คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 342 เข้าร่วมงานแต่งงานของโม่หรูเฟย
ตอนที่ 342 เข้าร่วมงานแต่งงานของโม่หรูเฟย
เมื่อได้ยินหลงเซียวพูดแบบนี้ ลั่วหานก็รู้สึกว่าข้าวในปากหวานขึ้นมาทันที เธอกัดตะเกียบด้วยท่าทางเขินอายเล็กน้อย ขณะถือโทรศัพท์ "ไปเรียนพูดปากหวานจากใครหรอ? คุณคิดว่าพูดแค่นี้ฉันจะเคลิ้มหรอ?"
"หากใช้คำพูดหวานไม่ได้ผล งั้นผมคงต้องใช้การกระทำเพื่อยืนยันแล้วล่ะ แต่ตอนนี้เราสองคนอยู่ห่างกันมาก ไว้รอผมกลับไปล่ะกัน"
ลั่วหานเกือบทะลักข้าวออกมา แล้วเหลือบตามองคนที่อยู่ในโรงอาหารของโรงพยาบาลทันที และพูดเบาๆว่า "คุณหลงค่ะ ตอนนี้ทางคุณเที่ยงคืนแล้ว แต่ทางนี้ของฉันเพิ่งตอนเที่ยง ไม่สามารถมีอารมณ์เหมือนคุณหรอกนะค่ะ"
หลงเซียวที่ยืนอยู่ระเบียงเงยหน้าขึ้น และเห็นดวงดาวนับแสนล้าน ขณะเดียวกันนิ้วมือก็ดัดบนราวระเบียงเบาๆเล็กน้อย ใช่ ตอนนี้เขาคิดถึงเธอมาก ส่วนเธอตอนนี้กำลังยุ่งกับงานที่โรงพยาบาล
"วันนี้ยุ่งมากไหม?" เขายืนพิงระเบียง และตั้งใจฟังน้ำเสียงของเธอ ทั้งที่เป็นเพียงประโยคเรียบง่ายก็ตาม
"วันนี้ยังพอโอเคค่ะ ขอบคุณที่คุณหลงเอาศาสตราจารย์ของฉันกลับมา ตอนนี้เขาเป็นคนดูแลรักษาเถียนเถียนแล้ว ก่อนมากินข้าวฉันเจอเขาแล้วค่ะ เขาใช้วิธีการแพทย์แผนจีนรักษาเถียนเถียนถึงแม้ต้องใช้เวลานานหน่อย แต่ได้ผลไม่น้อยเลย ฉันเชื่อว่าหากมีศาสตราจารย์อยู่เถียนเถียนต้องไม่เป็นอะไรแน่"
เมื่อพูดถึงศาสตราจารย์ น้ำเสียงของลั่วหานก็เบิกบานมากขึ้น ต้องยอมรับว่าการที่ศาสตราจารย์อยู่โรงพยาบาลทำให้เธอสบายใจมากไม่น้อย
"ที่บ้านล่ะ?" ยังคงเป็นน้ำเสียงอันธรรมชาติ
ที่บ้านล่ะ?
ลั่วหานเคี้ยวอาหารเล็กน้อย "สถานการณ์ที่บ้าน ฉันคงไม่ต้องบอกคุณหรอกใช่ไหม? หากมีหลงจื๋ออยู่ การส่งข่าวสารคงเร็วมากอยู่แล้ว"
หลงเซียวรู้สึกขำกับสิ่งที่เธอพูด พร้อมเงยหน้ามองท้องฟ้าด้วยสีหน้าท่าทางมีความสุข "หากหลงยี่กับโจวหยู่เช่นสร้างความลำบากต่อคุณ คุณไม่ต้องรักษาน้ำใจเลย ไม่ว่าคุณจะได้รับความไม่ยุติธรรมมากแค่ไหน เดียวผมช่วยคุณเรียกร้องความยุติธรรมเอง แต่คุณอย่าท้อแท้ใจเด็ดขาด"
ลั่วหานพูดขึ้นว่า "คุณหลงค่ะ หากคุณยังพูดอีก ฉันคงไม่ต้องกินข้าวแล้วล่ะ แค่ฟังคุณพูดปากหวานก็เท่ากับกินข้าวหนึ่งจานแล้ว ดึกมากแล้ว คุณรีบไปนอนพักผ่อนเถอะ"
เขาทำใจไม่ได้จริงๆ ทำใจไม่ได้ยินเสียงของเธอไม่ได้จริงๆ
"ครับ"
หลังจากวางสาย ลั่วหานก็อมยิ้มจ้องมองโทรศัพท์ ไม่รู้ว่า พวกเขาเริ่มพูดจาอ่อนหวานแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมช่างอุ่นใจขนาดนี้
มีความสุขมากจริงๆ!
