คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 351 คุณชายรองหลง ฉันมาช่วยคุณแล้ว
ตอนที่ 351 คุณชายรองหลง ฉันมาช่วยคุณแล้ว
เกาจิ่งอานเงยหน้ามองท้องฟ้าอย่างหมดอาลัยตายอยาก ดวงตาเฉี่ยวคมหรี่ลงจนเป็นเส้น แล้วถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เอาเถอะ คำแนะนำของพี่ใหญ่น่ะฉันต้องทำให้สำเร็จโดยไม่มีเงื่อนไข และฉันจะไปโรงพยาบาลตอนนี้”
เขาควงกุญแจรถในมือไปมาแล้วหันตัวไปหารถของตัวเอง
“ เกาจิ่งอาน”
ทันใดนั้นเสียงของหลงเซียวที่อยู่ด้านหลังก็ดังขัดจังหวะการเคลื่อนไหวของเขาขึ้นมา เกาจิ่งอานหันหน้ากลับมาแล้วก็เพิ่มความหมดอาลัยตายอยากเป็นทุนเดิมอยู่แล้วขึ้นไปอีก “พี่ใหญ่ คงจะไม่มีเรื่องอะไรอีกใช่ไหม? การไปเยี่ยมโม่หรูเฟยก็เกินที่ใจผมจะรับไหวแล้ว พี่คงจะไม่ให้ผมไปดูแลเธอที่โรงพยาบาลใช่ไหม? ”
หลงเซียวมองเขาด้วยความอดทนอย่างยิ่ง ร่างสูงโปร่งยืนล้วงกระเป๋ากางเกงด้วยมือข้างเดียว และเสื้อเชิ้ตสีดำที่ประดับอยู่บนร่างกายกำยำของเขา “ไปเยี่ยมโม่หรูเฟยแล้ว นายก็ไปดูพี่สาวนายที่คุกหน่อย ฉันจะให้คนจัดการให้”
กุญแจรถที่อยู่ในมือของเกาจิ่งอานก็พลันถูกเขากำเอาไว้แน่น แผ่นหลังยืดตรงโดยไม่รู้ตัว แล้วมองหลงเซียวที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร ด้วยสีหน้าท่าทางที่สงบนิ่ง เกาจิ่งอานใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่เผยความร้อนรนของตัวเองออกไป “ครับ…ถ้าผมออกมาจากโรงพยาบาลแล้วจะไป…” ความรู้สึกผิดแล่นขึ้นมาเต็มหัวของเขา จึงหันกลับไปตอบว่า: “ขอบคุณครับพี่ชายใหญ่”
หลงเซียวพยักหน้าเพื่อบอกให้เขานั้นรีบไป
เกาจิ่งอานพยักหน้าขอบคุณอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ยุ่งเหยิง จากนั้นก็ยัดกายเข้าไปในรถ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วสตาร์ทรถขับออกไป
เมื่อมองดูรถของเกาจิ่งอานขับออกไปแล้ว หลงเซียวจึงหันไปพูดกับจี้ตงหมิงว่า “ครั้งก่อนคุณบอกว่าเกาจิ่งอานวางคนของตัวเองไว้ที่ MBK และคิดที่จะขโมยข้อมูลของ MBK อย่างลับๆ ด้วย?”
