คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 265 ชี้ขาดบ่วงสัมพันธ์
ตอนที่ 265 ชี้ขาดบ่วงสัมพันธ์
“นี่ไม่ใช่ของจริง เป็นแผนที่ยุยงให้แตกแยกของฉู่ลั่วหาน!ที่รักคะ ฉันสาบาน ฉันไม่เคยทำเรื่องเหล่านี้จริงๆ ข่าวคราวบนอินเตอร์เน็ตเหล่านี้ ต่างก็เป็นฉู่ลั่วหานที่จงใจให้คนปล่อยออกมา ฉันอยู่ที่บ้านตระกูลฉู่…”
“เพี้ยะ!!”
เสิ่นเหลียวฟาดฝ่ามือลงไปอย่างรุนแรง ตบจนร่างกายของฉู่ซีหรานหมุนล้มลงไปบนพรม ขาทั้งสองข้างบิดตัวนั่งทับขาไปบนพื้นราบ กุมใบหน้าที่แสบร้อนขึ้นมาในทันทีเอาไว้ ดวงตามีน้ำตาเอ่อล้นมองไปที่เสิ่นเหลียว
“คุณ…คุณตบฉัน?”
“ตบคุณยังถือว่าเบา!ผมอยากจะยิงคุณให้ตาย!”
ไม้เท้าของเสิ่นเหลียวชูขึ้นสูง ใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ วินาทีต่อมาก็ทุบไปบนศีรษะของฉู่ซีหราน ฉู่ซีหรานยกมือขึ้นจับไม้เท้าของเขาเอาไว้ บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาเพราะว่าตกใจและหวาดกลัวได้เปลี่ยนเป็นซีดเผือด ขาทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นท่านั่งคุกเข่า
“ไม่ใช่ฉัน…ไม่ใช่ฉันจริงๆค่ะ ฉู่ลั่วหานโกรธเกลียดฉันฝังใจมาโดยตลอด มันแค้นฉัน เกลียดฉัน ดังนั้นต่างก็คือมันที่กำลังใส่ร้ายฉัน ที่รักคะ ฉันเป็นภรรยาของคุณ เป็นแม่ของลูกชายของเรา คุณสามารถเชื่อคนนอกคนหนึ่งไม่เชื่อฉันได้ยังไงกันคะ?“
เสิ่นเหลียวอุทานออกมาอย่างเยือกเย็น “คนสารเลว คุณยังคิดที่จะหลอกผม? นี่คุณกำลังรนหาที่ตาย!”
“ฉันไม่กล้าค่ะ!เรื่องเหล่านั้นฉันไม่เคยทำมาก่อน ฉู่ลั่วหานมันคิด…มันคิดช่วงชิงบริษัทฉู่ซื่อมาจากในมือของคุณ ดังนั้นสิ่งเหล่านี้ต่างก็คือแผนการของมัน มันก็คืออยากให้เราสองคนสามีภรรยาไม่ลงรอยกัน ก็คืออยากจะเห็นพวกเราแค้นเคืองกันยังไงล่ะคะ!คุณจะติดกับดักไม่ได้!”
ตอนนี้ไม้เท้าที่อยู่เหนือศีรษะของเธอผ่อนคลายลง ดวงตาที่แหลมคมหรี่จนกลายเป็นเส้น โน้มตัวมองสังเกตหญิงสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้น ทีละคำทีละประโยคหัวเราะขึ้นอย่างประชดประชัน “มันต้องการเอาบริษัทฉู่ซื่อ?”
“ใช่ค่ะ มันต้องการช่วงชิงบริษัทฉู่ซื่อมาจากในมือของคุณ อีกทั้ง…มันข่มขู่ฉัน หากคุณไม่ตอบตกลง มันก็…มันก็จะหาคนมาฆ่าฉัน ด้านหลังของมันมีหลงเซียว ฉันจะกล้าล่วงเกินเขาได้ยังไงกันคะ? คุณต้องช่วยฉันนะคะ ช่วยฉัน…”
เสิ่นเหลียวดึงไม้เท้ากลับคืนไป “ปึ้ง”เคาะไปบนพื้นห้อง “ฉู่ลั่วหาน หลงเซียว พวกมันอยากตายกันหมด!”
ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของเสิ่นเหลียวก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหัน เสียงเรียกเข้าที่อยู่ในมือกับเสียงร้องไห้ของฉู่ซีหรานดังผสมผสานกัน เสียงดังจนเสิ่นเหลียวตะคอกออกมาด้วยความโมโห “พอแล้ว!หุบปาก!ร้องไห้อีกผมจะให้ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
เสียงตวาดเดียวของเขา ฉู่ซีหรานหยุดการร้องไห้ในทันที มองเสิ่นเหลียวด้วยความรู้สึกร้อนอกร้อนใจเป็นอย่างมาก ใจตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม ความหวาดกลัวคว้าลมหายใจและประสาทของเธอเอาไว้อย่างแน่นหนา กลัวว่าจะมีเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆอะไรอีกที่จะผลักเธอเข้าไปในสถานการณ์ที่เลวร้ายโดยสมบูรณ์แบบ
“นายครับ เกิดเรื่องแล้ว”
เสิ่นเหลียวเหลือบตามองฉู่ซีหรานแวบหนึ่ง แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น “พูด”
“สำนักงานสาขาที่เมืองหลวงถูกรายงานครับ คนของสำนักงานธุรกิจการค้าและสำนักอัยการมาถึงแล้ว ต้องการตรวจสอบบัญชีและธุรกิจทั้งหมดของสำนักงานสาขาที่เมืองหลวง ตอนนี้คนของพวกเขากำลังบังคับบล็อกบัญชีของบริษัท ยุติการหมุนเวียนของเงินทั้งหมด”
“อะไรนะ!”
เสิ่นเหลียวจับโทรศัพท์เอาไว้แน่น กัดฟันเปล่งเสียงออกมาคำหนึ่ง “ไสหัวไป!”
ฉู่ซีหรานที่คุกเข่าอยู่บนพื้นคลานพร้อมกับลุกขึ้นมา หลบอยู่ที่ด้านหลังโซฟาอย่างขี้ขลาด ยืนอยู่กับที่ไม่กล้าที่จะขยับอีก
เสิ่นเหลียวค้ำด้วยไม้เท้าเดินก้าวยาวๆออกจากห้องสูทของโรงแรม ลมกระพือที่แผ่นหลังม้วนขึ้นอยู่บนใบหน้าของฉู่ซีหราน กระตุ้นความเยือกเย็นที่น่าตื่นเต้นออกมา
ฉู่ซีหรานคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างทุลักทุเล สองมือที่สั่นเทานำโทรศัพท์กุมไว้ในมือ ผ่านไปนานถึงกดโทรออกไปได้ “แม่…แม่คะ…หนูควรทำยังไงดี? เสิ่นเหลียว…เสิ่นเหลียวเขาจะต้องฆ่าหนูแน่”
…
“น่าสนุก น่าสนุกจริงๆ!คิดไม่ถึงว่างานหมั้นของเรายังไม่ทันจะจัด ก็ได้รับข่าวที่ดีขนาดนี้ ดูเหมือนเราสองคนจะเป็นคู่ที่ฟ้าสร้างมาจริงๆ!ฮ่าๆ!”