"ลั่วลั่ว เธอจ้องมองโทรศัพท์หน้าแดงหรอ?"
จู่ๆน้ำเสียงของส้งชิงเซวี๋ยนก็ทำลายบรรยากาศเมื่อกี้ขึ้น ชั่วพริบตากลับมาสู่สภาพเดิม
ลั่วหานวางโทรศัพท์ลง "ศาสตราจารย์ส้ง เชิญนั่งค่ะ นั่งกินด้วยกัน"
ส้งชิงเซวี๋ยนเม้มปาก และพูดขึ้นว่า "เป็นหมอขาดทุนจริงๆ อาหารเที่ยงกินของพวกนี้ ไม่รู้สึกจืดชืดบ้างหรอ? เธอดูสิ เนื้อสักชิ้นยังไม่มีเลย แบบนี้ดีหรอ?"
ลั่วหานหันหน้ามองจานของส้งชิงเซวี๋ยนและเห็นกับข้าวปลาราดพริก ซุปไก่ ผัดไก่ แต่ทั้งจานกลับมีเพียงผักอย่างเดียว
"ศาสตราจารย์ส้ง คุณอายุมากขนาดนี้แล้ว กินเนื้อน้อยๆหน่อย กินเนื้อเยอะไม่ดีต่อระบบย่อยอาหารและกระเพาะนะค่ะ!" ลั่วหานกินข้าวของตัวเองต่อ ผักส่งผลให้ระบบเลือดไปเลี้ยงสมองดีเป็นอย่างมาก
อันที่จริงเธอเองก็อยากกินเนื้อ
ศาสตราจารย์ส้งคีบปลาราดพริกให้กับเธอ พร้อมจ้องมองเธอ "ลั่วลั่ว เธอแต่งงานกับหลงเซียวมาหลายปีแล้วใช่ไหม?"
ลั่วหานพยักหน้าเล็กน้อย "ค่ะ ทำไมหรอ?'
ส้งชิงเซวี๋ยนรับบทบาทนักให้คำปรึกษาขึ้น "ฉันก็คิดอยู่แล้ว! พวกเธออายุน้อยไม่ค่อยเก่งเรื่องดูร่างกาย เพื่อลดน้ำหนักยอมไม่กินนั้นนี้ กินแต่อาหารไม่มีโภชนาการ แล้วจะมีลูกกันได้ยังไง! เธอแต่งงานกับนายคนนั้นมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมไม่รีบมีลูกด้วยกัน! รีบมีลูกให้ฉันเล่น เป็นยังไง?"
ลั่วหานมองบนใส่เขาหนึ่งที "ศาสตราจารย์ส้งค่ะ ยิ่งอายุมากคุณยิ่งชอบกลั่นแกล้งคนอื่นนะค่ะ!"
"คนเรายิ่งอายุมากยิ่งดื้อเหมือนเด็ก! ฉันพูดความจริง ลั่วลั่วรีบมีลูกน้อยเถอะ เดียวฉันจะช่วยเธอบำรุงร่างกายเอง ให้เธอสามารถคลอดลูกที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง!"
ลั่วหานรู้สึกรำคาญเล็กน้อย พ่อแม่ของเธอยังไม่เร่งให้เธอมีลูกเลย แต่ตาแก่กลับเร่งรีบเธอ
"ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถตั้งท้องได้ เพราะช่วงนี้กินยาตลอดเลย ครั้งก่อนเกิดอุบัติเหตุส่งผลระบบเลือดในสมองของฉันแล้ว"
ส้งชิงเซวี๋ยนรีบมองประเมินสีหน้าของเธอ พร้อมยืนมือวัดชีพจรบนมือที่เรียวผอมของเธอ ระหว่างวัดชีพจรนั้น เขามีสีหน้าไม่ดีเลย "อืม จริงด้วย แต่ลั่วลั่ว นอกจากระบบเลือดในสมองแล้ว ยังมีปัญหาอีกเล็กน้อย"
ลั่วลั่วกัดตะเกียบเล็กน้อย ในฐานะหมอ ทำไมเธอไม่รู้สึกว่าตัวเองมีปัญหาล่ะ?
