คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 296 รอล่ามโซ่เฆี่ยน
ตอนที่ 296 รอล่ามโซ่เฆี่ยน
“เรื่องที่พวกหลงยี่ทำข้างนอก แค่ให้ขยับไม่ขยับมือหน่อยก็ค้นออกมาหมดแล้ว อุตส่าห์ไว้หน้าแล้วไม่เอา ถ้าอย่างนั้นก็ลองซิมลูกกระสุนดู”
ท่านเซียวสายตาเย็นชา แววความโหดเหี้ยมอยู่ในสายตาคู่นั้น ความโหดความเย็นชาที่หาที่เปรียบไม่ได้
กู้เยนเซินดูสีหน้าเขาที่มีก่อนเคลียร์เรื่องวุ่นวายทุกครั้ง จนปากโค้งขึ้น “ดูแล้วคุณชายหลงน่าจะมีแผนการในใจแล้ว”
เขาหัวเราะแล้วพูดว่า “แผนการ? คนอย่างหลงยี่ยังต้องให้ฉันวางแผนอะไร? มันนี่อยู่ต่างประเทศนานไปหน่อย ไม่เข้าใจสถานการณ์แล้ว ฉันต้องไปตักเตือนมันหน่อย”
กู้เยนเซินพยักหน้า สำหรับวิธีการจัดการปัญหาของหลงเซียว กู้เยนเซินก็แค่นับถือและชื่นชมเท่านั้น ทำได้แค่สนับสนุนทั้งวาจาและการกระทำ
เขายังแสดงความชื่นชมไม่จบ หลงเซียวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์อย่างรวดเร็ว โทรศัพท์ถูกรับขึ้นอย่างรวดเร็ว
น้ำเสียงกลับมาต่ำเข้มเหมือนเดิม นิ้วมือเคาะโต๊ะเป็นจังหวะ “ยังไงแล้วหลงยี่ก็เป็นคนของตระกูลหลง มันเกี่ยวข้องกับหน้าตาของตระกูลหลง ผมไม่หวังว่าคนอย่างนี้จะกระทบต่อMBK ยิ่งไม่อยากจัดประชุมผู้บริหารเพราะมัน เปลืองแรงไปอธิบายกับเต่าพันปี”
ไม่รู้ว่าคนทางโน้นพูดอะไร หลงเซียวพูดง่ายๆ ไปไม่กี่ประโยชน์ ก็วางสาย
กู้เยนเซินมองเขาอย่างสงสัย หวังอยากดูอะไรออกจากสีหน้าเขา “ใคร?”
หลงเซียววางโทรศัพท์ “คนที่จัดการเรื่องนี้ได้”
“แม่ง……เบื้องหลังนายนี่มีคนเท่าไหร่กัน? ฉันว่านะคุณชายหลง คนข้างหลังนายพวกนี้ก็น่าสงสารนะ หน้าตาชื่อเสียงนี่นายได้ไปคนเดียวเลย คนที่ลำบากคือพวกเขา ว่าไปแล้วนายก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร ใช่ไหม?”
หลงเซียวพยักหน้า “คุณชายกู้พูดถูก แต่ว่าการเป็นผู้นำควบคุมดูแลคนทำงานให้ฉัน และมั่นใจว่าพวกเขาจะซื่อสัตย์ต่อฉัน มันก็ถือเป็นความสามารถไหม?”
กู้เยนเซินตบหน้าผากตัวเอง “นายแน่มาก ฉันไม่ควรพูดเรื่องพวกนี้กับนาย นับถือ”
“ถ้านับถือ ก็จัดการเรื่องในมือให้เรียบร้อย เอกสารมูลค่าความเสียหายที่ฉันให้นายทำมีไหน?” หลงเซียวยื่นมือ
กู้เยนเซินหยิบแฟ้มสีฟ้าจากกองเอกสารของไป๋เวย “เพิ่งทำเสร็จส่งมา อยู่ในนี้หมดแล้ว แต่ว่านายจะเอาเอกสารนี้ทำไม? หรือว่านายซื้อประกันไว้ก่อน มีคนจ่าย?”
