คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 292 กราบไหว้พ่อตาแม่ยาย
ตอนที่ 292 กราบไหว้พ่อตาแม่ยาย
อเมริกา นิวยอร์ก ท้องฟ้าปลอดโปร่งอากาศดี
เดินออกจากสนามบิน ลั่วหานเงยหน้ามองท้องฟ้า พูดว่า “ไม่ได้กลับมานานมาก ที่นี่เป็นบ้านแห่งที่สองของฉัน รู้สึกคิดถึงมาก”
หลงเซียวกอดเอวเธอ ทั้งสองเดินไปถึงรถที่จอดรออยู่หน้าประตูทางออกสนามบินพร้อมกัน “ถ้าเมียผมคิดถึงที่นี่ขนาดนี้ ครั้งนี้เราก็อยู่นานหน่อย และใช้โอกาสนี้อยู่เป็นเพื่อนพ่อแม่คุณนานหน่อย”
“คุณละ? บริษัทมีเรื่องมากมาย คุณจะมีเวลาอยู่เป็นเพื่อนฉันเหรอ?” ลั่วหานเอียงตัวมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขา ถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
หลงเซียวกลับเหมือนไม่มีอะไรเลย “เรื่องของบริษัทให้ตงหมิงกับคนอื่นคอยดูแลได้ แต่มาเยี่ยมพ่อตาแม่ยาย กลับบ้านเป็นเพื่อนภรรยานี้ มีผมทำได้คนเดียว”
ลั่วหานหัวเราะกับคำอธิบายของเขา ยิ้มจนเห็นฟัน แล้วพูดคล้อยตามเขา “ท่านเซียวพูดถูก ถ้าอย่างนั้นท่านเซียว เรากลับบ้านตระกูลเฉียวกันเถอะ พ่อแม่ฉันกำลังรอพวกเราอยู่”
“ได้”
คำเดียวง่ายๆ สั้นๆ ทุกครั้งที่เขาตอบคำนี้ ทำให้คนอื่นแปลความหมายไปได้หลายแบบ
รถนี้หลงเซียวให้คนจัดเตรียมไว้ก่อนแล้ว ไม่ใช่แค่รถ ท้ายรถก็เต็มไปด้วยของที่หลงเซียวให้คนจัดเตรียมตามตารางที่เขาแจ้ง รวมทั้งของขวัญที่ได้มาจากตู้หลิงเซวียนครั้งก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่หลงเซียวมาพบพ่อตาแม่ยาย ก็ต้องใจกว้างหน่อย
ตลอดทางมา หลงเซียวจับมือลั่วหานไว้ตลอด เสมือนกลัวเธอบินหายไป วิ่งผ่านวิวนอกหน้าต่าง เมืองนิวยอร์กที่รุ่งเรืองและคึกคัก แสงที่ส่องเข้ามาเดี๋ยวมือเดี๋ยวสว่าง
ลั่วหานเอียงหัวไปพิงที่ไหล่เขา “ท่านเซียวตอนนี้ตื่นเต้นหรือตึงเครียดคะ? คุณจับมือฉันไว้นานแล้ว ไม่อยากปล่อยเหรอคะ?”
หลงเซียวโน้มตัวลงไปจูบที่ผมของเธอ “คุณนายหลง ตอนนี้คนที่ตื่นเต้นที่สุดคือพ่อแม่คุณที่รออยู่ที่บ้าน ผมจะตื่นเต้นอะไร?”
“ออ? คุณเป็นลูกเขยจะเข้าบ้าน พวกเขาตื่นเต้นอะไร?”
“ผมเป็นลูกเขยที่ก่อนเข้าบ้าน ก็กลายเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทเฉียวซื่อ เพราะฉะนั้นตามหลักแล้ว วันนี้เจ้าหนี้จะมาเยี่ยมลูกหนี้ครั้งแรก คุณภรรยาคิดว่า ใครจะตื่นเต้นกว่ากัน?”