จี้ตงหมิงตอบกลับ “ครับ มีคนหนึ่งในฝ่ายการเงินเป็นคนของเกาจิ่งอานครับ พวกเขาคงคิดที่จะสืบเรื่องเกี่ยวกับสถานการณ์การเงินของ MBK แต่ตัวตนของคนนั้นได้รับการตรวจสอบแล้วครับ เจ้านายอยากให้จัดการยังไงครับ? ”
หลงเซียวไม่ได้ตอบอะไร เกาจิ่งอานส่งคนของตัวเองมาไว้ข้างกายเขา หลงเซียวก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด อย่างไรเสียเมื่อก่อนเกาจิ่งอานก็คิดว่าเขาเป็นศัตรูคู่แค้น หลังจากที่เกิดเรื่องเกาหยิ่งจือเขาก็ยิ่งคิดว่าเขานั้นเป็นศัตรูที่หากเขาตายตัวเองต้องมีชีวิตอยู่
แต่ว่าตอนนี้……
หลงเซียวยกยิ้มมุมปากอย่างเกียจคร้านแล้วเอ่ยว่า “ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เกาจิ่งอานจะไม่ล้ำเส้น ขับรถ พวกเราจะกลับบริษัท”
“ครับ! ”
คนที่นี่ต่างก็ไปกันหมดแล้วเหลือแต่ไป๋เวยและหลงเซียวจะกลับไปที่บริษัทแล้ว ไป๋เวยจึงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “คุณหลง ทางด้านฉู่ซีหราน ตำรวจคาดว่าคงเป็นการยากที่จะสอบถามข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เท่าที่ทราบมาคือ เสิ่นเหลียวไม่เคยบอกเรื่องธุรกิจกับฉู่ซีหรานเลย เธอไม่รู้อะไรเลยทั้งนั้น”
อย่าว่าแต่ฉู่ซีหรานเลย เสิ่นเหลียวก็เป็นคนน่าสงสัยมากที่ไม่ยอมบอกธุรกิจของตัวเองกับคนอื่นเลยไม่ว่าใครก็ตาม
หลงเซียวจัดกายให้ยืดตรง ริมฝีปากบางเผยให้เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่จะปรากฏก็ต่อเมื่อเผชิญหน้ากับเพื่อนของลั่วหาน รอยยิ้มของเขานั้นไม่ได้ปกคลุมไปทั่วใบหน้าแต่ก็ไม่หลงเหลือร่องรอยให้ได้ตรวจสอบ “คุณไป๋ ฉู่ซีหรานรู้ว่าอะไรสำคัญด้วยหรอ? ถึงเธอจะไม่รู้อะไรเลย แต่สถานะเธอคือเป็นภรรยาของเสิ่นเหลียว มันก็มีประโยชน์เหมือนกัน ”
ไป๋เวยหมุนศีรษะไปมา แต่เธอไม่แน่ใจที่ตัวเองคิดนั้นใช่อย่างที่หลงเซียวพูดหรือเปล่า “คุณหลงต้องการจะบอกว่าให้ปล่อยข่าวเท็จโดยแถลงออกไปว่าฉู่ซีหรานให้การข้อมูลเบื้องหลัง จากนั้นก็ถือโอกาสนี้ทำให้เสิ่นเหลียวยอมรับการตรวจสอบ? ”
ในที่สุดรอยยิ้มของหลงเซียวก็แพร่กระจายทั่วใบหน้าหล่อเหลาได้รูปนั้นทันที “คุณไป๋นี่สมกับที่ได้รับชื่อเสียงว่าเป็นลูกสาวคนเก่งของตระกูลไป๋เลยนะครับ”
ไป๋เวยตกใจไปชั่วครู่ก็ยิ้มออกมาทันที “ถ้าเทียบกับคุณหลงแล้วยังห่างกันอีกไกลโขเลยค่ะ”
มองดูรถของหลงเซียวที่ขับออกไป ไป๋เวยก็ยิ้มหยันให้กับตัวเอง “ไม่เพียงแค่ห่างกันมาก แต่มันห่างไกลจนมองไม่เห็นฝุ่นเลย! ”
ในระหว่างทาง เกาจิ่งอานโทรศัพท์หาผู้ช่วยของเขา
