คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 330 ร้องเพลงLove When I Dieให้ฟังหน่อยสิ
ตอนที่ 330 ร้องเพลงLove When I Dieให้ฟังหน่อยสิ
“คุณชายรองหลง ทำไมอยู่ๆถึงอยากเลี้ยงเหล้าฉันคะ?”
หลินซีเหวินเปลี่ยนเสื้อผ้าและยืนอยู่ที่ทางเข้าโรงพยาบาล เธอจงใจทำให้ผมลงปกปิดใบหน้าเล็กๆของเธอไว้ แว่นตาขนาดใหญ่ที่ปิดบังดวงตาอันสดใส เธอต้องการให้ตนเองเป็นไฮโซฯบ้านนอกในสายตาของหลงจื๋อ
อีกทั้งสีหน้ารอยยิ้มที่มั่นใจเสียเกินไป เป็นรอยยิ้มของสาวบ้านนอกนั่นเอง
หลงจื๋อลดกระจกมองดูหลินซีเหวินแล้วพูดออกมาอย่างเยาะเย้ยว่า “เชยแบบไม่มีที่ติจริงๆ ไฮโซฯบ้านนอกครับ เสื้อผ้าและกระเป๋าของคุณนี่ซื้อมาจากไหนกัน? นี่มันของสมัยยุค60หรือเปล่าเนี่ย?”
หลินซีเหวินมองไปที่หลงจื๋อ เธอเอามือกอดอกไว้ “ฉันไม่เห็นว่าเป็นแบบนั้นนะ คิดไม่ถึงว่าคุณชายรองหลงจะรู้จักแฟชั่นเก่าๆแบบนั้นด้วย!”
หลงจื๋อไม่สนใจเธอ “ขึ้นรถ”
หลินซีเหวินขมวดคิ้วแล้วเข้าไปนั่งข้างคนขับ เธอจัดการรัดเข็มขัดเรียบร้อย “ไปที่ไหน?”
หลงจื๋อมองดูเธอแล้วพูดว่า “ครั้งนี้ผมจะไม่ไปตามที่คุณแนะนำแล้วนะ ร้านที่แล้วกินเข้าไปเกือบตาย ครั้งนี้เราเลือกร้านธรรมทั่วไปดีกว่า”
หลินซีเหวินยิ้มเยาะ “คุณชายรองหลงคะ การที่ฉันปวดท้องไม่ใช่เพราะอาหารไม่ดี แต่เป็นเพราะคนที่กินด้วยต่างหาก เขาส่งผลต่อระบบย่อยอาหารของฉัน คุณรู้หรือไม่ว่าลำไส้ยาวกี่เมตร? คุณรู้จักการย่อยอาหารหรือไม่? ระบบย่อยอาหารต้องผ่านกระบวนการกี่ขั้นตอนในการเปลี่ยนอาหารเป็นพลังงาน เมื่อกระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้น … "
“เดี๋ยวๆๆๆ!” หลงจื๋อฟังสิ่งที่เธอพูดออกมาจนปวดหัว เนื้อหาสาระมากมายออกมาจากปากเธอ คิ้วขมวดขึ้นจากความรำคาญแล้วพูดว่า “คุณไฮโซฯบ้านนอกครับ ที่ชนบทนี่เป็นแบบคุณหมดเลยหรือเปล่า?”
ไม่เพียงแต่โง่ แต่ยังตรงมาก ไม่เพียงแต่ตรงเท่านั้นยังดื้อรั้นอีกด้วย แถมรอบกายมีหนามคอยทิ่มแทงคนที่จับต้อง
รอยยิ้มของหลินซีเหวินจริงใจยิ่งกว่าใคร “คนในหมู่บ้านของเรา……ฉันโง่ที่สุด ถ้าฉันไม่โง่ฉันจะดื่มเหล้ากับคุณหรือ?คุณคิดว่าคุณเป็นใคร?”
“เหอะๆ!”
รถพาคนด้านในทั้งสองวิ่งจากไป
คนหนึ่งในสมองสับสนวุ่นวายเกี่ยวกับบ้านตระกูลหลง หัวเขาแทบจะระเบิดออกมาแล้ว
อีกคนหนึ่งก็เจ็บปวดที่การแอบรักยังไม่ทันจะได้เริ่มเดินหน้าก็ถูกใครบางคนถอนรากถอนโคน
รถแล่นมาจอดที่หน้าประตูร้านเหล้าแห่งหนึ่ง หลินซีเหวินเงยหน้าขึ้นดู พระเจ้า! ไม่จริงน่า!มาที่นี่?!
