คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 307 ปากจัดจริงๆ
ตอนที่ 307 ปากจัดจริงๆ
หญิงสาวแหงนหน้าด้วยความรวดเร็ว ยิ้มกว้างบนใบหน้าอมชมพูเนียนนุ่มทันใดนั้นราวกับถูกสาปให้สตาฟไว้รอยยิ้มเมื่อครู่แข็งทื่อในทันใด หลินซีเหวินขบกราม มองใบหน้าหล่อเหลาด้วยใจห่อเหี่ยว “เฮือก! คุณชายรองหลง ลมอะไรหอบนายมาเนี่ย!”
หลงจื๋อใช้มือข้างนึงจับเก้าอี้ ก่อนจะค่อยๆโน้มตัวลงมองหลินซีเหวิน การแปลงโฉมของเธอในวันนี้ สร้างความตกตะลึงให้กับหลงจื๋อได้อย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ต้องพูดถึงชุดกระโปรงที่เธอใส่ พอไม่มีแว่นคอยปกปิดดวงตากลมโตคู่นี้แล้วหญิงสาวตรงนี้สามารถทำให้ใครต่อใครมองเหลียวหลังได้ง่ายๆ
แต่ถึงกระนั้น หลงจื๋อก็เพียงยิ้มเรียบๆพร้อมเอ่ยทักขึ้นมาคำนึง “สาวบ้านนอก แต่งตัวแบบนี้ แถมมานั่งในร้านอาหารไฮโซ คงคิดถึงเจ้าชายขี่ม้าขาวของเธอจะจะขาดแล้วสินะ?”
ในขณะเดียวกันหลงจื๋อก็แอบคิด โรงพยาบาลหวาเซี่ยจ่ายเงินเดือนดีขนาดนี้เลยหรือไง? ยัยนี่ถึงมีปัญญาซื้อชุดราคาหลักหมื่นแบบนี้ได้?
หรือว่าเงินสนับสนุนที่เขาให้เข้าบัญชีเธอแล้ว? ไม่มั้ง เขายังไม่ได้เลขบัญชีเธอด้วยซ้ำ
หลินซีเหวินฉีกยิ้มให้ “ยุ่งอะไรล่ะ!”
หลงจื๋อเหลือบมองโต๊ะที่ว่างเปล่า ไหนจะเมนูอาหารที่เธอพลิกไปพลิกมาไม่รู้กี่รอบ “ศึกษาเมนูนานขนาดนี้ สุดท้ายก็สั่งแค่น้ำเปล่าที่ทางร้านให้ดื่มฟรี สาวบ้านนอกครับ ในระหว่างที่ฉันยังไม่ได้จ่ายค่าซัพพอร์ตให้ จะดัดจริตไปนั่งในร้านที่ตัวเองมีปัญญาจ่ายหน่อยไม่ได้หรือไง?”
ชิท!!
หลินซีเหวินตบเมนูอาหารลงบนโต๊ะ “คุณชายรองหลง หมายความว่าไง! ด่ากันใช่ไหม?”
“เปล๊า ฉันไม่ได้ด่าสักหน่อย ฉันเคยพูดว่าจะสนับสนุนเธอ วันนี้ได้เจอกันพอดี งั้นคุณชายอย่างฉันจะเลี้ยงจนเธออิ่มหนำสำราญไปเลย!”
หลินซีเหวินลืมคำพูดของตัวเองในตอนนั้นไปตั้งนานแล้ว แต่พอได้ยินเขาพูดขึ้นเลยนึกขึ้นมาได้อีก
ยิ้มเย็นชาเมื่อกี้กลับมาก่อตัวขึ้นใหม่อีกครั้ง “ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันเกรงใจมากเลยล่ะ!” ในใจกลับเต็มไปด้วยคำก่นด่า ไอดาวร้ายหลงจื๋อรีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้เลย เสียฤกษ์เสียยามหมด!
ใครจะคิดว่าหลงจื๋อไม่ไปง่ายๆ คุณชายหย่อนตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอ แล้วยกขาข้างหนึ่งขึ้นไขว่ห้าง “สั่งอาหารทั้งหมดในเมนูที่เธอพลิกไปพลิกมาล้านรอบนั่นให้หมด แต่ฉันขอเตือนไว้ก่อนว่าอย่าใจป้ำขนาดจะเลี้ยงคนทั้งร้าน”
“งื้อ? สงสารฉันหรอ?”