ซุนปิงเหวินพิงอยู่ที่หัวเตียง โม่หรูเฟยนั่งอยู่บนโซฟาภายในห้องนอน ในมือคีบบุหรี่มวนหนึ่งที่จุดติดเอาไว้ สูดเข้าไปคำหนึ่ง พ่นควันออกมา ชุดกระโปรงนอนผ้าไหมแท้ครึ่งหนึ่ง เอียงพาดไปบนหัวไหล่ เผยให้เห็นไหล่ออกมาครึ่งค่อน
“ฉู่ลั่วหานกับฉู่ซีหรานเกิดความขัดแย้งกันภายในบ้าน หลงเซียวก็ต้องช่วยฉู่ลั่วหานนังสารเลวคนนั้นจัดการอย่างแน่นอน กำลังของเขาจะต้องแบ่งไปให้กับฉู่ลั่วหาน เวลานี้ ก็คือโอกาสที่ดีที่สุดในการโจมตีบริษัทMBKของพวกเรา!คุณชายซุน คุณไม่ใช่เตรียมความพร้อมเอาไว้ตั้งนานแล้วหรอคะ?”
เธอหันกลับมามองซุนปิงเหวินที่เปลือยลำตัวครึ่งท่อนบน ใช้เพียงแค่มุมหนึ่งของผ้าห่มปิดท้องน้อยเอาไว้ท่ามกลางควันบุหรี่ เส้นผมที่ขี้เกียจตกอยู่บนไหล่ สีหน้าเป็นเพราะว่าเพิ่งตื่นขึ้นมาจึงทำให้เห็นถึงความงัวเงีย คิ้วและดวงตาราวกับเส้นเรียว ดึงดูดวิญญาณคน
ซุนปิงเหวินมองเห็นใบหน้าของโม่หรูเฟย ลูกระเดือกเคลื่อนไหวขึ้นลง เลิกผ้าห่มออกเขย่งเท้าเขย่งตัวเดินไปที่ด้านหลังของเธอ โน้มตัวลงแขนทั้งสองข้างกอดเธอเข้ามาไว้ข้างในอ้อมอกของตนเอง มองเธอด้วยสายตาที่ปรือ ริมฝีปากบางที่เยือกเย็นจูบแผ่นหลังของเธอเอาไว้ นิ้วมือเกี่ยวชุดนอนของเธอ ดึงลงไปข้างล่างทีละนิดๆ
“แน่นอน ผมเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับเขาเอาไว้ตั้งนานแล้ว เพียงแต่ตอนนี้มีการเข้าร่วมของคุณ โอกาสในการชนะยิ่งมีมากขึ้น”
ริมฝีปากของเขา แนบไปบนผิวของเธอ โม่หรูเฟยหัวเราะคิกคักออกมา นำควันพ่นลงบนใบหน้าของเขา ควันบุหรี่แพร่กระจายออก
“คุณชายซุนเป็นคนฉลาดจริงๆค่ะ!หาความร่วมมือกับฉัน โอกาสในการชนะของพวกเราจะต้องมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ”
นิ้วมือของซุนปิงเหวินเคลื่อนไหว “ผมได้ยินว่าก่อนหน้านี้คุณสนิทกับตระกูลเกามาก เกาหยิ่งจือคือพี่สาวของคุณ เกาจิ่งอานคือพี่ชายของคุณ ทำไมครับ คุณวางเครือข่ายที่ดีขนาดนี้ไม่ใช้?”
“เหอะๆ!เกาหยิ่งจือ? ผู้หญิงคนหนึ่ง จะมีความสามารถได้แค่ไหนกัน? หากจะบอกว่าทำการงาน ทำเรื่องใหญ่ แน่นอนว่าต้องหาผู้ชายที่แท้จริงสักคนยังจะดีกว่า สำหรับพี่ชายของฉัน? เหอะๆ หนุ่มเพลย์บอยนั่นหมอบอยู่ใต้ความสวยของฉู่ลั่วหานมาตั้งนานแล้ว สองคนนี้ของตระกูลเกา ต่างก็ไม่ใช่ของดีอะไร!”
นิ้วมือของซุนปิงเหวินวนเวียนอยู่บนลำคอที่เรียวยาวของเธอ เจาะเข้าไปในลำน้ำกลางหุบเขาลึกของเธอ “ถ้างั้นผมล่ะ? ผมไม่ใช่ว่าก็เลวมากหรอกหรอ?”
