คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 334 หนี้เก่าหนี้ใหม่ใช้พร้อมกันเลย
ตอนที่ 334 หนี้เก่าหนี้ใหม่ใช้พร้อมกันเลย
“ปั้ง!”
แก้วชาในมือของหลงถิงถูกเขวี้ยงลงโต๊ะจนเกิดเสียงดัง น้ำชาในแก้วที่ยังดื่มไม่หมดก็กระจัดกระจายเลอะเทอะเต็มโต๊ะกระจกไปหมด
เพราะใช้แรงมากเกินไปทำให้มีน้ำชาบางส่วนกระเด็นไปโดนหยวนชูเฟินกับคนอื่นๆ บนเสื้อผ้ามีคราบน้ำเล็กเป็นวงๆ
นิ้วเรียวเล็กของลั่วหานกำลังดีดคราบน้ำชาที่กระเด็นมาติดเสื้อ ชั่วขณะหนึ่งที่เธอกำลังก้มหน้าอยู่แววตาที่ส่องประกายมากกว่าหยดน้ำของเธอก็ได้ยิ้มออกมา
หลังจากที่หลงถิงเขวี้ยงแก้วชาไปแล้ว แล้วส่งสายตาที่เย็นเยือกไปทางลูกสะใภ้ “ฉู่ลั่วหาน ที่นี่เป็นบ้านของฉัน! ฉันยังไม่ตาย! เธอกล้าดียังไงถึงมาพูดจาอย่างนี้! เขามีศักดิ์เป็นลุงเธอนะ! เธอไปอาศัยโรงงานของพี่ชายใช้แล้วยังจะมีหน้ามาพูดแบบนี้อีก! เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? ห๊ะ? เธอเป็นใคร?!”
ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมา ชั่วขณะหนึ่งดวงตาของเธอเหมือนถูกอะไรบางอย่างบดบังอยู่ ความทรมานจากความอึดอัดที่อธิบายยากได้ฉีกกระชากสติปัญญาของเธอออก แล้วเธอก็พูดออกมาเบาๆ ว่า “พ่อคะ ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะ? ทำไมพ่อจะโมโหขนาดนี้ด้วย?”
หลงจื๋อวางแก้วลง แล้วทำท่าเหมือนจะเข้ามาปกป้องลั่วหาน เมื่อเห็นพี่สะใภ้ที่เก่งกาจเมื่อกี้กำลังร้องไห้น้ำตาคลอเบ้าในตอนนี้ ทำเอาหลงจื๋อรู้สึกเจ็บปวดอยู่ลึกๆ ในใจเลย
หลงถิงอารมณ์เสีย แววตาอันน่ากลัวที่เก็บซ่อนความอมหิตไว้ภายในมาเป็นสิบๆ ปี “อย่ามาทำตัวน่าสงสารตรงนี้ เธอกับหลงเซียวไปทำอะไรกันมาบ้างคิดว่าฉันไม่รู้หรือไง! เรื่องที่ไปใช้โรงงานโดยพลการนี่ก็เรื่องหนึ่ง ยังมีเรื่องที่หลงเซียวใช้เงินไปช่วยเหลือบริษัทเฉียวซื่อโดยพลการ ใช้เงินมากมายในการไปประมูลแหวนวงนั้นให้เธอ เธอคิดว่าฉันไม่รู้หรือไง!”
ลั่วหานขำอยู่ในใจ ไม่คิดเลยว่าที่ผ่านมาหลงถิงไม่เคยเรียกเธอมาคุยที่แท้ก็ต้องการรวบยอดทั้งหมดในทีเดียวนี่เองเหรอ?
ได้เลย!
นานมากแล้วเหมือนกันที่เธอไม่ได้ประจันหน้ากับหลงถิงอย่างนี้ เหตุการณ์เกี่ยวกับสถานกักกันเมื่อสามปีก่อนก็ผุดขึ้นมาในหัวเธอ ในใจของลั่วหานทั้งความโกรธ ความเจ็บ ความเกลียดชังและความอาฆาตต่างพากันหลั่งไหลออกมา
หลงถิง ไอ้คนที่ชื่อหลงถิง บีบให้เธอต้องออกจากเมืองหลวง ผู้ชายที่ขับไล่จนเธอต้องออกจากประเทศไป!
คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อย่าของเธอ! พ่อของสามี ทำไมถึงไม่คิดบ้างหล่ะว่าตัวเองเคยทำอะไรไว้บ้าง!
เธอพยายามตั้งสติ ตอนนี้สติปัญญาของเธอได้กลับมาดังเดิมแล้ว แววตาที่เป็นประกายกำลังจ้องมองไปยังหลงถิงที่กำลังโมโหอยู่
จากนั้นก็หันไปมองคนอื่นที่กำลังยืนดูสถานการณ์อยู่ แล้วเธอก็พูดขึ้นด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ว่า “นี่พ่ออยากฟังคำอธิบายของฉันจริงๆ ใช่ไหมคะ? หรือพ่อจะสอบสวนฉันแบบไม่ซื่อสัตย์ไม่กตัญญูเหรอคะ?”
“ฮึ! ไม่ซื่อสัตย์ไม่กตัญญู นี่เธอเป็นคนพูดมันออกมาเองนะ! พูดให้มันชัดเจนนะ!” หลงถิงพูดเยาะเย้ย
ลั่วหานค่อยๆ ยืนขึ้น “พ่อคะ แม่คะ คุณลุง พี่ พี่สะใภ้ แล้วก็เสี่ยวจื๋อ อาหารเย็นก็เตรียมเสร็จแล้ว อย่าให้เรื่องของฉันคนเดียวทำให้ทุกคนต้องอดอาหารเลยค่ะ ถ้าเป็นอย่างนั้นโทษหนูก็หนักเลยหล่ะสิ เราไม่ควรทำให้เสียของ เราไปคุยกันบนโต๊ะก็ได้นะคะ”
ไม่นึกเลยว่าหลงถิงจะเป็นคนระห่ำอย่างนี้ คำพูดแบบนี้ยังกล้าหยิบออกมาพูดได้ สุดยอดจริงๆ!
หลงจื๋อรีบเข้ามาเสริม “ที่พี่สะใภ้พูดมีเหตุผล เราไปกินมื้อเย็นกันเถอะครับ!”
พอมานั่งลงที่โต๊ะอาหาร อาหารที่เลิศหรูถูกจัดวางไว้เต็มโต๊ะ แต่ทุกๆ คนต่างก็มีเรื่องอยู่ในใจ หลงถิงคิดว่าไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่ยอมให้ลั่วหานได้กินมื้อนี้อย่างมีความสุขแน่นอน
ลั่วหานตักอาหารให้หยวนชูเฟินด้วยความยิ้มแย้ม “แม่คะ หนูไม่ค่อยมีโอกาสได้ดูแลแม่กับพ่อเลย ต่อไปหนูจะพยายามมากกว่านี้นะคะ วันนี้หลงเซียวไม่อยู่ ฉันจึงขอดื่มแก้วนี้เพื่ออวยพรทุกคนแทนเขาเลยนะคะ ฉันดื่มแล้วทุกท่านตามสบาย”
พูดจบเธอก็ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มทีเดียวหมดแก้ว แล้ววางแก้วกลับไปที่เดิม
ออร่าของสะใภ้คนโตยังคงเปล่งปลั่งเหมือนเคย
“ทุกคนอย่าเอาแต่มองฉันสิคะ เชิญทานกันเลย พ่อให้ฉันอธิบายฉันก็จะอธิบายเดียวนี้แล้วไงคะ”
พูดจบเธอก็ยื่นมือไปหยิบตะเกียบมา “โรงงานนั้นพี่เป็นคนยกให้เองกับมือ ตอนนี้พ่อก็เข้าใจแล้ว ฉันจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงมันอีก
ส่วนเรื่องที่หลงเซียวเอาเงินไปช่วย บริษัทเฉียวซื่อนั้นก็เพราะหลงเซียวรู้ดีว่าเขาจะเอาเงินของเขาไปไว้ที่ไหนมันถึงจะปลอดภัยที่สุดมีค่าที่สุด นี่พ่อไม่รู้เรื่องนี้เลยเหรอคะ บริษัทเฉียวซื่อเป็นทรัพย์สินของพ่อแม่ฉันต่อไปมันก็จะตกทอดมาอยู่ในมือฉัน และกลายเป็นสินสมรสของฉันกับหลงเซียว เงินของตัวเองแค่เปลี่ยนกระเป๋าตังเก็บมันไม่ได้เหรอคะ?”
