คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 261 งานรวมตัวครอบครัวที่ต่างฝ่ายต่างมีแผนการในใจ
ตอนที่ 261 งานรวมตัวครอบครัวที่ต่างฝ่ายต่างมีแผนการในใจ
วันถัดมา รุ่งเช้า
ลั่วหานกลับไม่ได้นอนถึงตะวันโด่งฟ้าอย่างที่คาดเอาไว้ เธอเพียงแต่ตื่นสายกว่าหลงเซียวครึ่งชั่วโมง หลังจากที่ล้างหน้าล้างตาเสร็จ ลงมาชั้นล่างก็พบว่าภายในบ้านเปลี่ยนเป็นอีกแบบ
คนรับใช้หญิงสามคนสวมชุดสาวใช้เต็มรูปแบบยืนอยู่ที่ห้องโถงชั้นหนึ่งอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มองเห็นลั่วหานลงมาชั้นล่าง ทั้งสามคนก็ก้มศีรษะทักทายอย่างให้เกียรติ “คุณหญิง สวัสดีตอนเช้าค่ะ”
มุมปากของลั่วหานกระตุกขึ้นเล็กน้อย “ค่ะ”
การเคลื่อนไหวของหลงเซียวก็เร็วเกินไปหน่อยแล้วกระมัง? นี่เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้า เขาจัดการคนรับใช้เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อไรกัน?
อีกทั้ง สามคนนี้ ดูแล้วสะอาดสะอ้านเรียบร้อยเป็นอย่างมาก ทำงานจะต้องราบรื่นมากอย่างแน่นอน เขาหามาจากที่ไหนกัน?
“ตื่นแล้ว ทานอาหารเช้าเถอะ”
เธอยังคงกำลังมึนงง หลงเซียวก็เดินออกมาจากห้องครัว ในมือยังถือจานอาหาร ด้านบนเป็นอาหารเช้าที่เขาเตรียมด้วยตัวเอง อาหารเช้าสไตล์ยุโรป โภชนาการอุดมสมบูรณ์เรียบง่ายสะอาด ประเด็นหลักก็คือ เขาทำด้วยตัวเอง
“คุณไม่ใช่หาคนรับใช้มาแล้วหรอคะ? ทำไมยังลงครัวด้วยตัวเองอีก? เรื่องเหล่านี้ส่งมอบให้กับพวกเธอไม่ใช่ว่าดีกว่า?”
ท่านเซียวกลับสบายๆสดใสร่าเริง ราวกับติดการทำอาหารแล้วยังไงอย่างงั้น “ทำอาหารเช้าให้กับภรรยาด้วยตัวเอง ดีที่สุด ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว”
ลั่วหานถูกความรักใคร่เอ็นดูของเขาโอ๋จนทั้งอยากโกรธทั้งอยากหัวเราะ คนๆนี้น่ะนะ จริงๆเลย
ในมือถือมีดส้อมเอาไว้ ลั่วหานทานอาหารเช้าในส่วนของตัวเอง เงยศีรษะมองดูหลงเซียว “เสิ่นเหลียว ฉันรู้แล้ว ทำได้ดีมากค่ะ”
ชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามเงยศีรษะขึ้น สบเข้ากับสายตาของเธอโดยมีโต๊ะอาหารกั้นอยู่ “นี่เพิ่งจะเป็นการเริ่มต้น คุณจะเอาบริษัทฉู่ซื่อกลับคืนมา เรื่องที่ต้องทำยังมีอีกเยอะมาก”
ลั่วหานพยักหน้า ในปากมีผักใบเขียวอยู่ กัดไปหนึ่งคำ “คุณไม่ถามฉันหน่อยหรอคะว่ารู้ได้ยังไงกัน?”
หลงเซียวเพียงแค่ทานผัก หัวเราะขึ้นพร้อมกับเอ่ย “รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ รู้อะไรมาก็ไม่สำคัญเช่นเดียวกัน เรื่องของผมคุณต่างมีสิทธิ์ที่จะรู้”
ลั่วหานคิดไม่ถึงว่าหลงเซียวจะตอบกลับแบบนี้ ในใจค่อนข้างที่จะรู้สึกผิด หลงเซียวจริงใจขนาดนี้ เธอก็ต้องจริงใจหน่อยใช่หรือเปล่า?
