คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 343 งานแต่งงานที่ต่างคนต่างมีจุดประสงค์
ตอนที่ 343 งานแต่งงานที่ต่างคนต่างมีจุดประสงค์
โจวหยู่เช่นหัวเราะฮ่าฮ่า และยื่นมือที่สวมแหวนสามนิ้วดึงผ้าคลุมไหล่เล็กน้อย "ไม่มีแม้แต่เครื่องประดับเลยหรอ? ถ้ายังทัน เดียวฉันให้ยืมใส่สักชิ้น"
หึม!
ลั่วหานเป็นคนมีลำคอเรียวขาว เดิมทีเธอก็เป็นคนสวยอยู่แล้ว อีกอย่างเธอไม่ชอบสวมเครื่องประดับด้วย นับว่าเมื่อกี้ละเลยเรื่องนี้มาก
ในตอนนี้มีคนจำนวนไม่น้อยพากันวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมหันหน้าจ้องมองลั่วหาน
ขณะที่ลั่วหานเริ่มรู้สึกรำคาญต่อคำซุบซิบนิททานั้น หลงจื๋อก็เดินเข้ามา
"พี่สะใภ้ คุณไม่รู้สึกหวงแหนเครื่องประดับไข่มุกเหล่านั้นก็ช่าง แต่ทำไมถึงทิ้งตามอำเภอใจแบบนี้?"
ในมือของหลงจื๋อมีสร้อยคอสีครามประกายระยิบระยับเส้นหนึ่งอยู่ แถมมีทองคำขาวตัดสลับกับสร้อยสีคราม โดยที่มีเพชรสีครามขนาดใหญ่ห้อยอยู่ตรงกลาง
ลั่วหานรู้สึกพูดอะไรไม่ถูก ตกลงหลงจื๋อเจ้าคนนี้มีแผนการอะไรอีก!
"เป็นเครื่องเพชรที่สวยงดงามมาก! หาซื้อยากมาก!"
"สมกับเป็นคุณนายหญิงตระกูลหลงจริงๆ! เครื่องประดับราคาแพงขนาดนี้ยังทิ้งตามอำเภอใจได้"
นี่….ถือเป็นผลงานระดับสูงที่มีจำกัด!
เพชรห้อยลงตรงกลางลำคอ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับผิวพรรณสุขภาพดี มองดูแล้วงดงามดั่งภาพฝัน!
จากนั้นเสียงชื่นชมก็ดังขึ้น ลั่วหานยิ้มรับมือ ดวงตาของผู้หญิงว่องไวยิ่งกว่าดวงตาของสุนัขจิ้งจอกอีก!
"เสี่ยวจื๋อ นี่เป็นแผนการของพี่ใหญ่นายด้วยหรอ?"
หลงจื๋อยักไหล่ "ครับ พี่ใหญ่ของผมนี่จริงๆเลย! ทั้งที่พูดเองว่าต้องเข้างานอย่างสำรวม เห่อเห่อ แต่ผมคิดว่าเขาต้องการผลักคุณตกสถานการณ์ดุเดือดที่สุดมากกว่า!"
ลั่วหานลูบสร้อยคอเล็กน้อย แล้วดึงเสื้อบริเวณหน้าอกขึ้นเล็กน้อย "พี่ใหญ่ของนายไม่อยู่ ฉันก็ต้องรับมือกับคนสองคนในงานคนเดียว ที่พี่ใหญ่ของนายทำถูกต้องแล้ว"
หลงจื๋อยกคิ้วขึ้นเล็กน้อย "แล้วพี่สะใภ้รู้หรือไม่ว่าพี่ใหญ่เตรียมแผนการอะไรอีก? ฮ่าฮ่า!"
โจวหยู่เช่นยืนขบฟันแน่นด้วยท่าทางเคียดแค้นอยู่ด้านข้าง ส่วนอีกด้านเป็นเหล่าผู้หญิงที่ต้องการเฉิดฉายในงาน แต่กลับถูกฉู่ลั่วหานแย่งซีนไปอย่างน่าอนาถ พวกเธอทำได้เพียงจ้องมองลั่วหานด้วยสายตาโกรธเคือง!
"เธอก็แค่อาศัยบารมีของหลงเซียวเท่านั้นแหละ!"