ลั่วหานตักปลาชิ้นหนึ่งไปใส่ไว้ในถ้วยของหลงถิง” พ่อคะ ถึงแม้ว่าการมีเงินมากมายมันจะดี แต่เงินมันก็มีหนาม เวลาใช้ต้องระวังหน่อยไม่งั้นอาจถูกมันทิ่มเอาได้นะคะ!”
หลงถิงจ้องมองไปยังปลาชิ้นนั้นที่มีก้างปลาหลายก้างโผล่ออกมา
ลั่วหานยิ้มออกมาด้วยปากแดงๆ ของเธอ จากนั้นก็พูดต่อ “แล้วก็เรื่องแหวน มันเป็นของที่จะอยู่กับเราไปชั่วชีวิต จะให้วัดค่าด้วยเงินทองได้ยังไงหล่ะคะ? ต่อให้แพงขนาดไหนมันก็เป็นแค่หินก้อนหนึ่งเท่านั้น แต่ว่าพ่อคะ หินก้อนนี้มันเป็นตัวแทนของความรักของฉันกับหลงเซียวที่มีความหมายมากกว่าเงินทองเสียอีก! เป็นความรักที่มั่นคง! เป็นความรักที่ไม่อาจทำลายลงได้! ไม่ว่าจะเป็นใครก็ไม่มีทางทำลายมันลงได้!”
ดวงตาที่เจ้าเล่ห์ของเธอกำลังส่องประกาย ส่องประกายซะยิ่งกว่าแหวนที่เธอสวมอยู่เสียอีก
หลงยี่กับโจวหยู่เช่นอึ้งไปในทันที ผู้หญิงคนนี้ช่างใจกล้าเหลือเกิน! เธอกล้าพูดกับหลงถิงอย่างนี้ได้ยังไง!
หลงถิงสบถออกมาแล้วกำตะเกียบในมือแน่ “เล่นลิ้นเก่งนักนะ! ไม่ว่าเธอจะอธิบายยังไงมันก็แก้ไขความจริงไม่ได้หรอก ฉู่ลั่วหานเธอหลอกใช้ตำแหน่งของลูกฉันไต่เต้าขึ้นมาถึงทุกวันนี้ แล้วยังจะมีหน้ามาเรียกร้องอะไรกับฉันอีก!”
หลงยี่พูดเสริมพร้อมกับยิ้ม “น้องสะใภ้ พูดให้มันน้อยลงหน่อยก็ได้นะ ตอนนี้เธอยังเป็นแค่สะใภ้ของตระกูลหลงเท่านั้นยังไม่ใช่นายหญิงที่จะทำทุกอย่างได้ดั่งใจสักหน่อย”
หลงจื๋อกัดฟันแน่นแล้วพูดออกมา “พี่ครับ ถึงพี่สะใภ้จะยังไม่ใช่นายหญิงของที่นี่ก็ตาม แต่อย่างน้อยเธอก็เป็นคุณนายของตระกูลหลงอย่างถูกต้องตามกฎหมายนะครับ! ที่พี่พูดมามันก็เกินไปนะครับ!”
ลั่วหานส่งสายตาไปให้หลงจื๋อ จากนั้นก็พูดต่อ” พ่อค่ะ คำพูดนี้ฉันไม่เข้าใจค่ะ ตอนที่ฉันแต่งงานกับหลงเซียวตระกูลหลงไม่ได้มีการยอมรับฉันเลยสักนิด สามปีหลังจากการแต่งงานกันอย่างลับๆ ฉันเคยมาขอเงินกับตระกูลหลงสักแดงไหม แล้วตำแหน่งนี้เหรอ? พูดกันตามตรง ฉันรู้สึกเอือมระอากับตำแหน่งนี้มาก ถ้าไม่ใช่เพราะหลงจื๋อละก็อย่าว่าแต่คุณนายเลย ต่อให้ยกบริษัทMBKให้ฉัน ฉันยังไม่สนใจเลย”
“นี่เธอจะเอา MBKด้วยเหรอ? ฝันไปเถอะ!”