“ไม่ได้สงสาร แค่ไม่อยากขายหน้า เอาเป็นว่าเธออยากกินอะไรเชิญสั่งได้ตามสะดวก ฉันเลี้ยง”
หลงจื๋อเอนหลังพิงลงบนโซฟาด้วยท่าทางประหนึ่งตนเป็นพระโพธิสัตว์ที่จุติลงมาเกิดบนโลกนี้เพื่อช่วยเหลือสิ่งมีชีวิตทุกข์ยาก ใบหน้าของเขาเปี่ยมไปด้วยไปด้วยรอยยิ้มแห่งความเมตตา อิ่มเอมในรสพระธรรม
เมื่อกี้ตอนที่เขาเดินผ่านหน้าต่างร้านก็บังเอิญเห็นหลินซีเหวินเข้าพอดี เขาแปลกใจแต่รู้สึกสนุกมากกว่า ก็เลยยืนอยู่แถวริมหน้าต่างอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะเดินไปมา
ภาพที่เขาเห็นคือหลินซีเหวินนั่งพลิกเมนูไปมาไม่กล้าสั่งอาหารสักที เมื่อนึกถึงชีวิตที่แสนยากลำบากของเธอ จิตใจอันดีงามของเขาก็อดสงสารเห็นใจขึ้นมาไม่ได้
เรื่องราวก็เลยกลายเป็นอย่างที่เห็น
“เมื่อกี้เธอนั่งดูอยู่ตั้งนานสองนาน ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว รีบคว้าเอาไว้ให้แน่นๆล่ะ” คำพูดคำจาของหลงจื๋อเริ่มคล้ายพระสงฆ์มากขึ้นทุกที
หลินซีเหวินกัดฟันกรอด คว้ากับป้าแกสิ!
“พี่สาวคนสวย ชีวิตฉันไม่ได้รันทดถึงขั้นต้องให้นายมาเลี้ยงข้าวนะ เชิญนายไปที่ชอบๆเถอะ”
เธอบ่นพึมพำในใจ นี่มันผ่านมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว คนตรงเวลาอย่างหมอถังไม่มีทางสายเด็ดขาด! นี่มันผิดปกติ ผิดปกติสุดๆ!
หลงจื๋อทำปากจู๋ “ฉันว่าฉันชอบที่นี่ล่ะ”
หลินซีเหวินกำหมัดแน่น เธอหงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ “คุณชายรองหลง นายว่างมากใช่ไหม ถ้าว่างมากแนะนำให้เดินออกไปแล้วเลี้ยวขวา ตรงนั้นมีลานกีฬาอยู่ เชิญนายไปเต้นแอโรบิกกับพวกป้าๆเถอะ!”
“เต้นแอโรบิกก็ไม่เลว แต่ขอป้อนอาหารเธอจนอิ่มก่อนค่อยว่ากัน”
เห็นหญิงสาวไม่สั่งอาหารสักที หลงจื๋อจึงเป็นฝ่ายดึงเมนูขึ้นมากวาดสายตาดูรอบนึง “เอางี้ละกัน ฉันสั่งอาหารเด็ดของร้านนี้มาสักสามสี่อย่างให้เธอ รสชาติใช้ได้ทีเดียว”
ในสมองของหลินซีเหวินมีเสียงสัญญาณอันตรายดังขึ้น อีกเดี๋ยวถ้าหมอถังมาเห็นเธออยู่กับหลงจื๋อ อย่าว่าแต่จะช่วยขัดขวางการดูตัว ดีไม่ดีหมอถังจะเข้าใจผิดได้ว่าเธอกับอีตาหลงจื๋อเป็นอะไรกัน งั้นเธอก็จบเห่!
แต่ดูท่าทางหลงจื๋อในตอนนี้ถ้าไม่ได้กินข้าวก่อนคงไม่ยอมกลับง่ายๆ
เธอมองนาฬิกาอีกรอบ ตอนนี้เลยเวลานัดมาสี่สิบนาทีแล้ว ในหัวของเธอไม่สงบสุขอีกต่อไป หลินซีเหวินขอเลือกที่จะหนี!
“คุณชายรองหลง ถ้าคุณจะเลี้ยงข้าวฉันจริง งั้นฉันขอเป็นคนเลือกร้านได้หรือเปล่า?”
