คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 315 จับฆาตกรอย่างรอบคอบ
ตอนที่ 315 จับฆาตกรอย่างรอบคอบ
คู่ของหลงยี่แม้แต่หน้าของลั่วหานยังไม่ทันได้เห็นก็ถูกหลงเซียวไล่ตะเพิดกลับไปแล้ว
จะต้องให้ลั่วหานบริสุทธิ์ไว้ก่อน แม้ว่าลั่วหานจะไม่จำเป็นต้องกังวลว่าทั้งสองคนนี้มีแผนการอะไร แต่ในตอนที่ร่างกายของตัวเองไม่สบายอยู่นั้น เรื่องที่ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไร ไม่เจอจะดีที่สุด
คู่ของหลงยี่ทั้งสองคนลงลิฟต์มา สีหน้ายิ้มด้วยความอึดอัดและสงสัย จู่ๆหลงยี่ก็ยิ้มที่มุมปาก“หลงเซียว นายทำแบบนี้มันไม่เหมาะสมเลยนะ ถึงยังไงพวกเราก็เป็นคนในครอบครัว นายทำแบบนี้ เท่ากับกำลังไม่ไว้หน้าฉันกับพี่สะใภ้ของนายอยู่นะ”
ในฐานะที่เป็นลูกหลานคนโตของตระกูลหลงในรุ่นนี้ พูดกันตามหลักเหตุผลหลงยี่ควรจะเป็นคนที่รุ่งเรืองก้าวไกลที่สุดถึงจะถูก แต่สถานะในตอนนี้ของหลงยี่ดันเทียบแม้กระทั่งลูกของหลงจื๋อไม่ได้เลย
หลงยี่รู้สึกเสียดายการจากไปในตอนนั้นมาก แต่ตอนนี้อำนาจส่วนใหญ่ในตระกูลหลงดันไปตกอยู่ในมือของหลงเซียวอีก เขาอยากที่เอามันกลับคืนมาก็ต้องเกรงใจหลงเซียว ในใจอัดอั้นความโกรธเอาไว้จริงๆ
หลงเซียวไม่เห็นลูกของหลงยี่อยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ สำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าหลงยี่จะทำอะไรมันก็เป็นแค่การดิ้นรนครั้งสุดท้ายของคนที่เคยมีอิทธิพลก็เท่านั้น
“พี่นี่กำลังตำหนิผมอยู่เหรอ?”ถามกลับไปอย่างนิ่งๆง่ายๆ น้ำเสียงที่เขาถามแข็งกระด้าง ไม่มีความเกรงใจและไม่คลุมเครือเลยแม้แต่น้อย
หลงยี่ยิ้มแห้งๆทันที“จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง? พี่ก็แค่เป็นห่วงคนในครอบครัวของตัวเองก็เท่านั้นเอง ในเมื่อจะไปกระทบต่อการพักผ่อนของน้องสะใภ้ ถ้าอย่างนั้นฉันกับพี่สะใภ้ของนายก็ขอกลับก่อนก็แล้วกัน”
เขาพูดจบ โจวหยู่เช่นที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มอย่างชะม้อยชะม้ายพร้อมกับพูดขึ้น“พวกเรากลับประเทศมานานขนาดนี้ยังไม่เคยเจอหน้าลั่วหานเลย วันหลังไว้มาทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันสักมื้อสิ นายพาเธอมาด้วยกัน ถึงตอนนั้นฉันจะเข้าครัวทำอาหารที่ถนัดที่สุดเองเลย นั่งพูดคุยกันตามประสาคนในครอบครัวสักหน่อย ถึงจะพูดยังไงพวกเราก็เป็นครอบครัวเดียวกัน นายว่าไม่ใช่หรือไง?”
เหอะ!
เอาความสัมพันธ์ในครอบครัวมาอ้าง? หรือเธอไม่รู้ว่าในโลกของหลงเซียว คำว่า ครอบครัว คำนี้มันถูกพวกเขาทำลายจนแตกสลายไปหมดแล้ว?