“ใช่ มันเป็นแค่ฝันจริงๆ แถมยังเป็นฝันร้ายอีกด้วย ดังนั้นถ้าใครอยากได้ก็เอาไป เงินทองที่แพรวพราวฉันรับไม่ไหวหรอกค่ะ”
“ฮึ! ฉู่ลั่วหาน นี่เธอต้องการต่อต้านฉันให้ถึงที่สุดเลยใช่ไหม?!” ดูท่าอาหารมื้อนี้ของหลงถิงจะกินไม่อร่อยแล้ว ผู้หญิงคนนี้กลายเป็นคนร้ายกาจขนาดนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่!
ลั่วหานยิ้มออกมา เธอใช้ตะเกียบเขี่ยผักกาดชิ้นหนึ่งเล่น “อีกอย่างนะคะ……พ่อ ฉันจะอธิบายคำว่าไม่ซื่อสัตย์ไม่กตัญญูให้พ่อได้เข้าใจนะคะ”
แววตาของเธอเป็นประกาย งดงามจนหาที่เปรียบไม่ได้ “ตอนที่ MBKตกอยู่ในวิกฤติการเงินก็มีเพียงหลงเซียวคนเดียวที่ต่อสู้เพื่อมัน ลำบากแทบตายกว่าจะพาบริษัทหลุดพ้นมาได้ พอรู้ตัวอีกทีพ่อก็มานั่งอยู่บนเก้าอี้ของประธานแล้วแถมยังตัดทอนอำนาจของเขาลงอีก พ่อคะ ความซื่อสัตย์คืออะไรคะ?”
“สามปีก่อนฉันถูกคนใส่ร้ายจนต้องเข้าคุก มีคนบอกกับฉันในวันที่ไม่มีทางให้ไปว่าฉันจะถูกขับไล่ออกจากเมืองไปตลอดกาล ฉันขอร้องอ้อนวอนแต่สิ่งที่ได้มากลับเป็นคำสั่งให้ถูกขับไล่เหมือนเดิม ฉันอยากจะทดแทนบุญคุณเหลือเกินแต่กลับไม่มีใครให้โอกาสฉันได้ทำมันเลย พ่อบอกฉันได้ไหมคะว่าอะไรคือกตัญญู?”
หลังจากที่ฉันกลับมาก็มีคนหาฉันเจอ แล้วให้ฉันไปทำงานที่หวาเซี่ย แล้วใช้คำสวยหรูว่าช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอันตราย แล้วฉันก็ตอบรับ พอเวลาผ่านไปฉันก็ได้รู้ว่าทั้งหมดนี้มันเป็นเพียงแค่การโอนถ่ายอะไรบางอย่าง จุดประสงค์ก็เพื่อให้ฉันกลายเป็นแพะรับบาป ฮึ พ่อคะ พ่อบอกฉันหน่อยได้ไหมคะว่าอะไรคือคุณธรรม?”
“อีกอย่างฉันอยากถามคุณลุงดูว่าระหว่างพี่น้องด้วยกัน เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจทำให้ต้องออกจากบ้านเกิดไปทำให้ตกไปอยู่ในความยากลำบากของพี่น้องตัวเอง หลังทุกๆ อย่างสงบลงจนปกติก็กลับมาตามหาญาติพี่น้องอีกครั้งฮึๆ ฉันจึงอยากขอคำชี้แนะจากคุณลุงว่าความชอบธรรมคืออะไรเหรอคะ?”
