คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 34 หรือว่า จะลองอ่อนโยนดูสักครั้ง
ตอนที่ 34 หรือว่า จะลองอ่อนโยนดูสักครั้ง
ไม่นึกเลยว่าหลงจื๋อจะมาเจรจาข้อแลกเปลี่ยนกับเธอ?
ฉู่ลั่วหานมองดูตัวเลขที่ลดลงไปเรื่อยๆพร้อมตอบไปอย่างไม่สนใจว่า “นายคิดผิดแล้วล่ะ ฉันไม่ได้สนใจเรื่องนี้”
หลงจื๋อถึงกับบ้าคลั่ง มือทั้งสองข้างนกขึ้นไปกุมขมับไว้อย่างแน่น อยู่กับที่แล้วหมุนรอบตัว “ไม่ใช่มั้ง ทำไมพี่สะใภ้ถึงไม่สนใจล่ะ โม่หรูเฟยจะแย่งผู้ชายของพี่ไปนะ พี่ไม่อยากให้มันต้องลิ้มรสของการขโมยกินของคนอื่นเหรอ?”
ฉู่ลั่วหานยังคงทำสีหน้านิ่งเฉย แววตาที่เปล่งประกายได้เผยความแน่วแน่และกระตือรือร้นของคนเป็นแพทย์ “คุณชายรองคะ นี่นายจะตื่นเต้นกับเรื่องนี้เกินไปหรือเปล่า? เรื่องของฉันกับพี่ใหญ่ของนาย พวกเราจัดการกันเอง นายจัดการตัวเองให้ดีก็พอ”
หลงจื๋อยังคงไม่ทิ้งโอกาสสุดท้าย มือดึงแขนเสื้อกราวด์ของฉู่ลั่วหานไว้ พูดเตือนอย่างจริงจัง “พี่สะใภ้ โม่หรูเฟยนั้นไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าตอนนี้พี่ยอมให้มันทำตามอำเภอใจ อีกหน่อยมันจะได้มาแทนที่พี่จริงๆแน่ นี่พี่ไม่สนใจตำแหน่งคุณนายใหญ่ของบ้านตระกูลหลง? หรือว่าไม่สนใจพี่ใหญ่ของผมกันแน่?”
ที่แท้ เขาไม่ใช่มาแค่ต่อรองหรือเจรจากับเธอเท่านั้น แต่ยังมาหลอกถามถึงความสัมพันธ์ของพวกเขา
ประตูลิฟต์กำลังจะเปิด ฉู่ลั่วหานยิ้มอย่างมีเลศนัย “ฉันเชื่อใจในความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ใหญ่นาย และก็จะไม่ถูกข่มขู่จากคนที่ไม่ได้สำคัญอะไรนั่นหรอก ถ้าหากว่านี่คือจุดประสงค์ที่นายมา คุณชายรองคะ ฉันยุ่งมาก ขอตัวค่ะ”
หลงจื๋อขยี้ผม มุมปากด้านซ้ายก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นก็รีบวิ่งตามฉู่ลั่วหาน พยาบาลในแผนกหัวใจต่างก็ก้มหัวทำความเคารพให้ฉู่ลั่วหาน หลงจื๋อก็ยิ้มแฉ่ง ฮิฮิ “โอเคๆ ผมมีเรื่องมาหาพี่จริงๆ พี่ใหญ่ให้ผมไปยื่นสมัครมหาลัย และจะต้องขอใบรับรองแพทย์ เพราะฉะนั้นผมก็เลยมาหาพี่ไง”
“คุณหมอฉู่สวัสดีค่ะ…”
“คุณหมอฉู่ สวัสดีครับ”
ทางที่ทั้งสองคนเดินผ่านก็มีพยาบาลก้มหัวกล่าวทักทาย ฉู่ลั่วหานก็พยักหน้าเล็กน้อย แล้วค่อยพูดต่อว่า “ในส่วนของผลตรวจที่ต้องเจาะเลือดก็ให้หมอในแผนกภายในออกใบให้ก็ทำได้แล้ว หลัง3วันก็รู้ผล”
“ก็พี่สะใภ้ไม่ใช่หมอในแผนกภายในหรอครับ?”
ฉู่ลั่วหานมองเขาด้วยสีหน้าที่ไร้ความอดทน “โอเค”
“ขอบพระคุณครับ พี่สะใภ้!”