จนถึงตอนนี้ที่อาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของตระกูลหลง ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในตอนนั้น โชคดีที่พวกเขามีหน้านี้อยู่
หลงเซียวล้วงมือข้างเดียวเข้าไปในกระเป๋ากางเกง รูปร่างที่สูงยาเฉยชาแปลกๆ“ขอบคุณน้ำใจของพี่สะใภ้มาก มีเวลาผมจะนัดให้แล้วกัน ผมยังมีธุระต่อ เชิญพวกพี่ตามสบาย”
เขาพูดเสร็จ แม้แต่บอกลาสักคำก็ขี้เกียจพูดกับพวกเขา ก่อนจะสับขาเดินจากไปตรงทางเดิน ตรงทางเดินสีขาวที่กว้างขวาง มีเพียงแค่แผ่นหลังสีดำๆของคนรูปร่างสูงใหญ่กำยำท่าทางสูงส่งและสุขุมกำลังพูดบ่นอย่างไม่สบอารมณ์
“ปึ้ง” โจวหยู่เช่นซัดดอกไม้สดในมือลงไปที่พื้น รอหลงเซียวเดินจากไป ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน“เหอะๆ ตอนนี้มันจะเล่นแบบนี้แล้วใช่ไหม!นึกว่าตระกูลหลงขาดมันไม่ได้อย่างนั้นเหรอ!ฉันอยากรู้จริงๆ ว่ามันกล้าดียังไงมาทำท่าทางยโสโอหังแบบนี้ได้”
มือของหลงยี่ก็กำหมัดแน่นเช่นกัน ยกเอียงมุมปาก“หลงเซียวเอ่ยหลงเซียว……เหอะๆ มันแค้นฝังหุ่นมากกว่าใครคนไหน เรื่องในตอนนั้นเกรงว่ามันคงจะไม่มีทางยกโทษให้ผมกับพ่อไปตลอดชีวิตแน่นอน จะเข้าทางมันดูท่าคงจะไม่ง่ายซะแล้ว”
แววตาโหดเหี้ยมเผยออกมา มันเป็นความเลวทรามต่ำช้าของงูพิษ เต็มไปด้วยแผนการ
โจวหยู่เช่นหันมองไปยังตึกของโรงพยาบาล“ฉันอยากให้ฉู่ลั่วหานนังผู้หญิงคนนี้ไสหัวไปได้สักทีจริงๆ!ผู้หญิงคนนี้อยู่ในตระกูลหลงจะช้าจะเร็วยังไงก็เป็นตัวนำพาตัวหายนะมาอยู่ดี!ตอนนี้หลงเซียวไม่ฟังใครหน้าไหนทั้งนั้น ฟังแค่ฉู่ลั่วหานนังผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้คนเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดมันไปแอบพูดยุยงปั่นหัวหลงเซียวเมื่อไรล่ะก็ เกรงว่าตระกูลหลงยังไงก็ต้องตกไปอยู่ในมือของพวกเขาแน่นอน”
จู่ๆแววตาของหลงยี่ก็เกิดความระแวดระวังขึ้นมา พูดพึมพำกับตัวเอง“ไม่เลว ถ้าดูจากความฉลาดและแผนการของหลงเซียว แล้วก็เส้นสายของเขาในเมืองหลวงแล้ว ถ้าเขาคิดที่จะฮุบตระกูลหลงล่ะก็มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายดาย ยังดีที่ตอนนี้ลุงรองยังเป็นประธานของMBK ไม่ได้ปล่อยวางอำนาจไปซะทีเดียว ไม่อย่างนั้นล่ะก็แทบไม่อยากจะคิดถึงผลที่ตามมาเลย”
“แสดงว่า พวกเราทำได้แค่ดำเนินการตามแผนภายใต้อำนาจของลุงรองน่ะสิ”
“ถูกต้อง”
โจวหยู่เช่นกัดฟันพูดด่าขึ้น“ฉู่ลั่วหานนังผู้หญิงคนนี้หนังเหนียวจริงๆ กี่ครั้งกี่คราวแล้วไม่ยอมตายไปซะที ตอนนี้กะว่าจะได้ไปเห็นมันเกิดเรื่องขึ้นสักหน่อย แต่ไม่ทันได้ถึงครึ่งชั่วโมงดันถูกหลงเซียวมาขวางไว้ก่อนอีก!ถ้าเกิดลากตัวฆาตกรออกมาได้ล่ะก็ ชื่อเสียงในเมืองหลวงของฉู่ลั่วหานมันจะต้องเพิ่มขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ!”
แววตาของหลงยี่ดูโหดเหี้ยม“อย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่า คนที่อยากจัดการกับพวกมันในเมืองนี้ ก็มีจำนวนไม่น้อยเลยเหมือนกัน”
——
“สวัสดีครับ ผมเป็นตำรวจ ตอนนี้จะต้องขอสอบปากคำบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนของโรงพยาบาลหวาเซี่ย ขอให้พวกคุณให้ความร่วมมือด้วยครับ!”
