คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 305 คนสวย จะสูบเงินกันหรือไง
ตอนที่ 305 คนสวย จะสูบเงินกันหรือไง
ถังจิ้นเหยียนดูนาฬิกาข้อมือ เหลืออีกสิบนาทีก็จะถึงเวลานัด ในฐานะสุภาพบุรุษ จะสายตั้งแต่เดทแรกก็คงไม่ค่อยดีนัก
ดังนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้น “เอางี้แล้วกัน คุณโทรเรียกประกันมา เรื่องนี้ให้ประกันเป็นคนจัดการดีไหม? ผมมีธุระนิดหน่อย เสร็จธุระแล้วผมจะกลับมาจัดการให้แน่นอน ได้ไหมครับ?”
ผู้หญิงคนนั้นเห็นถังจิ้นเหยียนพูดจาอ่อนโยนสุภาพ กลายเป็นยิ่งหงุดหงิด มือทั้งสองข้างเท้าเอวส่งเสียงหึ “คนอะไร ชนรถคนอื่นแล้วยังคิดจะหนี? ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองเอาซะเลย! เหอะๆ!ชดใช้มา! ถ้าไม่ชดใช้วันนี้อย่าหวังจะหนีไปได้”
สายตาถังจิ้นเหยียนเหล่ไปมองนาฬิกาอีกครั้ง “เรื่องชดใช้ผมชดใช้ให้อยู่แล้ว แต่ต้องรอประกันมาเช็คสภาพรถก่อนผมถึงจะรู้จำนวนเงิน” ขณะพูดเขาก็ล้วงไปหยิบนามบัตรออกมาให้ “คุณรับนี่ไว้ ถ้าหลังจากนี้มีอะไรก็โทรหาผมได้ตลอด”
หญิงคนนั้นมองนามบัตร ก่อนจะเบิกตาโต ผู้ชายคนนี้เป็นถึงศัลยแพทย์! แถมยังตำแหน่งสูงกว่าหมอทั่วไปอีก! อาชีพประเภทหมอพวกนี้ นิสัยรักความสงบไม่ชอบมีปัญหา โอกาสแบบนี้จะปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆไม่ได้
“เหอะ! นามบัตรจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ คุณรีบฉันก็รับเหมือนกัน รีบๆชดใช้มาซะ รถฉันมันรถใหม่ ไฟหน้าโดนชนแตกขนาดนี้ต้องรีบซ่อม คุณก็ดูน่าเชื่อถืออยู่หรอก เอางี้แล้วกัน จ่ายมาสี่หมื่น เรื่องจะได้จบๆ”
สี่หมื่น?
หญิงสาวในรถเบนซ์สีขาวได้ยินคำว่าสี่หมื่น ก็หันไปดูสถานการณ์ของทั้งสองฝ่าย จากนั้นเปิดประตูรถเดินลงมา “คนสวยคนนั้นน่ะ สี่หมื่น? คิดจะขูดรีดกันหรือไง?”
เจ้าของเบนซ์สวมชุดกระโปรงยาวสีชมพูอ่อน คู่กับรองเท้าส้นสูงแหลมสีเข้าเซท ผิวขาวนุ่มสะท้อนใต้แสงอาทิตย์ส่องประกายสดใส ยามเดินเข้ามาใกล้ผิวขาวสว่างจ้าจนเหมือนเปล่งแสงได้กระทบสายตาคนมอง
หญิงวัยยืนอยู่มองเธอ ก็ขึ้นเสียงสูงด่าทอทันที “นั่งนี่! แส่อะไรไม่ทราบ!”
หญิงสาวที่ถูกชี้หน้าด่าไม่รู้สึกโกรธหรือทำตัวไม่ถูกแม้แต่น้อย น้ำเสียงของเธอยังคงสบายๆไม่เปลี่ยน “คนสวย ตอนนี้ผู้ชายคนนี้กลับรถเขาเปิดไฟท้ายแล้ว อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์ที่เจ้าของรถเปิดไฟส่งสัญญาณ คุณว่าใครที่ต้องเป็นคนรับผิดชอบไม่ทราบ?”
