คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 340 ตั้งแต่วันนี้ไป คุณคือพี่ใหญ่ของผม
ตอนที่ 340 ตั้งแต่วันนี้ไป คุณคือพี่ใหญ่ของผม
หลงเซียวปลดล็อกปืนออก นิ้วสอดเข้าไปในไกปืน แล้วมองไปด้วยสายตาที่โกรธเกรี้ยว “ถ้าอย่างนั้นเรามาลองดูกันหน่อยไหมครับ?”
แกร็ก! คนทั้งหมดต่างเตรียมพร้อมที่จะลั่นไกแล้ว ตอนนี้สถานการณ์ได้เข้าสู่ช่วงตึงเครียดแล้ว
ในมือของเกาจิ่งอานเริ่มมีเหงื่อไหลออกมาแล้ว แม่งเอ๊ย! นี่คิดจะฆ่ากันจริงๆ เหรอเนี่ย?
เหลียงหยู้คุนกัดฟันแน่น เรื่องมันชักจะไปกันใหญ่แล้ว!
“สี่สิบหกสิบโอเค แต่สินค้าล็อตนี้ต้องแบ่งให้ผมครึ่งหนึ่ง”
หลงเซียวขำออกมา “ได้อยู่แล้วครับ……ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ กระสุนในแม็กของผมก็สามารถแบ่งให้คุณได้ครึ่งหนึ่งเหมือนกัน คุณเหลียงน่าจะชอบนะครับ”
เหลียงหยู้คุนสีหน้าซีดเผือด มือที่อ้วนท้วนกำไว้แน่น “หลงเซียว……นี่คุณคิดจะเอาเปรียบกันมากเกินไปแล้วนะ!”
นิ้วของหลงเซียวค่อยๆ ออกแรงเหนี่ยวไกขึ้นเรื่อยๆ ดูท่าอีกแป๊บเดียวกระสุนก็น่าจะพุ่งออกไปแล้ว!
“คุณเหลียงครับ ที่บอกว่าผมเอาเปรียบจนมากเกินไปนั้น คู่กรณีต้องเป็นคนถึงจะถูก ถ้ากระสุนนัดนี้ถูกยิงออกไป ชาติหน้าก็ไม่รู้ว่าคุณเหลียงจะสามารถเกิดเป็นคนได้หรือเปล่านั้นมันก็อีกเรื่องหนึ่งนะ”
เกาจิ่งอาน “……”
แม่งเอ๊ยต้องยอมใจเขาเลยจริงๆ
ถ้าเสียงปืนเกิดดังปั้งขึ้นมา ชีวิตของเหลียงหยู้คุนก็จะจบสิ้นอยู่ในมือของหลงเซียวทันที
“หลงเซียวการที่คุณทำแบบนี้มันจะได้ไม่คุ้มเสียเอานะ!” เหลียงหยู้คุนหลบตาเขาไปครู่หนึ่งแล้วกลับมาจ้องตากับหลงเซียวที่กำลังจ้องมาที่เขาเหมือนกัน มือข้างหนึ่งแอบยื่นไปใต้โต๊ะเพื่อหวังจะกดปุ่มกลไกบางอย่าง
หลงเซียวมองเห็นการกระทำนั้นผ่านทางหางตา “ปึก!” เขาใช้ขาถีบเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าให้ล้มลง “อ้า!”
เหลียงหยู้คุนล้มหงายหลังไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว หลงเซียวยื่นมือออกจากแขนเสื้อแล้วจับเขากดไว้ทั้งตัว
ผู้ชายสิบกว่าคนที่อยู่รอบๆ ตะลึงจนจ้องมาที่หลงเซียวด้วยความตื่นตระหนก การหายใจเข้าออกแต่ละครั้งของเขาส่งผลต่อคนที่นอนอยู่ข้างล่างเป็นอย่างมาก!