“ฟังนะ ตอนนี้ให้ทำตามที่ผมบอกให้เร็วที่สุด”
“ท่านประธานพูดมาได้เลยครับ”
เกาจิ่งอานจับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้าง สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวเพราะกังวลและรู้สึกผิด “ให้อาเลี่ยงหยุดเคลื่อนไหวที่ MBK ทั้งหมด ไม่ต้องสืบข่าวภายในหรืออะไรก็ตามของ MBK แล้วบอกเขาให้อยู่ที่นั่นเรื่อยๆ ให้ผ่านช่วงหนึ่งไปก่อนแล้วหลังจากนั้นก็ลาออกจาก MBK ”
ผู้ช่วยงงงวยไปเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอย่างระวัง “ท่านประธานครับ ตอนนี้เขาเพิ่งจะเข้าไปในตำแหน่งหลักของฝ่ายการเงิน ถ้าท่านให้เขาหยุดเคลื่อนไหวตอนนี้แล้วความพยายามทั้งหมดก่อนหน้านี้จะไม่เสียแรงเปล่าเหรอครับ? ”
“ผมไม่ได้กำลังปรึกษาหารือกับคุณ ให้หยุดเดี๋ยวนี้! ”
“ ครับท่านประธาน”
หลังจากวางสายแล้ว เกาจิ่งอานพ่นลมหายใจอย่างหยาบโลนออกมาหลายครั้ง จากตอนนั้นเกาจิ่งอานอายุแปดขวบเขาเห็นโม่ล่างคุนบีบบังคับพ่อของเขา จนต่อมาเขาได้ผ่านประสบการณ์การปะทะบนห้างสรรพสินค้ามามากมายหลายครั้งจนนับไม่ถ้วน มีประสบการณ์การเรียนที่ต่างประเทศหลายปี คิดว่าตัวเองรู้จักคนมากมาย และคิดว่าตัวเองนั้นมองคนไม่เคยผิดพลาด
แต่ทำไมเขาไม่คิดถึงเลยว่าเขานั้นไม่รู้จักหลงเซียวด้วยซ้ำ
จนถึงตอนนี้เกาจิ่งอานคิดว่าหลงเซียวเป็นคนที่ชอบฆ่าให้เรียบไม่ว่าการแข่งขันทางธุรกิจหรือว่าการปฏิบัติตัวต่างๆ แต่หลังจากที่ติดต่อกันหลายวัน เกาจิ่งอานก็รู้ว่าตัวเองนั้นคิดผิดแล้ว
หลงเซียวเป็นข้อยกเว้นทั้งหมดที่เขารู้
——
รถของหลินซีเหวินขับตามหลังรถของเสิ่นเหลียวมาจอดที่ลานจอดรถของโรงแรม และมองดูหลงจื๋อถูกคนคุมตัวอย่างแน่นหนาเข้าลิฟต์ของ VIP ส่งจากโรงจอดรถชั้นใต้ดินขึ้นไป
ลิฟต์หยุดที่ชั้นบนสุดของโรงแรม
คนพวกนี้จับตัวหลงจื๋อไปทำไม? แล้วทำไมถึงพามาที่โรงแรม?
หลินซีเหวินกังวลใจไปหมด แต่พอดูการแต่งกายกับหน้าตาของคนพวกนั้นแล้วโดยภาพรวมก็มั่นใจได้ว่าไม่ใช่คนดีอะไร
เมื่อเดินอ้อมมาถึงลิฟต์ข้างๆ หลินซีเหวินก็เข้าไปในลิฟต์แล้วกดที่ชั้นบนสุด ลิฟต์เคลื่อนที่ขึ้นสูงด้วยความเร็วเท่าไหร่ลมหายใจของหลินซีเหวินก็ยิ่งหอบกระชั้นเร็วมากขึ้นเท่านั้น
แต่นี่มันคือการลักพาตัวนะ! ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้าหากจัดการไม่ดีอาจจะมีคนตายก็ได้!
ปรับลมหายใจสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ปลุกเร้าตัวเองไม่หยุด และทันใดนั้นลิฟต์ก็หยุดลง
หลินซีเหวินตกใจยกใหญ่ ทำไมมาถึงเร็วขนาดนี้?!