แต่ก็รู้สึกขึ้นมาอีกว่ายังไม่ถึงเวลา ยังไงก็รออีกหน่อยก็แล้วกัน
“มามุกนี้น้อยๆหน่อยค่ะ ฉันรู้นะคะว่า นอกเสียจากเรื่องที่คุณยินดีจะให้ฉันรู้ สิ่งที่คุณไม่อยากจะให้ฉันรู้ ฉันจะมีวิธีรู้ได้ที่ไหนกัน? ในท้องของคุณหลง ลำไส้ขดล้อมอยู่กี่รอบ ฉันไม่กล้าที่จะคิด”
หลงเซียวหั่นเนื้อวัวชิ้นเล็กออกใส่เข้าไปในปาก “ต่อไปคุณจะรู้ทั้งหมด ใช่แล้ว วันนี้ผมจะกลับบ้านตระกูลหลงสักรอบ คุณอยากจะไปหรือเปล่า?”
ได้ยินบ้านตระกูลหลง มีดส้อมที่อยู่ในมือของลั่วหานก็หยุดลงโดยจิตใต้สำนึกในทันที “ไม่อยากไปค่ะ”
เธอไม่อยากมองเห็นหลงถิง ไม่อยากมองเห็นหยวนชูเฟิน ไม่อยากกลับไปยังสถานที่ที่แบกรับความรู้สึกอัปยศอดสูไว้อย่างมากมายนั่น อย่างน้อยที่สุดตอนนี้เธอไม่อยากไป
“ได้ ผมจะรีบกลับมาให้เร็วที่สุด หากคุณอยู่บ้านเบื่อสามารถออกไปเดินเล่นได้ ในบ้านมีอะไรที่ต้องซื้อ คุณดูเอาตามสบาย พาคนหนึ่งไปด้วยกัน อย่าถือของเอง”
ลั่วหานรู้สึกส้อมมีดที่อยู่ในมือค่อนข้างที่จะหนักอึ้ง นี่หลงเซียวจะโอ๋เธอขึ้นไปถึงบนฟ้าเลยหรอ?
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันไม่ได้ล้ำค่าแตกหักง่ายขนาดนั้น เรื่องอะไรก็ต้องให้คนอื่นทำทั้งหมด จะถูกคนอื่นมาแทนที่ได้ง่าย ฉันชอบลงมือด้วยตัวเองค่ะ”
เธอค่อนข้างมีความหมายที่สองแง่สองง่าม
หลงเซียวเลิกหัวคิ้วขึ้น “ไม่มีใครสามารถแทนที่คุณได้ แต่ว่าคุณชอบก็โอเค”
…
คฤหาสน์ของตระกูลหลง พูดขึ้นมาหลงเซียวก็ไม่ได้กลับมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว ลั่วหานไม่อยากมา เขาจะอยากมาทำไม?
เพียงแต่การพบหน้าในวันนี้ ดูเหมือนไม่มาก็ไม่ได้
หลงเซียวก้าวเท้าใหญ่ๆเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลหลง พ่อบ้านเปิดประตูใหญ่ด้วยความเคารพนบนอบ “คุณชายใหญ่”
“อืม มาถึงกันหมดแล้ว?” หลงเซียวเอ่ยถามขึ้นเบาๆ
“ใช่ครับ ต่างก็รออยู่ที่ห้องรับแขก”
มุมปากของท่านเซียวฉีกออก หัวเราะขึ้นอย่างประชดประชันโดยที่ไม่รู้ตัวเพียงชั่วพริบตาก็หายไป
หลงเซียว ไม่เจอกันตั้งนาน!”
เพิ่งจะก้าวเข้าไปที่บริเวณทางเข้า เงาร่างสีดำก็เข้ามากอดอย่างเป็นมิตร มือใหญ่ตบเบาๆที่แผ่นหลังของหลงเซียว ความสนิทสนมและความคุ้นเคย ราวกับรู้จักกันมาหลายสิบปี
หลงเซียวผลักผู้ชายที่กอดไหล่ของตนเองเอาไว้อย่างเป็นธรรมชาติ น้ำเสียงราบเรียบ “คุณลุงใหญ่ ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
“ฮ่าๆ!หลายปีมานี้ลุงกับพี่ชายของหลานต่างก็อยู่ที่ต่างประเทศ กลับมาน้อยมาก พวกเราครอบครัวหนึ่งดูเหมือนจะห่างไกลกันมากแล้ว ไม่สมควรจริงๆน่ะนะ!”