“คุณหลงเซียวครับ คุณช่วยวางปืนลงก่อนได้ไหม มีอะไรเราค่อยๆ คุยกันก็ได้ครับ วางปืนลงก่อนครับ”
ปากกระบอกปืนยังคงจ่ออยู่ที่หัวของเขา เก็บปืนงั้นเหรอ? ฝันไปเถอะ!
ดวงตาที่สุขุมของหลงเซียวมองมาที่เขา แล้วค่อยใช้สายตากดดันเขามากขึ้นเรื่อยๆ “คุณเหลียงครับ คุณคิดนานไปแล้วนะครับ ผมเริ่มเมื่อยมือแล้ว ถ้าเกิด……”
“ได้! ผมรับปากก็ได้! ผมจะสั่งให้คนส่งสินค้าล็อตนี้ออกจากท่าเรือเดี๋ยวนี้เลยครับ” เหลียงหยู้คุนตกใจจนเสียงเพี้ยน
หลงเซียวกวาดสายตามองไปยังชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่รอบๆ ปืนสิบกว่ากระบอกยังชี้มาที่เขาอยู่ “คุณเหลียงครับ ผมลืมบอกคุณอีกอย่างว่าปืนของผมนั้นมีอนุภาคทำลายที่มากกว่าปืนทั่วไปถึงสามสิบเท่า แต่จะแรงขนาดไหนนั้นผมยังไม่เคยได้ลองเลยครับ……”
เหลียงหยู้คุนตกใจจนหน้าซีด “คุณ……คุณยังต้องการอะไรอีก?”
ริมฝีปากของหลงเซียวขยับเบาๆ รอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดาได้ “คุณเหลียงครับ ชื่อของภรรยาผมไม่ใช่ว่าใครก็สามารถเรียกได้ตามใจชอบนะครับ แล้ววันนี้ก็เป็นครั้งแรกด้วย ต่อไปผมหวังว่าจะไม่ได้ยินคุณพูดชื่อนั้นออกมาจากปากคุณอีกนะครับ ไม่อย่างนั้น……”
“ได้ครับ! ชื่อของคุณนายหลงต่อไปจะไม่หลุดออกมาจากปากผมอีกแล้วครับ”
เกาจิ่งอานพูดอะไรไม่ออก ฉันว่าคุณชายใหญ่หลงคนนี้นี่น้า นี่มันสถานการณ์ไหนแล้วยังจะมาจุกจิกกับเรื่องแบบนี้อีก ต่อให้รักเมียขนาดไหนก็คงไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้มั้ง
หลงเซียวพูดต่อ “วันนี้ที่ผมมาที่นี่ก็ไม่ได้กะว่าจะมีชีวิตกลับไปอยู่แล้ว ผมไม่ได้คาดหวังอย่างอื่น การทำธุรกิจก็เพื่อหาเงิน การเป็นคนสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือเกียรติ ถ้าคุณเหลียงไม่ให้เงินผมพอยอมได้ แต่ถ้าไม่ให้เกียรติผมละก็……ผมไม่ยอมเด็ดขาดครับ”
เหลียงหยู้คุนกลืนน้ำลายๆ “แหะแหะ ได้……ผมต้องให้เกียรติคุณหลงอยู่แล้วครับ ให้อยู่แล้ว”
หลงเซียวยิ้มออกมา “สั่งให้คนของคุณวางปืนลงเดี๋ยวนี้ครับ”
“ได้ครับ……วางปืนลง คุณหลงเป็นคนกันเอง ต้องให้เกียรติเขาหน่อย”
เกาจิ่งอานเหงื่อออกเต็มหน้าผากแล้ว เขาคิดว่าตัวเองคงตายแน่ๆ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าหลงเซียวจะสามารถทำให้ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมได้
ปืนของหลงเซียวยังคงอยู่ในมือ “คุณเหลียงครับ ขอบคุณในความร่วมมือมากครับ มื้อค่ำวันนี้ผมคงไม่อยู่ทานด้วยแล้วนะครับ ไม่ทราบว่าคุณเหลียง จะช่วยส่งผมกับเพื่อนออกไปหน่อยได้ไหมครับ?”