“เรียกฉันว่าหมอฉู่”
“โอเคครับ พี่สะใภ้หมอ”
ฉู่ลั่วหานจ้องตาเขม็งให้เขา “ที่นี่คือโรงพยาบาล ขอให้คุณชายรองระวังไว้หน่อยก็จะดีนะคะ”
หลงจื๋อไปถึงห้องทำงาน จ้าวเหมียนเหมียนและจี้ซือหยู่ก็สบตากันโดยมิได้นัดหมาย เห็นได้ชัดว่าน้องหล่อคนนี้แววตาไม่ได้ใสซื่อนิ!
ฉู่ลั่วหานเคาะหน้าแป้นพิมพ์แปะแปะ หลังจากนั้นก็ปริ้นใบหนึ่งออกมายื่นให้หลงจื๋อ “เจาะเลือดต้องตอนท้องว่าง ถ้าวันนี้กินข้าวเช้ามาแล้ว ก็ค่อยมาพรุ่งนี้”
“ไม่ได้กิน”
“งั้นก็ดี”
หลงจื๋อเข้าไปกระซิบใกล้ๆหูของฉู่ลั่วหาน “พี่สะใภ้ครับ รอผมเจาะเลือดเสร็จ พวกเราไปกินข้าวด้วยกันนะครับ”
ฉู่ลั่วหานหยิบแฟ้มประวัติคนไข้ออกมาด้วยสีหน้าและอารมณ์ที่ไม่ดี “ไม่ว่าง ช่วงบ่ายจะต้องไปตรวจผู้ป่วย ยังไม่ไป?”
หลงจื๋อหยิบเอกสารบนโต๊ะของเธอเล่น พูดเสียงต่ำๆว่า “พี่สะใภ้ พี่ลองคิดข้อเสนอของผมใหม่อีกทีนะครับ ผู้หญิงอย่างโม่หรูเฟยนี้ ไม่ใช่ย่อย”
ฉู่ลั่วหานหัวเราะเยือกเย็น จ้าวเหมียนเหมียนและจี้ซือหยู่อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเสียดายและบ่นพึมพำ “มีน้องหล่อหน้าตาดีขนาดนี้มาแล้วแต่พี่กลับไม่คว้าไว้! ดูก็ออกว่าเขาสนใจพี่! หมอฉู่ ความรักแบบรุ่นพี่รุ่นน้องก็โอเคนะ พี่ลองเก็บไปคิดดู”
“พวกเธอไม่มีงานทำกันแล้วหรือไง? ถ้าว่างก็ไปสรุปรายงานสิ้นเดือนนี้ของแผนกมา ฉันนี่ยุ่งจนไม่มีเวลา”
“อย่าสิ ฉันยังมีคนไข้อยู่นะ อั่ยหย่า น้องหล่อถูกแม่สิงโตไล่ไปแล้วสิ ช่างทำร้ายจิตใจกันจริงๆ!”
“ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างหลงเซียวนั้นพวกเราคงไม่มีโอกาสหรอก หนุ่มน้อยคนนี้อุตส่าห์เสิร์ฟถึงที่ ดีขนาดนี้! หนุ่มน้อยผู้น่าสงสาร ทำไมตาไม่ถึงเลยหล่ะ! ถ้ามาอยู่ในอ้อมกอดพี่สาวคนนี้ คงจะดีมาก!”
ฉู่ลั่วหานกดหัวปากกา หลงเซียว…
ใช่สิ สำหรับคนนอกดูแล้ว เขาคือผู้ชายที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่เป็นรองใคร รอยยิ้มมุมปากของเธอหยุดชะงัก สมบูรณ์แบบแล้วมีประโยชน์อะไรกัน?
โทรศัพท์ของฉู่ลั่วหานที่วางไว้บนโต๊ะก็สั่น เป็นแผนกห้องฉุกเฉินโทรเข้ามา
“คุณหมอฉู่ รีบมาหน่อยครับ มีผู้ป่วยคนหนึ่งต้องการรักษาเร่งด่วน”
“ได้ค่ะ!”
ฉู่ลั่วหานปล่อยเม้าส์แล้วรีบวิ่งออกไปด้านนอก “ตอนนี้อาการผู้ป่วยเป็นยังไงบ้าง?”