หลินซีเหวินเดินออกมาจากลิฟต์อย่างระวัง แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าไป สายตาก็เห็นพวกคนชุดดำเมื่อกี้ออกมาจากห้องพอดี ล็อกประตูแล้วหยิบคีย์การ์ดออกไปด้วย
หลินซีเหวินรีบหันกลับมาทันที แล้วแสร้งทำว่าบังเอิญเดินผ่านมา
รอให้คนชุดดำขึ้นลิฟต์ไป หลินซีเหวินก็เหลือบมองหมายเลขห้อง “3103”
หลินซีเหวินเดินกุมหัวใจไปจนถึงประตู ยื่นมือออกไปเคาะประตูห้องสองสามครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ จึงลองเคาะอีกครั้ง แต่ก็ยังคงเงียบเหมือนเดิม
หลงจื๋อถูกมัดไว้ที่เสาแกะสลักต้นใหญ่ในห้องเพรสซิเดนท์สูท ปากถูกปิดไว้แน่น มือและเท้าทั้งสองข้างก็ล้วนถูกมัดตรึงไว้ เขาได้ยินเสียงเคาะประตูคิดอยากจะตะโกนออกไปแต่ไม่สามารถส่งเสียงออกไปได้!
แม่งเอ๊ย!!!
หลินซีเหวินเอาหูแนบอกประตูเพื่อฟังการเคลื่อนไหวข้างในแล้วเคาะประตูอีกครั้ง “คุณชายรองหลง? ”
ดวงตาของหลงจื๋อก็เบิกกว้างทันที เสียงของผู้หญิงแถมยังเป็นเสียงที่คุ้นเคยมากด้วย! เสียงนี้เขาเคยได้ยินจากที่ไหนแน่นอน!
เดี๋ยวนะ เขาจำได้แล้ว เสียงของสาวบ้านนอก!
“อื้อ…อื้อ!!! ” หลงจื๋อพยายามส่งเสียงอย่างสุดความสามารถ โคตรพ่อเอ๊ย คุณชายอยู่ข้างในนี้!!! รีบมาช่วยเร็ว!!!
โอเค เขานั้นอยากตะโกนออกไปแบบนี้ แต่จะให้ทำอย่างไรได้ในเมื่อปากตัวเองนั้นถูกปิดด้วยเทปกาวอยู่
เมื่อลองดิ้นรนอยู่หลายครั้ง รองเท้าหนังก็กระทืบพื้นเสียงดัง “ปัง”
มีเสียงจริงด้วย! เขาถูกขังไว้ข้างในจริงๆ !
หลินซีเหวินส่งเสียงถามเข้าไป “คุณชายรองหลง ใช่คุณหรือเปล่า? ถ้าหากว่าใช่ให้กระทืบเท้าสองครั้ง”
ตอนนี้หลงจื๋ออยู่ในอารมณ์ที่อยากเตะเธอให้ตาย!
“ปัง! ปัง! ” หลงจื๋อกระทืบเท้าสองครั้ง ตอนนี้เขาอยากจะฆ่าคน
หลินซีเหวินที่เครียดจะตายอยู่แล้วก็ยกมือปิดปากที่กำลังหัวเราะอยู่ คุณชายรองหลงอ่า คุณเองก็มีวันนี้เช่นกันวันที่กรรมตามสนอง!
วันพระไม่ได้มีหนเดียว ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่เธอลืมตาอ้าปากได้สักที!
ก็ไม่แย่นะ!
แต่……
หลินซีเหวินลูบคางไปมา แม้ว่าคนจะอยู่ด้านใน แต่ว่าไม่มีคีย์การ์ดแล้วเธอจะเข้าไปได้อย่างไร?
โรงแรมแห่งนี้…… มีเครืออยู่ทั่วโลกและคนทั่วไปก็ไม่สามารถติดต่อได้โดยตรง
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
หลินซีเหวินล้วงเอาโทรศัพท์มือถือออกมา ในเวลาสำคัญแบบนี้ถ้าหาเส้นสายได้ก็คงจะดีกว่า
“คุณพ่อคะ ตอนนี้หนูอยู่ที่ถนนสี่ตี้ตรงถนนเซิงหยาง หนูอยากให้คุณพ่อช่วยหนูหน่อยค่ะ” หลินซีเหวินหัวเราะแหะๆ
ผ่านไปเพียงชั่วครู่ พ่อหลินก็ถามอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “โรงแรม? ลูกรัก นี่ลูกไปทำอะไรที่โรงแรม? พ่อให้หนูไปเป็นตัวแทนครอบครัวร่วมงานแต่งงานของลูกสาวตระกูลโม่ แล้วหนูไปถนนเซิงหยางทำไม?”