"นี่เธอ อย่าพูดแบบนี้ เธอลืมไปแล้วหรอว่าคนที่ตำหนิเธอเมื่อก่อนสุดท้ายมีสภาพยังไง? หากยังไม่อยากตายล่ะก็รอพิธีแต่งงานเริ่มขึ้นอย่างอดทนดีกว่า"
ลั่วหานได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตกกระทบหูตลอดเวลา แต่เธอต้องแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน และแสร้งกล่าวทักทายกับคนที่สมควรกล่าวทักทาย
ทุกการกระทำสื่อถึงความสูงส่งที่ไม่ธรรมดาของคุณนายตระกูลระดับสูง ทำให้เหล่าหญิงสาวที่แต่งตัวโป๊ถูกเขาบดบังจนมิดชิดหมดแล้ว!
โจวหยู่เช่นกัดฟันพูดว่า "สามี ฉู่ลั่วหานนังผู้หญิงสารเลวคนนี้ช่างน่ารังเกียจนัก! คุณดูสีหน้าท่าทางหน้าไม่อายของเธอดูสิ! นึกว่าตัวเองเป็นใครกัน?"
หลงยี่เหลือบมองประเมินลั่วหานอยู่สักพัก พร้อมฉีกปากยิ้มเล็กน้อย "ภรรยา อย่าใจร้อน เธอมีศัตรูเยอะขนาดนี้ คงมีใครสักคนเข้ามาต่อกรกับเธอแน่"
โจวหยู่เช่นขบฟันแน่นด้วยท่าทางเคียดแค้น "ฉันทนดูความน่าขยะแขยงของเธอไม่ลงจริงๆ!"
หลงจื๋อแนะนำประธานบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมดในเมืองหลวงให้กับลั่วหานอย่างเรียบง่าย ลั่วหานทักทายทุกคนตามฐานะ การงาน อิทธิพล เพียงพูดคุยสามประโยคก็สร้างครองใจของฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว
หลงจื๋อยกนิ้วโป้งชื่นชมเธออยู่ด้านข้าง
ไม่นาน ตรงประตูใหญ่ในงานแต่งงานก็ปรากฏตัวฉู่ซีหรานสวมชุดราตรียาวสีชมพูเข้ม บนตัวสวมเครื่องประดับหรูหรา และในมือถือกระเป๋าเลี่ยมเพชรขึ้น
ขณะเดียวกันเธอก็โอบแขนข้างหนึ่งของเสิ่นเหลียว การปรากฏตัวของทั้งสองคนสร้างความสนใจต่อสายตาผู้คนจำนวนไม่น้อยเลย
ลั่วหานหรี่ตาจ้องมองด้วยสายตาแปลกใจเล็กน้อย "โม่หรูเฟยเชิญพวกเขามาด้วยหรอ?"
หลงจื๋อเม้มปาก "มิน่าพี่ใหญ่ต้องมีแผนการเตรียมรับมือล่วงหน้า เป็นดั่งที่คิดจริงๆ….พี่ใหญ่ก็คือพี่ใหญ่ ร้ายกาจ! ร้ายกาจมาก!"
ถึงแม้ว่าฉู่ซีหรานกับเสิ่นเหลียวไม่ได้เป็นคนในแวดวงเมืองหลวง แต่ธุรกิจของพวกเขาก็รุ่งเรืองมากในเมืองเจียง อีกทั้งยังมีชื่อเสียงเลื่องลือในเมืองหลวงมาตั้งนานอีกด้วย
อีกอย่างฉู่ซีหรานเป็นลูกสาวของตระกูลฉู่ เป็นน้องสาวของฉู่ลั่วหานด้วย ดังนั้นจึงตกเป็นจุดสนใจของงานทันที
ลั่วหานกับฉู่ซีหรานอยู่ห่างกันไม่ไกลมาก ทั้งสองต่างแอบแฝงสายตาลึกซึ้งกัน ซึ่งเป็นสายตาที่ผู้คนยากจะอ่านออกได้
ในท่ามกลางแขก มีบางคนรู้สึกตกใจ มีบางคนรู้สึกสงสัย มีบางคนวิพากษ์วิจารณ์ มีบางคนดูถูก และมีบางคนประจบเข้าหาผู้ใหญ่
ก่อนพิธีงานแต่งงานในห้องโถงจะเริ่มต้นขึ้นก็จะเป็นงานสร้างสรรค์สังคมธุรกิจ
ซึ่งลั่วหานเป็นบุคคลหนึ่งที่ในงานให้ความสำคัญมากที่สุด
ดังนั้นรอบข้างของเธอเลยมีทั้งผู้หญิงผู้ชายลอบล้อมเบียดเสียดอยู่จำนวนไม่น้อยเลย
แต่ลั่วหานพูดเพียงว่า "คืนนี้เป็นงานแต่งงานของคุณโม่ เรื่องอย่างอื่นเราค่อยคุยทีหลังล่ะกันนะค่ะ"
การปฏิเสธที่ประณีตประนอมแบบนี้เป็นการให้เกียรติผู้คนไม่น้อยเลย
คุณนายหญิงตระกูลหลงน่าคบมากกว่าคุณหลงเสียอีก!