หลงเซียวยิ้มบางๆ “ลุงใหญ่กับพี่ชายปกติอยู่ที่ออสเตรเลีย ยังยินดีที่จะกลับประเทศ หาได้ยากจริงๆครับ”
“อั๊ยยะ!เป็นคนน่ะนะ ไม่อาจจะลืมตัวเองได้ ลุงใหญ่อายุมากแล้ว ใบไม้ตกลงสู่ราก ยังไงก็ต้องกลับมาที่บ้านเกิด ถึงจะมีความรู้สึกที่เป็นเจ้าของ”
เผชิญหน้ากับความกระตือรือร้นเป็นมิตรของหลงเซิ่ง ปฏิกิริยาของหลงเซียวก็ยังคงนิ่งเฉยทั้งยังใจเย็นอยู่ตลอดเวลา ดูการแสดงออกถึงความสนิทสนมแนบแน่นของการเจอญาติที่ไม่ได้พบกันมานานไม่ออกเลยแม้แต่น้อย
ในเวลานี้เอง หลงยี่ที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ยืนขึ้น หลงยี่หลังจากที่เข้าประตูก็ถอดเสื้อคลุมสูทออก ตอนนี้บนร่างกายยังมีเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวหนึ่ง บวกกับเสื้อกั๊กสูทสีดำ หลงยี่ที่เพิ่งจะสามสิบต้นๆสืบทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่ดีของตระกูลหลงอย่างที่เป็นมาโดยตลอด รูปโฉมไม่ธรรมดา ท่าทางสง่างาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งดวงตาที่ฉลาดในด้านการคิดคำนวณ มีลำแสงสะท้อนเปล่งประกาย
เทียบกับความกระตือรือร้นเป็นมิตรของผู้เป็นพ่อแล้ว หลงยี่ใจเย็นกว่าเป็นอย่างมาก “หลงเซียว ทุกคนก็รอแกแล้ว”
มุมริมฝีปากของหลงเซียวเฉียงขึ้นเล็กน้อย “ครับ”
หลงจื๋อก็นั่งอยู่ที่ด้านข้าง ราวกับผู้ชมข้างสนามก็ไม่ปาน มองดูทุกสิ่งที่อยู่ต่อหน้า เพียงแค่มองดูตัวเอง เล่นกับตัวเอง
คนทั้งแถวลงนั่ง หลงเซิ่งก็นำระดับคะแนนที่มีต่อหลงเซียวในหลายปีมานี้ชมไม่ขาดปาก จากบนพื้นชมขึ้นไปถึงบนฟ้า ที่พูดก็คือบนฟ้ามีในโลกมนุษย์ไม่มี เรียกได้ว่าดันหลงเซียวขึ้นไปบัลลังก์ของอัจฉริยะ
หลงเซียวเพียงแต่พิงไปบนโซฟา จิบชาอย่างช้าๆ ฟังคำโม้ของหลงเซิ่ง ให้คำสองคำเป็นการตอบรับเป็นบางครั้งบางคราว
เขาแทบจะเดาออกได้ว่า หลังจากคำโม้ที่ยาวเหยียด หลงเซิ่งจะต้องขออะไรหน่อยอย่างแน่นอน
ไม่เจอกันหลายปี เขาไม่เปลี่ยนเลยแม้แต่น้อย
เป็นไปอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ หลังจากที่หลงเซิ่งหัวเราะจนหน้าแดง ก็เอียงตัวมาทางหลงเซียว รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้ายังไม่หายไป เนื้อหาที่พูดกลับมีการเปลี่ยนแปลง “หลงเซียว ลุงได้ยินว่า โรงพยาบาลหวาเซี่ยที่อยู่ในเครือบริษัทMBKช่วงนี้กำลังวิจัยและพัฒนายาปฏิชีวนะตัวใหม่ ไม่รู้ว่าโปรเจกต์นี้ หลานวางแผนว่าจะให้ใครทำ?”