“ไร้สาระ! รถฉันอยู่ข้างหลังฉันจะไปเห็นได้ไง!” หญิงคนนั้นไม่พอใจมากขึ้นไปอีก เธอแหกปากดังลั่น พร้อมหันกลับไปมองสามี เห็นเขากำลังจ้องหญิงสาวอีกคนตาลุกวาวจนน้ำลายแทบจะไหลออกจากปาก
หญิงคนนั้นเหยียบเท้าสามีแล้วบดขยี้อย่างแรง “มองอะไร! นังจิ้งจอกนี่มีอะไรน่าดู!”
ความเจ็บแปล๊บขึ้นที่ปลายเท้า เขาร้องโอดโอยอยู่สักพัก ก็เด้งตัวขึ้น “ใช่! ก็เมียผมมองไม่เห็นไฟท้ายของคุณ คุณนั่นแหละซี้ซั้วขับรถมาชนไฟหน้าผม นี่มันเมืองหลวงนะคุณ ทำผิดจะไม่รับผิดชอบได้ที่ไหน รีบๆชดใช้มาซะดีกว่า จะได้รีบๆแยกย้ายกันไป จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทั้งสองฝ่าย”
ถังจิ้นเหยียนเห็นว่าเวลานัดใกล้จะเข้ามาทุกที ชายหนุ่มควักกระเป๋าตังค์ออกเตรียมจะจ่ายเงินชดใช้ แต่ทันทีที่ล้วงออกมาได้ไม่ถึงวินาที กระเป๋าตังค์ก็ถูกมือเรียวแย่งไป หญิงสาวที่เข้ามาใหม่แสยะยิ้ม “คุณผู้หญิง เมื่อกี้บอกว่าไม่เห็นที่เขาเปิดไฟท้ายสินะ? ตรงนี้มีกล้องวงจรปิดพอดี งั้นพวกเราไปขอดูกล้องวงจรปิดหน่อยเป็นไง ถ้าเป็นความผิดของผู้ชายคนนี้จริง ฉันรับประกันว่าเขาจะจ่ายให้ไม่ขาดแม้แต่บาทเดียว แต่ถ้าคุณใส่ร้ายเขา งั้นขอโทษที ที่พวกคุณต้องชดใช้เกรงว่าจะไม่ใช่แค่คำขอโทษ แต่ต้องชดใช้ที่ทำให้เขาต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นไง?”
สองสามีภรรยารีบหันศีรษะมองตามไป แล้วก็เป็นอย่างที่เธอพูด แถวนี้มีกล้องวงจรปิดอยู่ไม่น้อยทีเดียว
“หึ! ถือว่าฉันซวยแล้วกัน!”
ทั้งคู่กลับเข้าไปในรถแล้วเดินเกียร์ขับถอยออกไป ไม่นานเสียงเครื่องยนต์ก็หายไปพร้อมควันรถ
ถังจิ้นเหยียนหันกลับไปมองหญิงสาว แล้วก้มศีรษะให้เล็กน้อย “เมื่อครู่ต้องขอบคุณคุณมาก ผมลืมคิดเรื่องกล้องวงจรปิดไปเลย โชคดีที่คุณมาเตือนไว้ซะก่อน”
หญิงสาวเขย่ากระเป๋าตังค์ในมือไปมา “ถ้าเมื่อกี้ฉันไม่เข้ามาก่อน คุณคงจะหยิบเงินให้เธอไปแล้ว? คุณขับรถราคาแพงๆสวมเสื้อผ้าแบรนด์เนม เงินสี่หมื่นคงเป็นแค่เศษหน้าแข้ง แต่ว่านะคุณผู้ชาย จู่ๆก็ต้องมาจ่ายเงินสี่หมื่นทั้งที่ตัวเองไม่ผิดนี่คุณไม่คิดว่ามันไม่ยุติธรรมหรอ?”
ถังจิ้นเหยียนฟังที่เธอพูดก็หุบยิ้ม “ผมแค่อยากรีบให้เรื่องมันจบๆ เลยไม่ได้คิดอะไรมากมาย เมื่อกี้นี้ขอบคุณมาก ว่าแต่คุณผู้หญิงจะเอากระเป๋าตังค์ผมคืนได้หรือยัง?”
