คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 225 มีเพียงผมที่เหมาะสมกับคุณ
ตอนที่ 225 มีเพียงผมที่เหมาะสมกับคุณ
คฤหาสน์ของตระกูลตู้ ตั้งอยู่สถานที่ที่รวบรวมผู้ร่ำรวยที่สุดในนิวยอร์ก คนที่อยู่อาศัยที่นี่คือคนนิวยอร์ก และเป็นคนร่ำรวยที่สุดในอเมริกาด้วย คงไม่ต้องคำนวณว่าทรัพย์สินของตระกูลตู้ มีมากแค่ไหน แค่ดูจากสถานที่ที่อยู่อาศัยก็จะทราบทันที และทราบด้วยความตระกูลตู้ กับตระกูลเฉียวแตกต่างกันแค่ไหน
ตอนนี้ แอนน่าไม่มีอารมณ์คิดคำนวณเรื่องความแตกต่างทรัพย์สินของทั้งสองตระกูล
รถยนต์มาเซราติเพิ่งมาถึงนอกคฤหาสน์ ก็เห็นไฟบนท้องถนนเป็นแบบสถาปัตยกรรมแบบบาโรกส่องสว่างตามลานบ้านที่หรูหรา
ภายในคฤหาสน์ บนถนนทางทอดยาวและคดเคี้ยวโปรยไปด้วยก้อนหินสีขาว ขณะเดียวกันก็มีเงาของต้นไม้ทอดลงมาด้วย คฤหาสน์ในตอนกลางคืนสวยหรูหรากว่าตอนกลางวันมาก
รถยนต์จอดเบื้องหน้าตึกใหญ่สีขาว วินาทีแรกที่เห็นคือประตูคฤหาสน์เปิดขึ้น จากนั้นแสงสว่างเจิดจ้าของดวงไฟคริสตัลก็กระทบม่านตาขึ้น
ตู้หลิงเซวียนเดินลงจากรถยนต์มาช่วย แอนน่าเปิดประตูรถยนต์ด้วยท่าทางสุภาพบุรุษ และยิ้มแย้มเล็กน้อย "แอนน่าพวกเรามาถึงแล้ว"
แอนน่าพยักหน้าเล็กน้อย และก้มหน้าเดินลงจากรถยนต์ คิดไม่ถึงว่าจะมาถึงเร็วขนาดนี้ เธอยังคิดไม่ออกเลยว่าจะรับมือยังไงเลย แต่กลับมาถึงแล้ว
"พวกเธอสองคนปล่อยให้คนรอตั้งนาน! รอพวกเธอสองคนเลย!"
"บุคคลสำคัญก็ต้องมาเข้าร่วมงานคนสุดท้ายเสมอสิ ฮ่าฮ่า"
"เห็นพวกเขาสองคนแล้ว ฉันรู้สึกรู้อิจฉามากเลย"
นอกคฤหาสน์ เริ่มได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงหัวเราะดังขึ้น ในค่ำคืนนี้พวกเขาสองคนเป็นบุคคลสำคัญที่ทุกคนให้ความสนใจ
แอนน่าสูบลมหายใจเข้าลึกๆ คืนนี้ผ่านพ้นยากลำบากแน่
ตู้หลิงเซวียนยื่นมือจับมือของเธอไว้ วินาทีที่สัมผัสมือของเธอนั้นตู้หลิงเซวียนก็รู้สึกว่ามือของเธอเย็นเฉียบเหมือนดั่งหยกที่หนาวเย็น
ตู้หลิงเซวียนถึงกับต้องหันหน้ามองใบหน้าด้านข้างของแอนน่าในมุมมองของเขาแล้ว เมื่อเห็นขนตาเรียวยาวกระพริบตลอดเวลา หายใจเร็ว และมีอาการตื่นตระหนก เขาก็สัมผัสได้ว่าเธอกำลังรู้สึกตื่นเต้น
"แอนน่าคุณตื่นเต้นหรอ?"
