คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 350 หลงเซียวใจร้ายใจดำ ยอดฝีมือแห่งธุรกิจ
ตอนที่ 350 หลงเซียวใจร้ายใจดำ ยอดฝีมือแห่งธุรกิจ
ฝูงชนในห้องโถงต่างแตกหนีกระจัดกระจายหมดแล้ว งานแต่งงานหรูหรากลายเป็นเรื่องตลกของสื่อมวลชนทั่วทั้งประเทศแล้ว เมื่อนึกถึงก็รู้สึกเศร้าและตลก
ลั่วหานถอนหายใจเงียบๆในใจ และจู่ๆก็นึกถึงหลงจื๋อขึ้น ขนาดตามหาขณะที่มีจำนวนคนในงานแค่สิบกว่าคนยังไม่เห็นแม้แต่ร่างเงาของหลงจื๋อเลย
ลั่วหานรู้สึกเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีขึ้น และคาดคิดว่า หลงจื๋อต้องเกิดเรื่องแน่ รถของเขากับรถของเสิ่นเหลียวเกิดอุบัติเหตุ แต่จนถึงตอนนี้ก็ไม่เห็นร่างเงาของเสิ่นเหลียวเลย
"ที่รัก หลงจื๋อออกไปข้างนอกเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ยังไม่กลับมาเลย ฉันสงสัยว่า เขาต้องถูก เสิ่นเหลียวลักพาตัวไปแน่"
หลงเซียวเผยสายตามืดครึ้มขึ้น และครุ่นคิดในใจเงียบๆ "เดียวผมส่งคนไปตรวจดูเสิ่นเหลียวกับเสี่ยวจื๋อไม่มีความแค้นต่อกัน เขาคงแค่ลักพาตัวเขาเพื่อไม่ให้เขามาออกหน้าช่วยคุณแน่เลย"
เมื่อลั่วหานครุ่นคิดสักพักก็รู้สึกว่าเป็นแบบนี้ แต่กลับรู้สึกไม่สบายใจเลย "ส่งคนไปตรวจสอบดีแล้วค่ะ คนอย่าง เสิ่นเหลียวสามารถทำได้ทุกอย่าง"
หลงเซียวกุมมือเธอไว้ เมื่อกี้ไม่มีความรู้สึก แต่เมื่อกุมมือในตอนนี้ จู่ๆก็สัมผัสได้ว่า มือของเธอเย็นเฉียบเหมือนดั่งหยก ไม่นานเขาก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น
"หนาวหรอ? ทำไมมือถึงเย็นขนาดนี้?"
เพราะเป็นห่วง น้ำเสียงของเขาเลยแฝงความรีบร้อน จนทำให้ลั่วหานรู้สึกตื่นตระหนกเล็กน้อย ไม่นานเธอก็ลูบมือตัวเอง "เย็นนิดหน่อย แต่ฉันไม่รู้สึกหนาว ไม่เป็นอะไรมากหรอกค่ะ"
ถึงแม้เธอจะพูดว่าไม่เป็นอะไร แต่หลงเซียวก็ไม่วางใจยื่นหลังมือทาบบนหน้าผากของเธอ และพบว่าอุณหภูมิปกติ "คงเป็นเพราะกังวลมากเกินไป"
ฤดูกาลนี้ไม่ถือว่ามีอากาศหนาวมาก แถมชุดราตรีที่ลั่วหานสวมบนบ่าก็มีผ้าปิดไว้ด้วย หากพูดตามหลักแล้วมือเธอต้องอุ่นถึงจะถูกต้อง หลงเซียวครุ่นคิดในใจเงียบๆ ดูเหมือน "ประจำเดือน" ของลั่วหานก็ไม่ใช่เวลานี้ด้วย
เขายังคงไม่วางใจ เลยปลดกระดุมออกทีละเม็ด และถอดเสื้อคลุมมาสวมบนตัวของลั่วหานเพื่อทำให้ร่างกายของเธออบอุ่น
จากนั้นก็จับบนบ่าของเธอทั้งสองข้าง และยิ้มอย่างอ่อนโยน "ป้องกันไว้ก่อนดีกว่า"