เจิ้งซิ่วหยาถือรูปถ่ายทางการของตำรวจอยู่ในมือ ท่าทางดูสวยเท่ท่ามกลางกลุ่มของตำรวจ จัดการสอบสวนเหล่าเหล่าผู้หญิงด้วยความรวดเร็วอยู่ในห้องโถงของโรงพยาบาลหวาเซี่ย
กางเกงยีนส์สีฟ้า กับเสื้อสีดำหนึ่งตัว มัดผมหางม้าดูยุ่งๆเซอๆ ใบหน้าสดไม่แต่งหน้าทำสีหน้าจริงจัง ไม่ยิ้มแย้มแต่กลับดูสะดุดตาคนอย่างแปลกๆบอกไม่ถูก
“คุณตำรวจเจิ้ง คิดไม่ถึงว่ามือใหม่แบบคุณที่เพิ่งมาทำงานแบบนี้ครั้งแรก ดูเหมือนกับว่าทำจนชำนาญไม่ยุ่งยากเลยนะเนี่ย”เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดหยอกล้อขึ้น
เจิ้งซิ่วหยาพยักหน้าแบบใจกว้าง“ก็ใช่ ฉันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ ที่ไหนเรียกร้องต้องการ ฉันก็ไปหมด ไม่ว่าจะต้องไปที่ไหน ฉันก็จะเป็นเจ้าที่ตำรวจที่แข็งแกร่งไม่ยอมย่อท้อ!”
“เหอะ!จัดการได้ลื่นไหลมาก ห้าคนตรงนั้นก็ฝากคุณรับผิดชอบด้วยแล้วกันนะ อีกเดี๋ยวแยกสอบปากคำ รู้ใช่ไหมว่าสอบปากคำยังไง?”
“วางใจได้ มอบให้เป็นหน้าที่ของฉันไม่มีปัญหาแน่นอน”
เหล่าบรรดาตำรวจสอบปากคำในโรงพยาบาลหวาเซี่ยไปทั้งช่วงเช้า คนทั้งโรงพยาบาลเอาแต่ตื่นตกใจ บรรยากาศกดดันไม่น้อย
หลงเซียวเดินมาถึงยังห้องโถงชั้นหนึ่ง เห็นจี้ตงหมิงกำลังพูดอะไรอยู่กับตำรวจสองสามนาย เขายืนตัวตรงอยู่ข้างๆเคาน์เตอร์นางพยาบาลพร้อมกับพูดขึ้น“ตงหมิง”
จี้ตงหมิงรีบจบบทสนทนากับทางนี้ทันที หันมามองหลงเซียวพร้อมกับพูดขึ้น“หัวหน้า ตำรวจกำลังทยอยสอบปากคำอยู่ ตอนนี้ยังไม่พบบุคคลต้องสงสัย ล้วนแต่มีหลักฐานที่อยู่ทั้งนั้นครับ”
หลงเซียวพยักหน้า“อื้อ ห้องกล้องวงจรปิดล่ะ?”
จี้ตงหมิงพูดขึ้น“ส่วนอันนี้มันแปลกมากครับ ตะกี้ผมกับพวกเขาได้ไปตรวจสอบดูกล้องวงจรปิดแล้ว ที่แปลกคือ ถึงแม้ว่าช่วงเวลาบางส่วนในกล้องวงจรปิดจะถูกขโมยไป แต่ว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องจนมาถึงตอนนี้ไม่มีใครที่เข้าไปในห้องกล้องวงจรปิดเลย ตัวอย่างลายนิ้วมือที่รวบรวมมาก็ไม่มีของใครอื่นนอกจากของพนักงาน”
จู่ๆจี้ตงหมิงก็ทำตาโตขึ้นไม่น้อย น้ำเสียงต่ำลง“หรือว่าทางนั้นกับคนของห้องกล้องวงจรปิดจะเกี่ยวข้องกัน? พวกเขาวางแผนไว้ไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นจึงไม่เหลือเบาะแสอะไรทิ้งไว้เลยแม้แต่นิดเดียว?”
หลงเซียวใช้มือขวามาหมุนๆแหวนที่นิ้วนางข้างซ้าย นิ่งเงียบไปสักพัก แล้วก็ไม่ได้ปฏิเสธต่อการคาดเดาของตงหมิง
“เป็นไปได้ แต่ว่ายังมีความเป็นไปได้อีกอย่างหนึ่ง มีคนแอบเจาะเข้ามาในระบบของกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาล แล้วขโมยช่วงเวลาของตอนนั้นไป พาฉันไปห้องวงจรปิด”
“ครับ!”