ลั่วหานพูดออกมาอย่างเป็นการเป็นงาน มีเหตุมีผล ทั้งที่เปลวไฟแห่งความอาฆาตกำลังลุกอยู่เต็มอกแต่เธอก็พูดทุกอย่างออกมาอย่างสงบเรียบเฉย มุมปากของเธอฉีกขึ้น ขนตากระตุก ใบหน้าที่งดงามเกินใครได้มีรอยยิ้มปรากฏออกมา
แล้วหลังจากนั้น ความตะลึงแผ่ซ่านไปทั่ว ผ่านไปตั้งนานก็ยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา
ลั่วหานยกแก้วเหล้าขึ้นมา รินเหล้า “พ่อคะ แม่คะ คุณลุง ทั้งสามท่านต่างก็เป็นผู้อาวุโสของตระกูลหลง บางอย่างที่ฉันอาจพูดตรงไปก็เพื่อคลายข้อสงสัยให้กับทุกคนค่ะ
แก้วที่สองนี้ฉันดื่มให้กับพวกท่าน เราใช้เหล้าล้างเรื่องบาดหมางกัน ต่อไปก็ไม่ต้องพูดถึงมันอีกแล้ว
สิ่งที่ฉันเคยเจอมาทั้งหมด วันนี้ฉันจะไม่ถือว่ามันผ่านไปแล้ว แต่ถ้าต่อไปยังมีใครพยายามทำอะไรลับหลังฉันอีกละก็ฉันฉู่ลั่วหานบอกไว้เลยว่าต่อให้จะไม่ได้เป็นสะใภ้ตระกูลหลงแล้วก็ตามแต่ฉันก็จะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว”
เหล้าในมือของลั่วหานที่กำลังสั่นไหวได้สะท้อนใบหน้าที่งดงามของเธอออกมา เธอกำลังจ้องมองไปยังคนรอบๆ
เธอมอบบันไดให้พวกเขาแล้ว มอบโอกาส แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว และจะไม่มีครั้งต่อไปอีก
หยวนชูเฟินรีบยกแก้วขึ้น “พอแล้วพอแล้ว ต่างก็เป็นคนในครอบครัว เรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันแล้วกันไป ลั่วหานเองก็เป็นคนที่รู้จักผิดชอบชั่วดี คุณคะ พี่คะ จะไปต่อล้อต่อเถียงเหมือนเด็กๆ ให้มันได้อะไรขึ้นมาคะ”
มือที่กำลังถือแก้วของหลงถิงมีอาการสั่นเล็กน้อย ความโกรธเกรี้ยวที่อัดอั้นอยู่ในใจยากที่จะสงบลงได้ แก้วเหล้าถูกยกขึ้นมาครึ่งหนึ่งแล้วก็ถูกวางลงไปอย่างรวดเร็ว “เธอมีสิทธิ์อะไรมาใช้เหล้าล้างบาปกับฉัน? ฉู่ลั่วหานถ้าเธอไม่มีหลงเซียวเธอก็ไม่มีค่าอะไรเลย!”
สายตาที่เหยียบหยาม รอยยิ้มที่เยาะเย้ย น้ำเสียงที่คุกคาม ช่างส่งเสริมการกระทำของหลงถิงเหลือเกิน
ดูแล้ว วันนี้คงไม่จบลงแค่ดื่มเหล้าแล้ว
ลั่วหานเองก็วางแก้วลงเหมือนกัน “พ่อคะตกลงพ่อไม่ชอบขี้หน้าฉันหรือไม่ชอบขี้หน้าหลงเซียวกันแน่คะ? เพราะฉันรู้สึกว่าตอนนี้คนที่พ่อกำลังต่อต้านไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวแล้วนะคะ”
“พวกเธอสองคนต่างก็คิดไม่ซื่อกันทั้งนั้นแหละ!”
“อ๋อ……” ลั่วหานถอนหายใจ “แต่พ่อคะ คนที่คิดไม่ซื่ออย่างเราสองคนนั้น คนหนึ่งกอบกู้MBKของพ่อกลับมาให้ อีกคนก็ช่วยกู้หน้าให้ตระกูลหลง ถ้าวันนี้ในเมืองหลงแห่งนี้ไม่มีฉันกับหลงเซียวแล้ว พ่อคิดว่าตระกูลหลงจะเหลืออะไรอีกคะ? ครอบครัวนักธุรกิจเหรอ? นักลงทุนเหรอ? นักธุรกิจโสโครกที่ไร้ศีลธรรมเหรอ? คำเรียกเหล่านี้พ่อถูกใจไหมคะ?