ฉู่ซีหรานเดินเข้ามาทักทาย "พี่สาว ไม่เจอกันนานเลยนะค่ะ"
ลั่วหานยิ้มจางๆ "ใช่ ไม่ได้เจอกันนานเลย แต่เห็นเธอแล้ว ฉันคิดว่าเธอน่าจะมีความสุข"
ฉู่ซีหรานพูดขึ้นว่า "พี่สาว ฉันฉวยโอกาสงานแต่งงานของโม่หรูเฟยมาเมืองหลวงครั้งนี้ พี่ต้องช่วยฉันนะ พี่ช่วยคิดหาวิธีการทำให้ฉันอยู่ต่อหน่อย ฉันไม่สามารถกลับไปอีกแล้ว เพราะ เสิ่นเหลียวต้องข่มเหงรังแกฉันแน่"
ลั่วหานเหลือบมองเสิ่นเหลียวที่กำลังพูดคุยกับนักธุรกิจระดับสูงไม่กี่คนแวบหนึ่ง แล้วพูดขึ้นว่า "ใช่หรอ? แต่วันนี้น้องสาวก็สวมเครื่องประดับทอง แต่งตัวหรูหรา ไม่เหมือนคนถูกข่มเหงรังแกเลยนะ"
ฉู่ซีหรานยกกระโปรงชุดราตรีขึ้น ปรากฏเป็นร่องรอยถูกเชือกมัดอย่างแน่นจนน่าสลดใจ
"พี่สาว ฉันทนอยู่ไม่ได้แล้ว ได้โปรดช่วยฉันเถอะ ขอร้องล่ะ ขอเพียงพี่ช่วยฉันครั้งนี้ ต่อไปฉันจะเชื่อฟังพี่ทุกอย่างแล้ว"
ลั่วหานดึงมือที่สั่นเทาของเธอออก "ฉู่ซีหราน มารยาแบบนี้อย่ามาใช้กับฉันเลย เพราะมันไม่ได้ผลเลยสักนิด ฉันแนะนำว่า หากยังมีแรงอยู่เอาอกเอาใจสามีของเธอจะดีกว่า"
ฉู่ซีหรานกัดฟันไว้อย่างแน่น พร้อมกับน้ำตา "พี่สาว….พี่ทำได้ลงคอหรอ? ฉันเป็นน้องสาวของพี่นะ"
"ใช่ เธอคือน้องสาวของฉัน น้องสาวที่เกลียดฉันจนทำให้ฉันเกือบตาย!"
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันอย่างดุเดือดอยู่ จู่ๆก็มีคนๆหนึ่งเดินเข้ามาทำลายบรรยากาศขึ้น
"โอ้ สมกับเป็นงานแต่งงานของคุณโม่จริงๆ บรรยากาศคึกคักมาก!"
จากนั้นทุกคนก็หันหน้ามองทางประตูใหญ่ และเห็นผู้หญิงสวมชุดราตรีสีฟ้ายืนอยู่หน้าประตู เธอยิ้มแย้มอย่างเบิกบาน และดูท่าทางสดใสมากด้วย
ลั่วหานขยับริมฝีปากเล็กน้อย "เจิ้งซิ่วหยาหรอ? เธอก็ถูกเชิญมาด้วยหรอ?"
สังคมของโม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวินช่างกว้างขวางจริงๆ!"