เมื่อบนตัวมีเสื้อคลุมของเขามาพาดบนตัว ลั่วหานก็รู้สึกอบอุ่นร่างกายมากขึ้น จากนั้นเธอก็เงยหน้าสบสายตากับเขา และพูดขึ้นว่า "ฤดูกาลนี้คนไม่ค่อยป่วย อีกอย่างสุขภาพของฉันก็แข็งแรงมากด้วย คุณหลงอย่าลืมสิว่าฉันทำงานอะไร ฉันเป็นหมอผู้เชี่ยวชาญนะค่ะ"
"ครับ ภรรยาของผมยังเป็นนักให้คำปรึกษาด้วย หมอสามารถรักษาคนไข้ได้ก็จริง แต่หมอไม่สามารถรักษาตัวเองได้ ต่อให้เป็นหมอที่เก่งแค่ไหนก็ต้องการการดูแลจากสามี"
เขายิ้มต่อเธอด้วยสายตาใสซื่ออย่างน่ารัก
ลั่วหานกระตุกคิ้ว และพูดอย่างเชื่อฟังว่า "ค่ะ ฉันเชื่อคุณค่ะ ตอนนี้ประเด็นสำคัญไม่ใช่ฉัน แต่คือหลงจื๋อ เจิ้งซิ่วหยาจับกุมฉู่ซีหรานไปแล้ว ฉันกังวลว่า เสิ่นเหลียวจะทำเรื่องไม่ดีขึ้น"
หลงเซียววางมือบนบ่าของเธอโดยไม่ดึงมือกลับ แล้วเดินพาเธอจากไป "เดียวผมให้หยังเซินส่งคุณกลับบ้านก่อน คุณพักผ่อนก่อน ส่วนเรื่องที่เหลือผมจัดการเอง"
ลั่วหานพยักหน้าเล็กน้อย และนึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้น "กลับบ้านหรอ? กลับบ้านหลังไหน? ไม่กี่วันมานี้ฉันอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลงตลอด ฉันควรกลับไปกล่าวทักทายไหม?"
เมื่อหลงเซียวได้ยินคฤหาสน์ตระกูลหลง คิ้วที่คลายตัวก็ขมวดขึ้นมาอีกครั้ง "ที่รัก พวกเรามีเพียงบ้านหลังเดียว คุณกำลังหมายถึงกลับที่ไหนอีก?"
ลั่วหานยิ้มแย้มอย่างเบิกบาน และพูดขึ้นว่า "เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะรอคุณอยู่ที่บ้านนะค่ะ"
ใช่ พวกเรามีเพียงบ้านหลังเดียว ส่วนคฤหาสน์ตระกูลหลง ต่อให้เป็นคฤหาสน์ที่หรูหราแค่ไหน ก็ไม่ใช่บ้านของพวกเขา
"หลงเซียว! ทำไมกลับมาได้แล้วล่ะ? ไม่มากล่าวทักทายพี่ชายเลย ที่บ้านกำลังเตรียมการเลี้ยงต้อนรับนายกลับบ้านอยู่!"
ขณะที่พวกเขาสองคนกำลังร่ำลากันหลงยี่กับโจวหยู่เช่นก็เดินเข้ามาหาจากข้างหลัง พร้อมกล่าวทักทายอย่างกระตือรือร้น และแกล้งทำเหมือนกับเหตุการณ์ที่ทำให้ลั่วหานเสียหน้าไม่เคยเกิดขึ้น
ลั่วหานจ้องมองพวกเขาอย่างเงียบๆ
หลงเซียวเหลือบมองพวกเขาด้วยสายตาขี้เกียจแวบหนึ่ง "ผมกลับมาต้องกล่าวทักทายกับคุณด้วยหรอ? งานเลี้ยงต้อนรับไม่ต้องหรอกครับ พวกเราไม่กลับคฤหาสน์ตระกูลหลง"
โจวหยู่เช่นหัวเราะฮ่าฮ่า และพูดขึ้นว่า "พวกคุณไม่กลับคฤหาสน์ตระกูลหลง แล้วจะไปไหนล่ะคะ?"