โม่หรูเฟยยิ้มขึ้นอย่างอ่อนช้อยงดงาม นิ้วมือทาบไปบนด้านหลังฝ่ามือของเขา “ความเลวของคุณชายซุน เลวจนทำให้คนชอบมากเลยล่ะ!ฉันก็ชอบมากค่ะ”
เธอเผยอริมฝีปาก จิบบนริมฝีปากของเขาเข้าไปคำหนึ่ง สายตาที่เคลิบเคลิ้มดึงดูดวิญญาณของเขาเอาไว้
“เป็นปีศาจจิ้งจอกจริงๆ ทำให้คนไม่ชอบไม่ได้!”
“คุณชายซุน ฉันรู้สึกเสียใจในภายหลังจริงๆค่ะ ไม่ได้รู้จักคุณเร็วกว่านี้หน่อย หากรู้ตั้งนานแล้วว่าคุณเกลียดหลงเซียวขนาดนี้ งั้นฉันก็ร่วมมือเร็วกว่านี้หนึ่งวัน ดีแค่ไหนกัน”
มือใหญ่ของซุนปิงเหวินลูบไล้ไปบนแผ่นหลังของโม่หรูเฟย ใช้ปลายนิ้วมือเขี่ยเสื้อคลุมของเธอออก “ผมก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน คุณโม่งดงามสะดุดใจคนขนาดนี้ เซ็กซี่…อีกทั้ง ฝีมือดีขนาดนี้ หากรู้ว่ามีสาวสวยแบบนี้อยู่บนโลกใบนี้มาตั้งนานแล้ว ผมก็ต้องตั้งใจลงมืออย่างแน่นอน”
แขนของโม่หรูเฟยคล้องไปบนลำคอของเขา “ตอนนี้ก็ไม่ถือว่าสาย คุณชายซุน ต่อไปพวกเราร่วมมือกันไปด้วยดีค่ะ”
“แน่นอนครับ ร่วมมือกันไปด้วยดี”
พูดจบ ซุนปิงเหวินก็ฉีกเสื้อผ้าที่ขวางหูขวางตาบนร่างกายของโม่หรูเฟยออก นำโม่หรูเฟยที่เปลือยเปล่าโยนลงบนเตียงใหญ่ โน้มตัวทับเธอจนล้มลงไป ริมฝีปากที่ชั่วร้ายโค้งขึ้นเป็นความละโมบและเผ็ดร้อน “ถ้างั้นตอนนี้ พวกเราก็ร่วมมือกันให้ดีก่อน”
“คุณชายซุน เมื่อคืนยังไม่พออีกหรอคะ?”
“แน่นอนว่าไม่พอ!ความปรารถนาของผม มีมากกว่าที่คุณคิดเอาไว้เยอะมาก”
…
“คุณชายเสิ่น พวกเราได้รับการรายงาน ว่าบริษัทของคุณมีการลักลอบนำเข้า การเงินผิดกฎหมาย ตอนนี้ต้องดำเนินการตรวจสอบรอบด้านตามกฎหมาย คุณวางใจ พวกเราจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นกลาง”
เสิ่นเหลียวกัดฟันด้วยความโกรธแค้น นั่งอยู่บนโซฟามือจับด้านบนของไม้เท้าแน่น “รายงาน? ใครกันที่รายงาน!ให้มันออกมาเผชิญหน้ากับผม ผมเสิ่นเหลียวทำธุรกิจมาหลายปีขนาดนี้ ยังไม่เคยเกิดเรื่องแบบนี้มาก่อน!”