เหลียงหยู้คุนรู้ถึงจุดประสงค์ที่เขาพูด พยักหน้า “ได้ครับ แน่นอนอยู่แล้วครับ”
“ดีมาก รบกวนด้วยนะครับ”
ทั้งสองคนเดินประกบเหลียงหยู้คุนไปจนถึงที่รถ เกาจิ่งอานเปิดประตูดรถด้านหลังออกแล้วรีบวิ่งมาเตรียมขับรถ หลงเซียวก้าวขึ้นรถ แววตาที่เย็นเยือกยิ่งกว่าดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้าที่มืดมน
“คุณเหลียงครับ คุณเป็นคนฉลาด หวังว่าต่อไปคุณจะไม่ทำอะไรบ้าๆ แบบนี้ออกมาอีกนะครับ ปืนของผมไม่ได้อารมณ์ดีแบบนี้ตลอดนะครับ”
พูดจบ เขาก็ปิดประตูรถลง!
โรลส์-รอยซ์ โฮลดิงส์คันสีดำวิ่งออกจากสายตาของเหลียงหยู้คุนไป
ด้านหลังของเหลียงหยู้คุนมีชายสิบกว่าคนวิ่งตามมา ต่างคนต่างพากันก้มหน้า “ท่านครับ……พลาดแล้วครับ ไม่คิดเลยว่าหลงเซียวจะ……”
เหลียงหยู้คุนยกมือขึ้นมาเป็นการสั่งให้พวกเขาหยุดอธิบาย แล้วชี้นิ้วให้มาจุดซิการ์ให้เขา
หลังจากสูบซิการ์ไปทีหนึ่ง เหลียงหยู้คุนมองไปยังเงารถที่วิ่งไปไกลแล้ว อยู่ๆ สีหน้าก็มืดมนขึ้นมาทันที แล้วพูดด้วยเสียงที่ทุ้มลึกว่า “หลงเซียว……มันทำให้ฉันนึกถึงคนๆ หนึ่งขึ้นมา ……คนเมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้ว ฉันอยู่มาสี่สิบกว่าปี คนที่กล้าเอาปืนมาจ่อหัวแล้วขู่ฉันอย่างนี้ก็มีแค่พวกมันสองคนเท่านั้น”
ควันสีขาวโพยพุ่งออกมา เหลียงหยู้คุนกวักมือแล้วพูดขึ้น “คนที่ให้ไปเตรียมไว้มาครบหรือยัง?”
“วางใจได้เลยครับท่าน ทุกอย่างเตรียมพร้อมเสร็จหมดแล้วครับ ครั้งนี้หลงเซียวมันหนีไม่รอดแน่ครับ”
“ฮึ! หลงเซียว……ฉันหล่ะอยากรู้จริงๆ ว่ามันกับมู่เส้าเอินคนนั้นใครมันจะมีดีกว่ากัน?”
___
เกาจิ่งอานที่ขับรถอยู่ดีใจจนหัวเราะเสียงดัง “คุณชายใหญ่หลงครับ คุณนี่ช่างใจกล้าจริงๆ เลยนะครับ! คุณกล้าเดินเข้าไปหา เหลียงหยู้คุนแบบนี้ แถมยังต่อรองกับเขาอีก นี่คุณไม่กลัวเขาจะสั่งให้ลูกน้องเปิดฉากยิงคุณก่อนเหรอครับ?”
หลงเซียววางปืนไว้ข้างๆ “เหลียงหยู้คุนเขาเป็นนักธุรกิจ สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดก็คือเงิน เขาไม่ยอมฆ่าผมจริงๆ หรอกครับ”
“มันก็ไม่แน่นะครับ ถ้าฆ่าคุณไปเงินที่ได้รับก็จะมาได้เร็วขึ้น ไม่มีใครมาเป็นส่วนแบ่งแล้ว เขาก็ยิ่งแบ่งได้เยอะไม่ใช่เหรอครับ?”
