คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 275 โม่หรูเฟยถูกจับ
ตอนที่ 275 โม่หรูเฟยถูกจับ
ตายแล้ว!
นี่คือตอนที่ประตูโรงแรมถูกบังคับให้เปิดออก ในใจก็เหลือเพียงแค่สองคำ
สองคำนี้เหมือนยึดเอาลมหายใจของเธอไป ลมหายใจที่เป็นครั้งสุดท้ายในวันสุดท้ายของชีวิต
สร่างเมาแล้ว ถึงแม้เรื่องเมื่อคืนจะจำได้ไม่ชัดนัก แต่คนที่เธอเจอที่ผับ บวกกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ทั้งหมด เฉียวซีก็เข้าใจ เธอเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว
จบแล้ว เธอหลบหนีมาสองปี ก็ยังหลบไม่พ้น
เพียงแต่เรื่องที่ทำให้เฉียวซีกลัวขึ้นไปอีก ชั่วพริบตาที่ประตูห้องถูกเปิดออก สิ่งที่ทะลักเข้ามาไม่ได้มีแค่สีเขียวของชุดตำรวจแถวหนึ่ง ยังมีนักข่าวที่ยกกล้องถ่ายอยู่ด้วย!
ด้านหลังตำรวจเจ็ดแปดคน มีกล้องที่ยกขึ้นสูงพร้อมสาดแฟลชชวนแสบตา แสงแฟลชสว่างแวบราวสายฟ้าทิ่มแทงดวงตาจนเจ็บปวด เธอกอดผ้าหมดที่บดบังร่างกายตัวเองแน่น ตกใจจนนิ่งค้างไปแล้ว!
“เฉียวซี คุณต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัว ตอนนี้ออกหมายจับคุณตามกฎหมาย คุณมีสิทธิ์ที่จะไม่พูด แต่ที่คุณพูด……” ตำรวจพูดเกริ่นไปหนึ่งรอบ มองผู้ชายสามคนที่ยืนปิดส่วนสำคัญอยู่ในห้องนอนด้วยสายตาเย็นเยียบ “ใส่ชุดให้เรียบร้อย!”
ผู้ชายสามคนเห็นว่าเรื่องร้ายแรงเกินกว่าที่ตัวเองคาดไว้ ก็รีบโต้เถียงขอร้องให้ยกโทษ “สหายตำรวจ พวกเราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเธอ พวกเราก็แค่……ก็แต่มาหาเงินเท่านั้น! พวกเราไม่รู้เรื่องที่เธอทำ!”
“พวกเราไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิด! คุณตำรวจ! พวกเราไม่ใช่ผู้สมรู้ร่วมคิด!”
ตำรวจตำหนิเสียงเด็ดขาด “พอแล้ว! รีบใส่เสื้อผ้าเร็วๆ!”
พร้อมกันกับที่ตำรวจตำหนิเสียงดัง เหล่านักข่าวก็เบียดเข้าห้องอย่างบ้าคลั่งราวกับฉลามได้กลิ่นคาวเลือด ยกอาวุธประจำตัวหันไปทางคนอัปยศทั้งสี่ในห้อง
“คุณเฉียว เมื่อคืนนี้คุณยอมรับด้วยตัวเองว่าเคยช่วยคุณโม่หรูเฟยลักพาตัวคุณฉู่ลั่วหานและเพื่อนสนิทของเธอ ขออนุญาตถาม เรื่องนี้คุณจะอธิบายยังไง?”
“สองปีก่อนจู่ๆ คุณก็ออกจากวงการ เป็นเพราะเรื่องลักพาตัวหรือเปล่า?”
“คุณจะอธิบายเรื่องเช้านี้ยังไง?”
“คุณเฉียว สำหรับเรื่องชีวิตส่วนตัวของคุณ คุณจะอธิบายยังไง?!”
“มีคนแฉว่าชีวิตส่วนตัวของคุณนั้นยุ่งเหยิง เคยมีความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงที่ไม่เหมาะสมกับผู้ชายสิบกว่าคน ขออนุญาตถาม คุณจะอธิบายยังไง?”
“คุณเฉียว ช่วยตอบด้วยค่ะ!”
“ช่วยตอบด้วยค่ะ!”
“ตอบด้วยค่ะ!”
“……”
เฉียวซีเหมือนกับตกลงไปในหลุมลึกที่ไร้ศัตรู ข้างๆ มีสัตว์ดุร้ายกำลังอ้าปากที่เต็มไปด้วยเลือด เตรียมจะฉีกเธอแหลกจนถึงที่สุด ฉีกทึ้ง และกลืนลงคอ!