หลงเซียวเอาเอกสารมาเปิด สายตาหยุดที่จำนวนมูลค่าสุดท้าย “บริษัทประกันขั้นตอนยุ่งยากวุ่นวาย ฉันชอบแบบครั้งเดียวจบ”
ทิ้งคำพูดนี้ไว้ หลงเซียวก็เดินออกจากออฟฟิศ เหลือไว้แค่เงาที่จากไปของเขาให้กู้เยนเซิน
ครุ่นคิดคำพูดสุดท้ายของเขาแล้ว กู้เยนเซินจับคาง เหมือนเข้าใจอะไรแล้ว
——
“ฮาฮา ครั้งนี้ฉันจะดูว่าหลงเซียวมันจะเอาอะไรช่วยผู้หญิงคนนั้นอีก โรงพยาบาลต่างประเทศหลายเจ้าที่รอยาอยู่ล้วนเป็นโรงพยาบาลชื่อเสียงระดับโลกทั้งนั้น เรื่องนี้ถ้าถูกลือออกไป ป้ายชื่อบริษัทเฉียวซื่อยังไม่ได้แขวนขึ้นไปก็คงต้องล้มแล้ว”
“คุณชายหลงฝีมือเยี่ยมจริงๆ วิธีแก้ปัญหาจากต้นตอนี้ทำได้สวยงาม ใบสั่งของหลายใบของอเมริกาต้องส่งของภายในอาทิตย์นี้ มีเจ้าหนึ่งอีกสามวันก็ต้องส่งจากจีนไปอเมริกา อย่าว่าไม่มีโรงงานเลย ตอนนี้มีโรงงานแล้วเขา เขาก็ไม่มีปัญญาผลิตได้”
หลงยี่ดื่มไวน์คำหนึ่ง ในมือถือแก้วไวน์ไว้ ปากยิ้มอย่างเยาะเย้ย “หลงเซียว……เหอะ ตั้งแต่มันเกิดมา คนในตระกูลหลงก็ถูกมันกดดัน ในตระกูลหลงยิ่งไม่มีโอกาสให้ฉันได้พูดเลย ทุกคนต่างพูดว่า หลงเซียวเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจ ยิ่งเป็นบุคคลในตำนานแวดวงธุรกิจ ผมอยากรู้นัก ว่าบุคคลในตำนานอันสูงส่งนี้ถ้าตกต่ำถึงที่สุดแล้วมันจะเป็นยังไง”
“ยอดเยี่ยม ใครๆก็บอกว่าหลงเซียวเป็นตำนาน ผมดูแล้ว คนในตำนานที่แท้จริงเป็นคุณต่างหาก แต่ว่าน่าเสียดาย บริษัทMBKที่ก่อตั้งขึ้นมาโดยพ่อของคุณกับลุงรองของคุณ ตอนนี้กลับอยู่ในมือของหลงถิงพ่อลูก คุณชายหลง คุณยอมเหรอครับ?”
“เหอะ MBKก็มีส่วนหนึ่งเป็นของผมอยู่แล้ว ตอนนี้ถูกหลงเซียวกับหลงถิงครอบครองอยู่ ฝันไปเถอะ”
“คุณชายหลงอยากทำยังไง? พวกเราสนับสนุนคุณ”
ในห้องอาหารหรูแห่งหนึ่ง หลงยี่กับชายวัยกลางคนหลายคนกำลังคุยกันอย่างถูกคอ
กำลังดีใจและมีความเห็นเหมือนกัน เกี่ยวกับเรื่องที่จัดการกับหลงเซียว
พูดไปหัวเราะไป บรรยากาศสนุกสนาน
เมื่อดื่มกันไปสามรอบ เรื่องที่คุยยิ่งคุยยิ่งนอกเรื่อง ยิ่งคุยยิ่งใจกล้า ประตูห้องอาหารก็ถูกเปิดจากด้านนอก
แสงจากทางเดินส่องเข้ามาในห้อง ห้องหรูมีลมพัดเข้ามาทันที เหมือนจะพัดคนให้ลอยไป
พวกหลงยี่ต่างพากันหันหน้าไปดู ทันใดนั้นก็เห็นเงาร่างสูงท่ามกลางแสง บุคลิกน่าเกรงขาม เขาคือหลงเซียวนั่นเอง
หลงยี่มือสั่น เกือบบีบแก้วในมือแตก รีบปรับสภาพอารมณ์ตัวเอง มองดูสายตาเย็นชาของหลงเซียว “หลงเซียวนี่เอง นายมาได้ยังไง?”
พวกที่นั่งข้างหลงยี่ต่างเบิกตากว้าง มองหน้ากัน แล้ววางแก้วไวน์ลงพร้อมกัน “คุณหลง สวัสดีครับคุณหลง”
หลงเซียวไม่อยากสนใจพวกเขา แค่มองไปที่หลงยี่ “พี่มาจัดงานเลี้ยงใหญ่ที่นี่ บรรยากาศเฮฮาขนาดนี้ผมก็ต้องมาอยู่แล้ว”
หลงยี่หัวเราะ “นายมาก็ดีแล้ว มา ยังมีเหล้า ดื่มด้วยกัน”
หลงเซียวมือข้างหนึ่งใส่ในกระเป๋ากางเกง มืออีกข้างหนึ่งถือเอกสาร มุมปากยิ้มอย่างร้ายๆ “พี่เชิญผมกินเหล้า หรือว่าจะให้ผมนั่งเป็นเพื่อน?”