ปกติ เจิ้งซิ่วหยาอยู่ต่างประเทศ พ่อแม่และธุรกิจของตระกูลก็อยู่ต่างประเทศเหมือนกัน ดังนั้นโอกาสในการพบปะค่อนข้างน้อย เนื่องจากพ่อของซุนปิงเหวินกับพ่อของเธอทำธุรกิจด้วยกัน และในตอนนั้นเธออยู่ประเทศจีนพอดี เลยได้รับบัตรเชิญด้วย
เมื่อเห็นผู้หญิงแปลกหน้า ทุกคนก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ขึ้น
เจิ้งซิ่วหยาเดินถือกระเป๋าเข้ามาด้วยสีหน้าไม่มีใครมีค่าพอให้ชายตามองก็แค่งานแต่งงานเท่านั้น
แม้แต่โม่หรูเฟยที่เป็นเจ้าของงานแต่งงาน เธอแทบไม่รู้เลยว่าโม่หรูเฟยมีหน้าตายังไง เธอแค่มาร่วมสนุกเท่านั้น
"คุณหมอฉู่ ฉันคิดอยู่แล้วว่าคุณต้องอยู่ที่นี่"
เจิ้งซิ่วหยาเดินตรงเข้ามาหาลั่วหาน และกล่าวทักทายกับเธออย่างสนิทสนม
ลั่วหานพยักหน้าเล็กน้อย "คุณตำรวจจิ้ง การแต่งตัวแบบนี้ในวันนี้สร้างความเซอร์ไพรส์ต่อฉันมากเลย"
เจิ้งซิ่วหยาพูดขึ้นว่า "แต่ก็ยังเทียบไม่เท่าเธอหรอก แค่ผ้าคลุมไหล่ก็สามารถซื้อชุดของฉันได้ทั้งชุดแล้ว คุณนายหญิงช่างมีเงินมากจริงๆ"
ทั้งสองคนต่างชื่นชมต่อกัน ซึ่งในตอนนี้ในงานมีแขกเข้าร่วมกว่าหนึ่งร้อยคนแล้ว และเป็นบุคคลมีหน้ามีตาของเมืองหลงเกือบครึ่งอยู่ที่นี่ด้วย
เวลาเข้าร่วมงานยังคงเหลืออีกครึ่งชั่วโมง ในตอนนี้ภายในงานเริ่มมีเสียงไวโอลินอันน่าสุนทรีย์บรรเลงขึ้น ขณะเดียวกันก็มีเสียงพูดคุย หัวเราะปะปนสร้างบรรยากาศอันน่าอบอุ่นขึ้น
เจิ้งซิ่วหยาจิบไวน์เล็กน้อย ขณะเดียวกันก็กวาดตามองรอบบริเวณอย่างเงียบๆด้วย
"ที่รัก คิดไม่ถึงล่ะสิว่าฉันจะมาด้วย!"
เกินความคาดหมายมาก!
"ซวงซวง เธอมาด้วยได้ยังไง? คิดไม่ถึงเลยว่าโม่หรูเฟยจะเชิญเธอมาร่วมงานด้วย สมองของเธอมีปัญหาหรือเปล่า?"
ลู่ซวงซวงเอาบัตรเชิญยัดใส่ในกระเป๋า "เป็นไปได้ยังไง โม่หรูเฟยมีแต่ความเกลียดชังต่อฉัน แทบไม่มีมิตรไมตรีเลย แต่ที่ฉันมาก็เพราะเธอเลย เธอลองคิดดูสิ หลงเซียวบุคคลสำคัญไม่อยู่แบบนี้ แล้วให้เธอเข้าร่วมงานแต่งงานคนเดียวจะวางใจได้ยังไง? ดังนั้นฉันเลยให้พ่อของฉันเอาบัตรเชิญมา การต้อนรับแขกหน้าประตูประสาทมาก!"