“ขอโทษด้วยครับคุณชายเสิ่น พวกเราจำเป็นต้องรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ที่รายงาน กรุณาให้ความร่วมมือกับการตรวจสอบของพวกเรา ไม่เช่นนั้นพวกเราจะจับกุมคุณและผู้ช่วยในข้อหาขัดขวางการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่”
เสิ่นเหลียวเบิกตา ส่งเสียงอุทานออกมาอย่างเยือกเย็น “ดีมาก ตรวจ!ตรวจได้ตามสบาย!ตรวจให้ดีๆ!”
เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีออกไปจากห้องทำงานของเขา เสิ่นเหลียว“ปึ้ง”เขวี้ยงไม้เท้าทิ้งด้วยความโมโห “สารเลว!”
ผู้ช่วยก้าวเท้ายาวๆวิ่งเข้ามา กดเสียงเบาพร้อมกับเอ่ย “นายครับ บัญชีจำนวนมากของบริษัทต่างก็ยังไม่ทันจะได้จัดการ อีกทั้งช่วงนี้เป็นเพราะสินค้าล็อตหนึ่งหายไป มีเงินจำนวนหนึ่งไม่ได้เข้าบัญชี บวกกับ…นายครับ คราวนี้บริษัทเกรงว่าจะต้องเผชิญหน้ากับหายนะครั้งใหญ่แล้วครับ”
สายตาที่โหดเหี้ยมดุดันของเสิ่นเหลียวจ้องเขม็งคนที่มารายงาน ปากเพราะว่าโกรธจัดจนกระตุกไม่ยอมหยุด “หายนะ? เหอะๆ!”
ผู้ช่วยโน้มตัวลง โค้งเอวเก้าสิบองศาก้มศีรษะมองดูปลายเท้าของเสิ่นเหลียว “นาย บริษัทล้มละลายถือว่าเบา หากถูกพวกเขาตรวจพบอย่างอื่นเข้า เกรงว่านายจะต้องเผชิญหน้ากับหายนะแห่งคุกนะครับ”
เสิ่นเหลียวส่งเสียงอุทานในลำคอออกมา แน่นอนว่าเขารู้สิ่งเหล่านี้
“แจ้งไปยังฝ่ายกฎหมาย ให้ทุกคนมาที่ห้องทำงานของผม จะต้องรีบจัดการให้สะอาดก่อนหน้าที่เรื่องราวจะแย่ลง”
“ครับ!”
สมาชิกฝ่ายกฎหมายทั้งแผนกแยกกันนั่งลงเต็มทั้งสองฝั่ง แต่ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่หนักอึ้ง
“นิ่งอึ้งอะไรกัน? พูด มีวิธีการที่จะแก้ไขปัญหาหรือเปล่า?”
ทนายคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเบาๆอย่างระมัดระวัง “ประธานเสิ่น ตามสถานการณ์ในตอนนี้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือสารภาพทุกอย่าง ยอมรับการตรวจสอบ หากถูกโจมตีขึ้นมา ความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับก็ยิ่งหนัก ถึงเวลาก็ไม่ใช่แค่บริษัทปิดตัวลงง่ายขนาดนั้นแล้ว”
“สารเลว!!ไอ้พวกไม่มีความสามารถ สารภาพ? ฉันเชิญพวกแกมาทำอะไรกัน? ไอ้พวกหมาที่ไม่มีประโยชน์!”
“ประธานเสิ่น ตอนนี้ความคิดเห็นของประชาชนบนอินเตอร์เน็ตส่งผลที่ไม่ดีต่อคุณและคุณนายเป็นอย่างมาก บวกกับเรื่องนี้อีก หุ้นของบริษัทพอเปิดออกก็ปิดลบแล้ว หากเลวร้ายลงต่อไป จะต้องนำมาซึ่งความเสียหายที่ไม่อาจคาดการณ์ได้อย่างแน่นอน…”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยเส้นเลือดของเสิ่นเหลียวจ้องเขม็งไปที่ชายวัยกลางคนที่กำลังพูดอย่างเยือกเย็น “ดังนั้น ความหมายของทนายหวังก็คือ?”