“แน่นอน”
หลงจื๋อโยนเมนูลง พลันก็นึกไปถึงเครปผลไม้ที่เขาสองคนกินเมื่อครั้งก่อน ไอเดียก็แวบขึ้นมาในหัว
“ฉันไม่ชอบกินอาหารที่ทั้งแพงแถมไม่อิ่มแบบนั้น ฉันพานายไปที่เด็ดๆที่นึง ไปไหม?”
“ทำไมจะไม่ไป ไปสิ!”
หลินซีเหวินมองสำรวจชายที่นั่งฝั่งตรงข้าม “เดี๋ยวก่อนนะคุณชายรองหลง นายมาที่ร้านอาหารนี่ไม่ใช่เพราะมีเดทหรอ? ทำไมยังมีเวลามากินเที่ยวเล่นเป็นเพื่อนฉันอีกล่ะ?”
หลงจื๋อทำเป็นหัวร้อนใส่ “ตกลงจะไปไม่ไป?”
“ไปสิ!”
หญิงสาวหิ้วกระเป๋าขึ้นมา หลินซีเหวินสวมชุดกระโปรงสวยหวานแต่กลับมีท่าทางมาดแมน ความห้าวหาญมั่นใจของเธอ ในสายตาหลงจื๋อคงต้องมองว่าเท่มากกว่า…
“สาวบ้านนอกวัฒนธรรมของหมู่บ้านเธอดูท่าจะเปิดกว้างมากเลยนะ ผู้หญิงทุกคนเป็นแบบนี้หมดเลยหรือเปล่า?”
ทั้งกระด้าง กระโดกกระดาก โผงผาง
หลินซีเหวินนวดบริเวณหัวคิ้ว คุณพระคุณเจ้านี่เธอต้องสร้างโลกมโนขึ้นมาทุกครั้งที่อยู่ต่อหน้าหลงจื๋อจริงๆหรือ?
“แหงล่ะ คนในหมู่บ้านเราก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น พอทำไร่ทำนามากๆ ผู้หญิงเราก็เลยแมนขึ้น ยากจะแยกออกว่าคนไหนผู้หญิงหรือผู้ชาย พวกเราไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก โดยพื้นฐานแล้วไม่ว่าจะเพศไหนก็ไม่ต่าง”
เพราะจอดรถไว้ข้างๆร้านอาหาร หลินซีเหวินจึงนั่งรถราคาแพงหูฉี่ของหลงจื๋อ เมื่อรถออกสตาร์ท เขาเลี้ยวทีนึงตรงแยก จากนั้นก็ขับตรงไปเรื่อยๆ ภาพตลาดกลางคืนตลอดซอกซอยที่ดูแล้วน่าคึกคักก็ปะทะเข้ากับสายตาทั้งสองคู่
ตลาดกลางคืนแห่งนี้มีโครงสร้างง่ายๆ คือทุกร้านตั้งเรียงกันเป็นเอ้าท์ดอร์ตลอดทั้งแนว กับแสงไฟนีออนสร้างสีสันในยามกลางคืน กลิ่นหอมๆของเนื้อย่างลอยเข้ามาแตะจมูก ควันมุงจับตัวหนาทึบคล้ายกับก้อนเมฆ ให้ความรู้เหมือนที่แห่งนี้เป็นแดนดินถิ่นสวรรค์ก็ไม่ปาน
แต่ในความเป็นจริงนั้น “สาวบ้านนอก เธอรู้หรือเปล่าว่าควันที่เกิดจากการเผาย่างแบบนี้ มันจะกลายเป็นแก๊สเสียที่สร้างมลพิษให้กับอากาศ?”
หลินซีเหวินทุบกำปั้นลงบนหน้าอกของหลงจื๋อแรง “หุบปาก!”