หญิงสาวถือกระเป๋าตังค์เขาไว้ เมื่อครู่เผลอเหลือบไปเห็นบัตรประชาชนของเขาเข้า ทำให้เห็นชื่อถังจิ้นเหยียนชัดเต็มสองตา
ดังนั้นเธอจึงอดสำรวจชายหนุ่มตรงหน้าไม่ได้ หน้าตาผ่าน ส่วนสูงผ่าน ออร่าผู้ดีมีเงินแผ่ซ่านไปทั้งตัว โดยรวมนับว่าไม่เลว แถมได้ยินว่าเป็นศัลยแพทย์ โปรไฟล์สะอาดเรียบร้อยไม่พบอะไรที่ไม่ดี ดูท่าผู้ชายคนนี้จะใช้ได้อยู่
“นี่คุณ ฉันช่วยคุณแก้สถานการณ์ จนคุณไม่ต้องเสียเงินสี่หมื่น ไม่คิดจะแสดงความขอบคุณสักหน่อยหรือไง?”
หญิงสาวยืนกอดอก พร้อมกับเหน็บกระเป๋าตังค์ไว้ในซอกแขน ใบหน้ายิ้มๆเหมือนคนจะหาเรื่อง ผมสีน้ำตาลดัดลอนพาดอยู่ริมคอสวยระหงส์ เครื่องแต่งกายจากแบรนด์ดังตั้งแต่หัวจรดเท้า
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว “ตอนนี้ผมกำลังรีบ เอาแบบนี้ คุณเอานามบัตรผมไป รอผมจัดการธุระเสร็จเรียบร้อยค่อยหาวิธีขอบคุณคุณอย่างเป็นทางการ เป็นไงครับ?”
หญิงสาวเดินเข้าไปพิงกับรถของเขา ดวงตากลมกรอกไปทางซ้ายทีขวาที “มาจอดรถหน้าร้านอาหารฝรั่งแบบนี้ ธุระที่ว่าคงเป็นเดทมากกว่ามั้ง? ดูคุณรีบขนาดนี้ นัดแฟนไว้หรอ? แคร์เธอมาเลยสินะ?”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ คุณผู้หญิงโปรดคืนกระเป๋าตังค์ให้ผม แล้ววันหลังผมจะมาขอบคุณคุณด้วยตัวเอง เป็นไง?”
“ไม่ยังไง ในเมื่ออยากจะขอบคุณ ก็ขอบคุณซะวันนี้เลยสิ เราสองคนอยู่หน้าร้านนี้พอดี ไม่งั้นก็เลี้ยงข้าวฉันสักมื้อ อาหารแค่มื้อเดียวราคาไม่ถึงสี่หมื่นอยู่แล้ว คุณไม่ขาดทุนหรอก”
หญิงสาวเอากระเป๋าตังค์ในมือหมุนเล่นไปมา ก่อนจะวางมันลงในกระเป๋าสะพายของตัวเอง เธอตบกระเป๋าเบาๆ “ในกระเป๋าตังค์คุณคงมีบัตรสำคัญๆอยู่ใช่ไหม? ถ้ากลัวฉันจะทำหายก็รีบมาเอากลับไปสิ”
ถังจิ้นเหยียนเหนื่อยหน่าย นิ้วเรียวกดลงตรงขมับทั้งสองข้าง “คุณทำแบบนี้ต่างอะไรกับผู้หญิงคนเมื่อกี้?”
คนนึงจะเอาเงิน ส่วนอีกคนก็ดึงดันจะให้เขาเลี้ยงข้าว ว่ากันตามหลักเหตุผลมันก็ไม่ได้ต่างกัน
หญิงสาวกลับยิ้มโปรยเสน่ห์ “โนโนโน ไม่เหมือนกันแน่ เพราะฉันสวยกว่าผู้หญิงคนนั้นเยอะ หรือคุณจะบอกว่าไม่จริง?”
เหตุผลนี้ ถังจิ้นเหยียน…พูดไม่ออกเลยจริงๆ!
คนสมัยนี้มันเป็นอะไรกันไปหมด!
