คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 297 เกาหยิ่งจือโดนจับ
ตอนที่ 297 เกาหยิ่งจือโดนจับ
ทางโรงงานเมื่อพวกเขาได้ยินว่าหลงเซียวจะเพิ่มค่าโอทีให้สิบเท่า ทำงานเสร็จแล้วจะให้หยุดหนึ่งอาทิตย์ เหล่าพนักงานต่างก็ดีใจ ถึงไม่กินไม่นอนพวกเข้าก็ต้องผลิตงานนี้ให้เสร็จจนได้
วันเริ่มงาน พนักงานก็ใช้ผลงานเป็นสิ่งยืนยันความสามารถของพวกเขา
เดิมแล้วเป็นงานที่ต้องใช้เวลาสองวันจึงจะทำเสร็จ พวกพนักงานทำเสร็จตั้งแต่ตีสอง จากนั้นก็เป็นขั้นตอนการประมวลผล ทุกอย่างเร็วกว่ากำหนดการหนึ่งเท่า
ไป๋เวยกับกู้เยนเซิน ก็อยู่ทำงานในโรงงานร่วมกับกลุ่มพนักงานด้วย ทั้งสองคนก็ไม่ได้หลับมาหนึ่งวันหนึ่งคืนแล้ว จนถึง11โมงเช้าของวันที่สอง ทุกคนจากความตื่นเต้นจนเหนื่อยล้า
“ทำต่อไปแบบนี้ไม่ใช่วิธี ต้องให้พนักงานพักผ่อนก่อน ทำงานด้วยความเหนื่อยล้าจะลดคุณภาพการทำงาน อีกอย่างฉันกลัวคนงานจะทิ้งชีวิตเพราะเงินเดี๋ยวจะเกิดเรื่องขึ้นมา"
ไป๋เวยไม่วางใจ กู้เยนเซินเห็นด้วยกับความคิดเธอ โดยเฉพาะตาแพนด้าของไป๋เวย อย่าว่าแต่คนอื่นเลย แค่พวกเขาเดินดูงานอดนอนกับพวกพนักงานยังทนไม่ไหวเลย
“ประธานไป๋ รีบกลับไปนอนก่อน ขอบตาดำของคุณจะปิดใบหน้าคุณอยู่แล้ว” กู้เยนเซินหาวไม่หยุด ว่าแต่ประธานไป๋ ตัวเองหาวจนน้ำตาไหล
“คุณก็เหมือนกัน ฉันไปแจ้งพนักงานให้กลับบ้านนอน เริ่มงานสองทุ่ม ทุกคนต้องพักผ่อนสักพัก”
“ได้”
ยากที่ทั้งสองความคิดตรงกัน จากคำโน้มน้าวของทั้งสองพนักงานเห็นด้วยกับข้อเสนอของพวกเขา พนักงานต่างก็ง่วงซึมกันแยกย้ายกลับบ้าน ในโรงงานจากเสียงดังกลายเป็นสงบเงียบทันที
ไป๋เวยฝืนร่างที่มึนเวียน มือปิดปากหาว “ประธานกู้ ฉันกลับก่อนนะคะ”
กู้เยนเซินมองเธอที่สายตาสะลึมสะลือจากการอดนอน จึงเข้าไปขวางไป๋เวยไว้ “ไม่เอาแล้ว คุณแบบนี้แล้วยังขับรถ? คุณไม่กลัวตาย ผมกลัวคนบนถนนจะโดนคุณชนตาย”
ไป๋เวยกลอกตาใส่เขา “ฉันไม่เป็นไร วางใจเถอะ ฉันไม่ได้อ่อนแออย่างที่คุณคิด”
“เอาเถอะนะ ขับรถด้วยอาการอ่อนเพลียเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ผมขับเอง คุณไปนั่งเลย”
ไป๋เวยขมวดคิ้ว “คุณก็ไม่ได้นอนเหมือนกัน? ฉันขับด้วยอาการอ่อนเพลีย คุณก็เหมือนกัน” พูดไปไป๋เวยก็หาวอีก
“พอแล้ว ง่วงขนาดนี้แล้วยังฝืนอีก ผมส่งคุณเอง ตามนี้แหละ คุณอย่าเข้าใจผิดละประธานไป๋ ผมกลัวว่าถ้าคุณเป็นอะไรขึ้นมา เรื่องวุ่นวายพวกนี้ผมต้องจัดการคนเดียว เพราะฉะนั้นคุณต้องไม่เป็นไร”
ไป๋เวยขี้เกียจเถียงกับเขา ยืนกุญแจให้เขา “ได้ ประธานกู้จะเป็นคนขับรถให้ทั้งที เป็นเกียรติของฉันอย่างยิ่ง”
“ที่อยู่ให้ผมด้วย”
“เลขที่197ถนนเถาหยวน”
กู้เยนเซินขมวดคิ้วมองเธอ สีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ “คุณพักที่ถนนเถาหยวน?”