หลินซีเหวินในชุดกระโปรงยาวแบรนด์เนมกับหลงจื๋อที่สวมชุดสูทอิตาลีงานทำมือ จอดรถไว้ด้านนอกซึ่งห่างจากตัวตลาดพอสมควร ทั้งคู่เดินเท้าไม่นานก็เข้ามาปะปนอยู่ในถนนคนเดิน
ทุกร้านอาหารจัดที่นั่งสำหรับลูกค้าง่ายๆโดยส่วนใหญ่จะเป็นเก้าอี้ไม้ตัวเตี้ยกับเก้าอี้พลาสติกตัวเตี้ยๆ ทุกครั้งที่ลมพัดเข้ามา กระโปรงยาวก็พร้อมจะพลิ้วตามสายลมไปทุกเมื่อ
“สองท่านรับอะไรดีครับ? เครื่องดื่มร้านเรามีเบียร์กับน้ำเปล่า ส่วนของกินไปเลือกได้ทางด้านนู้น ราคาคิดตามจำนวนไม้เสียบ ถ้าต้มคิดตามจำนวนขีด ยังมีล็อบสเตอร์มินิที่เพิ่งออกจากหม้อ ตรงนี้…”
พนักงานวัยรุ่นตะโกนแหกปากแนะนำอาหาร ทันใดนั้นลมก็หอบมาอีกระลอก หลินซีเหวินกำลังสนใจอยู่กับเมนูจึงไม่ทันระวังกระโปรงบางเบาที่พลิ้วสูงขึ้น…
พนักงานหนุ่มจ้องไปที่กระโปรงของเธอด้วยแววตาลุกวาว สายตาเต็มไปด้วยความหื่นกาม
หลงจื๋อขมวดคิ้วไม่รู้ตัว “พอ! เดี๋ยวพวกฉันจะสั่งเอง!”
พนักงานหนุ่มโดนไล่ดังนั้นจึงจากไป หลงจื๋อหันไปกล่าวโทษหญิงสาวที่เพศภาวะไม่ชัดด้วยใบหน้าหงุดหงิด “ผู้หญิงที่หมู่บ้านเธอ ง่ายแบบนี้กันทุกคนหรือไง?”
หลินซีเหวินไม่เข้าใจ “หมายความว่าไง?!”
ลมพัดมาอีก กระโปรงเจ้ากรรมก็ไม่วายกระโดดโลดเต้น หลงจื๋อเห็นแล้วยิ่งเหนื่อยหน่ายมากขึ้น นิ้วเรียวยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อสูทออก แล้วส่งให้หลินซีเหวิน “ที่นี่อากาศร้อน เธอเอานี่ไปใช้สิ”
ตอนแรกเธอตั้งใจจะด่า แต่นาทีนี้หญิงก้มหน้าต่ำมองกระโปรงของตัวเอง ก็รีบเอามือปิดแทบไม่ทัน!
“โอ้ ชิท!!!”
หลงจื๋อยกนิ้วเรียวขึ้นลูบคิ้วหนา “ไม่ต้องปิดละ คนเขาเห็นกันไปถึงไหนต่อไหนแล้ว”
หลินซีเหวินรีบดึงสูทของเขามาคลุมบนขา “ทำไมนายไม่รีบบอก!!”
หลงจื๋อทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ “พอคิดไปถึงเอกลักษณ์เฉพาะของหมู่บ้านเธอ ฉันก็นึกว่าไม่จำเป็นน่ะสิ”
หลินซีเหวินอยากจะบีบคอเขาให้ตายคามือ!
“หน้าไม่อาย!!”
ถอดเสื้อให้ยังมาโดนด่าอีก หลงจื๋อไม่ต่างอะไรกับพระรองในซีรี่ส์ผู้น่าสงสาร
ไม่นาน ของกินที่สั่งก็เสิร์ฟเต็มโต๊ะ แต่ละอย่างไม่ว่าจะสีสันหรือรสชาติล้วนจัดจ้านไม่แพ้กัน
บนต้นขาของหลินซีเหวินถูกคลุมด้วยสูทของหลงจื๋อ (เป็นสูทอิตาลี่ทำมือ รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น และนี่เป็นครั้งแรกที่หลงจื๋อใส่) แขนเสื้อลากยาวจนแตะกับพื้น แต่เพราะแบบนี้เลยช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับขาเรียวได้ทุกครั้งที่ลมหนาวเข้ามาเยือน เพราะแบบนี้หลินซีเหวินก็เลยอารมณ์ดี
ดีซะจนต้องลุกขึ้นมาแนะนำของกินบนโต๊ะ “คุณชายรองหลงคงยังไม่เคยกินพวกนี้สินะ? อันนี้คือหอยหลอดต้มพริกแกง อร่อยสุดๆ อันนั้นคือล็อบสเตอร์มินิอบน้ำมันงา รับรองว่านายจะต้องชอบ! ส่วนนี่คือถั่วลิสงคั่ว รสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของที่นี่…”
เธอแนะนำอะไรทั้งหมดให้เขาฟังรอบนึง ทำเอาหลงจื๋อหมดความอยากอาหารไปเสียอย่างนั้น
“สาวบ้านนอก เธอแน่ใจใช่ไหมว่าถ้ากินของพวกนี้เข้าไปฉันจะไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล?” ของแต่ละอย่างดูไม่ค่อยเหมือนสิ่งที่กระเพาะมนุษย์จะสามารถย่อยได้
“กลัวอะไร? ถ้านายต้องเข้าโรงพยาบาลจริงพี่สาวคนนี้จะรักษาให้เอง ประตูโรงพยาบาลหวาเซี่ยพร้อมต้อนรับนายเสมอ รีบชิมสิ!”