"ปัญหาอะไรหรอ?"
ส้งชิงเซวี๋ยนตักซี่โครงให้กับเธอหนึ่งชิ้น "เธอกินอันนี้ก่อน แล้วเดียวฉันจะบอกเธอ"
ลั่วหานขมวดคิ้วเล็กน้อย "ตาแก่จอมดื้อ ทางที่ดีอย่าทำให้ฉันไขว้เขว ไม่เช่นนั้นฉันจะเอาใบชาของคุณทิ้ง และเวลาทำงานฉันก็จะไม่ให้คุณดื่มแม้แต่คำเดียวด้วย"
"โอ้! รีบกิน! กินแล้วเดียวฉันบอกเธอ"
ลั่วลั่วไว้หน้าให้กับเขา เลยกินครึ่งหนึ่ง "โอเค ว่ามา"
ส้งชิงเซวี๋ยนตั้งใจพูดให้ฟังดูลึกลับ "ลั่วลั่ว เธอรู้สึกว่าต่อมไร้ท่อผิดปกติหรือเปล่า? เธอใช้ชีวิตกับหลงเซียวคนนั้นเป็นยังไงบ้าง ดีไหม?"
ลั่วหานวางตะเกียบลงบนจานอย่างแรง จนได้ยินเสียงดัง "ตึง" ขึ้น "ตาแก่จอมดื้อ ตกลงคุณจะกินไหม? ถ้าไม่กินก็รีบไปทำงาน! หากฉันกลับไปแล้วเห็นเถียนเถียนตื่นขึ้น ฉันจะดึงหนวดเคราของคุณทีละเส้นเลย!"
ส้งชิงเซวี๋ยนหัวเราะอย่างสะใจ ซึ่งบนใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีรอยย่น "ฉันพูดถูกใช่ไหมล่ะ? ลั่วลั่ว เรื่องเธอกินยาไม่มีปัญหาเลย เดียวฉันช่วยเธอบำรุงร่างกายให้ รีบมีลูกน้อยได้แล้ว! เข้าใจไหม!"
ส้งชิงเซวี๋ยนสวมชุดจีนโบราณสีขาวทั้งตัว ซึ่งดูแล้วสง่าผ่าเผยมาก ลั่วหานจ้องมองเขา และเหลือบมองใบหน้าของตัวเองบนหน้าจอโทรศัพท์ "เห็นชัดเจนขนาดนี้เลยหรอ? พวกเรายังโอเคอยู่…"
เพียงชั่วพริบตาก็ถึงวันแต่งงานของโม่หรูเฟยกับซุนปิงเหวินแล้ว
ตอนเช้าตรู่หลงยี่กับโจวหยู่เช่นก็จ้องมองเธอด้วยสายตาไม่พอใจแล้ว แถมยังพูดอีกว่า "นี่ วันนี้เธอจะไปเข้าร่วมงานแต่งงานของโม่หรูเฟยหรอ?'
ลั่วหานพยักหน้าเล็กน้อย "อืม ทำไมหรอ? พี่สองคนได้รับบัตรเชิญหรอคะ?"
หลงยี่กับโจวหยู่เช่นเปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย "ทำไมน้องสาวถึงพูดแบบนี้ ถึงยังไงฉันกับพี่ชายของเธอก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลหลง ดังนั้นฉันมีสิทธิ์เข้าร่วมงานแต่งงานของตระกูลโม่กับตระกูลซุนอยู่แล้ว!"
