๆ เล็งเป้าไปที่หน้าท้องของเขาเงียบ แล้วก็ “พลั่ก” กระแทกไปเต็มๆ
“ออกไป! ”
“โอ๊ย! บ้าชิบ สาวบ้านนอกป่าเถื่อน เธอเป็นบ้าหรอ! ” หลงจื๋อถูกเธอทำร้ายร่างกายอย่างรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลาก็พลันบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวด
หลินซีเหวินลูบผมและกัดริมฝีปากล่างซ้าย “ยังไม่ออกไปอีก? จะรอฉลองปีใหม่ข้างใต้นี้หรือไง? ”
หลงจื๋อนั้นเป็นคนที่เท่และสง่างามในชุดเครื่องแต่งกายอยู่แล้ว แต่ใครจะรู้ว่าคนนี้ไม่รู้จักการชื่นชมเลย โกรธจะตายแล้ว “สาวบ้านนอก เธอรู้ไหมว่าคนข้างเธอเนี่ยเป็นใคร? อยู่กับคุณชาย อย่าว่าแต่ใต้เตียงเลย แม้ว่าจะให้เธอเข้าเตาไฟเป็นมันเทศย่าง เธอก็ควรจะมีความสุข ”
โคตรไร้สาระเลย
หลินซีเหวินไม่สนใจเขา เธอปีนออกมาจากอีกด้าน เมื่อหยัดกายลุกขึ้นได้ก็จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย หันกายแล้วเดินหนีไปทันที โดยไม่ได้สนใจว่าหลงจื๋อจะมีปฏิกิริยาอย่างไร
“เฮ้ย สาวบ้านนอก”
หลงจื๋อตะโกนเรียกหลินซีเหวินด้วยความโมโห ร่างสูงโปร่งรีบเดินไปตรงหน้าเธอ ชุดสูทสีดำกับชุดเดรสสีขาวที่หลินซีเหวินสวมใส่วันนี้ดูเข้ากันอย่างบังเอิญ
“จะทำไม? ” หลินซีเหวินถามอย่างเอาเรื่อง
หลงจื๋อได้แต่จับผมที่ถูกเซ็ตมาอย่างดี “วันนี้ขอบคุณนะ”
“คุณ…” หลินซีเหวินเงยหน้าตอบกลับไปแค่คำเดียว และเมื่อเห็นใบหน้าของหลงจื๋อที่ตอนนี้ปรากฏริ้วสีแดงขึ้นมาจางๆ
ไม่ใช่หรอกมั้ง? หลงจื๋อเขินเหรอ?
นี่เขาเขินอะไรเนี่ย?
หลงจื๋อรีบกลบเกลื่อน “โอเค ไปกัน! ”
หลินซีเหวินหัวเราะออกมา “คุณชายรองหลง อย่าบอกนะว่าคุณชอบฉัน ดูท่าทางของคุณแล้ว นี่ชอบฉันเข้าแล้วเหรอ?”
หลงจื๋อมองเธออย่างชั่วร้าย ร่างกายท่อนบนบดเบียดกดไว้ ริมฝีปากบางที่เกือบจะสัมผัสกับริมฝีปากของเธอ “ทำไม? ตื่นเต้นเหรอ? ดีใจที่ถูกคุณชายคนนี้ชอบใช่ไหม? ”
เขาขยับตัวเข้ามาใกล้เกินไป หลินซีเหวินรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองเหมือนถูกเผาด้วยความร้อนที่เขาส่งมาเลย “คุณ… ล้อเล่นอะไรเนี่ย! ”
“ใครล้อคุณเล่นกันครับ? ก็คุณชายชอบเธอ สาวบ้านนอก ฉันเองก็อยากรู้มากเหมือนกัน ว่าเธอที่สุดแสนจะบ้านนอกคุณชายชอบได้ยังไงกัน? ”
“ประสาท! ”
ใบหน้าของหลินซีเหวินเป็นสีแดงระเรื่อ เมื่อเห็นสายตาของเขาที่มองลงมา เธอก็วิ่งหนีเตลิดออกมา
หลงจื๋อไล่ตามเธอจนมาถึงชั้นล่าง จากนั้นก็เห็นรถเบนซ์สีขาวที่จอดอยู่ในโรงรถ ว่ากันว่าแฟนหนุ่มมอบให้เธอ
ดีมาก ทำให้คุณชายรองหลงโกรธได้สำเร็จ
“สาวบ้านนอก เธอชอบรถอะไรเหรอ ฉันจะเปลี่ยนให้เธอ รถคันนี้ไม่เหมาะกับเธอหรอก น่าเกลียดมาก”
หลินซีเหวินเปิดประตูแล้วเข้าไป “ฉันชอบรถที่ไม่มีคุณมานั่ง! และก็ชอบขับรถคนเดียว ลาก่อน อ้อ คุณชายรองหลง ครั้งต่อไปจะเปลี่ยนคนรักตอนที่อยากรักนะคะ”
รถเบนซ์สีขาวขับออกไปอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด หลงจื๋อยืนเอามือเท้าสะเอวแล้วค่อยๆ ยกมากุมขมับ “แม่ง! การที่ถูกฉันชอบนั้นมันเป็นเกียรติที่สุดของเธอแล้ว! ผิดหรือไง! ”