ถ้าไม่มีหลงเซียวอนาคตของMBKจะเป็นยังไงพ่อเคยคิดบ้างไหมคะ?”
หลงถิงลุกขึ้นมาด้วยความโมโห ยกมือขึ้นมาหวังที่จะตบลั่วหาน แต่ลั่วหานก็ยกมือขึ้นมากันฝ่ามือของเขาไว้ได้ทัน
“ฉู่ลั่วหานนี้เธอกล้าด่าฉันเหรอ!”
มือขวาของลั่วหานเจ็บปวด เจ็บจนเส้นเลือดบนหน้าบวมปูดออกมา “แค่การพูดคุยกันเองในครอบครัว พ่อถึงกับต้องลงไม้ลงมือเลยเหรอคะ? ที่ผ่านมาพ่อสั่งสอนหลงเซียวด้วยวิธีแบบนี้มาตลอดเลยเหรอคะ?
เออจริงสิ ว่ากันว่าลูกไม่รักดีเพราะพ่อเป็นเหตุ ในขณะที่ พ่อกำลังคิดโทษลูกชายตัวเอง พ่อเองก็ควรย้อนมองตัวเองด้วยนะคะ ตอนนี้หลงจื๋อยังเด็กถ้าหากพ่อคิดได้แล้วไม่แน่อาจจะเรียกดูหลงจื๋อให้ออกมาเก่งกว่าพี่ชายของเขาก็ได้นะคะ ลูกชายตั้งสองคน คงต้องมีสักคนแหละที่ถูกใจพ่อบ้าง เพราะไม่อย่างนั้นธุรกิจที่ใหญ่โตขนาดนี้เกิดตกไปอยู่ในมือของคนอื่นคงน่าเสียดายแย่เลยนะคะ” พอพูดจบเธอก็กัดฟันแน่นแล้วใช้เหวี่ยงแขนของหลงถิงออกไป
“ฮาฮาฮา!”
หลงเซิ่งที่ชมศึกอยู่นานในที่สุดเขาก็หัวเราะออกมา น่าดูจริงๆ ช่างน่าดูอะไรอย่างนี้ ดูเหมือนว่าภายในของตระกูลหลงจะวุ่นวายใช่ย่อยเลย เขายังจำเป็นต้องออกโรงอีกเหรอ?
เห็นได้ชัดเลยว่า พวกมันล้มไปโดยที่เขาไม่ต้องทำอะไรเลย!
“ดูแล้วสะใภ้คนโตนี่ฝีปากเก่งกล้าน่าดูเลยนะเนี่ย! ฮึๆ ฮึ โชคดีจริงๆ ที่ได้เห็นกับตา!”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ ความจริงคุณลุงคงคิดว่า การที่ตระกูลหลงมีสะใภ้ที่มีความสามารถขนาดนี้คงเป็นอะไรที่มีค่ามากๆ สินะคะ แต่……พลังถูกใช้ในทางที่ผิด ดันเอาลูกหมาป่ามาเลี้ยงไว้ในบ้านของตัวเอง”
ลั่วหานอดทนกับความเจ็บปวดที่อยู่ในมือเอาไว้ แล้วค่อยๆ ยิ้มออกมา “คุณลุงไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ เมื่อก่อนตอนที่ทั้งสองพรรคของประเทศเราทำสงครามกันจนไม่น่าจะหาข้อยุติได้ แต่หลังจากที่เกิดสงครามโลกทั้งสองฝั่งก็หันมาร่วมมือร่วมใจกันขับไล่โจรชั่วออกไป โดยถูกเรียนว่าแนวร่วมที่สอง”
ลิ้นของหลงเซิ่งพันกันอยู่ในปาก สายตาเย็นชาที่น่าสะพรึงกลัวมองมาที่เธอ “หือ? ความหมายของหลานสะใภ้คือสำหรับแนวร่วมที่สองแล้ว สุดท้ายทั้งสองฝ่ายก็ต้องแยกออกจากกันอยู่ดีสิ?”