“ความดัน 80 , 4 0 อัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 110 อายุ 30กว่า ผู้ป่วยมีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด หลอดเลือดหัวใจตีบและเสียหายอย่างรุนแรง ผู้ป่วยหายใจลำบาก สถานการณ์น่าเป็นห่วงมากค่ะ”
“รับทราบแล้ว”
ตอนที่ฉู่ลั่วหานลงจากชั้นบนแล้วเห็นผู้ป่วย เขาก็ได้เข้าสู่ภาวะช็อค สีหน้าซีดขาวไม่มีเลือด ฉู่ลั่วหานรีบเปิดดูม่านตาของผู้ป่วย มองดูสีของตาขาว สถานการณ์ย่ำแย่มาก
“คุณหมอฉู่ ผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้นแล้วค่ะ”
พอได้ยินว่าผู้ป่วยหัวใจหยุดเต้น ภรรยาของผู้ป่วยก็ร้องไห้ฟูมฟาย กระชากเสื้อของฉู่ลั่วหานเอาไว้แล้วร้องไห้โฮ “คุณหมอ ขอร้องหล่ะ จะต้องช่วยเขานะคะ! สามีของฉันเพิ่งจะ32 เขาจะยังตายไม่ได้! ถ้าเขาตายแล้ว ฉันก็อยู่ไม่ได้แล้วเหมือนกัน! คุณหมอ ขอร้องหล่ะค่ะ!”
พยาบาลต่างก็วุ่นวายกันและมาปลอบใจญาติของผู้ป่วย “คุณผู้หญิงคะ อย่าเพิ่งกังวลนะคะ คุณหมอจะต้องช่วยสุดความสามารถค่ะ คุณอย่าเพิ่งกังวลไปค่ะ”
“คุณหมอ ขอร้องหล่ะ ต้องช่วยให้เขาฟื้นให้ได้นะคะ! จะต้องจ่ายเท่าไหร่ก็ได้! ขอร้องหล่ะค่ะ!”
“คุณนายคะ อย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปค่ะ ถ้าคุณเป็นอย่างนี้ จะยิ่งทำให้การรักษาล่าช้าไปนะคะ”
ฉู่ลั่วหานมือทั้งสองข้างล็อคกันไว้แน่น แล้วทาบลงตรงหัวใจของผู้ป่วย “หลอดเลือดหัวใจตีบของผู้ป่วยจะต้องทำบอลลูน เป็นไปได้สูงว่าทั้ง3เส้นจะได้รับผลกระทบ เครื่องกระตุ้นหัวใจ!”
มือทั้งสองข้างของฉู่ลั่วหานจับเครื่องกระตุ้นหัวใจไว้แน่น จ้องไปที่หน้าของผู้ป่วย “200 จูลส์”
“ผลับ!”
ผู้ป่วยถูกดูด ตัวลอยขึ้นมาจากเตียงนอนอย่างแรง แล้วก็ตกลงไปอย่างหนักอีกครั้ง บนหน้าจอยังคงไม่ได้แสดงผลของการเต้นของหัวใจ
“200 จูลส์ครั้งที่สอง”
“ผลับ!”
ผู้ป่วยตัวเด้งขึ้นมารอบ2
“คุณหมอฉู่ ผู้ป่วยกลับมาหัวใจเต้นอีกครั้ง แล้วก็ลดลงทันทีค่ะ หมอฉู่!”
“รีบประสานกับคุณหมอแผนกภายนอก ผู้ป่วยต้องเข้าห้องผ่าตัด”
ฉู่ลั่วหานรีบตามเตียงผู้ป่วยที่เข็นไปทางห้องผ่าตัด แล้วก็หยุดเดิน
สักพักหนึ่ง ชุดหมอของแผนกภายนอกก็รีบเร่งเดินมาถึง หมอผ่าตัดดุแพทย์และพยาบาลที่ดูแล “ทำไมถึงไม่ประสานงานมาทางเราโดยตรง!?”
พยาบาลโดนดุจนไม่กล้าพูดอะไร ฉู่ลั่วหานก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว อธิบายอย่างใจเย็นว่า “คนไข้มีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ก่อนหน้านี้ก็ได้รับการดูแลรักษาที่แผนกภายในมาตลอด แต่ตอนนี้อาการสาหัส จะต้องเข้าห้องผ่าตัด เมื่อกี้นี้ฉันตรวจคร่าวๆไปแล้วค่ะ ผู้ป่วยมีอาการเส้นเลือดหัวใจตีบ จะต้องใส่บอลลูนค่ะ”
“ที่เหลือก็ฝากให้พวกเราดูแลต่อ ลำบากคุณหมอฉู่แล้ว”
ฉู่ลั่วหานพยักหน้า มองตาประตูห้องผ่าตัดที่ปิดลง หลังจากนั้นถึงค่อยเอนตัวลงจับหัวเข่าไว้แล้วหายใจอย่างเต็มแรง
ผ้าพันแผลสีขาวก็ได้ซึมเปื้อนไปด้วยเลือด การเจ็บซ้ำๆอย่างนี้ ใจเธอก็แอบกังวลว่าจะเหมือนที่ถังจิ้นเหยียนบอกไว้ว่า จะทิ้งรอยแผลเป็นไว้
“หมอคะ คุณหมอจะต้องช่วยสามีของฉันนะคะ พวกเราเพิ่งแต่งงานกันได้3ปี ฉันเพิ่งจะท้อง เราสองแม่ลูกจะเสียเขาไปไม่ได้…ฮือฮือ!”