“ฉันไม่รู้!”
“อ๊า!! ฉันไม่รู้! ฉันไม่รู้!”
เฉียวซีแทบไม่สนใจดึงผ้าห่มที่ใช้ปิดบังร่างกายอยู่ สองมือกุมหัวตัวเองเอาเป็นเอาตาย ผมยาวพันยุ่งเหยิงทั่วตัวอย่างกับผีสาว สีเลือดบนหน้าแทบไม่มี ดวงตาทั้งสองข้างว่างเปล่า กรี๊ดร้องตะโกนไม่หยุด “ฉันไม่รู้! ฉันไม่รู้!!”
“คุณเฉียว จนถึงตอนนี้คุณฉู่ลั่วหานยังไม่ได้ประกาศข่าวใดๆ คุณคิดจะจัดการยังไง จะอธิบายยังไง?”
“คุณฉู่เป็นภรรยาของหลงเซียว คุณคิดจะเผชิญหน้ายังไง?”
——
ลั่วหานและหลงเซียววิ่งตอนเช้าเสร็จก็กลับวิลล่า ก็เห็นหนังสือพิมพ์ที่กางออกอยู่บนโต๊ะแทบจะพร้อมกัน
“ชาตินี้ต้องจบลงอย่างนี้ซะแล้ว จริงๆ แล้วก็น่าเสียดายมาก” ลั่วหานเหลือบมองรูปข่าวบนหนังสือพิมพ์ ถอนหายใจ
ถึงรูปใจใส่โมเสคให้แล้ว แต่ว่าผู้หญิงคนเดียวอยู่กับผู้ชายสามคนทำเรื่องอะไรอยู่ในห้องโรงแรม ใครๆ ก็สามารถเดาได้
ยิ่งไปกว่านั้น ระดับความร้ายแรงของเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องความสำส่อนคบไม่เลือก
บนหัวของเฉียวซี ยังมีโทษคดีลักพาตัวแปะอยู่ด้วย
แถมคนที่ลักพาตัวไปยังเป็นภรรยาของหลงเซียว
คนคนนี้ นับได้ว่าจบเห่โดยสิ้นเชิง
หลงเซียวเพียงกวาดตามองผ่านด้วยสายตาเย็นเยียบเท่านั้น “ฟังภรรยาพูดแล้ว เหมือนจะยังรู้สึกเห็นใจอยู่หน่อยๆ นะ”
ลั่วหานแบะปาก “ก็ไม่ถึงกับเห็นใจหรอก แค่รู้สึกว่าคนบางคนโง่เกินไปแล้ว ฝังตัวเองทั้งเป็นด้วยมือตัวเอง แต่ว่า……” ลั่วหานโยนหนังสือพิมพ์ทิ้ง มองหลงเซียว “ตอนนี้ฉันแปลกใจมากกว่า ว่าโม่หรูเฟยจะมีปฏิกิริยายังไง”
หลงเซียวพยักหน้า “เธอ……”
สำหรับโม่หรูเฟย หลงเซียวรู้สึกว่าพูดเพิ่มอีกคำเดียวก็ล้วนเป็นเรื่องเปลืองแรงตัวเองเปล่าๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ท่านเซียวเตรียมตัวพร้อมตั้งนานแล้ว
“อาบน้ำเถอะ กินข้าวเช้าได้แล้ว” หลงเซียวเบี่ยงเบนหัวข้อไปเสียดื้อๆ สำหรับพฤติกรรมของโม่หรูเฟยไม่ต้องพูดก็เข้าใจดี
ลั่วหานไหวไหล่ “โอเค! แต่ว่าวันนี้คงจะทำตัวสบายๆ ไม่ได้แล้วนะ”
เป็นอย่างที่พูด ทั้งคู่ยังไม่ทันกินข้าวเสร็จ โทรศัพท์ทั้งสองคนก็ดังขึ้นเกือบจะพร้อมกัน
หลงเซียวชำเลืองมองหมายเลขด้านบน พลิกโทรศัพท์หนีเอาดื้อๆ แล้วกินข้าวเช้าต่อ
แต่ลั่วหานรับโทรศัพท์
“จิ้นเหยียน มีเรื่องอะไร?”
สายจากถังจิ้นเหยียน?