เอ่อ……
“คุณพ่อคะงานแต่งงานจบลงแล้ว หนูเลยมาเที่ยวที่นี่กับเพื่อนหลายคน คือ…คุณพ่อ ไม่ใช่ว่าคุณพ่อรู้จักประธานของถนนสี่ตี้สาขาที่ประเทศจีนหรอคะ? คุณพ่อช่วยหนูติดต่อผู้จัดการสาขานี้ให้หน่อยค่ะ เพื่อนของหนูทำคีย์การ์ดหายเข้าห้องไม่ได้เลย”
ปลายสายเงียบไปพักหนึ่งเห็นได้ชัดว่าโกรธแล้ว “เพื่อนอะไร? ผู้ชายหรือผู้หญิง? ”
“ผู้หญิงค่ะ! เป็นพี่น้องที่สนิทของหนูเอง เดี๋ยวหนูจะแนะนำให้รู้จักนะคะ คุณพ่อคะ ตอนนี้หนูร้อนใจน่ะค่ะ คุณพ่อช่วยรีบหน่อยได้ไหม? พอดีเพื่อนหนูดื่มมากไปหน่อย ”
“ลูกรัก หนูไม่เป็นอะไรนะ? หนูดื่มไปเท่าไหร่…ให้พ่อส่งคนไปรับไหม? ”
หลินซีเหวินอยากจะเมาจริงๆ เลย เวลาสำคัญแบบนี้อย่าพึ่งลงรายละเอียดขนาดนี้ได้ไหม?
“คุณพ่อ หนูไม่ได้เป็นไร! คุณพ่อรีบช่วยหนูหาผู้จัดการก่อน! คุณพ่อที่รัก! ”
หลินซีเหวินรอโทรศัพท์อย่างร้อนรน ครั้งนี้คุณพ่อจะต้องเก่งมาก!
แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ หลังจากนั้นไม่นานผู้จัดการก็มาด้วยตัวเองแล้วพูดอย่างสุภาพว่า “คุณหลิน เมื่อสักครู่คุณพ่อ…”
“ฉันทราบแล้วค่ะ! ช่วยเปิดประตูให้ฉันเร็วเข้า! ”
“ได้ครับ”
ผู้จัดการหยิบคีย์การ์ดสำรองออกมารูดประตู “ขอให้คุณหลินเข้าพักอย่างมีความสุข ฝากทักทายคุณพ่อด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณแล้วค่ะ คุณไปทำงานเถอะ”
เมื่อเปิดประตูห้องแล้ว หลินซีเหวินก็หมุนกายกลับมาล็อคประตู
ในขณะที่หมุนกายนั้น หลินซีเหวินก็เห็นหลงจื๋อที่ถูกมัดจนกลายเป็นบ๊ะจ่างเนื้อ——
“ฮ่าๆๆ ! คุณชายรองหลง แบบนี้ก็ดีนะ! เล่นแบบไหนดี? SM หรอ? ” หลินซีเหวินเดินทอดน่องไปตรงหน้าหลงจื๋อ ไล่สายตาขึ้นลงมองเขาแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้จริงๆ !
หลงจื๋อมองตาปริบๆ ลมหายใจฟึดฟัด พึมพำในลำคออย่างไม่ชัดเจน “ปล่อย! ”
หลินซีเหวินแบะปาก “ครั้งนี้ผู้หญิงคนนี้ได้ช่วยคุณไว้ คุณพูดมาว่าจะคิดเป็นเงินเท่าไหร่? ก่อนหน้านี้ฉันติดหนี้คุณ อย่างนั้นก็หักลบกลบหนี้เรียบร้อยแล้วใช่หรือเปล่า? ”
หลงจื๋อจ้องมองเธออย่างโกรธจัด นี่มันเล่นทีเผลอ!