ลั่วหานยกหัวขึ้นจากไหล่เขา เงยหน้ามองตาเขา “คุณให้การสนับสนุนการเงินกับบริษัทเซียวซื่อเมื่อไหร่? ทำไมฉันไม่รู้?”
หลงเซียวจับหัวเธอวางกลับไปที่ไหล่ของตัวเองเหมือนเดิม “รู้ตอนนี้ก็ไม่สาย เพราะผมคิดว่า จะแต่งลูกสาวของตระกูลเฉียวแล้ว สินสอดก็ขาดไม่ได้อยู่แล้ว ให้ล่วงหน้าก็ไม่เห็นไม่ดีตรงไหน”
ลั่วหานขยับปาก “เงินที่คุณช่วยบริษัทเฉียวซื่อ กี่ร้อยล้าน? เงินที่คุณให้ฉันมันเยอะเกินไปแล้ว”
หลงเซียวพยักหน้าเห็นด้วย “ถ้านับแล้ว ก็ถือว่าไม่น้อย เพราะฉะนั้นเมียคนนี้ต้องเก็บไว้ทั้งชาติ ไม่อย่างนั้นก็ขาดทุนไม่น้อย”
ลั่วหานโกรธจนหัวเราะ “นายทุนโหด”
คิดไปแล้ว ลั่วหานก็รู้สึกใจหาย เงินที่หลงเซียวใช้ในตัวเธอเยอะเกินไปแล้ว ครั้งที่โดนลักพาตัวเขาใช้เงินไปห้าร้อยล้าน ครั้งที่ค้นหาศพได้ยินว่าใช้ไปหลายพันล้าน และแหวนบนนิ้วของพวกเขาอีกหลายร้อยล้าน รวมกับเงินที่ให้เฉียวซื่อ ให้ฉู่ซื่อ……โอ้พระเจ้า
ถ้าวันนึงพวกเขาแตกแยกกัน หลงเซียวบังคับให้เธอคืนเงิน เธออยู่จนอายุห้าร้อยปีก็คงคืนไม่หมด
คิดถึงตรงนี้ ลั่วหานก็ได้แต่เชื่อฟังไม่กล้ายั่วยวนเขาอีก
รถเบนซ์สีดำเข้าไปจอดที่คฤหาสน์ตระกูลเฉียว คนขับรถลงไปเปิดประตูให้ทั้งสอง ลั่วหานลงจากรถ มองดูสนามหน้าบ้านที่คุ้นเคย ยิ้มหน้าบาน “เป็นไงบ้าง? ที่นี่เป็นที่ฉันเคยใช้ชีวิตมาสองปี”
หลงเซียวพยักหน้า “ดีมาก เหมือนสถานที่ที่เลี้ยงดูแพทย์หญิงที่ฉลาดอย่างแอนน่าได้”
“เหอะ ปากท่านเซียวนี่ ชั่งแสบได้ไม่เลือกเวลาสถานที่เลยนะ”
สองผัวเมียกระซุบกระซิบกัน สองผัวเมียตระกูลเฉียวยืนต้อนรับแขกอยู่ตรงบันไดหน้าประตูคฤหาสน์แล้ว เฉียวหย่วนฟานเข็นรถเข็น ทั้งสองมองหน้ากันยิ้ม โบกมือให้ลูกสาวกับลูกเขย
“แอนน่า ลูกรักของแม่ กลับมาสักที”
ได้มิ้นกางแขนออก อยากรีบกอดลูกสาว ลั่วหานรีบเดินไปข้างหน้าเธอ โน้มตัวไปกอดได้มิ้น อ้อนเหมือนเล็กน้อย “แม่ หนูคิดถึงแม่มากเลย”
“แม่ก็คิดถึงหนู มาให้แม่ดูหน่อย ไปอยู่เมืองจีนตั้งนาน เป็นยังไงบ้าง?”