แววตาของท่านเซียวส่องแสงขึ้น แล้วกินข้าวเช้าท่าทางเนิบนาบต่อ
ถังจิ้นเหยียนเพิ่งได้ข่าว ก็โทรหาลั่วหานทันที สำหรับคดีลักพาตัวในปีนั้นที่คาราคาซังอยู่ ถังจิ้นเหยียนก็ไฟสุมขอนอยู่ตลอด เพียงแต่หลังจากนั้นมีเรื่องเกิดขึ้นมากมายเกินไป เรื่องนี้ก็เลยถูกทุกคนลืมไปก่อน
ณ ตอนนี้ไม่นึกเลยว่าตะกอนจะลอยขึ้นมาโดยวิธีนี้ อีกทั้งยังกระทบจนเกิดคลื่นสึนามิ สั่นสะเทือนไปทั่วจริงๆ!
“ฉันเห็นข่าวแล้ว คนที่ลักพาตัวตอนนั้น ในที่สุดก็ถูกจับแล้ว ฉันรู้สึกดีใจแทนคุณจริงๆ แต่ปัจจุบันคดียังมีจุดน่าสงสัยอีกมาก คุณได้เตรียมความพร้อมขั้นต่อไปไหม?”
“ตอนนี้ทั้งอยู่ในความดูแลของทนาย ทางตำรวจยังไม่ได้เรียกตัวฉัน คร่าวๆตอนนี้ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”
พูดขึ้นมาก็แปลก เธอเป็นคู่กรณีทั้งยังเป็นผู้เสียหาย แต่ตรวจกลับไม่เรียกให้เธอไปบันทึกคำให้การเลย แต่พอคิดอีกที มีหลงเซียวอยู่ด้วย เรื่องหลายเรื่องก็ไม่ได้จัดการด้วยวิธีปกติจริงๆ
เพราะอย่างนี้ ลั่วหานอดเม้มปากยิ้มไม่ได้
“คนบงการที่อยู่เบื้องหลังคือโม่หรูเฟย พัวพันหลายคน กลัวว่าถ้าจัดการไม่ดี……” ถังจิ้นเหยียนอยากจะพูดแต่ก็ไม่พูดออกมา พลันก็หลุดหัวเราะร่า “ฉันเกือบลืมแน่ะ ตอนนี้ข้างๆ คุณมีเขาอยู่ เขาต้องปกป้องคุณแน่”
“อื้ม คุณไม่ต้องกังวล จะต้องแก้ปัญหาได้แน่ ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณ”
พูดไปพูดมา ก็ยังให้ความรู้สึกเกรงใจต่อกันอยู่นิดหน่อย
“งั้นก็ดี วันนี้มาทำงานที่โรงพยาบาลไหม? อยากพักสักวันหรือเปล่า?”
“ไม่ต้อง เจอกันที่โรงพยาบาล”
“ได้ เจอกันที่โรงพยาบาล”
ลั่วหานตัดสาย เงยหน้ามองหลงเซียวที่กำลังก้มหน้าก้มตากินอยู่ฝั่งตรงข้าม “ไม่มีอะไรอยากถามฉันเหรอ?”
ปีนั้น ถังจิ้นเหยียนเป็นศัตรูเบอร์หนึ่งของหลงเซียว ตอนนี้เขากลับฟังเขาคุยโทรศัพท์จนจบอย่างนิ่งสงบขนาดนี้ได้ เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ พอจับมือปรองดองกันได้ ท่าทางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนิดหน่อย
“ได้ยินหมดแล้ว ไม่มีข้อสงสัย ภรรยาฉันมีเพื่อนต่างเพศที่สายงานเดียวกันสักคนก็ถือเป็นเรื่องดี”
ลั่วหานวางโทรศัพท์ลง อ้าปากหัวเราะ เคาะจานด้วยมีดและส้อมในมือ “คุณล่ะ? ทำไมไม่รับสาย?”
ตอนที่เธอรับสายโทรศัพท์ โทรศัพท์ของเขาไม่หยุดดังเลยสักวินาทีเดียว
“คนไม่สำคัญอะไร ไม่คุ้มที่จะสละเวลากินข้าว”
“คนดังนี่คุณหลง!”
หลงเซียวยิ้มเบาๆ “ฉันมาทานข้าวเป็นเพื่อนคุณด้วยตัวเอง ภรรยาไม่ดังกว่าเหรอ?”
“หึ! เป็นเกียรติมาก!”
คนที่ไม่คือความสำคัญอะไรที่หลงเซียวพูดถึง ก็คือซุนปิงเหวิน
ตอนนี้ซุนปิงเหวินเหมือนกับมดในหม้อร้อน เขาไม่คิดเลยว่าตัวเองจะช้าไปก้าวหนึ่ง ตอนนี้กลายเป็นเนื้อบนเขียงแทน ไร้ทางให้ถอยกลับ!