ถังจิ้นเหยียนผายมืออย่างหมดคำพูด “คุณผู้หญิง ผมยังมีธุระต้องทำ ถ้าคุณชอบกระเป๋าตังค์นั่นก็เอาไปเถอะ”
พูดจบ ถังจิ้นเหยียนก็ก้าวขายาวเดินเข้าไปในรถ เตรียมจะเข้าเกียร์จอดให้เรียบร้อย แต่หญิงสาวกลับวิ่งมายืนอยู่ด้านหน้ารถ เธอกางแขนทั้งสองข้างออก พร้อมส่งยิ้มผ่านกระจกหน้ารถมาให้ “นี่คุณ ที่จอดรถมันเหลืออยู่แค่ที่เดียว ในฐานะสุภาพบุรุษไม่ควรจะเสียสละให้สุภาพสตรีหรือไง? ฉันก็ต้องจอดรถเหมือนกัน”
ถังจิ้นเหยียนประคองพวงมาลัย จากที่อารมณ์ดีๆ แต่ผู้หญิงคนนี้เกาะแกะไม่เลิกจนเขาชักหงุดหงิด “กระเป๋าตังค์ผมก็ให้คุณไปแล้ว คงจะหาที่จอดที่อื่นได้อยู่หรอก”
ตอนนี้เขาสายมาสิบนาที ถังจิ้นเหยียนที่เป็นคนตรงต่อเวลามาตลอดชักเริ่มอารมณ์เสีย
“ก็ฉันชอบที่จอดรถตรงนี้วันนี้ฉันจะต้องจอดตรงนี้ให้ได้ คุณไปจอดที่อื่นเถอะ”
พูดจบเธอก็รีบสอดตัวเข้าไปในรถ แล้วเดินเกียร์ กะว่าหากด้านข้างไม่มีคนเธอก็พร้อมจะเบียดเสียดเข้าไปในซอกแคบๆ ในขณะที่ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้วอย่างหมดความอดทน “ได้!”
ต่อล้อต่อเถียงไปก็ไม่ช่วยอะไร ถังจิ้นเหยียนเลือกที่จะถอยออกมา แถวๆนี้จะต้องมีที่จอดรถอยู่อีกแน่ ผู้หญิงคนนี้ขืนคุยต่อไปก็มีแต่จะคุยไม่รู้เรื่อง
“นี่!”
หญิงสาวเห็นชายหนุ่มเตรียมจะขับรถออกไป ก็รีบเปลี่ยนทิศทางพวงมาลัยตามถังจิ้นเหยียนไป “นายนี่น่าเบื่อชะมัด! ไอทึ่ม!”
ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว “ไอทึ่ม?”
“นี่! จะไปไหนน่ะ? ไม่ไปเดทแล้วหรือไง?!”
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”
“นี่! ถังจิ้นเหยียน!”
หญิงสาวร้อนรนเธอตะโกนเรียกชื่อเขา ชายหนุ่มนิ่งไปทันที “คุณรู้จักผม?”
หญิงสาวทุ่มหมัดลงบนพวงมาลัย “ถังจิ้นเหยียน ไม่แปลกใจว่าทำไมนายถึงโดนบังคับให้มาดูตัว นายมันสมควรแล้ว! ทำไมไม่เข้าใจอะไรบ้างเลยนะ เมื่อกี้นี้ฉันอุตส่าห์ชวนกินข้าว แต่นายกลับปฏิเสธฉัน นายเข้าใจหรือเปล่าเนี่ยการที่ผู้หญิงชวนกินข้าวมันหมายถึงอะไร?”
แววตาของถังจิ้นเหยียนสงบ ทั้งเวลา สถานที่ บุคคล ทุกอย่างล้วนเหมาะเจาะเข้าด้วยกัน วินาทีนั้นถังจิ้นเหยียนเข้าใจในทันที ผู้หญิงคนนี้ก็คือคนที่ครอบครัวเขาจัดการให้มาดูตัว
“คุณคือเจิ้งซิ่วหยา?”
“ใช่! ฉันเองแหละ! ถังจิ้นเหยียน ก่อนจะมาดูตัวนายไม่คิดจะดูรูปถ่ายของอีกฝ่ายเลยหรอ! ประสาทหรือเปล่าเนี่ย!”