“หนูสบายดีค่ะ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง”
สองแม่ลูกถามสารทุกข์สุกดิบ บรรยากาศอบอุ่น
ส่วนอีกฝั่งหนึ่ง เฉียวหย่วนฟานกับหลงเซียวยืนห่างกันหลายเมตร มองหน้ากันยิ้มทักทาย ทันใดนั้น เฉียวหย่วนฟานก็เปิดปากพูด “ได้ยินตั้งนานแล้วประธานบริษัทMBK เป็นคนชาญฉลาด ไม่ใช่แค่ด้านธุรกิจ ยังเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ วันนี้ได้เห็นตัวเองสักที”
ลั่วหานเงยหน้าขึ้นมองเฉียวหย่วนฟาน คำพูดนี้ เขาฝึกไปกี่รอบถึงพูดออกมาได้? ไม่เหมือนวิธีการพูดในเวลาปกติของเขาเลย แต่วิธีการพูดวันนี้ ดูสบายดี
กลับกันหลงเซียว มาเยี่ยมพ่อตาแต่งตัวอย่างดี ปกติก็ให้ความสำคัญกับการแต่งกายอยู่แล้ว หลงเซียวก็ไม่เคยผิดพลาดเรื่องรสนิยมการแต่งตัวอยู่แล้ว ชุดสูทสีขาวครีม ด้านในเป็นเสื้อกล้ามสีเดียวกัน คู่กับเนกไทลายขวาง อกผายไหล่ผึ่งดูโดดเด่น ถึงจะไม่พูดอะไรเลยก็ให้ความรู้สึกดีกับคนอื่น
เขายิ้มนิดๆ ท่าทางถ่อมตัวมีมารยาท “พ่อชมเกินไปครับ ผมได้ยินลั่วลั่วพูดถึงสองท่านประจำ เธอชื่นชมทั้งสองท่านไม่หยุด วันถึงผมได้มาเยี่ยมด้วยตัวเองแล้ว เป็นอย่างที่เธอพูดเลยครับ”
ปากก็ทำเป็นถ่อมตัว แต่ดูท่าทางบุคลิกแล้วไม่ได้ถ่อมแม้แต่น้อย คำพูดสุภาพเรียบร้อย หาข้อสงสัยว่าไม่จริงใจไม่เจอเลย
โดยเฉพาะ คำเริ่มต้นของหลงเซียว “พ่อ” คำนี้ ดึงความใกล้ชิดของทั้งสองทันที ในใจของเฉียวหย่วนฟานรู้สึกว่าได้ลูกชายครึ่งหนึ่งมาทันที เขารู้สึกพอใจมาก ชอบลูกเขยคนนี้มาก
“ดี ดี เหอะๆ ไม่ช้าหรอก ผมรู้ว่าคุณงานยุ่งมาก มาก็ดีแล้ว”
ความเกรงใจยังต่อเนื่อง ได้มิ้นยิ้มพูด “คุณสองคนนี่เพิ่งเจอกันก็คุยอย่างกับรู้จักกันมาก่อน จะยืนพูดข้างนอกเหรอคะ? เข้าไปกันเถอะ”
“ดี ดี เข้าไป เข้าไป”
เฉียวหย่วนฟานปากพูดอยู่กำลังจะเข็นได้มิ้นเข้าไป หลงเซียวมือยาวยื่นไปเร็วก่อนเขา “พ่อ ผมมาเข็นแม่เองครับ แม่กับลั่วลั่วเข้าไปก่อน”
เรียกได้ธรรมชาติขนาดนี้ จะไม่ให้ได้มิ้นใจละลายได้ยังไง?