ลั่วหานยิ้มออกมา “คุณลุงคะ ถ้าจะพูดถึงความสัมพันธ์ของแนวร่วมที่สอง คุณลุงรู้สึกว่ามันเหมือนกับฉันกับหลงเซียวและคุณพ่อ หรือคุณลุงกับพี่ชายเหมือนกว่ากันเหรอคะ?”
หลงเซิ่งเหมือนถูกฉีกหน้าเข้าอย่างแรง ทำเอาเขาทำตัวไม่ถูกเลย
ลั่วหานค่อยๆ ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “ฮึฮึ คุณลุงอย่าเพิ่งตื่นเต้นไปสิคะ ฉันแค่ล้อเล่นเท่านั้นเอง แต่จะว่าไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปีศาจแบบไหนก็ตามสุดท้ายมันก็ต้องเผยตัวออกมาอยู่ดี คุณลุงคิดเหมือนกันไหมคะ?”
………
………
อาหารมื้อนี้ หลงเซิ่งกับหลงยี่กินกันแบบท้องไส้ปั่นป่วน ส่วนหลงถิงก็กินแบบท้องอืดท้องเฟ้อ
หลงจื๋อกินอย่างเอร็ดอร่อย
หยวนชูเฟินรู้สึกว่าลั่วหานที่นั่งอยู่ตรงหน้า ต่อไปไม่ควรไปหาเรื่องเธอแล้ว
หลงจื๋ออยากจะกล่าวชมลั่วหานเหลือเกิน แต่ลั่วหานกลับพูดขึ้นว่า “ฉันเหนื่อยแล้ว ขอขึ้นห้องก่อนนะคะ” จากนั้นก็เดินจากไปเลย
มื้อเย็นมื้อเดียวต้องกินด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกันมากมาย ทำเอาลั่วหานนี่ปรับอารมณ์ไม่ทันเลย!
ตระกูลหลงที่สูงส่ง ช่างมีความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงอะไรอย่างนี้! หลงถิงไอ้จิ้งจอกเฒ่านั่นยอมให้ความช่วยเหลือหลงเซิ่งโดยเห็นได้ชัดว่ามีเจตนาแอบแฝงแต่ก็ไม่ยอมเข้าข้างลูกชายตัวเองเลยด้วยซ้ำ!
ตอนนี้เธอรู้สึกสงสัยจริงๆ เลยว่าหลงเซียวนี้เป็นลูกที่ตระกูลหลงเก็บมาเลี้ยงหรือเปล่านะ!
กลางดึก หลังจากที่ลั่วหานอาบน้ำเสร็จแล้วเธอก็มานั่งอยู่ตรงโต๊ะเครื่องแป้ง มือถือที่เงียบมาเนิ่นนานในที่สุดก็ดังขึ้น
เธอหยิบขึ้นมาดู มันเป็นข้อความที่หลงเซียวส่งมา
มันไม่ถูกนะ เวลานี้เขายังไม่น่าจะไปถึงอเมริกาเลยนะ
“เมียจ๋า อากาศแปรปรวน เครื่องบินจึงต้องลงจอดฉุกเฉิน ตอนนี้ผมอยู่โรงแรม แล้วคุณอยู่ไหนครับ? ทำอะไรอยู่?”
ไม่รู้ทำไม พอเห็นคำขึ้นต้นข้อความของหลงเซียวว่า “เมียจ๋า” ทำให้ลั่วหานที่แสนดุร้ายเมื่อเย็นกลายเป็นคนที่อ่อนโยนขึ้นมาทันที แววตาที่อบอุ่นมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์ รอยยิ้มหวานๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“ตอนนี้ฉันอยู่ที่วิลล่าของตระกูลหลงค่ะ……”
เธอพิมพ์ได้ครึ่งหนึ่งแล้วก็ลบออก
เธอเม้มปากแล้วค่อยพิมพ์ใหม่ “ฉันนอนอยู่บนเตียงกำลังคิดถึงคุณอยู่ค่ะ”