นิ้วมือของหลงเซียวเล่นแก้วน้ำชาอย่างเต็มที่ ท่าเหมือนไม่ระวังเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง “ลุงใหญ่หมายความว่ายังไงครับ?”
“เหอะๆ!ลุงไม่ได้หมายความว่ายังไง ฮ่าๆ ลุงกับพี่ชายของหลานได้ซื้อโรงงานยาขนาดใหญ่แห่งนึงในประเทศจีน ต่างก็เป็นที่ผลิตยาระดับสูงภายในประเทศ หากหลานเชื่อมั่นในตัวลุงใหญ่ สิทธิ์ในการผลิตยาล็อตนี้ สู้ส่งมอบให้กับลุงใหญ่จะดีกว่า ลุงใหญ่รับประกันว่า…”
“ลุงใหญ่…” หลงเซียวตัดบทหลงเซิ่ง “ยาล็อตนี้ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลอง ไม่ได้นำเข้าการผลิต ลุงใหญ่เร่งรีบเกินไปหน่อยแล้วหรือเปล่าครับ”
หลงยี่รีบร้อนเอ่ย “หลงเซียวพูดถูก ยาจะต้องระมัดระวังอย่างรอบคอบ จะเร่งรีบเกินไปไม่ได้ รอหลังจากที่มั่นใจตัวยาที่สำเร็จแล้วค่อยตัดสินใจก็ไม่สาย โรงงานทางนั้นเตรียมความพร้อมเอาไว้ตลอดเวลา ต้องการเมื่อไร เริ่มงานเมื่อนั้น แกว่าเป็นยังไง?”
หลงเซียวจิบชาไปคำหนึ่ง “พี่ พี่ซื้อโรงงาน ก็เพื่อจะรอบิลจากผม? หากการวิจัยและพัฒนาล้มเหลว พี่ไม่ใช่ว่าจะต้องชดใช้จำนวนมหาศาลหรอกหรอ?”
“ฮ่าๆ!นี่คำพูดที่ไหนกัน? โปรเจกต์ที่แกทำ ไม่เคยมีคำพูดว่าล้มเหลวมาก่อน!ฉันเชื่อใจแก!ฮ่าๆ!”
หลงจื๋อหัวเราะขึ้นอย่างประชดประชัน สอดเข้ามาหนึ่งประโยค “พี่ เชื่อใจคำๆนี้ เป็นสิ่งที่ต้องมีต่อกัน ฝ่ายเดียวไม่มีประโยชน์”
หลงถิงที่ไม่ได้พูดอะไรอยู่ด้านข้างอุทานออกมาอย่างเยือกเย็น “เสี่ยวจื๋อ?”
คำถามย้อนกลับคำหนึ่ง หลงจื๋อหุบปากไม่พูดอะไรออกมาอีก
“ขอตัวสักครู่ ผมไปห้องน้ำ” หลงเซียวไม่สนใจบรรยากาศภายในห้องรับรองแขกและแผนการในใจของทุกฝ่าย ลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำในทันที
เพิ่งจะเดินมาถึงที่ด้านนอกประตู ก็ได้ยินเสียงซุบซิบเบาๆไม่ขาดสายที่สะท้อนเข้ามาจากทางเดินอีกฝั่ง
“น้ารอง หลงเซียวอยู่ด้วยกันกับยัยแม่มดฉู่ลั่วหานคนนั้นจริงๆหรอ? ได้ข่าวว่าในตอนแรกเธอตายไปแล้วนะ…”
“ก็คือเธอ”
“หลงเซียวไร้เหตุผลมากเกินไปหน่อยแล้วหรือเปล่า ผู้หญิงแบบนี้…ฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะสม พูดออกไปก็ไม่น่าฟัง ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ผู้หญิงดีอะไร…”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อยๆเบาลงไปเรื่อยๆ ท่านเซียวก็ไม่ได้ยินแล้ว
แต่สองสามประโยคนี้ เพียงพอที่จะจุดไฟโกรธของเขาให้ติด
ไม่ใช่ผู้หญิงดี?
ภรรยาของเขา ถึงตาให้คนอื่นมาวิจารณ์มั่วๆตั้งแต่เมื่อไรกัน!