“ทำไม? ไม่ได้เหรอ?”
กู้เยนเซินยิ้มไม่พูดอะไรอีก นำกุญแจในมือเปิดประตูรถ
ร่างกายไป๋เวยไม่ได้ดีอย่างผู้ชายร่างใหญ่อย่างกู้เยนเซิน ระหว่างทางก็นั่งหลับอยู่ที่นั่งข้างคนขับ หัวเอียงไปเอียงมาอยู่ที่เบาะ สีหน้าอ่อนเพลีย บุคลิกเดิมไม่อยู่แล้ว แต่ใบหน้าอ่อนเพลียนี้ไม่เหมือนความเข้มงวดเฉียบขาดที่ออฟฟิศแล้ว
ไป๋เวยตอนนี้ก็เหมือนผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการใครสักคนมาปกป้อง แสดงความอ่อนโยนออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
กู้เยนเซินมองหน้าด้านข้างของไป๋เวย รู้สึกใจหวั่นไหว
ดูแบบนี้แล้ว ใบหน้าที่อ่อนเพลียไร้เครื่องสำอาง อย่าว่าแต่สวยงามน่าดึงดูดเลย ความอ่อนเพลียทำให้เธอดูแล้วมีความรู้สึกเศร้าโศก
แต่ใจสั่นไป เต้นแรงจนควบคุมไม่ได้ ฟังชัดขนาดนี้
กู้เยนเซินบังคับตัวเองหันกลับมา “แม่ง ไม่ใช่มั้ง ฉันคงไม่ได้ชอบนางไดโนเสาร์นี้หรอกมั้ง?”
ตกใจกับความคิดตัวเอง กู้เยนเซินเกือบมือลื่นขับไปชนเกาะกั้นระหว่างถนน เรียกสติคืนมา สูดหายใจเข้าลึกๆ เป็นไปไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักความอ่อนโยนคืออะไร เขาจะชอบได้ยังไง?
เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด
รถมาถึงคอนโดหรูของไป๋เวย กู้เยนเซินเรียกด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ประธานไป๋ ถึงแล้ว”
เรียกไปครั้งหนึ่ง ไม่ตอบ กู้เยนเซินมองหน้าเธอ เรียกอีกครั้ง “ประธานไป๋ ถึงบ้านแล้ว คุณลงรถได้แล้ว”
ไป๋เวยหลับสนิท อืมในลำคอไปทีหนึ่ง หนังตาหนังลืมไม่ขึ้น “อืม……”
เสียงตอนไปคำหนึ่งจากนั้นก็เงียบ เข้าสู่อาการเหนื่อยล้าอ่อนเพลีย
กู้เยนเซินเกาหัวทำพูดอะไรไม่ออก “ไป๋เวย ลงรถ”
“เหนื่อย”
เสียงอันเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียออกมาจากปากของไป๋เวย ปราศจากคราบความเฉียบขาดในตัวเธอ กลับเห็นความอ่อนแอของผู้หญิง
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเหนื่อยจึงทำให้หูมีปัญหา ผู้หญิงคนนี้ก็มีด้านความอ่อนโยนอยู่เหมือนกัน สรุปตอนนี้ กู้เยนเซินงงมาก
เอานิ้วจิ้มไหล่เธอ เรียกเสียงเบา “เฮ้?”
กู้เยนเซินมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง “หรือจะให้ผมอุ้มคุณขึ้นไป?”