หลงเซียวใช้นิ้วขยี้ไปที่คิ้ว “ถ้าเขายังต้องการอยู่ในตลาดต่อไป เขาก็ยังจำเป็นต้องมีผมอยู่ เขาจะไม่ยอมทำอะไรผมง่ายๆ หรอกครับ นอกจากว่าเขาจะหาคนอื่นที่จะร่วมมือกับเขาได้แล้ว”
พอพูดถึงตรงนี้หลงเซียวก็ชะงักไป นี่มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะเนี่ย
เกาจิ่งอานชมเขาเป็นการใหญ่ “คุณหลงเซียวครับ ผมเข้าใจแล้วครับว่าทำไมคุณถึงยืนอยู่ในเมืองหลวงได้อย่างมั่นคงขนาดนี้ ฮาฮาฮาคุณไม่เพียงอยู่ในตระกูลที่มีชื่อเสียง แต่คุณยังเปี่ยมไปด้วยความสามารถอีก คงไม่มีใครกล้าทำอะไรคุณง่ายๆ แน่นอนครับ”
หลงเซียวส่ายหน้า “สำหรับเหลียงหยู้คุนก็ไม่ใช่ซะทีเดียวครับ เพราะงานที่เขาทำมันเปิดเผยสู่โลกภายนอกไม่ได้ต่างหากครับ”
เกาจิ่งอานไม่ได้ถามอะไรต่อ เพียงแค่หันกลับไปมองหน้าหลงเซียวที่เรียบเฉยด้วยสายตาที่นับถือเพียงเท่านั้น “คุณชายใหญ่หลงครับ เมื่อกี้ที่คุณพูดกับเหลียงหยู้คุนว่าผมเป็นเพื่อนของคุณ นี่คุณยอมรับผมเป็นเพื่อนของคุณจริงๆ เหรอครับ?”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตอนที่เขาได้ยินคำพูดนั้นออกมาจากปากหลงเซียว เกาจิ่งอานรู้สึกพอใจมาก อาจจะเป็นความได้ใจเล็กเลยก็ได้
“ทำไมครับ? คุณเกาไม่ชอบเหรอครับ?”
“ไม่ครับไม่ครับ ผมชอบมากเลย ชอบที่สุดเลยครับ! ถ้าอย่างนั้น ต่อไปเราก็เป็นเพื่อนกันแล้วจริงไหมครับ? ไม่สิ พี่สาวของผมเคยทำเรื่องบางอย่างไป……คุณยังจะนับผมเป็นเพื่อนอีกเหรอครับ?”
เกาจิ่งอานมีความลังเล รู้สึกว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้
หลงเซียวนั้นขึ้นชื่อที่สุดในเรื่องปกป้องเมียเลย
“ง่ายมากครับ มีเพื่อนเพิ่มขึ้นหนึ่งคนศัตรูก็จะลดลงคนหนึ่ง ศัตรูเยอะเกินมันจะเหนื่อย แต่ถ้าเพื่อนเยอะเกินอย่างมากก็แค่รำคาญครับ”
คำตอบที่หลงเซียวตอบไปก็ไม่ได้ไว้หน้าเกาจิ่งอานมากนัก
แต่ไม่ว่ายังไงในใจของเกาจิ่งอานนั้นยอมรับแล้ว “คุณชายใหญ่หลงครับ ผมตอบรับการเป็นเพื่อนกับคุณแล้วนะครับ! เราผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันแล้ว ยังไงก็ต้องเป็นเพื่อนกันให้ได้ครับ!”
“ปั้ง!”
ในขณะที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้นเอง อยู่ๆ ก็มีกระสุนนัดหนึ่งถูกยิ่งใส่กลางรถ!
เกาจิ่งอานโยกพวงมาลัยหลบ รถส่ายไปมาอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหันไปพูดอย่างตื่นตระหนกว่า “นี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย!”
หลงเซียวหรี่ตา “ฮึ! เหลียงหยู้คุนลอบทำร้ายเรา รีบไปเร็วครับ!”