ฉู่ลั่วหานถูกญาติผู้ป่วยคนนั้นดึงดูดให้มอง เธอหันหน้าไปดูผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้าห้องผ่าตัด มือข้างหนึ่งของเธอจับท้องไว้ อีกข้างหนึ่งก็จับประตูห้องผ่าตัดไว้ ขาทั้งสองข้างสั่นเพราะร่างกายขาดพลังงาน
“คุณผู้หญิงคะ นั่งพักตรงนี้ก่อนนะคะ อาการของสามีคุณยังไม่ถือว่าแย่มากนัก คุณหมอต้องช่วยได้เขาแน่ๆค่ะ วางใจเถอะนะคะ” ฉู่ลั่วหานพยุงคนท้องไว้ พาเธอไปนั่งที่เก้าอี้ สีหน้าคนท้องนั้นซีดขาว ดวงตาคู่นั้นที่ร้องไห้จนแดงก่ำ
เธอจับฉู่ลั่วหานไม่ปล่อยราวกับว่าเป็นยาช่วยชีวิตต้นสุดท้ายอย่างไงอย่างนั้นเลย “คุณหมอ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณค่ะ! ฉันขอบคุณแทนลูกด้วยค่ะ!”
ส่วนลูก?
ฉู่ลั่วหานสายตาอ่อนโยนมองไปที่หน้าท้องของเธอ เด็กน้อยยังคงเด็กมาก ดูไม่ค่อยเห็นความอ้วนออกของท้องสักเท่าไหร่ “เด็กกี่เดือนแล้วหรอคะ?”
พอพูดถึงเรื่องลูก สีหน้าของคุณแม่ก็มีความอบอุ่นเผยออกมาเล็กน้อย “แค่สองเดือนเองค่ะ…พวกเราแต่งงานกันมา3ปี ไม่ง่ายเลยที่จะตั้งท้องได้แล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า…ฮือฮือ”
ฉู่ลั่วหานยื่นมือไปด้านหลังของเธอ ชะงักไปเล็กน้อย และแล้วก็ลูบลงที่หลังของเธอเบาๆ พูดปลอบว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เชื่อใจหมอ คุณจะต้องดูแลลูกดีๆ อาการจะแปรปรวนมากไม่ได้ รอพ่อของเด็กออกมา ดีไหมคะ?”
“ดีค่ะ…ฉันจะเชื่อฟังหมอค่ะ จะไม่จิตตก ไม่ตื่นเต้น ลูก พวกเราจะรอพ่อออกมาพร้อมกันนะ”
อารมณ์ของญาติผู้ป่วยดูสงบขึ้นมาหน่อย ฉู่ลั่วหานก็ยื่นน้ำอุ่นแก้วหนึ่งไปให้เธอ “เวลาผ่าตัดจะนานหน่อยค่ะ คุณไม่ต้องมารออยู่ตรงนี้ทั้งวัน ปล่อยให้ญาติคนอื่นของเขามารับช่วงต่อหน่อยเถอะนะคะ”
คนท้องกุมแก้วกระดาษไว้ ส่ายหัว “ฉันกับสามีของฉันเป็นคนต่างจังหวัด มาทำงานที่เมืองหลวงหลายปีแล้วถึงค่อยซื้อบ้านได้ ไม่มีญาติอยู่ที่นี่เลย…ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันเฝ้ารอตรงนี้ได้ค่ะ”
เธอเงยหน้ามองฉู่ลั่วหาน ในแววตาเต็มไปด้วยความซึ้งใจ และทั้งมีความสุข คนท้องเหมือนฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้ น้ำเสียงสั่นๆดูยากที่จะปริปากพูดออกมา “คุณหมอ…ใส่บอลลูน ต้องใช้เงินประมาณเท่าไหร่หรอคะ?”