หลินซีเหวินมองดูรูปโฆษณาแล้วจับมือของหลงจื๋อไว้ “เปลี่ยนที่อื่น! ฉันได้ยินมาว่าที่นี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วก็……แล้วก็เหล้าที่นี่ไม่ดี เราเปลี่ยนอีกร้านหนึ่งนะคะ”
หลงจื๋อมองดูเธอด้วยความสงสัย “คุณรู้ได้ยังไง? เคยมาเหรอ?”
บ้าบอ! พูดไร้สาระอะไรกัน! เธอไม่ใช่แค่เคยมาแต่ยังเป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าของที่นี่ด้วย ถ้าเธอเข้าไปข้างในไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมา
หลินซีเหวินยิ้มแล้วพูดว่า “แหะๆ! ไม่เคยมาค่ะ แต่ก็เคยได้ยินมาบ้าง เพื่อนที่ทำงานบอกมา ถ้าคุณไม่เชื่อวันหลังคุณก็มาเองสิคะ ฉันไม่อยากไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนคุณอีกนะ”
หลงจื๋อมองเข้าไปข้างในร้าน เป็นไปได้ยังไง? เขามาตั้งหลายครั้งแล้ว ไม่เคยมีปัญหาอะไรนี่
รถวิ่งวนไปในถนนเพื่อหาร้านอื่น หลินซีเหวินพบว่าเธอไม่มีที่อื่นจะไป ปกติแล้วก็มีร้านประจำไม่กี่ร้าน แต่เพื่อนยามราตรีของเธอก็มีไม่กี่คน รอบๆนี้ก็น่าจะรู้จักกันหมด
ให้ตายสิ!
“พระเจ้า นี่แม่ไฮโซฯสาวคุณจะดื่มไหม? ผมเป็นคนเลี้ยงคุณนะคุณจะมาทำตัวเรื่องมากแบบนี้ได้ยังไง!” หลงจื๋อถูกเธอปั่นจนหัวหมุน เขาหยุดรถลงทันที “ผมจะดื่มเหล้า คุณแล้วแต่!”
เชอะ! โมโหอะไรกัน!
หลินซีเหวินตบบ่าเขา “คุณลุกขึ้นมา ฉันจะขับรถให้ พาคุณไปที่ที่หนึ่ง”
หลงจื๋อเหล่มองเธอ “คุณมีที่ดีๆงั้นเหรอ?”
“จะไปไม่ไป?” หลินซีเหวินเปลี่ยนไปนั่งที่คนขับ จากนั้นขับรถออกไป
หลงจื๋อไม่อยากจะต่อล้อต่อเถียงกับเธอ “ได้ๆๆ ผมจะเชื่อคุณอีกสักครั้ง”
หลินซีเหวินขับมายังลานจอดรถของตึกแห่งหนึ่ง “พวกเราขึ้นไปกัน”
หลงจื๋อมองหน้าเธอด้วยความตกใจ “คุณเป็นอะไรมากไหม?”
หลินซีเหวินลงจากรถแล้วเดินไปกดลิฟต์ “ใช่ ฉันเป็น ไม่อย่างนั้นฉันจะออกมาดื่มกับคุณกลางดึกอย่างนี้เหรอ? อย่าพูดมาก ตามขึ้นมา”
ลิฟต์ขึ้นสู่ชั้นสูงสุด หลังเดินออกจากลิฟต์ ลมเย็นๆยามค่ำคืนพัดมาปะทะเข้ากับหน้าทำให้เสื้อผ้าของทั้งสองสะบัดไปตามแรงลม ผมพลิ้วไสว
แสงจันทร์ที่ด้านบนของอาคารนั้นมองเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่มีตึกสูงกีดขวางไว้ สามารถมองเห็นฉากหลังสีน้ำเงินเข้มที่อยู่ไกลออกไป ดวงดาวระยิบระยับ แสงจันทร์ส่องสว่างนุ่มนวล
หลงจื๋อมองดูท้องฟ้านี้ อารมณ์ของเขาได้เปลี่ยนไป ที่แห่งนี้สวยงามมากจริงๆ เขาไม่ได้มองดูท้องฟ้าอย่างสบายใจแบบนี้มานานแล้ว
หลินซีเหวินกางแขนออกเงยหน้ารับลม “คุณชายรองหลง เป็นยังไงบ้าง?”