จี้ตงหมิงกับหลงเซียวเข้าไปในห้องกล้องวงจรปิดด้วยกัน เจ้าหน้าที่รักษาการพอเห็นหลงเซียวเดินเข้ามาก็พากันลุกขึ้นยืน ก้มหัวแสดงความเคารพพร้อมกับพูดขึ้น“คุณหลง……”
“เปิดกล้องวงจรปิดของเมื่อวาน”
“ครับ กรุณารอสักครู่ครับ”
ภาพที่บันทึกไว้แสดงออกมา สายตาของหลงเซียวจ้องไปยังภาพบนหน้าจอ ห้องเดี่ยวที่คนไข้ทั้งหมดพักอยู่เป็นห้องไอซียู ปกติแล้วจะไม่เห็นบุคลากรทางการแพทย์มาอยู่เฝ้าคนไข้ แต่สิบกว่านาทีก่อนที่วิดีโอจะถูกตัดทิ้งไป ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือว่านางพยาบาล เนื่องจากหลายๆเหตุผลทำให้ต้องทยอยกันเดินออกจากตำแหน่งของตัวเอง
มีคนถูกเรียกไปชั่วคราว มีคนสั่งอาหารมื้อดึก มีคนรับโทรศัพท์
ภาพวีดิโอสุดท้ายหยุดตรงที่นางพยาบาลคนหนึ่งออกมาจากห้องคนไข้ ต่อมาภาพก็ตัด นางพยาบาลกลับมาจากข้างนอก ช่วงเวลาตรงกลางนั้นหายไปสามนาที
สามนาที?
ช่วงเวลาสามนาที ฆาตกรอาศัยช่วงเวลาสั้นๆนี้เดินเข้ามาจากจุดที่กล้องวงจรปิดถ่ายไม่ได้ แล้วฉีดยาพิษเข้าไปในสายน้ำเกลือจนสำเร็จ ก่อนจะออกมาจากที่นี่อย่างราบรื่น คำนวณตามเวลาแล้วระยะห่างจะต้องใกล้กันมาก
เขาจะต้องอยู่ในจุดอับสายตาของห้องผู้ป่วยที่ใกล้ที่สุดแน่นอน
“หยุด”
หลงเซียวพูดสั่งขึ้น หลังจากนั้นเมาส์ก็คลิกหยุดทันที
หลงเซียวจ้องมองภาพไม่ได้พูดอะไร กวาดสายตามองไปยังจุดอับต่างๆอย่างรวดเร็ว
“ดูจากโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างตรงนี้แล้ว สถานที่แอบของฆาตกรจะต้องเดินไปอยู่ทางขวาแน่นอน ตรงนี้ไม่ต้องหลบกล้อง เพราะว่าข้างล่างเป็นทางออก แถมพวกเราตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณแถวนั้นมาแล้ว กล้องวงจรปิดตรงทางเข้าของชั้นหนึ่งเคยถูกคนทำให้พังมาก่อน แต่ถ้าอยากที่จะผ่านทางออกจะต้องมีบัตรเข้าออกของโรงพยาบาล แน่นอนว่าขโมยมาก็ได้”
จู่ๆเสียงของเจิ้งซิ่วหยาก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง หลงเซียวหันไปมองเธอ พยักหน้า“ถูกต้อง ที่ผมพอจะวิเคราะห์ได้ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน”
เจิ้งซิ่วหยาเดินก้าวขาเรียวยาวที่อยู่ภายใต้กางเกงยีนส์มาถึงตรงแถบหน้ากล้องวงจรปิด ชี้ไปยังทางเดินตรงนั้น“แม้ว่ากล้องวงจรปิดของที่นี่จะเสีย แต่ถ้าไปตรวจสอบบัตรที่สแกนขึ้นมาจากข้างล่างในคืนวันนั้น จะทำให้ขอบเขตแคบลงแน่นอน”
หลงเซียวพยักหน้า“ไปแจ้งให้ฝ่ายโลจิสติกส์ทราบ ว่าจะพรุ่งนี้ตอนค่ำจะทำการตรวจสอบบันทึกการแสกนบัตรของเครื่องสแกนบัตรเครื่องนี้”
“ครับคุณหลง”
พอจัดการวางแผนมอบหมายงานเสร็จ หลงเซียวหันมามองสำรวจเจิ้งซิ่วหยาด้วยสายตานิ่งขรึม“คุณเป็นลูกน้องของผู้อำนวยการหวัง?”