พอคำสั่งมา เกาจิ่งอานก็เหยียบคันเร่งเข้าอย่างแรง ขับรถมาเป็นสิบไมล์แล้วแต่นอกชานเมืองของอเมริกากลับไม่มีบ้านคนอยู่เลยแม้แต่หลังเดียว สองข้างทางนอกจากต้นไม้กับกอหญ้าแล้วก็ไม่มีอะไรอีกเลย
ทันใดนั้นก็มีรถออฟโรดสีดำสิบกว่าคันขับไล่ขึ้นมา ในรถทุกคันจะมีนักฆ่าสองคนนั่งอยู่ ในมือของทุกคนจะมีปืนถืออยู่ปากกระบอกปืนหันไปตามรถ
“ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!”
กระสุนสิบกว่านัดถูกยิงมาที่รถ! ลูกตะกั่วที่ถูกยิงออกมาเสียดสีกับตัวรถจนเกิดเป็นประกายไฟ
หลงเซียวหยิบปืนขึ้นมา “ขับไปเรื่อยๆ เปิดซันรูฟทีครับ!”
เกาจิ่งอานเปิดซันรูฟออก หลงเซียวลุกขึ้นยืน แขนที่ยาวเหยียดยื่นออกไปที่ซันรูฟเขาหรี่ตาแล้วเล็ง__
“ปั้ง!!”
กระสุนนัดหนึ่งแหวกไปกลางอากาศจนเป็นเส้นตรง แล้วไปกระทบเข้ากับล้อหน้าของรถคันหนึ่งที่ขับตามหลังมา
ยางรถระเบิด! รถคันสีดำพลิกคว่ำในทันที
เกาจิ่งอานอ้าปากค้าง “โอ้วพระเจ้า! คุณชายใหญ่หลงฝีมือการยิงปืนของคุณนี่สุดยอดไปเลยครับ!”
หลงเซียวไม่มีเวลาสนใจเขา “ชะลอความเร็ว!”
“อะไรนะ? ชะลอ? นี่คุณกำลังล้อเล่นใช่ไหมเนี่ย? ชะลอก็เท่ากับตายสิครับ?”
“ผมบอกให้คุณชะลอความเร็วไง! ไม่ต้องพูดมาก!”
“ได้!”
คำสั่งของหลงเซียวเกาจิ่งอานก็ไม่อาจขัดได้ เขาจึงยกเท้าออกจากคันเร่ง แล้วรถก็ค่อยๆ ช้าลง
“ปั้ง!”
เนื่องจากรถคันข้างหน้าลดความเร็วกะทันหันทำให้รถที่ขับตามมาตั้งตัวไม่ทันชนเข้าอย่างจัง!
รถออฟโรดสีดำชนเข้าที่ท้ายรถของหลงเซียว ได้ยินแค่เสียง “ปั้ง!” ไฟหน้ารถก็ถูกชนจนเละไปแล้ว!
“เร่งความเร็ว!”
“ได้ครับ!”
เกาจิ่งอานรับหน้าที่ขับรถ ส่วนหลงเซียวก็คอยสั่งการและเป็นฝ่ายจู่โจม ทั้งสองคนร่วมมือกันอย่างเข้าขามาก
ยี่สิบนาทีต่อจากนั้น……
รถของพวกเขาทั้งหนีทั้งชนจนขับหนีมาไกลสองร้อยกว่ากิโลเมตรแล้ว ในที่สุดทุกอย่างก็สงบลงแล้ว
พวกนักฆ่าถูกพวกเขาทิ้งห่างมาไกลแล้ว
เกาจิ่งอานที่อกสั่นขวัญหายเอามือกุมหน้าอกแล้วหายใจอย่างหนักหน่วง “โอ้วพระเจ้า นี่คุณชายใหญ่หลง ตกลงคนที่คุณไปมีปัญหาด้วยนี่เป็นใครกันแน่ครับเนี่ย?”