ชายกลางคนเหล่านั้นได้ยินคำพูดของหลงเซียวแล้ว ต่างก็ลุกขึ้นแล้วขอตัวจากไป “คุณชายหลง พวกเราขอกลับก่อน คุณสองพี่น้องค่อยๆ ดื่มกัน”
หลงเซียวกระแอมเสียง “รีบกลับทำไมครับ? ไม่รอดูก่อน?”
ดู?
กลัวแค่ยังดูไม่ถึงสาระสำคัญก็ดูจนหมดลมหายใจแล้ว
“ไม่ต้องครับ ไม่ต้องครับ คุณหลง พวกเราขอตัวก่อนครับ”
ต่างก็แยกย้ายกันออกไป ภายในห้องรับรองสงบขึ้นมาทันที สีหน้าหลงยี่เริ่มไม่ธรรมชาติ หลังดื่มเหล้าแล้วหน้าแดงเล็กน้อย แต่ก็บดบังความกังวลในสายตาเขาไม่ได้
หลงเซียวดึงเก้าอี้ที่ไม่มีคนนั่งเมื่อกี้มาอันหนึ่ง นั่งลงอย่างสง่า ไขว้ขา “พี่ดูอารมณ์ดีนะครับ ดูแล้วเหล้าเมื่อกี้น่าจะรสชาติใช้ได้”
หลงยี่ยิ้มพูด “ก็แค่เพื่อนเก่าแก่ในวงการธุรกิจ นัดกินข้าวเฉยๆ”
“ถ้าเป็นแค่การนัดกินข้าว แล้วยังเป็นเพื่อนเก่า พี่ได้ถามพวกเขาไหม ว่าถ้าอยากทำมาหากินในเมืองหลวง ต้องให้ผมพยักหน้าก่อน?”
เขาไม่ได้ใบ้คำด้วยซ้ำ พูดตรงไปตรงมาเลย เหมือนดาบแทงเข้าไปกลางอกเขา
“หลงเซียว คำพูดนายฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจ”
“เหอะ ไม่เข้าใจ? งั้นผมก็อธิบายให้ฟัง พี่จะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้” หลงเซียวโยนเอกสารในมือไปให้เขา “พี่ดูอันนี้ ถ้าไม่เข้าใจ ผมก็ไม่ถือที่จะใช้วิธีอื่นให้พี่เข้าใจ”
หลงยี่สีหน้าน่าสงสัย เปิดเอกสาร เอกสารความเสียหายของบริษัทเฉียวซื่ออยู่ตรงหน้า เขายิ้มมุมปาก เอนหลังไปแนบโซฟา ยิ้มพูด “นายเอาเอกสารของเฉียวซื่อให้ฉันทำไม หมายความว่ายังไง?”
หลงเซียววางมือไว้บนตัก ตอบด้วยรอยร้อยสง่างาม “พี่เห็นตัวเลขสุดท้ายแล้วใช่ไหม? ก่อนสองทุ่มวันนี้ โอนเงินจากบัญชีพี่ตามตัวเลขนั้นเข้ามาบัญชีด้านล่างนั่น”
“อะไร?”
หลงยี่ลุกขึ้นทันที เสียงสูงและดังขึ้นมาหลายเท่า
หลงเซียวยังคงรักษาอิริยาบถเดิม สีหน้าไม่เปลี่ยน “พี่ตื่นเต้นอะไร? ยังมีอีก โรงงานบริษัทเฉียวซื่อไฟไหม้ ใช้งานไม่ได้ชั่วคราว แต่ผมได้ยินว่าพี่เพิ่งสร้างโรงงานในเมืองหลงเสร็จ ช่วงนี้กำลังว่างอยู่พอดี จึงจะขอยืมมาใช้งาน”
“นาย……นายพูดอะไร?”
สีหน้าหลงยี่ตอนนี้ดูไม่ได้เลย เขาคิดไม่ถึงเลย หลงเซียวจะมาอยู่ตรงหน้าเขา แล้วยื่นขอเรื่องนี้อย่างเปิดเผย
“พี่ พวกเราต่างเป็นคนของตระกูลหลง คนหนึ่งมีปัญหา ก็ต้องช่วยเหลือกัน หรือว่าพี่จะมองดูผมตกยากโดยไม่ยื่นมือช่วย?”