“ทำไมเหรอ? ไม่เห็นด้วย? ถ้าไม่เต็มใจก็ช่างมันเถอะ คุณก็อยู่ที่นี่ต่อไปนะ ฉันกลับละ” หลินซีเหวินหันตัวกลับพลางลอบยิ้ม จัดการลูกไก่ในกำมือ รู้สึกดีเป็นบ้า!
“อื้ม! ”
หลงจื๋อส่งเสียงออกมาคำเดียว เจ้านี่สมควรตาย!
หลินซีเหวินหัวเราะเบาๆ “ตกลงกันแล้วนะ ต่อไปนี้พวกเราถือว่าโมฆะทั้งหมด คุณไม่สามารถเรียกร้องให้ฉันทำไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามในฐานะเจ้าหนี้ได้อีก ถ้าเห็นด้วยให้กระพริบตาหนึ่งที”
หลงจื๋อสาบานเลยว่ามีชีวิตอยู่มายี่สิบกว่าปีเขาไม่เคยถูกคนรังแกขนาดนี้มาก่อน!
“ดีมาก! ”
แคว่ก!
หลินซีเหวินฉีกเทปกาวออกจากปากของหลงจื๋อ เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บทันทีเมื่อได้รับอิสระ “เธอทำเบาๆ หน่อยไม่ได้หรือไง! ”
หลินซีเหวินก้มหัวขอโทษ “อุ๊ยตายแล้วต้องขอโทษคุณชายรองหลงด้วย หรือว่าจะให้ฉันติดเทปกาวให้อีกรอบ? เอาใหม่อีกรอบ? ”
“เธอ… แม่ง! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้! ”
หลงจื๋อพยายามดิ้นแต่ก็ขยับตัวไม่ได้เลย
“จะปล่อยก็ได้ แต่ว่าคุณชายรองหลง คุณจะตอบแทนฉันยังไงหรอ? ” หลินซีเหวินมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยแผนการอย่างเจ้าเล่ห์
หลงจื๋อหรี่ตาลง “สาวบ้านนอก เธอกล้าเล่นทีเผลอหรอ? ”
“ยังไงหรอ? คุณไม่ชอบใจหรอ? โอเค ถ้าคุณไม่ชอบงั้นฉันไปล่ะ”
“เดี๋ยวก่อน! ” หลงจื๋อกัดฟันกรอด วีรบุรุษไม่กินการสูญเสียที่เกิดขึ้นทันที เขาจึงยอมตกลงไปก่อน “เธอพูดมาสิว่าต้องการอะไร? ”
หลินซีเหวินพยักหน้าเมื่อแผนสำเร็จ “ก็รู้สถานการณ์นี่ อยากได้อะไรหรอ…ฉันยังไม่ได้คิด รอให้ฉันคิดได้แล้วจะบอกคุณอีกที”
“เรื่องมาก! ”
“ฉันเต็มใจ”
“ไม่สน! ”
“คุณชายรองหลง คุณถูกมัดเป็นบ๊ะจ่างแบบนี้ ดูแล้วตลกมากเลย ฉันจะเก็บคุณไว้เป็นที่ระลึกดีไหมนะ? ”
“สาวบ้านนอก เธออยากตายใช่ไหม? ”
ทั้งสองคนที่กำลังทะเลาะกัน หลินซีเหวินก็หามีดปอกผลไม้มาตัดเชือกบนตัวของหลงจื๋อให้ขาดออก
เมื่อหลงจื๋อสลัดเชือกบนตัวออกได้แล้ว มือใหญ่ก็ยื่นไปจับไหล่ของหลินซีเหวินไว้ “เธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่? แล้วเข้ามาได้ยังไง? พูดมาให้รู้เรื่อง”
“บ้าเอ๊ย! ฉันเพิ่งจะปล่อยคุณคุณก็จะฆ่ากันเลยหรอ! ”
ในขณะนั้น เสียงเปิดประตูก๊อกแก๊กก็ดังขึ้นมา!
สองคนเบิกตากว้างกันอย่างพร้อมเพรียง “แย่แล้ว พวกมันกลับมาแล้ว! ”