หลงเซียวชักซองกระสุนที่ว่างเปล่าออกมา ปลดเนกไทออก “ดูเหมือนเหลียงหยู้คุนจะหาคนอื่นที่ร่วมมือกับเขาได้แล้ว คนๆ นี้ถ้าไม่ใช่คนที่มาอำนาจมากก็ต้องเป็นคนที่เชื่อฟังเขาเอามากๆ เลยครับ”
เกาจิ่งอานไม่มีกระจิตกระใจไม่คิดเรื่องพวกนั้นแล้ว เขาตกใจจนขวัญกระเจิงไปนานแล้ว “ผมว่านะคุณชายใหญ่หลงเราสองคนเพิ่งผ่านความเป็นความตายของจริงมาด้วยกันแล้วแหละคน!”
หลงเซียวพยักหน้า “ถูกต้องครับ”
เกาจิ่งอานหายใจหอบ “เมื่อกี้เป็นเพื่อนรัก ตอนนี้คงเป็นน้องรักแล้วสินะครับ?”
หลงเซียว “……คุณเกาครับ คุณนี่นับญาติเก่งจริงๆ นะครับ”
เกาจิ่งอานไม่สนใจคำพูดของเขา แต่กลับยื่นมือไปข้างหลัง แล้วทำตัวอย่างสนิทสนม “คุณหลงเซียวครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ว่าคุณเป็นคนยังไง แต่หลายวันที่ผ่านมามันก็ทำให้ผมได้รู้แล้ว ไม่ว่าธุรกิจที่คุณทำนั้นจะเป็นอะไร ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานะไหน แต่ผมก็ยอมรับในตัวคุณ ยอมรับในความสามารถที่คุณมี! ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปผมจะเรียกคุณว่าพี่ใหญ่ครับ!”
หลงเซียวได้แต่ขมวดคิ้ว มองไม่ยังมือที่ยังไม่ได้จับด้วย
“เรียกผมว่าพี่ใหญ่อย่างนั้นเหรอครับ? เรื่องอันตรายอย่างนี้อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อนะครับ”
เกาจิ่งอานยังคงหนักแน่น “เรื่องแค่นี้เอง! ขอแค่พี่หลงยอมครับผมเป็นน้อง วันหน้าต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟผมก็ไม่กลัวครับ!”
หลงเซียวยิ้มออกมา กำหมัดขึ้นมาแล้วชนหมัดกับเขา “ถ้าเรียกผมว่าพี่ใหญ่แล้วคุณก็ถอยกลับไม่ได้แล้วนะครับ ทางที่ดีคุณควรหาคำแก้ตัวที่ดีไปแก้ตัวกับพี่สาวของคุณดีกว่าครับ” ”นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมไม่เกี่ยวกับเธอ พี่ใหญ่ต้องมาก่อน ต่อไปผมจะติดไปกับพี่ครับ”
หลงเซียวยิ้มเบาๆ “เกาจิ่งอาน คุณอย่าเปลี่ยนใจนะ”
เกาจิ่งอานหัวเราะออกมา “ในชีวิตนี้มีเรื่องเรื่องเดียวที่ผมเคยทำพลาดไปนั่นก็คือไม่รู้จักฉู่ลั่วหานให้เร็วกว่านี้”
หลงเซียวจ้องไปที่เขา “ชื่อของเธอคุณเรียกได้เหรอ?”
เกาจิ่งอานหัวเราะชอบใจ “พี่ใหญ่พูดถูก ต่อไปผมจะเรียกเธอว่าพี่สะใภ้เท่านั้นครับ! ฮาฮา พี่สะใภ้……เฮ้อ!”
ถึงจะอร่อยมันก็แค่เกี้ยวซ่า ถึงจะดีแต่ก็เป็นแค่พี่สะใภ้
เกาจิ่งอานรู้สึกเจ็บปวดแบบแปลกๆ ลั่วหานที่อยู่ในโรงพยาบาลหวาเซี่ยอันแสนไกล ได้จามออกมาอย่างน่ารัก