หลงเซียวเหลือบมองเธอแวบหนึ่งด้วยสายตารำคาญ "กลับบ้านไง"
พูดจบ ก็หันหลังเดินจาไป ทิ้งพวกเขาทั้งสองสบตากันอย่างมึนงง
หลงเซียวเดินไปส่งลั่วลั่วขึ้นบนรถด้วยตัวเอง เขายืนหน้าเข้าทางหน้าต่าง และพูดว่า "พักผ่อนให้สบาย แล้วผมจะรีบกลับไปหา"
"ค่ะ!"
หลังจากหยังเซินขับรถจากไป หลงเซียวก็หันหลังเดินไป
วินาทีที่หันหลัง ใบหน้าที่แฝงสีหน้าอ่อนโยนก็เปลี่ยนสีหน้าเกรี้ยวกราดขึ้น พร้อมเดินไปข้างหน้าด้วยสายตามืดครึ้ม ซึ่งเหมือนกับมีคลื่นอำมหิตวนอยู่รอบตัวของเขา!
หลงเซียวกำหมัดในกระเป๋ากางเกงอย่างแน่น
เมื่อจี้ตงหมิงเห็นเจ้านายเดินหันหลังกลับก็รีบเก็บโทรศัพท์ และเดินเข้าไปหา "เจ้านาย ผมได้พูดคุยกับเหล่านักข่าวทางนั้นแล้วว่า ห้ามเอารูปภาพของคุณนายเผยแพร่"
หลงเซียวพยักหน้าเล็กน้อย "อืม" เพียงสั้นๆ แต่ว่ามารถบ่งบอกได้ว่า ในตอนนี้เขามีอารมณ์ไม่ดีเลย!
เยนเซินกับไป๋เวยหันหน้าสบตากัน และพูดพร้อมกันว่า "ตอนนี้เอายังไงต่อ?"
พูดจบทั้งสองคนก็สบตากัน ไป๋เวยเหลือบมองกู้เยนเซินด้วยสายตารำคาญ "ใจร้อนอะไรกัน?"
หลงเซียวไม่สนใจพวกเขาสองคนโต้เถียงกัน แต่พูดขึ้นว่า "ช่วงนี้ซุนปิงเหวินมีช่องโหว่เรื่องเงินทุนใช่ไหม?"
กู้เยนเซินพูดขึ้นว่า "มีปัญหาเรื่องนี้จริงครับ อีกอย่างซุนปิงเหวินปกปิดเรื่องนี้ไม่ให้โม่หรูเฟยรู้ด้วยครับ ปัญหาเรื่องนี้มีผลกระทบไม่น้อยเลย เขาคงอยากแต่งงานเพื่อเอาเงินของตระกูลโม่มาหมุนเวียนเงินทุน เงินหมุนเวียนที่ซุนปิงเหวินต้องการมีจำนวนมาก ตระกูลโม่คงลำบากไม่น้อยแน่"
หลงเซียวยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ตระกูลโม่ทำธุรกิจมาสิบกว่าปี แค่เงินทุนแค่นั้นคงไม่ทำให้เขาลำบากหรอก…." เมื่อเขาพูดถึงตรงนี้ก็เห็นพนักงานถือรูปภาพพรีเวดดิ้งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในห้องโถง "คุณมีหุ้นของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปในมือเท่าไหร่?"
กู้เยนเซินครุ่นคิดชั่วครู่ ในมือของเขามีหุ้นของสี่ตระกูลใหญ่ในประเทศจำนวนไม่น้อยเลย ตัวเลขชัดเจนเขาจำไม่ได้ "ประมาณเท่าไหร่นั้น….ผมจำไม่ค่อยได้ครับ"
"ไม่ว่าจะมีเท่าไหร่รีบขายทิ้งเดียวนี้ แล้วเปลี่ยนเป็นเงินสดทั้งหมด ส่ายแล้ว คงเอาเงินกลับไม่ได้แล้ว"
กู้เยนเซินหรี่ตาลง "ร้ายแรงขนาดนี้เลยหรอครับ? ซุนปิงเหวินขาดแคลนเงินทุน หากคุณให้ผมขายหุ้นของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปทิ้ง จะไม่ทำให้เรื่องพลิกผันหรอครับ?"