สายลมเย็นพัดโบกมาปะทะกับร่างกาย ถึงจะหนาวไปหน่อยแต่ก็รู้สึกสบายกาย ความทุกข์ทั้งหลายเหมือนถูกพัดไปกับสายลม
“สุดยอด!”
เพียงไม่นานต่อมา ชายผู้หนึ่งในชุดบริกรเดินถือลังกระดาษขึ้นมาแล้วพูดว่า “คุณหลินครับ เครื่องดื่ม”
“ค่ะ ขอบคุณมาก!”
หลงจื๋อมองดูหลินซีเหวิน แล้วหันไปดูพนักงาน จากนั้นมองไปยังลังใส่เบียร์ “แบบนี้ก็ได้เหรอ?”
“ทำไมไม่ได้ละคะ? ก็เหล้าเบียร์เหมือนกัน ใครบอกว่าจะต้องไปกินที่ร้านเหล้าเท่านั้น? การดื่มอย่างสนุกสนานและผ่อนคลายถึงจะเป็นวัตถุประสงค์ของการดื่มอย่างแท้จริง!”
หลงจื๋อมองไปยังหลินซีเหวิน ผมของเธอถูกลมพัดปลิวไปติดบนใบหน้าอันขาวผ่อง แสงไฟสลัวจากดาดฟ้าส่องมายังหน้าของเธอ ดวงตาเป็นประกายคู่นั้นช่างน่ามอง
เขารู้สึกว่าได้เห็นไฮโซฯสาวบ้านนอกคนนี้ในมุมมองใหม่ๆ เธอไม่ใช่คนบ้านนอก แต่เป็นอัศวินต่างหาก
เธอสามารถหัวเราะมีความสุขที่ร้านอาหารห้าดาว เธอสามารถส่งผ่านถึงความอร่อยของไอติมโคนละไม่กี่บาทได้ด้วยรอยยิ้ม และเธอสามารถเปิดฝาเบียร์ด้วยฟันบนชั้นดาดฟ้า
สิ่งเหล่านี้เขาไม่เคยพบเห็นบนตัวผู้ใดมาก่อน
สไตล์นี้ เขาชอบมันมากๆ
หลินซีเหวินหรี่ตามองไปยังตึกสูงๆ หัวเราะออกมาเบาๆแล้วพูดว่า “ฉากโรแมนติกในละครเกาหลีนี่มันหลอกคนชัดๆ บนดาดฟ้าจะมีอะไรโรแมนติกกัน ขนาดเก้าอี้ยังไม่มีเลย คุณชายรองหลงคะ คงต้องลำบากให้คุณนั่งพื้นแล้วละค่ะ ไม่ถือใช่ไหม?”
เมื่อพูดจบเธอก็นั่งลงอย่างง่ายๆ มือเธอถือขวดเบียร์เย็นซ่าที่มีไอลอยออกมา
หลงจื๋อเบะปาก เขาไม่ได้พูดอะไรต่อแต่นั่งลงที่ข้างๆเธอเช่นกัน เขาหยิบขวดเบียร์ขึ้นมาขวดหนึ่งแล้วกะเทาะฝาขวดกับขอบกำแพง “ป๊อก” ฝาถูกเปิดออกพร้อมมีไอเย็นลอยออกมา
“นี่คุณ คนที่หมู่บ้านคุณนี่ใจกล้าแบบนี้ทุกคนเลยหรือเปล่า”
หลินซีเหวินยิ้ม ริมฝีปากเธอแดงเล็กน้อย ยื่นมือออกไปแล้วพูดว่า “คุณชายรองหลงคะ ชน!”