โม่หรูเฟยกัดฟันกำหมัด ใช้นิ้วมือสางผมอย่างกระสับกระส่าย “ตอนนี้ทำไงดี? ถอนข่าวไม่ได้แล้ว ไม่ว่ายัยสารเลวเฉียวซีนี่จะพูดจริงหรือไม่จริง ถึงแม้จะไม่มีหลักฐาน ฉันก็กลายเป็นฆาตกรที่ทุกคนยอมรับไปทั่ว! ตอนนี้ข่าวมัน……ราคาหุ้นของบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ปต้องตกฮวบฮาบแน่ๆ!”
ซุนปิงเหวินกำหมัด คลึงหว่างคิ้ว “หลงเซียวไม่รับโทรศัพท์ ส่วนทางสถานีตำรวจ เหมือนว่าคนของฉันจะถูกควบคุมไว้แล้ว เกรงว่าครั้งนี้ คุณต้องสู้คดีกับเฉียวซี”
“ไม่ได้! ตอนนั้นฉันสั่งให้เฉียวซีจับตัวลู่ซวงซวง มาสู้คดีตอนนี้ ฉันจะต้องถูกเปิดโปงแน่ๆ! ฉันไปไม่ได้! ในคลิปเฉียวซีบอกว่าเธอมีหลักฐาน ถ้าเกิดเธอเอาหลักฐานให้ตำรวจขึ้นมา ฉันจบเห่แน่!”
ซุนปิงเหวินผลักเก้าอี้ออกแล้วยืนขึ้น หายใจเข้าหนักๆ “ฉันจะไม่ให้เธอต้องล้มลงแบบนี้แน่ ต้องมีวิธี”
ขณะนั้น โทรศัพท์ของโม่หรูเฟยก็ดังขึ้นไม่รู้รอบที่เท่าไหร่ เธอได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็เหมือนกับได้ยินเสียงเรียกของวิญญาณจะเอาชีวิตอย่างไรอย่างนั้น สีหน้าพลันเปลี่ยนเป็นขาวซีด
“พ่อ……”
“เพล้ง” โม่ล่างคุนขว้างแก้วจนแตกละเอียด “โม่หรูเฟย บนข่าวนั่นมันเกิดอะไรขึ้นน่ะ? ทำไมคุณถึงมีความผิดฐานฆ่าคน? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
โม่หรูเฟยอ่อนยวบไปทั้งตัว ล้มนั่งลงบนโซฟา ตอนที่ได้ยินเสียงของพ่อ น้ำตาก็เอ่อล้นออกมา ร้องไห้สะอึกสะอื้น “พ่อ คุณต้องช่วยฉัน ครั้งนี้ หลงเซียวไม่ปล่อยฉันไปแน่ แล้วก็ฉู่ลั่วหาน เธออยากจะฆ่าฉันมาตั้งนานแล้ว พ่อ พวกเขาจะทำลายฉัน! ทำลายบริษัทโม่ซื่อกรุ๊ป!”
โม่ล่างคุนล้มลงบนเก้าอี้ทันที พลันแววตาก็ว่างเปล่า “ที่คุณพูด……นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ? ตอนนั้นคุณลักพาตัวเธอจริงๆ?”
“พ่อ ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ความ เพราะว่ารักหลงเซียวมากไป อยากอยู่กับเขามากไป จริงๆ ฉัน……พ่อ คุณต้องช่วยฉันนะ ตอนนี้หนทางเดียวคือต้องทำให้หลงเซียวถอนฟ้อง ปิดปากเฉียวซีไว้ ล้างความผิดให้ฉัน! พ่อ……ฮือฮือ ฉันเข้าคุกไม่ได้ ถ้าเข้าไป ฉันจบเห่เลย ฉันจะจบเห่จริงๆ”
ริมฝีปากโม่ล่างคุนสั่นเครือ ไม่ส่งเสียงใดๆออกมาครู่หนึ่ง “โม่หรูเฟย คุณจะให้พ่อทำยังไง? คุณหาเรื่องใครไม่หา กลับไปหาเรื่องหลงเซียว……”
สายทางโม่หรูเฟยยังไม่ทันตัด เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้นถี่ๆ
เงยหน้าด้วยความตะลึง ตาจ้องมองหน้าจอแสดงหลังประตู ตำรวจ!
“พ่อ ตำรวจมาแล้ว! คุณต้องคิดหาวิธีช่วยฉันนะ!”