“มาครบกันหมดแล้วนะ ดีจังเลย งั้นพวกเราอีกสักครู่เริ่มรับประทานอาหารกัน วันนี้ฉันลงครัวด้วยตัวเอง ทำกุ้งล็อบสเตอร์ออสเตรเลียให้กับทุกคน รับรองว่าพวกคุณจะต้องชอบ”
ผู้หญิงที่ยังไม่เห็นตัวก็ได้ยินเสียงมาก่อน ตัดไม้ข่มนามนั่น ก็คือภรรยาของหลงยี่ โจวหยู่เช่น
หยวนชูเฟินเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า ชุดกี่เพ้าที่สง่างาม การแต่งหน้าที่ประณีต ยืนด้วยกันกับโจวหยู่เช่นในเรื่องอายุแม้ว่าจะเสียเปรียบ แต่รูปโฉมบุคลิกไม่ได้แพ้เลยแม้แต่น้อย
“โจวหยู่เช่นยุ่งมาจนถึงตอนนี้ ช่างเอาใจใส่อีกทั้งมีความสามารถจริงๆ หลงยี่มีภรรยาที่ดีขนาดนี้ ช่างทำให้ฉันรู้สึกอิจฉา”
“น้ารองล้อเล่นแล้ว ผมกลับได้ยินว่าภรรยาของหลงเซียวเป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ นั่นถึงจะเรียกว่ามีความสามารถที่แท้จริง”
หลงยี่เอ่ยขึ้นราวกับไม่ทันได้ยั้งคิด บรรยากาศภายในห้องรับรองแขกเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด
หยวนชูเฟินหัวเราะขึ้นเล็กน้อย “มีความสามารถ เหอะๆ ก็ถือว่ามีความสามารถจริงๆ!แต่ว่าผู้หญิง ถึงอย่างไรก็ต้องพากลับมาได้ถึงจะดี!”
ความหมายนั้นก็คือบอกเป็นนัยกับลูกชาย ผู้หญิงคิดไม่ถึงว่าแม้แต่งานเลี้ยงครอบครัวที่สำคัญขนาดนี้ก็ยังไม่ปรากฏตัวออกมา พี่ใหญ่ของตระกูลหลงไม่กลับประเทศมาหลายปี เธอได้แจ้งกับลูกชายอย่างเป็นทางการแล้วว่า งานเลี้ยงในตอนบ่ายจะต้องตั้งใจเข้าร่วม ใครจะรู้คิดไม่ถึงว่าเขาจะกลับมาคนเดียว
หลงเซียวยิ้มอ่อนๆ “พี่สะใภ้สุดยอดจริงๆ อาหารมื้อเดียวก็เอาชนะใจแม่ผมแล้ว อาหารจานนี้ช่างทำให้คนรอคอยจริงๆ”
“กำลังจะเสร็จแล้วจ้ะ เดี๋ยวนี้”
โจวหยู่เช่นกับหลงยี่แต่งงานกันที่ออสเตรเลีย เธอกับหลงเซียวไม่ได้มีการคบค้าสมาคมอะไร ยังคงได้ยินมาว่านิสัยส่วนตัวของหลงเซียวองอาจเผด็จการ ยุแหย่ไม่ได้ง่ายๆ ที่แท้ยุแหย่ไม่ได้ง่ายๆอย่างที่คิดเอาไว้จริงๆ
ถึงเวลารับประทานอาหาร เพิ่งจะหนึ่งทุ่ม
งานเลี้ยงครอบครัวที่ดูภายนอกสนิทสนมกันแต่ความจริงไม่ใช่ รับประทานกันอย่างถือว่าสงบราบรื่น ถึงอย่างไรต่างก็เป็นการใช้ภาษาทางการเพื่อเบี่ยงประเด็น พูดให้น่าฟังก็พอแล้ว
ทว่ากินไปกินมา โจวหยู่เช่นก็เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “หลงเซียว ต่างก็ว่ากันว่าภรรยาคนนี้ของเธอ คือสาวสวยที่พบเห็นได้ยาก อีกทั้งบุคลิกลักษณะ ความสามารถ คนธรรมดาเทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย วันไหนมีโอกาสก็ให้พี่ทำความรู้จักหน่อยสิ?”