ทั้งสองคนถือขวดเบียร์อยู่ในมือ ขวดทั้งสองกระทบกันและถูกยกขึ้นดื่ม เขาทั้งสองวางขวดเบียร์ลงพร้อมๆกัน หลินซีเหวินมองไปยังท้องฟ้าอันกว้างใหญ่แล้วถามเขาขึ้นว่า “คุณชายรองหลงคะ ในชีวิตนี้คุณเคยชอบใครสักคนไหม ชอบแบบจากใจจริง อยากให้ทุกสิ่งอย่างแก่เธอ?หรือกระทั่งยอมสละชีวิตของคุณให้เธอได้”
“เอ่อ อยู่ๆก็ถามอะไรจริงจังแบบนี้ขึ้นมา?ผมปรับตัวไม่ทันแล้วนะครับ”
หลินซีเหวินมองดูเขาแล้วหยิบเบียร์ขวดที่สองขึ้นมาเปิด “เมื่อก่อนฉันไม่เชื่อ แต่ตอนนี้เชื่อแล้วจริงๆ”
หลงจื๋อเห็นท่าทีของเธอว่าจะใช้ฟันเปิดขวดอีกครั้งก็รีบแย่งขวดมาแล้วเปิดให้ “คุณรักใครเข้าแล้วซินะ? ใครกันดวงซวยขนาดถูกคุณรัก?”
หลินซีเหวินดื่มเข้าไปอึกใหญ่ “ฉัน? ไม่ใช่ฉันหรอก ฉันหมายถึงพี่คุณกับคุณหมอฉู่น่ะ ตอนนี้ฉันถึงเพิ่งเข้าใจว่าหากเรารักใครสักคน ก็ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขาได้ เหอะๆๆๆ พี่ชายคุณ…..ตอนที่เขามองไอดอลของฉัน แววตาเป็นประกายยิ่งกว่าดวงดาวเสียอีก”
หลงจื๋อก็ยิ้มขึ้นเช่นกัน เขามองไปยังท้องฟ้าแล้วพยักหน้า “พี่ชายผมรักพี่สะใภ้มากจริงๆ”
หลินซีเหวินชนขวดกับเขา “เมื่อก่อนฉันคิดว่าความรักไม่สำคัญ มีหรือไม่มีก็ได้ แต่ตอนนี้ฉันแม่งโคตรอิจฉาไอดอลฉันเลย ถ้ามีใครสักคนรักฉันแบบนั้น ฉันยอมตายให้เขาได้เลย”
หลงจื๋อยื่นมือไปสัมผัสหัวของเธอ “ไม่ได้ป่วยนี่ พูดอะไรไร้สาระน่ะ? อกหัก? ถูกทิ้ง? แฟนมีกิ๊ก?”
หลินซีเหวินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “ฉันชอบถังจิ้นเหยียน”
หลงจื๋อ “……” เขารีบดื่มเบียร์เข้าไปคลายความตกใจ “แล้วยังไงต่อ?”
เธอชอบถังจิ้นเหยียน? ทั้งสองคนยืนด้วยกันไม่มีอะไรเหมาะสมเลยสักนิดหนึ่ง ถังจิ้นเหยียนเป็นคนมีสง่าราศี ดูดี และมากความสามารถ
ส่วนเธอไฮโซฯสาวบ้านนอกคนนี้……หลงจื๋อไม่สามารถจินตนาการถึงภาพที่ทั้งสองคนเดินด้วยกันได้
หลินซีเหวินหัวเราะหึๆ “ยังไงต่อเหรอ? แล้วฉันก็ได้เห็นแฟนเขาไง แฟนสาวของถังจิ้นเหยียน ฮ่าๆๆๆๆ!!!”
หลงจื๋อนำมือไปจับที่ศีรษะของเธอ “อกหักจริงๆซินะ”
หลินซีเหวินอยากร้องไห้แต่ก็ร้องไม่ออก เธอพูดขึ้นว่า “คุณชายรองหลง ร้องเพลงให้ฟังหน่อยสิ ฉันอกหักแล้วแถมยังโคตรน่าสงสารแบบนี้ คุณช่วยปลอบใจฉันหน่อยได้ไหม ร้องเพลงLove When I Dieให้ฉันฟังหน่อยนะ”
หลงจื๋อลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ร้องเพลงบ้าอะไร! ผมร้องเพลงไม่เป็น!”
เมื่อเหล้าเข้าปากความคิดการอ่านก็น้อยลงหรือไง กล้าให้คุณชายรองหลงร้องเพลงให้เธอฟัง? อีกทั้งยังเลือกเพลงเองด้วย!