ก้มตัวลงไปอุ้มไป๋เวยที่กลับหลับไม่รู้เรื่อง กู้เยนเซินขมวดคิ้วบ่น “ไป๋เวย คุณเป็นหนี้บุญคุณผมนะ คิดดูว่าจะคืนผมยังไง”
ส่วนสูงไป๋เวยเกือบ170 แต่เธอรูปร่างผอมสูง บนตัวไม่มีเนื้อเลย อุ้มขึ้นมาไม่หนักเลย
กู้เยนเซินรู้สึกว่าผู้หญิงที่เขาอุ้มอยู่กลิ่นบนตัวเธอหอมมาก กลิ่นน้ำหอมที่หลงเหลืออยู่เป็นกลิ่นสดชื่นไม่หนักมาก ไม่เหมือนผู้หญิงในผับบาร์ กลิ่นแรงจนเขารับไม่ได้ เหมือนทดสอบจมูกเขาอย่างนั้น ยิ่งในลิฟต์แคบๆ กลิ่นแรงจนทำให้ผู้ชายหน้าเบี้ยวไปเลย
เขาต้องควบคุมฮอร์โมนในร่างกาย กู้เยนเซินตื่นทันที ความง่วงซึมเมื่อกี้ได้หายไปหมดแล้ว ให้ตายซิ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้ยังมีความสามารถในการทำให้สดชื่น
วางไป๋เวยไว้บนเตียงแล้ว กู้เยนเซินก็ไม่วายที่จะบ่นไปหลายคำ “ไป๋เวย จากนี้ไปก็เกรงใจผมด้วยนะ อย่าลืมความช่วยเหลือจากผมในวันนี้ละ”
ไป๋เวยตอบเสียงเบา “ขอบคุณ”
กู้เยนเซินเบิกตากว้าง “เฮ้ย คุณนี่หลับหรือไม่หลับกันแน่?”
ไป๋เวยเงียบไปไม่มีเสียงอะไรออกมาอีก
เธอนอนอย่างสบาย กู้เยนเซินผมยุ่งเหยิง
คอนโดไป๋เวยใหญ่มาก เป็นคอนโดหรูประมาณสองร้อยกว่าตาราง มีห้องนอนใหญ่ห้องเดียว ส่วนอื่นเป็นห้องแบบเปิดกว้างไม่ได้ทำห้องกั้น อย่างห้องหนังสือ ห้องรับแขก ห้องครัว ล้วนไม่ได้ทำที่กั้น ตกแต่งโทนสีขาวดำ มองเห็นแต่ความกระฉับกระเฉง ความสงบ ความสมเหตุสมผล
“โอ้โห ชั่งไม่เหมือนผู้หญิงเอาสักเลย”
ปากก็ว่าเธอไป กู้เยนเซินนั่งลงที่โซฟาในห้องรับแขกอย่างเหนื่อยล้า โน้มตัวลงไปก็หลับเลย
——
ห้องทำงานประธานบริษัทMBK
จี้ตงหมิงยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานของหลงเซียว เพื่อรอหลงเซียวดูเอกสารให้หมด
นิ้วเรียวยาวของหลงเซียวจับอยู่ที่มุมขวาของเอกสาร เปิดดูทีละหน้า ดูไปพูดไป “เริ่มเดือนหน้า เอาตามนี้ก่อน”
“ครับบอส”
หลงเซียวเซ็นชื่อของตัวเองอย่างรวดเร็ว เงยหน้าขึ้นพูด “ยังมีอะไรอีกไหม?”