เจิ้งซิ่วหยาโมโหจนหน้าแดง เธอหงุดหงิดที่ถังจิ้นเหยียนจำเธอไม่ได้ ในขณะที่เธอเองก็จำเขาไม่ได้เช่นกัน
แต่ที่ทำให้เจิ้งซิ่วหยารู้สึกเซอร์ไพรส์ก็คือ เธอผ่านการดูตัวมาหลายครั้ง ทุกครั้งที่เธอดูรูปถ่ายของอีกฝ่ายไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ แต่พอเจอตัวจริงกลับไม่ตรงปกทุกทีไป พอมาครั้งนี้ที่เธอไม่ได้ดูรูปแต่คนตรงหน้ากลับสร้างความเซอร์ไพรส์ให้เธอได้อยู่ไม่น้อย
“ในเมื่อคุณคือคุณเจิ้ง งั้นเรามาคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเลยดีกว่า ผมไม่คิดจะแต่งงาน เพราะงั้นไม่คิดจะดูตัวในตอนนี้ ที่ผมต้องมาตามนัดเป็นเพราะครอบครัวจัดการให้ แต่ตอนนี้เราก็เจอกันแล้ว งั้นแยกย้ายกันให้จบๆไปเลยดีกว่าจริงไหมคุณเจิ้ง?”
เจิ้งซิ่วหยาหัวเราะ “ถังจิ้นเหยียน นายมันกล้ามาก รู้ไหมว่าที่ผ่านมาฉันต่างหากที่เป็นฝ่ายปฏิเสธคนอื่น ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนกล้าปฏิเสธฉันมาก่อน ต่อให้เขาจะไม่ชอบฉัน แต่ฉันจะต้องเป็นฝ่ายชิงพูดก่อน!”
“ได้ คุณพูดสิ”
ทั้งคู่สบตากันผ่านกระจกรถสองคัน ซึ่งทิ้งระยะห่างแค่ไม่กี่เซนติเมตร
“ให้ฉันพูดก็ได้ แต่นายต้องแข่งกับฉัน ถ้านายชนะ ฉันรับรองว่าฉันจะกลับไปบอกที่บ้านให้ยุติการดูตัวในวันนี้ แต่ถ้านายแพ้ ต้องทำตามที่ฉันพูด”
ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่มีเหตุไม่มีผลสักนิด
“คุณจะแข่งอะไร? แข่งรถ?” ถังจิ้นเหยียนขมวดคิ้ว จินตนาการไม่ออกว่าผู้หญิงที่สวมชุดกระโปรงเป็นเจ้าหญิงมาแข่งรถจะเป็นยังไง
“แน่นอนว่าไม่ใช่!”
รู้อยู่แล้วว่าไม่ใช่
เจิ้งซิ่วหยายิ้มอ่อน ก่อนจะยื่นกำปั้นใส่ถังจิ้นเหยียน “เราไปเจอกันที่ศูนย์กีฬาเทควันโด แข่งเทควันโดกันเป็นไง?”
“ว่าไงนะ?”
ถังจิ้นเหยียนอึ้ง “เธอพูดว่าแข่งอะไรนะ?”
ผู้หญิงอย่างเจิ้งซิ่วหยาดูยังไงก็น้ำหนักไม่ถึงห้าสิบโล คิดจะมาแข่งเทควันโดกับผู้ชายตัวโตๆอย่างเขา?
“ฉันจะพูดให้เคลียร์ นายก็ฟังให้ชัดๆล่ะ ฉันจะแข่งเทควันโดกับนาย ทั้งหมดสามรอบ ถ้านายสามารถเอาชนะฉันได้แค่รอบเดียวจะถือว่านายเป็นฝ่ายชนะ เรื่องดูตัววันนี้ฉันจะคิดซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น เป็นไง?”
ถังจิ้นเหยียนถอนหายใจส่ายหน้า “คุณเจิ้ง นี่มันไร้สาระมาก”
“ไร้สาระหรือเปล่า แข่งเสร็จก็รู้ กลับรถ ไปศูนย์กีฬาเทควันโด”