หลงจื๋อยกมือกอดอก และจ้องมองลู่ซวงซวงที่น่ารัก "พี่สาวโลลิ ผมก็อยู่ที่นี่เหมือนกัน ผมคิดว่าพี่สะใภ้ไม่ต้องการหารปกป้องจากคุณ คุณอย่าสร้างความวุ่นวายก็เพียงพอแล้ว"
ลู่ซวงซวงรีบเผยท่าทางเตรียมต่อสู้ขึ้นมาทันที "คนที่ฉันกีดกั้นก็คือนายไง! เกลือเป็นหนอนป้องกันยาก นายไม่รู้หรอ? ถึงแม้ตอนนี้พี่ใหญ่ของนายไม่อยู่บ้าน แต่นายอย่าได้หวังว่าจะฉวยโอกาสนี้ทำแต้มให้กับตัวเองเลย"
"พี่สาว! ช่วยระมัดระวังคำพูดหน่อยครับ"
เจิ้งซิ่วหยาเดินมาที่ เสิ่นเหลียวไม่ไกล และแสร้งแกล้งทำเป็นพูดคุย เธอต้องการเอาเครื่องดักฟังใส่บนตัวของเสิ่นเหลียวแต่ เสิ่นเหลียวระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก จนยากที่จะเข้าใกล้
เธอพยายามหลายครั้งแล้ว แต่ก็ถูกคนผลักออก
โจวหยู่เช่นกำลังโอ้อวดชุดและเครื่องประดับของตัวเองอย่างเมามันส์อยู่ ในฐานะคนของตระกูลหลง ทุกคนล้วนชื่นชมและเคารพต่อเธอ
ลู่ซวงซวงกัดฟันด้วยท่าทางผิดหวัง "ฉันนึกว่าเขาจะเป็นคนเก่งมาก แต่กลับไม่อยู่"
"ห่ะ? ใครหรอ?"
ลู่ซวงซวงถอนหายใจ "จะใครซะอีกล่ะ ผู้ช่วยของฉันไง ก็หวาเทียนคนนั้นไง"
ลั่วหานยิ้มแย้ม "หวาเทียนกับโม่หรูเฟยไม่เคยรู้จักกัน คงไม่มาหรอก เธออยากให้เขา…มาหรอ?"
"เปล่าสักหน่อย!"
แต่….ลั่วหานรู้สึกว่า ด้วยอิทธิพลในเมืองหลวงของพ่อ หลินซีเหวินแล้ว ไม่มีเหตุผลไหนที่โม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวินจะไม่เชิญเขาเลย
เธอจะมาไหม?
หรือเป็นเพราะหลงจื๋อ เธอเลยตั้งใจไม่มาเข้าร่วม?
ฉู่ซีหรานกับเสิ่นเหลียวเดินมาด้วยกัน ทั้งสองคนส่งสายตาต่อกัน ฉู่ซีหรานถือของบางอย่างในมืออย่างแน่น พร้อมกับยื่นมืออีกข้างตะคางของเขา
ในตอนนี้โม่หรูเฟยอยู่ในห้องแต่งหน้าชั้นบนสุด "ปิงเหวิน งานแต่งงานนี้เราเตรียมการมานานมาก ไม่สามารถเปลืองเงินฟรีๆได้"
ซุนปิงเหวินนั่งบนรถเข็น พร้อมกับจ้องมองเจ้าสาวที่เซ็กซี่เกินห้ามใจ "แน่นอน งานแต่งงานวันนี้ต้องคึกคัก"
โม่หรูเฟยจ้องมองตัวเองในกระจก เธอแต่งหน้าสวยงดงาม พร้อมกับสวมชุดเจ้าสาวที่มีความเซ็กซี่ด้วยจิตวิญญาณ
ชุดเจ้าสาวนี้ เธอรอคอยมาหลายปี และคาดหวังมาหลายปีด้วย!
เธอเคยฝันอยากสวมชุดแบบนี้ยืนอยู่ข้างหลงเซียว และพูดอย่างมีความสุขว่า "ฉันยินยอม แต่ไม่มีโอกาสแล้ว!"
ไม่มีโอกาสแล้ว!
"ปิงเหวิน ฉันสวยไหมคะ?" เธอจ้องมองตัวเองในกระจกอย่างเคลิบเคลิ้ม และซักถามเขาขึ้น
ซุนปิงเหวินจ้องมองเธอย่างหลงใหล "แน่นอน วันนี้คุณสวยที่สุด ในหัวใจของผม ไม่มีใครสวยเกินกว่าคุณ"
หรูเฟยยิ้มอย่างเย้ายวนขึ้น "ต่อไป ต่อไปฉันก็ยังเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุด! ผู้หญิงที่สวยที่สุด!"