ลั่วหานพยักหน้าเล็กน้อยอีกครั้ง "ดีแล้วค่ะ เข้าร่วมงานแต่งงานต้องมีชุดราตรี ไม่ทราบว่าพี่สะใภ้มีบ้างไหมคะ? ฉันขอยืมสักชุดหน่อยได้ไหม ขอชุดที่ออกแบบโดยนักออกแบบอิตาลีก็ได้ค่ะ เพราะเคยใส่มาแล้วครั้งหนึ่ง"
โจวหยู่เช่นรู้ว่า ชุดราตรีที่ลั่วหานหมายถึงคือชุดที่หลงเซียวสั่งคนตัดให้เธอโดยเฉพาะ ซึ่งชุดนั้นเป็นชุดที่สวยงดงามมาก จนทำให้ผู้คนชื่นชอบ
แต่ชุดราตรีไม่สวมสองครั้งกัน เห็นได้ชัดเจนว่าลั่วหานกำลังประชดประชันเธออยู่
"ฮ่าฮ่า ไม่ต้องหรอก! ชุดของฉันมีเยอะถมเทไป! น้องสาวเป็นห่วงตัวเองเถอะค่ะ อย่างน้อยข้างกายฉันก็มีพี่ชายของเธอ แต่น้องสาวล่ะ ไม่มีใคร ต้องไปเข้าร่วมงานแต่งงานคนเดียว ดูแล้วรู้สึกน่าเวทนาจัง"
ลั่วหานหัวเราะประชดเล็กน้อย และพูดขึ้นว่า "พี่สะใภ้พูดถูกค่ะ เดียวรอเขากลับมาค่อยบอกหลงเซียวให้เขาเอ็นดูฉันดีกว่า"
หลงจื๋อวางสาย และพูดว่า "พี่สะใภ้ เดียววันนี้ผมไปเข้าร่วมงานแต่งงานเป็นเพื่อนพี่นะครับ พวกเราค่อยเดินทางตอนเก้าโมง ตอนนี้ไปแต่งหน้าแต่งตัวกันก่อน"
ลั่วหานหรี่ตายิ้ม "พี่สะใภ้ ช่างออกแบบเป็นผู้มีฝีมือระดับสูงของเมืองหลวงเลยนะค่ะ ไปด้วยกันไหมคะ?"
หลงยี่คิดอยากห้ามปราบเธอ แต่ไม่สามารถต้านทานความปรารถนาความสวยของผู้หญิงได้ โจวหยู่เช่นตอบกลับโดยทันที
หลังจากทำการแต่งหน้าแต่งตัวอย่างเรียบง่ายเสร็จ ลั่วหานที่เป็นคนสวยอยู่แล้วก็ยิ่งสวยน่าสะดุดตามากขึ้น เมื่อยืนเทียบกับโจวหยู่เช่นคนละระดับกันเลย
"พี่สะใภ้สวมชุดราตรีนี้สวยมากจริงๆ เหมาะสมกับพี่มาก!" ลั่วหานกล่าวชื่นชมชุดราตรีสีขาวที่ โจวหยู่เช่นสวมอย่างไร้อารมณ์ เพราะชุดราตรีมีความโอเวอร์เกินจริงมาก จนไม่คู่ควรกับคำว่าสวย
ส่วนลั่วหานสวมชุดราตรีเรียบๆ โดยไม่มีเครื่องประดับอะไรเลย จนแทบเหมือนคนไม่ได้แต่งหน้า ไม่เหมือนกันคนไปเข้าร่วมงานแต่งงานเลย
โจวหยู่เช่นกับหลงยี่นั่งรถยนต์คันเดียวกัน ส่วนลั่วหานกับหลงจื๋อนั่งรถยนต์คันเดียวกัน
ระหว่างทาง ลั่วหานพูดขึ้นว่า "หลงจื๋อ ชุดที่คุณเลือกให้กับฉัน ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเหมือนกับชุดไปงานศพอย่างนั้นล่ะ"
หลงจื๋อที่กำลังขับรถหัวเราะลั่นออกมา "พี่สะใภ้ไม่รู้สึกว่าแบบนี้น่าสนุกหรอ?"
ลั่วหานฉีกปากยิ้มไม่พูดอะไร
รถยนต์จอดข้างนอกโรงแรม โดยมีพรมแดงโปรยยาวตั้งแต่ห้องโถงมาถึงลานจอดรถยนต์ อีกทั้งสองข้างทางยังจัดตกแต่งด้วยดอกกุหลาบสีแดงด้วย งานแต่งงานจัดได้อย่างหรูหรามาก
ลั่วหานยกเท้าข้างหนึ่งเดินลงรถยนต์ ซึ่งเผยรองเท้าส้นสูงเรียวยาวขึ้น พร้อมก้มหัวเดินออกมาอย่างสง่าผ่าเผย
เพราะเป็นคุณนายหลงของตระกูลหลง ไม่ว่าลั่วหานเดินไปทางไหนล้วนตกเป็นเป้าสายตา!