“คำว่าช่วยเหลือฉันไม่กล้าหรอก นายอยู่ที่เมืองหลวงชื่อเสียงโด่งดัง เหอะๆ เกรงว่าฉันยังไม่คู่ควร”
“พี่จะไม่คู่ควรได้ยังไง? ได้ข่าวว่าหนึ่งปีก่อนพี่จ้างนักฆ่าแอบเข้าบ้านคนอื่นเลย ใช้ปืนจ่อหัวให้เขาเอาโฉนดที่ดินให้ พี่กล้าหาญขนาดนั้น เรื่องช่วยผมเล็กน้อยมาก?”
คำพูดของเขาเหมือนพูดเรื่องทั่วไป แต่ฟังเข้าหูหลงยี่แล้วเหมือนโดนฟ้าผ่า ทำให้เขางงไปทันที
“นาย……หลงเซียวนายอย่าใส่ร้ายคนอื่น”
หลงยี่ชี้หน้าหลงเซียวมือสั่น เห็นได้ชัดว่าไม่ค่อยมั่นใจ
หลงเซียวมองกลับไปเย็นชา ยิ้มเหมือนไม่มีอะไร “เรื่องที่พี่ทำเองหรือว่าลืมไปแล้ว? ต้องให้ผมช่วยเตือนความจำไหม? ในมือผมมีเอกสารพอดี เผื่อพี่ดูแล้วจะนึกอะไรขึ้นมาได้บ้าง”
สายตาคมกริบหนักแน่น ความมั่นใจที่ใครก็ก้าวร้าวหรือดูหมิ่นไม่ได้
หลงยี่ตัวสั่นไปทั้งตัว ฝืนตัวเองให้ยืน เสียงหัวเราะแบบไม่มั่นใจที่เกิดจากอาการตกใจ “หลงเซียว พี่น้องกัน ทำไมต้องบีบบังคับกันแบบนี้”
“แบบนี้ผมไม่กล้าหรอกครับพี่ ผมโดนบีบบังคับจนไม่มีหนทางแล้ว ไม่อย่างนั้น ทำไมต้องมาด้วยตัวเอง รบกวนเวลากินเหล้าของพี่? หือ?”
ทุกคำพูดของเขาล้วนเหนือชั้นกว่า ทำให้หลงยี่ถึงกับพูดไม่ออกสักคำ เรื่องที่เขาทำเองเขาย่อมรู้ดี แต่เขาไม่เคยคิดว่า หลงเซียวจะไปขุดคุ้ยเรื่องพวกนี้มา ฝีมือหลงเซียว……
คิดไปสักพัก หลงยี่ยิ้มแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นมา “โรงงานและเครื่องจักรนายใช้ได้เต็มที่ ต่างก็เป็นคนตระกูลหลง ไม่ใช่คนอื่น มีอะไรที่ให้พี่ช่วยได้ ก็บอกได้”
เบื้องหลังหลงเซียวมีอำนาจมากมายที่เขามองไม่เห็น ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะตรวจหาอะไรเจอเร็วขนาดนี้ หลงยี่รู้ว่าตอนนี้ไม่ควรกระทบกัน จึงต้องยอม
“เรื่องโรงงาน แน่นอน แต่ว่าบิลในมือพี่ อย่าลืมนะ ก่อนสองทุ่มคืนนี้ผมต้องได้เห็น”
พูดไปเขาก็หยิบยูเอสบีเล็กๆ ออกจากเสื้อสูท หยิบไว้ในมือกดไว้บนโต๊ะ “พี่ เรื่องบางเรื่องต้องจำไว้จะดีกว่า ไว้เตือนตัวเอง วันหลังจะได้ระวัง”
พูดจบ หลงเซียวก็จัดเสื้อสูท เดินออกจากห้องรับรอง
หลงยี่เข่าอ่อน ล้มลงไปที่โซฟา มองดูบิลกับยูเอสบี ไวน์ในมือเกือบหก
ไม่รู้แผ่นหลังเปียกไปตั้งแต่เมื่อไหร่
จี้ตงหมิงรออยู่ เห็นหลงเซียวออกมา รีบถาม “บอส คนงานถึงโรงงานตามคำสั่งแล้วครับ แต่คนกับการผลิตตอนนี้ ยากที่จะผลิตเสร็จภายในสามวัน เครื่องจักรในโรงงานคุณชายใหญ่มีจำกัด อุปกรณ์ที่สั่งซื้อไปใหม่ ยังอยู่ระหว่างขนส่ง แต่ที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ คนงานไม่พอ”
เงียบไปสักพัก หลงเซียวพูดเสียงเรียบ “ดูแล้ว คนงานต้องทำโอทีแล้ว สั่งไปว่า ค่าโอทีสามวันนี้เพิ่มให้เป็นสิบเท่าของปกติ ผลิตงานนี้เสร็จให้พวกเขาหยุดหนึ่งอาทิตย์
“ได้ครับบอส”