ลั่วหานก็รู้สึกซาบซึ้งหันไปมองเขา กระซิบข้างหูเขา “เยี่ยมมาก”
หลงเซียวก็ไม่ปฏิเสธ เข็นได้มิ้นเข้าไปในห้องโถง เข้าไปแล้วทั้งสี่คนก็นั่งลง มีน้ำชาวางอยู่ข้างหน้าคนละแก้ว
หลังจากพวกเขาเข้าไปในบ้านแล้ว คนขับรถกับแม่บ้านก็ช่วยกันนำของขวัญเข้ามาในบ้าน แค่ดูกล่องด้านนอกก็รู้ว่าของขวัญพวกนี้ราคาไม่น้อย
เฉียวหย่วนฟานเห็นของขวัญที่กองเต็มห้องรับแขก ถามขึ้นด้วยอาการอึ้ง “นี่……นี่คือ?”
“ของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่เตรียมให้พ่อกับแม่ รับไว้นะครับ”
ของขวัญเล็กน้อย? นี่……ยังเล็กน้อย? อาการถ่อมตัวของหลงเซียวทำให้หมอฉู่ต้องมองเขาใหม่เลยทีนี้
หลงเซียวอ่อนน้อมมีมารยาท ถึงแม้จะนั่งบนเก้าอี้ แต่ก็ยังคงความสง่าเป็นผู้ดี คำพูดที่พูดออกมายิ่งเสมือนพระราชาที่สูงส่ง
ผู้ชายคนนี้ หาที่ติไม่ได้จริงๆ
ในใจลั่วหานรู้สึกทะนงตัวเล็กน้อย ครั้งแรกที่รู้สึกได้ว่าที่แท้เวลาสามาแสดงตนใจกว้างแบบนี้ มันทำให้ผู้หญิงรู้สึกดีใจขนาดนี้
เฉียวหย่วนฟานกับได้มิ้นสบตากัน ในสายตามีความประหลาดใจ แต่ลั่วหานก็มองเห็นความพอใจในสายตาพวกเขา
“ลูกเขยที่ดีเกรงใจเกินไปแล้ว คนมาก็พอ ไม่ต้องเกรงใจขนาดนี้ พ่อกับแม่ใช้ไม่หมดหรอกของพวกนี้ พวกลูกเก็บไว้ใช้เองเถอะ”
หลงเซียวพูด “ของพวกนี้ให้พ่อกับแม่โดยเฉพาะครับ พ่อกับแม่ดูแลลั่วลั่วได้ดีขนาดนี้ พวกเราควรจะกตัญญู สำหรับผมกับลั่วลั่วเราเตรียมไว้ต่างหากครับ พ่อแม่วางใจได้ สิ่งที่คนอื่นมีลั่วลั่วก็ไม่ครับ”
ได้มิ้นรู้สึกดีใจจนกลั้นไม่อยู่ ลั่วลั่วโชคดีมาก ได้มีสามีที่ดีคอยดูแล ความลำบากเมื่อก่อนก็ถือว่าผ่านไปหมดแล้ว เธอดีใจยิ้มหน้าบาน “แม่ว่านะ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นมีลั่วลั่วก็มี สิ่งที่คนอื่นไม่มี ลั่วลั่วมีหมด”
ลั่วหานพูด “แม่นี่รู้ดีไปหมดนะคะ เยี่ยมเลยค่ะ”
“เห็นลูกรักกันขนาดนี้ แม่กับพ่อก็ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว ดี ดีมาก”
เฉียวหย่วนฟานยกน้ำชาขึ้นมาดื่ม ถาม “โปรเจคที่ลูกเขยที่ดีของพ่อทำที่นิวยอร์กพ่อดูแล้ว ทำได้ดีมาก ถึงมีเวลาจะสั้น แต่ชื่อเสียงก็แซงหลายยี่ห้อของอเมริกาไปแล้ว ถ้าพัฒนาแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ถึงปีต้องควบคุมร้อยละห้าสิบในตลาดแน่นอน”
หลงเซียวขอบคุณอย่างถ่อมตัว แล้วพูดขึ้น “พ่อเรียกชื่อผมก็พอครับ”
ลั่วหานดื่มชา “ใช่ค่ะพ่อ อย่าเรียกแต่ลูกเขยที่ดี ยกย่องเขาเกินไป เดี๋ยวลอยไปแล้ว หนูจะไปหาที่ไหน?”