จี้ตงหมิงรับเอกสารมา “บอสครับ เวลานี้คุณเกาน่าจะถูกจับแล้ว ผมว่า……เปิดทีวีดูหน่อยครับ”
“ออ?” หลงเซียวมือประสานกันวางบนโต๊ะ ในหน้ายิ้มอย่างมีเชิงและเย็นชา “ได้”
เปิดทีวีแล้วเป็นช่องของเมืองหลวงพอดี นักข่าวกำลังยืนรายงานข่าวหน้าโรงพยาบาล
“โรงพยาบาลหวาเซี่ยหัวหน้าแผนกอายุรกรรมแพทย์หญิงเกาหยิ่งจือ ถูกจับในข้อหาทำการซื้อขายอวัยวะโดยผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นพี่สาวของประธานบริษัทอึนเคอ ไม่ทราบว่าทำไมคุณเกาหยิ่งจือถึงเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการซื้อขายตลาดมืด? ซึ่งในตอนนี้หลักฐานมัดตัว……”
จ้องที่หน้าจอ สายตาดำคมของหลงเซียวก็ค่อยๆ ยิ้มอย่างเย็นชา “ดีมาก”
จี้ตงหมิงพูด “บอส จัดการเรียบร้อยแล้ว ครั้งนี้เกาหยิ่งจือได้รับโทษทำการซื้อขายผิดกฎหมาย ต้องอยู่ในคุกไปสักพักเลยครับ”
“ผู้หญิงอย่างเกาหยิ่งจือ กระดูกแข็ง ไม่สั่งสอนหน่อยเธอคงไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แบบนี้ก็ดี ให้เธอรู้รสชาติความลำบากหน่อย อีกหน่อยออกมาจะได้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนใหม่”
“ครับ บอส”
——
“ซื้อขายอวัยวะอย่างผิดกฎหมาย? แม่เจ้า หัวหน้าเกาทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้? ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย”
“หัวหน้าเกาปกติก็เป็นคนเข้าใกล้ยากอยู่แล้ว คิดไม่ถึงว่าเธอจะทำเรื่องแบบนี้ลับหลังได้ แม่เจ้า น่ากลัวมาก”
ในโรงพยาบาลเรื่องของเกาหยิ่งจือถูกเอามาพูดคุยกันทั่วโรงพยาบาล มีชื่อของเกาหยิ่งจืออยู่ทั่วทุกมุม ชั่วขณะเดียวเชื่อเกาหยิ่งจือสามตัวนี้ได้กลายเป็นศูนย์กลางหัวข้อในการพูดคุยไปแล้ว
ลั่วหานนั่งอยู่ในออฟฟิศ นิ้วกดตรงขมับ ในคอมพิวเตอร์เป็นเสียงตะโกนของเกาหยิ่งจือขณะถูกจับกุมตัว เสื้อคลุมสีขาวยุ่งเหยิงจากกันขัดขืน ผมที่เคยเรียบร้อยดูดีก็ยุ่งเหยิงไปหมด ไม่เหลือความสง่างามของหัวหน้าเกาเลย
ในใจลั่วหานรู้สึกอึ้ง วิธีที่หลงเซียวจัดการกับคนอื่นสุดยอดจริงๆ
“หมอฉู่?”
กำลังคิดจนเหม่อ หลินซีเหวินก็เรียกเธอ
ลั่วหานเงยหน้า “มีอะไร?”
“ดีใจละซิ ได้ยินตั้งนานแล้วว่าเกาหยิ่งจือยโสโอหังในโรงพยาบาล พวกหมอและพยาบาลก็กลัวเธอ เห็นเธอโดนจับน่าดีใจจริงๆ”
สายตาหลินซีเหวินหลังแว่นตานั้นมีแววประกาย ผิวพรรณอันอ่อนโยนเต็มไปด้วยสีสันแห่งความสุข
“ออ? ทำไมฉันรู้สึกว่า เธอดีใจขนาดนี้ ไม่น่าจะเป็นเพราะคนเลวถูกจับหรอกมั้ง? เท่าที่ฉันรู้มา เกาหยิ่งจือชอบหมอถัง แล้วผู้ช่วยของฉันก็ค่อนข้างพอใจในตัวหมอถัง ตอนนี้ผู้ช่วยหลินดีใจ เป็นเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?”
“เหอะๆ หมอฉู่นี่ฉลาดจัง แต่ว่า ที่ดีใจยังมีอีกสาเหตุหนึ่ง
“ออ? คืออะไร?”
“เพราะหมอไง ฉันได้ยินมาว่าเมื่อก่อนเกาหยิ่งจือชอบหาเรื่องหมอ หมอก็ไม่ได้ติดใจเอาเรื่อง ตอนนี้ดีเลย มีคนช่วยแล้ว หมอฉู่ดีใจมากใช่ไหม?”
ลั่วหานหัวเราะ แน่นอน มีคนช่วยเธอแล้ว เธอก็ย่อมดีใจ