เจิ้งซิ่วหยายกๆไหล่“สวัสดีค่ะคุณหลง!ฉันชื่อเจิ้งซิ่วหยา เป็นลูกน้องมือใหม่ของผู้อำนวยการหวัง ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของคุณมาบ้างแล้ว ได้มาเห็นตัวเป็นๆ รู้สึกว่าคนเหล่านั้นที่พูดชมคุณดูเหมือนจะพูดไม่ครบถ้วนนะคะ เพราะตัวจริงดูเหมือนว่าจะหล่อกว่าอีก”
เจิ้งซิ่วหยายื่นมือออกไปหนึ่งข้างอย่างกระตือรือร้น ยิ้มอย่างเป็นมิตร
หลงเซียวยื่นไปจับมือเธอ“สวัสดี”
พอพูดจบ เจิ้งซิ่วหยาก็พูดขึ้น“คุณหลง ฉันอยากถามคุณสักหน่อย ถ้าเกิดคุณเป็นฆาตกร คุณจะทำยังไงที่จะสามารถมั่นใจได้ว่าในขณะที่ก่อการร้ายกล้องวงจรปิดจะไม่มีทางจับภาพได้? ลบทิ้งหลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว หรือว่าก่อนที่จะก่อการร้ายแอบเข้าไปในระบบของกล้องวงจรปิดแล้วทำให้ช่วงเวลาตรงนั้นเป็นช่องโหว่?”
หลงเซียวจ้องเขม็ง“แน่นอนว่าเป็นอย่างหลัง ผมคิดว่าฆาตกรใช้วิธีนี้ได้อย่างทันเวลา”
เจิ้งซิ่วหยาดีดนิ้ว“ใช่ ฉันก็คิดแบบนี้ การที่จะฆ่าคนคนหนึ่งมันง่ายมาก ใช้วิธีการลวกๆก็ได้แล้ว แต่ถ้าจะกระทำต่อภรรยาของคุณหลงล่ะก็ มันไม่เหมือนกัน พวกเขาจะต้องวางแผนก่อการร้ายอย่างละเอียดถี่ถ้วนแน่นอน”
“อ๋อ?”หลงเซียวมองตำรวจตัวเล็กๆที่ยังดูเด็กแต่ไม่ธรรมดาคนนี้อย่างช่วยไม่ได้“คุณอยากจะทำยังไง? ตรวจอาวุธของฝั่งนั้น หาIDของเขาออกมา?”
“ใช่!ฉันก็คิดแบบนี้ แน่นอนว่า ฉันก็เคยลองมาแล้วเหมือนกัน ช่างเทคนิคของทีมตรวจของพวกเราลองมาแล้ว แต่ว่า……Firewallของทางนั้นสุดยอดมาก ไม่สามารถเข้าไปหาได้เลย”
เจิ้งซิ่วหยายกไหล่ด้วยความรู้สึกอึดอัด สีหน้าขอโทษ“ความยากของเทคโนโลยีที่สะดวกสบาย บางครั้งมันก็เป็นปัญหาเหมือนกัน”
หลงเซียวเคาะนิ้วที่โต๊ะ“ผมทำเอง”
“คุณ?”เจิ้งซิ่วหยารู้สึกสงสัย“คุณเป็นหัวหน้าที่ทั้งวันเอาแต่นั่งเซ็นแก้ไขเอกสารอยู่ในห้องทำงาน ยังทำเรื่องพวกนี้เป็นด้วยเหรอ?”
หลงเซียวพยักหน้าไปให้จี้ตงหมิง“เอาคอมพิวเตอร์ของฉันมา”
“ครับ!”
ในขณะเดียวกัน หลงเซียวก็โทรไปยังเบอร์ของกู้เยนเซิน“คุณชายกู้ นานแล้วที่ไม่ได้ร่วมมือกัน วันนี้มาลองทดสอบความรู้ใจกันสักหน่อย เป็นยังไง?”
กู้เยนเซินผู้ที่ฉลาดหลักแหลมลุกขึ้นมาจากเก้าอี้เจ้านาย“ได้แน่นอน!พร้อมเสมอ!”
“เปิดระบบกล้องวงจรปิดของโรงพยาบาลหวาเซี่ย พวกเราร่วมมือกันตามล่าเบาะแสIDของแฮกเกอร์คนหนึ่ง”
“ได้!แต่ว่ามันมีประโยชน์อะไร?”กู้เยนเซินไหล่แนบโทรศัพท์อยู่ที่หูนิ้วมือเคาะบนแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็ว ไม่นานก็เจอโรงพยาบาลหวาเซี่ย“ส่งเขตอำนาจมาให้กับผมก่อน”
“ไม่มีประโยชน์อะไร”หลงเซียวตอบกลับไปอย่างตรงไปตรงมา ตรงมากๆ
กู้เยนเซินแทบจะสำลัก“เอาเถอะๆ ถึงไม่มีประโยชน์ก็ทำ มา!”