“ฮาๆ ได้ งั้นก็เรียกชื่อละกัน หลงเซียว……อืม เรียกหลงเซียวนะ?”
“ครับ”
การสนทนาถามไปตอบมาง่ายๆ อย่างครอบครัว หลงเซียวก็ไม่ได้พูดอะไรน่าเกรงขาม แต่ในตัวเขาก็มีบุคลิกที่ดีและสุขุม ดูสง่าทุกจุดดั่งการเลี้ยวดูเติบโตมาจากตระกูลผู้ดี
ลั่วหานนึกอะไรขึ้นมา ไปหยิบกล่องของขวัญที่ได้มาจากงานประมูล วางให้เฉียวหย่วนฟานดู
“พ่อดูซิคะ ชอบไหม?”
เฉียวหย่วนฟานดูรูปภาพจากศิลปินที่ตนชอบ ชอบจนยิ้มหน้าบาน ความสุขบนใบหน้านั้นปิดปังไม่อยู่เลย “นี่เป็นภาพสะสมของเขาเลยนะ ลูกได้มายังไง?”
ลั่วหานยกความดีทั้งหมดให้หลงเซียว “หลงเซียวประมูลมาจากงานประมูลให้พ่อโดยเฉพาะ หนูแค่บอกว่าพ่อชอบศิลปินท่านนี้ เขาก็จำได้เลยค่ะ”
ภาพพจน์ที่ดีแบบนี้ ยิ่งเพิ่มคะแนนให้กับหลงเซียวหลายคะแนน เฉียวหย่วนฟานพอใจจนหาคำบรรยายไม่ได้
“ดี ดี ลูก……หลงเซียวดีมาก ภาพวาดนี้พ่อชอบมาก”
หลงเซียวไม่ได้อธิบาย แค่ตอบรับ “พ่อชอบผมก็ดีใจแล้วครับ”
เฉียวหย่วนฟานดูภาพวาด รู้สึกชอบมาก “แต่ ราคาภาพนี้ น่าจะไม่ถูกนะ?”
ก็ไม่ถือว่าถูก
หลงเซียวก็ยิ้มอย่างมีความสุข “เงินทองหาง่าย ของชอบหายาก ที่สำคัญพ่อชอบมันก็คุ้มราคาแล้วครับ
“ของชอบที่หายากจริงๆ หลงเซียว ความคิดลูกนี่เหมือนเข้ากับพ่อจริงๆ เดี๋ยวเราต้องมาดื่มกันสักหน่อย”
หลงเซียวกลับพูดอย่างเกรงใจ “แน่นอน ถ้าพ่ออยากดื่มผมต้องดื่มด้วยแน่นอน แต่ว่า ผมต้องขออนุญาตลั่วลั่วก่อน เรื่องนี้เธอคุมผมเข้มครับ”
“ออ? มีแบบนี้ด้วย? แอนน่า หลงเซียวดื่มเหล้าหน่อย ลูกยังคุมอีก?”
ลั่วหานไอ “พ่อ หลงเซียวเคยผ่าตัดหัวใจ เพราะฉะนั้นดื่มเหล้าเยอะไม่ได้ วันนี้คุยกันสนุก เดี๋ยวก็ดื่มได้นิดหน่อยค่ะ”
หลงเซียวพูดอย่างมีมารยาท “ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวพ่อก็ยอมผมหน่อยนะครับ”
“ฮาๆ ได้ๆ”
ลั่วหานต้องยอมแพ้กับพฤติกรรมการแสดงออกที่หลงเซียวมาเยี่ยมพ่อแม่เธอ อีกอย่างใกล้ชิดขนาดนี้ ไม่วางตัวและเป็นกันเอง
ถ้าความรักยังเพิ่มระดับได้ วันนี้ลั่วหานรักเขาเพิ่มอีกหลายคะแนน