หลินซีเหวินลุกขึ้นยืนแล้วพูดออกมาว่า “ก็ได้ๆๆ! คุณไม่ร้องเดี๋ยวฉันร้องให้คุณฟังเอง!”
พูดจบเธอก็กระแอมสองสามทีเตรียมตัวร้องเพลง “แม้ตายก็จะยังรัก ไม่หยุดพักรักเธอต่อไป!!!อ้า!!!”
หลงจื๋อถูกเสียงตะโกนของเธอทำแสบแก้วหู “นี่แม่บ้านนอก เสียงร้องเพลงของคุณนี่มีเอกลักษณ์จริงๆ!”
หลินซีเหวินยกขวดเบียร์ขึ้น “มาๆๆ! มาร้องด้วยกัน!”
หลงจื๋อถูกอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดีสิบกว่าปี การกระทำแบบนี้เขาไม่เคยทำมาก่อนแน่นอน
“ร้องไม่เป็น”
“โธ่! นี่คุณเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่าเนี่ย? แค่ร้องเพลงจะเป็นไรไป! คุณมาหาฉันให้ฉันดื่มเป็นเพื่อนก็เพื่อระบายไม่ใช่เหรอ? ในที่แบบนี้คุณจะมาอายอะไร ตะโกนออกมาเลย!”
หลงจื๋อดื่มเบียร์ขวดนั้นจนหมดและหยิบขวดที่สามขึ้นมาขวดแล้วขวดเล่า ขวดกระทบกันเสียงดัง
“ร้องสิ!”
หลินซีเหวินเขวี้ยงขวดทิ้งลงสู่พื้น ไม่รู้ว่าเธอเมาหรือได้สติอยู่ เธอเงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วตะโกนว่า “ไปตายซะ ความรัก!!!”
หลงจื๋อ “……อันนี้มีคนเคยใช้แล้ว”
หลินซีเหวินเอาแขนคล้องคนเขาไว้ “แต่ฉันชอบ!!”
เธอหัวเราะดังขึ้น “คุณชายรองหลง ไปตายซะ! ไสหัวไปซะ!”
หลงจื๋อลูบผมของเธอที่ปลิวไสว “ไปตายซะ! ผู้สืบทอดตระกูล!!”
“ฮ่าๆๆๆๆ! มุขนี้เคยมีคนใช้แล้วนะ เชื่อผมสิ! ไปตายซะ! คุณหนูใหญ่!!”
“ไปตายซะ! คุณชาย!!!”
“ไปตายซะ!!ฉู่ซีหราน!!!”
หลงจื๋อมองไปยังเธอ “ไปตายซะ!! ฉู่ซีหราน!!!”
“ไอ้บ้า! แกเรียกชื่อฉันทำไม!! ไปตายซะ!หลงจื๋อ!!”
“ไปตายซะ!!!พลังด้านลบทั้งหลายบนโลกนี้!!”
“ไปตายซะ!! คนชั่ว!!”
ทั้งสองคนตะโกนจนเหนื่อยแล้วก็นอนลงที่บนพื้น สายตามองไปยังท้องฟ้าที่มีดวงดาวส่องสว่าง หลินซีเหวินพูดอย่างครึ่งหลับครึ่งตื่นว่า “คุณชายรองหลงคะ ทีนี้คุณพอใจหรือยัง? เกิดมาในตระกูลหลงที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ มีความสุขไหม?”
หลินซีเหวินถามเองขำเอง หากเลือกเกิดได้ เธอก็อยากเกิดเป็นชาวบ้านธรรมดาๆที่สามารถทำอะไรได้ตามใจชอบ
หลงจื๋อหัวเราะแล้วตอบว่า “คุณเห็นว่าผมมีความสุขไหม?”
ฉู่ซีหรานหันไปมองเขา แววตาของหลงจื๋อสะท้อนดวงดาวบนท้องฟ้า
“คุณอยากมีความสุขไหม?”
“หืม?”
หลินซีเหวินพูดกับเขาพร้อมสายตายั่วยวนว่า “พวกเรากระโดดลงไปกัน! ตอนกระโดดลงไปน่าตื่นเต้นดีนะ น่าจะสนุกไม่น้อย!”
“จะบ้าหรือไง! สาวบ้านนอก จิตคุณนี่ป่วยไม่เบาเลยนะ!”