ใต้ความหวังดีแกมบีบบังคับของหลินซีเหวิน หลงจื๋อเลือกที่จะมองความตายเป็นเรื่องธรรมชาติ
แต่อาหารในตลาดกลางคืนแห่งนี้แม้หน้าตาจะดูแปลกๆแต่รสชาติดีไม่น้อย ยิ่งเห็นคนรอบข้างกินกันเอร็ดอร่อย เขาก็พลอยอยากอาหารไปด้วย เขากวาดสายตาศึกษาวิถีการกินจากคนอื่น จากนั้นก็หยิบถุงมือพลาสติกขึ้นมาใส่ ชายหนุ่มจับล็อบสเตอร์มินิขึ้นมาใส่เข้าปาก ท่าทางการกินไม่เรียบร้อยสักนิดเลย ลบภาพลักษณ์คุณชายของหลงจื๋อไปจนหมด
“คุณชายรองหลง กินล็อบสเตอร์คู่กับเบียร์ยิ่งอร่อย ฉันขอชนแก้วขอบคุณที่นายเลี้ยงข้าวฉัน”
ขวดเบียร์ขวดใหญ่รินของเหลวจนล้นแก้ว หลินซีเหวินยกขึ้นมาชนกับแก้วของหลงจื๋อ แต่หลงจื๋อชะงักไป “แก้วนี่มีคนใช้มาตั้งกี่คนแล้วก็ไม่รู้”
“โอ๊ย! นายนี่เป็นผู้ชายที่เรื่องเยอะสุดๆ!”
หลงจื๋อพยายามระงับเส้นเลือดที่เต้นตุบตับบนขมับ ชายหนุ่มยกแก้วที่ไม่รู้ว่าผ่านมากี่ปากผ่านเชื้อโรคมากี่ชนิด เขาหลับตากัดฟันพูด “ชนแก้ว!”
คำนึงกินเนื้อคำนึงดื่มเบียร์ ทั้งสองคนนั่งกินเพลินจนเวลาผ่านไปสองชั่วโมง ลูกค้าเก่าจากไปลูกค้าใหม่เดินเข้ามา ทั้งโต๊ะเก้าอี้เริ่มสะเปะสะปะ
ตลาดกลางคืนยังมีคนเข้าๆออกๆอย่างสม่ำเสมอ หนุ่มสาวกินจนพุงป่องก็จ่ายเงิน หลงจื๋อรู้สึกแปลกใจมากที่อาหารมากมายขนาดนั้นคิดเงินออกมาเป็นเงินแค่นี้
หลินซีเหวินเอาสูทของหลงจื๋อมาผูกที่เอว แล้วทิ้งตัวพิงกับแขนของชายหนุ่ม สายตามองไปยังฝูงชนส่งเสียงดังคึกคัก
หลงจื๋อผลักเธอออก “สาวบ้านนอก หน้าเธอเปื้อนน้ำมันงา เช็ดสะอาดหรือยัง!”
หลินซีเหวินขี้เกียจจะสนใจเขา เธอเอาหน้าถูๆกับแขนเสื้อ คราวนี้คงสะอาดแล้วนะ
จากนั้นเธอก็พูดด้วยความรู้สึกซึ้งใจ “คุณชายรองหลง ดูคนพวกนั้นสิ พอเทียบกับชีวิตหรูหราแบบพวกนายแล้ว สิ่งที่คนเหล่านั้นมีคือดอกไม้ไฟที่อบอุ่นแถมยังสัมผัสได้ ดอกไม้ไฟที่ร้อนแรง…เหอๆ คนมากมายที่ต่อให้พยายามแทบตายก็ไม่มีทางจะได้สัมผัสกับอะไรแบบนี้”