หลงเซียวพูดขึ้นว่า "ตั้งแต่วันนี้ หากช่องโหว่เงินทุนของซุนปิงเหวินเพิ่มเยอะมากขึ้น เขาก็จะหมดความน่าเชื่อทางธนาคาร และต้องประสบกับวิกฤตล้มละลาย แล้วนายคิดว่าเขาจะทำยังไง?"
"ใช่! ก็คงต้องเอาเงินทุนจากบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป และล้มบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปพังพินาศ!" กู้เยนเซินอุทานด้วยความตกใจขึ้น
ไป๋เวยกุมขมับและพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกว่า "คนโง่ยังรู้เลย ผู้จัดการกู้ ลำบากคุณแล้วจริงๆที่ต้องใช้เวลาครุ่นคิดนานถึงจะคิดออก"
หลงเซียวพูดขึ้นว่า "ไม่โทษกู้เยนเซิน หากอยากขอบคุณต้องขอบคุณเกาจิ่งอานที่ช่วยทำให้ซุนปิงเหวินหมดความน่าเชื่อถือทางธนาคาร และประสบวิกฤตล้มละลาย"
เกาจิ่งอานที่ยืนพิงรถยนต์มาตลอด เมื่อได้ยินก็โบกมือขึ้น "ไม่ต้องเกรงใจครับ! เรื่องเล็กน้อย!"
หลงเซียวเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ขอบคุณหรอ? หลงเซียวจะขอบคุณเขาหรอ?
"ตงหมิง เตรียมข้อมูลเอกสาร ฉันจะซื้อบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป"
"ห่ะ?"
"ใกล้จะล้มละลายแล้วจะซื้ออีกหรอ? นี่ไม่ใช่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองหรอ?"
"อย่าเพิ่งวู่วาม พี่หลง! ตอนนี้บริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปมีชื่อเสียงอื้อฉาว หากคุณซื้อบริษัท สิ่งที่เราทำก็ไร้ประโยชน์ คุณคงไม่คิดเอาเงินไปให้พวกเขาใช้หรอกใช่ไหม?'
"คุณชายหลง อย่าลืมนะครับว่า คุณยังอยู่ในนามของMBK หากคุณซื้อบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป แล้วคณะกรรมการ MBK จะยินยอมหรอครับ?"
กู้เยนเซินกับเกาจิ่งอานแสดงความคิดเห็นขึ้น บริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปถูกพวกเขาเล่นงานจนจะพังพินาศแล้ว ยังคิดจะซื้ออีกหรอ!
หลงเซียวยิ้มและพูดขึ้นว่า "บริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปควบคุมโควต้าวัสดุก่อสร้างของเมืองหลงอยู่สิบเปอร์เซ็นต์ ทุกปีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของMBK ต้องซื้อวัสดุก่อสร้างจากบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปจำนวนมหาศาล แล้วทำไมผมจะซื้อบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปมาบริการ MBK ไม่ได้ล่ะ?"
กู้เยนเซินลูบจมูกเบาๆ "แต่พ่อของคุณ……"
หลงเซียวหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า "ไม่จำเป็นต้องสอบถามความคิดเห็นของเขา เพราะฉันซื้อในนามของบริษัทฉู่ซื่อ ต่อไปบริษัทโม่ซื้อก็จะตกอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทฉู่ซื่อ ซึ่งที่ลั่วลั่วเป็นเจ้าของ"
ไม่ธรรมดา!
ไม่ธรรมดาจริงๆ!
ทุกคนอ้าปากค้างเล็กน้อย!
กู้เยนเซินดึงสติกลับมา และพูดขึ้นว่า "งั้นคุณหมายความว่า ซื้อบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปในนามของบริษัทฉู่ซื่อ และมอบอำนาจให้กับภรรยาของคุณใช่ไหมครับ?"
หลงเซียวพูดขึ้นว่า "ใช่ ต่อไปในอนาคต MBK จะซื้อวัสดุก่อสร้างจากบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป ไม่ว่าโม่ซื่อกรุ๊ปจะเป็นของใคร ทุกปีจะสามารถได้กำไรเงินก้อนใหญ่จาก MBK แบบนี้ไม่ใช่เรื่องดีหรอ?