ทนายหวังเอ่ย “ในการสัมภาษณ์ฉู่ลั่วหานกล่าวว่าบริษัทฉู่ซื่อคืออุตสาหกรรมของเธอ เธอคือผู้สืบทอดของตระกูลฉู่ ตอนนี้หากเอาเผือกที่กำลังร้อนนี้ส่งเข้าไปบนมือของเธอ ให้บริษัทฉู่ซื่อกลับไปภายใต้ชื่อของเธอใหม่อีกครั้ง ถ้างั้นไม่ว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอต่างก็คือผู้รับผิดชอบรายแรก และคุณมีความผิดที่ต้องแบกรับมากที่สุดก็คือรู้สถานการณ์แต่กลับไม่รายงาน”
“หลังจากเกิดเรื่อง พวกเราจะใช้ช่องว่างทางด้านกฎหมายช่วยคุณหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษ คุณกับบริษัทฉู่ซื่อพ้นจากความสัมพันธ์อย่างสะอาดสะอ้าน”
เสิ่นเหลียวหรี่ตาลง ไม้เท้าค้ำไปบนลูกกระเดือกของคนๆนั้น “แกพูดอะไรนะ? ให้ฉันเอาบริษัทฉู่ซื่อส่งให้กับฉู่ลั่วหาน?”
ทนายถูกไม้เท้าของเขาทำให้ตกใจจนสีหน้าเริ่มเขียว เอ่ยขึ้นอย่างตะกุกตะกักด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทา “ตอน…ตอนนี้ นี่คือวิธีการจัดการที่ดีที่สุด…อีกทั้ง แบบ แบบนี้สามารถอุดปากของสื่อได้ ตอนนี้ความคิดเห็นของประชาชนบนอินเตอร์เน็ตน่ากลัวมาก ได้ส่งผลกระทบไปยังสำนักงานใหญ่ที่เมืองเจียงเฉิงแล้ว…”
“ประธานเสิ่น ตอนนี้ทำได้เพียงเสียเรือเพื่อรักษาขุน คุณ…คิดให้ดี”
ไม้เท้าที่ชูขึ้นของเสิ่นเหลียวลดต่ำตกลงบนพื้น หัวเราะขึ้นอย่างประชดประชันราวกับหัวเราะเยาะตัวเองก็ไม่ปาน “ฮ่าๆๆ คิดไม่ถึงเลยนะ คิดไม่ถึงจริงๆ!ฉันเสิ่นเหลียวคิดไม่ถึงว่าจะมีวันที่ถูกโจมตีได้!แม่งเอ๊ย!”
การประชุมยังไม่ทันจบลง เลขาของเสิ่นเหลียวก็วิ่งเข้ามาด้วยความเร่งรีบ เอ่ยรายงานด้วยสีหน้าที่รีบร้อน “ประธานเสิ่น เกิดเรื่องแล้วค่ะ”
“มีเรื่องไม่สบอารมณ์อีกแล้ว!!เรื่องอะไร?”
เลขากัดริมฝีปาก “เมื่อครู่นี้คนของสำนักอัยการพบว่าในสินค้าล็อตหนึ่งที่โรงงานเขตชานเมืองของพวกเรา…มี…มีปืนล็อตใหญ่อยู่ค่ะ”
เสิ่นเหลียว“พรึ่บ”ลุกขึ้นมาจากโซฟา “เป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน!”
ของนั่นไม่เคยเข้าคลังที่เมืองหลวงมาก่อน จะมีปืนล็อตหนึ่งเพิ่มขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลได้ยังไงกัน!
สายตาเบิกโพลงขึ้นอย่างกะทันหัน หมัดของเสิ่นเหลียวกำแน่นจนกลายเป็นก้อนเหล็ก หลงเซียว จะต้องเป็นหลงเซียวแน่ที่ทำ!
“ติดต่อหลงเซียวเดี๋ยวนี้ ฉันต้องการพบเขา!”