——
ลั่วหานนั่งดูข่าวอยู่ในห้องรับแขกที่บ้าน ช่องเศรษฐกิจ ช่องบันเทิง และสถานีโทรทัศน์ของเมืองยังคงเป็นคอลัมน์ของผู้มีอำนาจ ช่องทั้งหมดกำลังออกอากาศเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในงานแต่งงานวันนี้ โม่หรูเฟย ซุนปิงเหวิน และฉู่ซีหราน ทั้งหมดได้ถูกสื่อต่างๆ ตีความกับท่าทีวันนี้แล้ว
ลั่วหานขมวดคิ้ว แล้วปิดทีวีทันที
ในขณะนั้น ประตูอัตโนมัติของคฤหาสน์ก็เปิดออก และรถของหลงเซียวก็ขับเข้ามาในบริเวณบ้าน คนรับใช้ได้เตรียมรองเท้าแตะและน้ำชาไว้ แล้วต้อนรับหลงเซียวกลับบ้านด้วยความเคารพ
เมื่อเข้าประตูมา หลงเซียวก็เห็นลั่วหานกำลังนั่งพักผ่อนบนโซฟา รอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้าทันที ก้าวเท้ายาวๆ แล้วไปนั่งลงข้างๆ เธอ
“รู้สึกยังไงบ้างครับ? เหนื่อยไหม? ”
ลั่วหานส่ายหน้า “เมื่อเช้าก็กลับมาพักผ่อนแล้ว ไม่เหนื่อยเลย ใช่แล้ว ฉันดูข่าวเมื่อกี้โม่หรูเฟยกับโม่ล่างคุน เดาว่าครั้งนี้เผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่แน่ คุณเตรียมแผนรับมือไว้หรือยัง? ”
นิ้วเรียวยาวของหลงเซียวค่อยๆ ดึงเน็คไทให้คลายออกหลวมๆ ด้วยความเหนื่อยล้า
“ตอนนี้โม่หรูเฟยอยู่ที่โรงพยาบาล แล้วสามีจะฉวยโอกาสตอนเขาอ่อนแอได้ยังไงกันล่ะ? ”
ลั่วหานเลิกคิ้วขึ้นแล้วยิ้ม “คุณหลงตอนที่ฉวยโอกาสตอนเขาอ่อนแอนี่ยังน้อยเหรอ? อย่าบอกนะว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ”
หลงเซียวดึงมือเธอมากุมไว้ “โม่หรูเฟยเธอไม่คู่ควรหรอก”
ขณะที่พูดนั้นคิ้วของหลงเซียวก็ขมวดแน่นอีกครั้งแล้วลูบมือของเธอไปมา “เป็นอะไรหรือเปล่า? ยังหนาวอยู่เหรอ? ทำไมมือเย็นขนาดนี้? ”
หลงเซียวเอามืออังหน้าผากของเธอ แต่ก็ไม่มีไข้ “รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า? ”
ลั่วหานส่ายหน้า “ไม่มีค่ะ ฉันเองก็แปลกใจที่มือเย็นมากเลย หรือว่าเพราะหิวไม่ได้กินข้าวเหรอ? ”
หลงเซียวสั่งให้คนครัวเสิร์ฟอาหารทันที “ต้มซุปมาเสิร์ฟให้คุณนายหญิงก่อน”
ทั้งสองคนนั่งทานอาหารเย็นอยู่ที่โต๊ะอาหาร และเป็นเรื่องยากมากที่จะไม่ได้รับสายใดๆ ในเย็นวันนี้เลย
หลับมาได้ค่อนคืน ลั่วหานที่หลับสนิทก็ตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด
ความเจ็บปวดที่เกินจะบรรยายได้แล่นจากฝ่าเท้าไปจนถึงกะโหลกศีรษะ เจ็บจนอยากร้องไห้หรือตะโกนออกมา แต่ก็ตะโกนไม่ออก เธอรู้สึกว่าคอของเธอเหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ เหมือนคอถูกเชือกมัดไว้แน่น มันเจ็บมาก อึดอัดจริงๆ
“ที่รัก… ” ลั่วหานผลักหลงเซียว เอ่ยเรียกด้วยความยากลำบาก “ฉัน”
หลงเซียวตกใจตื่นขึ้นมา รีบไปเปิดไฟแล้วก็เห็นลั่วหานกุมคอด้วยความเจ็บปวด อ้าปากกว้างหอบหายใจ ใบหน้าขาวนั้นแดงไปหมด
“ลั่วลั่ว คุณเป็นอะไร? ลั่วลั่ว! ”
หลงเซียวกุมมือเย็นเฉียบของเธอเอาไว้!
ลั่วหานส่ายหัว ดวงตาบวมเป่ง พูดออกมาได้ทีละคำจนในที่สุดประโยคก็สมบูรณ์ “รีบ ติดต่อ…. ศาสตราจารย์ส้ง”