หลงจื๋อที่รับประทานอาหารอยู่ ถือโอกาสเอ่ยขึ้นว่า “พี่สะใภ้ พี่สะใภ้ใหญ่ของผมก็ทำงานอยู่ที่แผนกหัวใจของโรงพยาบาลหวาเซี่ย พี่อยากทำความรู้จักเธอยังไม่ง่ายอีกหรอ? ไปจองคิวผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านก็ได้แล้ว”
“หลงจื๋อ พูดจาแบบนี้กับพี่สะใภ้ของแกได้ยังไงกันน่ะ? ไม่มีมารยาท!” หยวนชูเฟินยิงสายตาที่เยือกเย็นเข้ามา ใช่ลูกชายแท้ๆหรือไม่ สายตานั้นก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้
หลงเซียวเอ่ย “ที่หลงจื๋อพูดก็ไม่ผิด ทำไมแม่จะต้องตำหนิเขา? ลั่วลั่วเป็นหมอ รักษาโรคช่วยชีวิตคนยุ่งมาก แน่นอนว่าไม่มีกำลังที่จะใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่ในห้องครัวทำอาหารจานหนึ่ง พบเธอหรอ? โรงพยาบาลคือทางเลือกที่ดีที่สุด”
หยวนชูเฟินถูกลูกชายสกัดกั้นมาหนึ่งประโยค เอ่ยขึ้นเบาๆอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “เซียวเอ๋อ คิดไม่ถึงว่าลูกยังจะช่วยเธอพูด!”
หลงเซียววางมีดส้อมลง หยิบผ้าเช็ดปากขึ้นมาเช็ดที่มุมริมฝีปาก แล้วทิ้งลงไป “ลั่วลั่วคือภรรยาของผม ผมไม่ช่วยเธอพูดช่วยใครพูด? ผมทานเสร็จแล้ว พวกคุณทานต่อ”
หลงเซียวดันเก้าอี้ออกเดินออกไปจากโต๊ะอาหาร รังสีที่แผ่ออกมานั้นใครก็ไม่อยู่ในสายตา
ลุงใหญ่? พี่ชาย?
หึ!
ไม่มีอะไรจะมากไปกว่าเล็งมาที่ทรัพย์สินของตระกูลหลง มีหุ้นส่วนเล็กน้อยในบริษัทMBK และธุรกิจที่ต่างประเทศช่วงนี้ไม่ค่อยดี กลับประเทศมาหาที่หลบภัย!
คิดไม่ถึงว่ายังจะกล้าแตะเกล็ดมังกรต่อหน้าของเขา รนหาที่ตาย!
พอเขาไป หลงเซิ่ง หลงยี่ และโจวหยู่เช่นต่างก็ตกตะลึงกันไปครู่หนึ่ง
“หลงเซียว!แกหยุดอยู่ตรงนั้น!”
คนที่เอ่ยขึ้นเป็นคนสุดท้ายคือหลงถิง สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยน ถึงขั้นมีดส้อมที่อยู่ในมือก็ยังคงรักษาการเคลื่อนไหวในการหั่นเนื้อเอาไว้
“ทำไมครับ? พ่อยังมีธุระ?”
“เรื่องของแกกับฉู่ลั่วหาน ฉันไม่ยุ่งก็ได้ แต่แกฟังเอาไว้ หากบริษัทMBKเกิดเรื่องอย่างที่ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงเพราะเธอเป็นต้นเหตุอีกล่ะก็ ฉันจะไม่ปล่อยพวกแกไปง่ายๆแน่!”
พูดถึงราคาหุ้นเกิดความเปลี่ยนแปลงหรอ…
“พ่อ ลุงใหญ่ เกี่ยวกับตลาดหุ้นของบริษัทMBK พวกท่านก็เห็นแล้ว ข่าวเชิงลบเล็กๆน้อยๆของผมก็สามารถทำให้ราคาหุ้นเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ต่อไป ยังไงก็ต้องให้พ่อกับลุงใหญ่คิดหนักมากหน่อย ให้ตำแหน่งของผมมั่นคงสักนิด อย่าปรากฏภาพที่อกสั่นขวัญหายแบบนี้อีก”