ฉู่ลั่วหานครุ่นคิด ใส่บอลลูน ค่ารักษา ค่าพัก รวมๆแล้วก็ใช้เงินไม่น้อยเลยค่ะ แล้วก็คำนวณค่าคร่าวๆ พูดออกไปหนึ่งตัวเลข
ฟังจบ สีหน้าของคนท้องนี้ก็ดูหม่นหมองไป แต่ว่าก็ยังคงแน่วแน่ที่พยักหน้า “รักษาค่ะ ขอแค่รักษาให้หายได้ ถึงจะต้องขายบ้านก็จะรักษาค่ะ”
ปลายนิ้วของฉู่ลั่วหานสั่นเบาๆ คู่สามีภรรยาแบบนี้มีอยู่มากมาย หลังเรียนจบก็ออกมาทำงานสู้ไปด้วยกัน หาเงินด้วยกัน และก็เพราะว่าไม่พร้อมเลยไม่กล้ามีลูกสักที
สำหรับพวกเขาแล้ว บ้านเหมือนจะเป็นทรัพย์สมบัติชิ้นเดียวของพวกเขา
เพื่อที่จะรักษาสามี เพื่อลูก ความกล้าที่จะเสียสละของผู้หญิงที่ดูอ่อนแอคนนี้ ช่างน่าทึ่งจริงๆ
“การผ่าตัดแบบนี้ทางเราทำมาเป็นหมื่นๆรอบแล้ว จะต้องลุล่วงไปได้ด้วยดีแน่ๆ คุณไม่ต้องเป็นห่วง สามีของคุณเห็นคุณสู้อย่างนี้ เขาจะต้องฟื้นขึ้นมาแน่ๆ”
คนท้องเช็ดคราบน้ำตา ถอนหายใจออกหนึ่งที โล่งอก “คุณหมอ คุณเป็นคนดีจริงๆเลยค่ะ ถ้าคุณได้แต่งงาน คุณจะต้องเป็นภรรยาที่ดีมากๆแน่เลยค่ะ”
ฉู่ลั่วหานยิ้ม “หวังว่าฉันจะใช่ค่ะ คุณนั่งพักอยู่ที่นี่ก่อนนะคะ ฉันไปทำงานก่อนค่ะ"
เดินออกไปสุดทาง เลี้ยวตรงหัวมุม ในที่สุดฉู่ลั่วหานก็ได้ถอนหายใจที่กลั้นไว้ในใจตั้งนานออกมาจนได้ เมื่อเทียบกับพวกคนที่พยายามดิ้นรนเพื่อที่จะให้มีชีวิตอยู่ต่อไป เธอกับหลงเซียวไม่รู้ว่าโชคดีกว่าหลายร้อยเท่า
หรือว่า เธอจะต้องลองไปเรียนรู้ดีๆ การทำตัวเป็นภรรยาที่ดี? ไม่สนว่าเขาจะต้องการหรือไม่ ไม่สนว่าเขาจะยอมรับหรือไม่?
ฉู่ลั่วหานนั่งอยู่บนเก้าอี้ ครุ่นคิดไปพร้อมหยิบโทรศัพท์ออกมา นิ้วมือหมุนวนอยู่บนเบอร์ของหลงเซียว ตอนนี้12โมง เขาก็คงกินข้าวแล้วมั้ง?
แต่ว่าถ้าถามเขาว่ากินข้าวแล้วยัง มันก็ดูตั้งใจเกินไป เธอทำไม่ได้
ถ้างั้น…ผลตรวจครรภ์ของโม่หรูเฟยหล่ะ? ถือว่าเป็นข้ออ้างได้ไหม?
คิดไปคิดมา ฉู่ลั่วหานกำเส้นผม เขาไม่เคยยอมรับว่าเธอมีตัวตน แล้วมีความจำเป็นไหมที่เธอต้องไปแคร์เขา?”
ไปสนใจกับคนที่เขาไม่แคร์เรา ในชีวิตเธอไม่ชอบแบบนี้ที่สุดเลย
โทร? ไม่โทร?
ไม่โทร? โทร?
นิ้วมือก็ลังเลไปมา…
หน้าจอโทรศัพท์ก็ไวเกินไป ไม่ทันระวัง สายก็โทรออกไปแล้ว
หา! รีบตัดสาย!
และวินาทีที่ฉิวเฉียดนั้น ฝ่ายตรงข้ามก็ได้รับสายไปแล้ว!