เกาจิ่งอานปรบมือดังสนั่นขึ้น "พี่ใหญ่สุดยอดจริงๆ! หากเงินทุนของMBK เข้าบริษัทฉู่ซื่อ นั้นหมายความว่าเงินจากในกระเป๋าของพี่โอนเข้ากระเป๋าของพี่สะใภ้ ถึงแม้จะเป็นครอบครัวเดียวกัน แต่…."
หลงเซียวไม่เปิดโอกาสพูดคุยกับพวกเขาแล้ว "กู้เยนเซินช่วยขายหุ้นทั้งหมดทิ้งด้วย และกวาดซื้อหุ้นด้วย ซุนปิงเหวินต้องการเงินทุน เขายอมขายแน่ ฉันจะทำให้บริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปเปลี่ยนแปลง"
"ครับ!"
ไป๋เวยพูดขึ้นว่า "คุณหลง ลั่วลั่วให้คุณตามหาคุณชายรองตระกูลหลงครับ…"
ในที่สุดก็เพิ่งนึกถึงหลงจื๋อผู้น่าสงสาร
หลงเซียวมองดูนาฬิกา "ไม่ต้องหรอก ตอนนี้เขาคงปลอดภัยดี อีกอย่างฉันส่งคนไปหาเขาแล้วด้วย"
กู้เยนเซินกวาดตามองรอบบริเวณ และเห็นว่าเพื่อนร่วมกลุ่มของพวกเขายังไม่ได้จากไป!
"ใครไปหรอครับ? คุณส่งใครไปหรอครับ?"
"ตอนผมมา ผมเห็น หลินซีเหวินขับรถตามรถของเสิ่นเหลียวแล้ว ในตอนนี้เธอคงตามหาหลงจื๋อพบแล้ว แต่ถ้าเธอไม่มีไหวพริบก็คงต้องใช้เวลามากหน่อย"
ตอนที่เขาเห็น หลินซีเหวินขับรถตามหาหลงจื๋อ เขาคิดว่าเธอมีความสามารถ
เห่อเห่อเห่อ! กู้เยนเซินพูดขึ้นว่า "โอเค เอาล่ะ เดียวผมฉวยโอกาสตอนที่บริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปยังไม่ทันเตรียมพร้อมรีบขายหุ้นของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปทิ้ง พรุ่งนี้จะคอยดูสิว่าจะพังเป็นสภาพไหน!"
กู้เยนเซินที่สวมชุดสูทสีดำทั้งตัวโบกมือลาทุกคน แต่จู่ๆเขาก็หันหน้ากลับมาพูดว่า "คุณหลงครับ คุณ หวังเค่ยที่เพิ่งมาทำงานที่บริษัทฉู่ซื่อมีความสามารถในการทำงานมาก! ทั้งเรื่องเทคนิคและประสบการณ์ ผมยอมเลยครับ!"
ไป๋เวยยิ้มมุมปากเล็กน้อย "เป็นหมาหัวเน่าแล้ว แสดงความยินดีด้วยนะ!"
กู้เยนเซินทำเป็นไม่สนใจ จากนั้นเกาจิ่งอานก็เดินเข้ามาพูดว่า "พี่ใหญ่ จะให้ผมทำอะไรบ้าง?"
"นายหรอ? น้องสาวของนายถูกส่งเข้าโรงพยาบาล ในฐานะพี่ชาย นายควรไปดูสักหน่อยไหม? ซื้อช่อดอกไม้ หรือตะกร้าผลไม้ไปสอบถามอาการของเธอหน่อย"
"ไม่จริงใช่ไหม! ผมไม่ไป!" เกาจิ่งอานไม่อยากมีความเกี่ยวข้องกับโม่หรูเฟย แม้แต่ชื่อของโม่หรูเฟยตอนนี้เขาก็ไม่อยากได้ยิน
"ห่ะ? ทั้งที่เรียกฉันว่าพี่ใหญ่ แต่ทำไมเพิ่งไม่กี่วันก็ไม่เชื่อฟังแล้วหรอ?"