“โม่หรูเฟย คุณอย่าเพิ่งกลัว พ่อจะหาวิธี กลบข่าวลงไปก่อน! วิดีโอ……ใช่ พ่อจะรีบติดต่อสื่อเดี๋ยวนี้เลย ลบคลิปทิ้งไปให้หมด!”
รีบร้อนตัดสายทิ้ง โม่หรูเฟยจับซุนปิงเหวินไว้ “ตำรวจมาแล้ว!”
“จำไว้ ไม่ว่าเฉียวซีจะพูดว่าอะไร คุณก็อย่ายอมรับ ตอนนี้เธอยังไม่ได้เอาหลักฐานออกมา คุณต้องยืนยันว่าตัวเองได้รับความไม่เป็นธรรม มีแค่บันทึกการโอนไม่ได้ยืนยันว่าคุณคือฆาตกร หาทางแยกความสัมพันธ์ให้ได้! ฉันจะหาทนายที่ดีที่สุดมาแก้ต่างให้คุณ”
โม่หรูเฟยเย็นเยียบไปทั้งตัว หลับตาหายใจเข้าลึกหนึ่งครั้ง “ถ้าเกิดฉันผ่านเรื่องนี้ไปได้ หลังจากนี้ไม่ว่าคุณมีความต้องการอะไร ฉันก็จะช่วยคุณโดยไม่มีเงื่อนไข”
ซุนปิงเหวินลูบผมของเธอ มองตาเธอแล้วยิ้มเบาๆ “ฉันจะช่วยคุณอย่างถึงที่สุด”
“ฉันจะรอดูความสามารถของคุณ”
ประตูห้องถูกเปิดออก ตำรวจกี่คนเหยียบเข้ามาในห้องรับแขก
ในมือตำรวจถือหมายจับ ใบหน้าเย็นเยียบเอ่ยประกาศตรงนั้น “โม่หรูเฟย กรุณาไปกับพวกเราด้วย”
โม่หรูเฟยเหม่อลอยมองตำรวจ แววตาใจลอย “ฉันได้รับความไม่เป็นธรรม ฉันขอยื่นอุทธรณ์ พวกคุณมาคุยกับทนายฉันก่อน”
“คุณโม่ มีคนกล่าวหาว่าคุณเป็นผู้ฆาตกรที่อยู่เบื้องหลังคดีลักพาตัว เชิญไปที่สถานีตำรวจกับเราก่อน ส่วนทนายของคุณ หลังจากคุณแก้ต่างแล้วค่อยเรียก”
“พวกคุณจะพาฉันไปไม่ได้! ปล่อยนะ! พวกคุณไม่รู้เหรอว่าฉันคือใคร? ปล่อยมือ! ปล่อย!”
โม่หรูเฟยดีดดิ้นเอาเป็นเอาตาย แต่ก็ไม่รอดพ้นจากกุญแจมือที่แสนเย็นเยียบ
เสียง “แกร๊ก” ดังขึ้น กุญแจมือเย็นนั้นรวบมือทั้งสองข้างของเธอแน่น
“คุณโม่ กรุณาให้ความร่วมมือด้วย ไม่งั้นจะเป็นการขัดขวางต่อกฎหมาย”
เพิ่มโทษหนึ่งเด้ง
“ปิงเหวิน คุณต้องคิดหาวิธี! คุณต้องช่วยฉัน!”
ซุนปิงเหวินเดินตามตำรวจออกมา และทำได้แค่ตามองโม่หรูเฟยถูกพาตัวไป
“ฉันจะหาวิธี!”
ส่งเสียงดังไล่หลังตำรวจไป ซุนปิงเหวินก็ลองโทรหาหลงเซียวอีกครั้ง
ตอนนี้หลงเซียวทานข้าวเช้าแล้ว พอเห็นเบอร์ของซุนปิงเหวิน ก็ขมวดคิ้ว เลื่อนปุ่มรับสาย
“ประธานซุน ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไร ทำให้คุณใจร้อนได้ขนาดนี้”
“คุณต้องการอะไร?”
นิ้วเรียวของท่านเซียวเหวี่ยงหมุนพวงกุญแจรถ เดินเชิดหน้าไปทางโรงจอดรถ “คำนี้ ฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่?”
ซุนปิงเหวินกัดฟัน เหยียดยิ้มออกมา “เราล้วนเป็นคนฉลาด คุณหลงไม่ต้องทำเป็นไม่รู้เรื่องหรอก คุณพูดมาเถอะ ว่าต้องทำยังไง คุณถึงจะยอมปล่อยโม่หรูเฟย?”