เพราะลั่วหานไม่ได้สวมเครื่องประดับอะไรเลย เมื่อเดินเข้างาน เหล่านักข่าวก็ถึงกับนิ่งอึ้ง คุณท่านนี้มาเข้าร่วมงานแต่งงานหรือมาแย่งซีน!
ลั่วหานยิ้มแย้มอย่างเป็นธรรมชาติ จนแทบมองไม่เห็นสายตาแปลกประหลาดเลย
หลงจื๋อสวมชุดสูทหางเครื่อง โดยตรงบ่าเป็นสีแดงสะดุดตา ตอนที่เดินลงจากรถยนต์ เเขาดูสูงส่งและสง่าผาเผยมาก ซึ่งสร้างความสนใจต่อผู้คนไม่น้อยเลย
เมื่อเหล่านักข่าวสังเกตเห็นเขา พวกเขาก็เผยสายตาตกใจขึ้น พร้อมกดชัตเตอร์ถ่ายรูปรัวๆดัง แกรกแกรก
ความสวยสามารถดึงดูดทุกสายตาชั่วพริบตา!
จากนั้นเขาก็เดินเข้ามาประกบลั่วหาน
ชุดตรงบ่าสีแดงกับชุดราตรีสีขาวเข้ากันมาก ดูแล้วกลมกลืน!
ลั่วหานคิดไม่ถึงว่าหลงจื๋อจะมีแผนทางหนีทีไล่ เธอยิ้มแย้มเล็กน้อย คืนนี้คงไม่มีแค่นี้ที่จะเซอร์ไพรส์แน่เลย!
หลังจากโอบแขนของหลงจื๋อเสร็จ ทั้งสองคนก็เดินเข้างาน ถึงแม้ด้านข้างของลั่วหานไม่ใช่หลงเซียว แต่ฐานะคุณชายรองตระกูลหลงก็ไม่ธรรมดาเหมือนกัน ไม่นานทั้งสองคนก็กลายเป็นจุดเด่นของสื่อมวลชน ส่วนแขกคนอื่นโดนพวกเขากลบหมด
"หลงจื๋อ นายเริ่มเรียนรู้วิธีรับมือแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?"
"พี่สะใภ้ นี่เป็นข้อแนะนำของพี่ใหญ่ครับ!"
"พี่ใหญ่ของนายรู้ได้ยังไง?"
"พี่สะใภ้นึกว่าพี่ใหญ่อยู่อเมริกาจะไม่สนใจอะไรเลยหรอ? พี่สะใภ้ประเมินเขาต่ำไปแล้ว"
ขณะที่พูด ทั้งสองคนก็เดินเข้ามาในห้องโถงงานแต่งงาน แขกทุกคนแต่งตัวสวยฉูดฉาดมาก แถมไวน์รสเลิศก็จัดวางบนแชมเปญทาวเวอร์ด้วย ขณะเดียวกันก็ส่งแสดงระยิบระยับภายใต้ดวงไฟคริสตัล
คืนนี้ซุนปิงเหวินเหมาเช่าทั้งโรงแรม ทั้งสามชั้นล้วนเป็นงานแต่งงานของเขา ซึ่งในงานยังบรรเลงเพลงเบาสบายผ่อนคลายด้วย
สมกับเป็นงานแต่งงานที่ลงทุนสิบล้าน
"อุ๊ย! คุณนายหลงก็มาหรอค่ะ! วันนี้แต่งตัวสวยผิดปกติเลยนะ!"
"สวยผิดปกติ แต่…นอกจากแหวนแต่งงานแล้ว เธอแทบไม่สวมเครื่องประดับอะไรเลย คิดว่าเรียบง่ายเกินไปหรือเปล่าคะ?"
"ลำคอเรียวสวยอย่างคุณนายหลงควรสวมสร้อยคอเพชรถึงจะเหมาะสม!"