แทนที่จะบอกว่ารู้สึกตื่นเต้น บอกว่ารู้สึกต่อต้านดีกว่า ต่อต้านตระกูลตู้ โดยเฉพาะต่อต้านการแต่งงานด้วย
แอนน่าฝืนใจยิ้มแย้มเพื่อกลบเกลื่อน และพูดขึ้นว่า "นิดหน่อยค่ะ"
สิ้นสุดเสียง เธอก็ดึงมือของตัวเองกลับมาจากในมือของตู้หลิงเซวียนอย่างเงียบๆ แล้วแกล้งเดินถอยหลังและแกล้งทำเป็นการจัดทรงผมอย่างเนียนๆเพื่อรักษาระยะห่าง
ตู้หลิงเซวียนเหลือบมองมือที่ว่างเปล่าของตัวเองแวบหนึ่ง โดยที่สีหน้าไม่มีท่าทีเปลี่ยนแปลง "ผมอยู่ที่นี่แล้ว คุณไม่ต้องตื่นเต้นหรอก"
ทั้งสองคนแต่งตัวอย่างเต็มยศ ตอนที่ยืนอยู่ภายใต้แสงไฟที่มีสีสันแวววาวตกกระทบบนชุดนั้น ทั้งสองคนก็ยิ่งดูโดดเด่นมากขึ้น
เมื่อได้ชายหนุ่มหล่อกับสาวสวยเดินมาด้วยกัน ทุกคนก็เริ่มให้ความสนใจมากขึ้น
แอนน่าคิดไม่ถึงว่า งานเลี้ยงของตระกูลจะจัดได้ยิ่งใหญ่อลังการขนาดนี้!
คนทั้งครอบครัวของตระกูลตู้ ล้วนอยู่กันหมด ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของตู้หลิงเซวียนครอบครัวของลุง ครอบครัวของอา และพี่น้องของแม่ตู้หลิงเซวียน…. ล้วนเข้าร่วมกันหมด
จำเป็นต้องจัดยิ่งใหญ่ขนาดนี้เลยหรอ?
เมื่อเห็น แอนน่าเดินเข้ามา จางม่านหนิง แม่ของตู้หลิงเซวียนก็รีบลุกขึ้นทันที แล้วเดินมาจับมือกับแอนน่าลูกว่าที่สะใภ้ที่ไม่ได้เจอกันนาน "ในที่สุดก็กลับมาสักที ตระกูลตู้ ของเรารอเธอมาแต่งงานแล้ว แต่ทำได้แค่เฝ้ารอคอย!"
จางม่านหนิงเป็นคนไต้หวัน การพูดการพูดจาอ่อนหวานและน่ารัก เมื่อฟังน้ำเสียง ดูรูปร่าง แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเธออายุห้าสิบกว่าแล้ว
แอนน่ายิ้มตอบรับ "ช่วงนี้คุณป้าดูดีขึ้นนะค่ะ ฉันรู้สึกอิจฉาจังเลย"
"เปล่าสักหน่อย หนูสินับวันยิ่งสวยขึ้นทุกวัน เสียวเซวียนต้องรีบแต่งงานกับเธอได้แล้ว ปล่อยลูกสะใภ้สวยๆแบบนี้อยู่ข้างนอก ฉันไม่ค่อยวางใจ"
จางม่านหนิงพูดเปิดประเด็นขึ้น และทุกคนก็ยิ้มหัวเราะด้วยความชอบใจ จากนั้นบรรยากาศก็เริ่มคึกคักขึ้น
หากพูดถึงคนของตระกูลตู้ แล้วพวกเขาล้วนเป็นนักธุรกิจระดับต้นๆ อย่าว่าแต่อสังหาริมทรัพย์ของตระกูลตู้ เลย แม้แต่บริษัทสาขายังมีชื่อเสียงเลื่องลื่อเลย
ตู้เฉิงเย่หัวเราะฮ่าฮ่าขึ้น "แฟนสาวของนายคนนี้ พวกเราตระกูลตู้ เห็นชอบด้วย! ตอนที่ แอนน่ากับเควิน มาด้วยกัน ช่างเหมาะสมราวฟ้าประทาน! ฮ่าฮ่า!"
เฉียวหย่วนฟานพยักหน้ายิ้มเล็กน้อย "ผู้ชายหล่อและอายุยังน้อยอย่างเควินต้องคู่ควรกับลูกสะใภ้ที่สวยและมีความสามารถเท่านั้น ในเมื่อพวกเธอสองคนรักใคร่กัน ฉันในฐานะพ่อจะไม่เห็นด้วยได้ยังไงกัน?"
เหล่าผู้ใหญ่นั่งอยู่ในห้องโถงในคฤหาสน์อย่างคึกคัก พร้อมกับพากันพูดเชยชมพวกเขา เพียงแต่พวกเขาพูดเสียงดังเอะอะโวยวาย เลยทำให้ใครหลายคนไม่ค่อยพอใจ
เควิน เป็นคนมีความสามารถในการรับมือสถานการณ์ในงานเลี้ยงประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ หรือรุ่นเดียวกัน เขาก็มีวิธีการพูดที่เหมาะสมทำให้ฝ่ายตรงข้ามพึ่งพอใจ
ทุกครั้งที่เข้าร่วมงานเลี้ยงกับเควิน แอนน่ามักจะแอบคิดในใจเงียบๆว่า ตกลงเขาฝึกฝนเป็นคนเจรจาเก่งแบบนี้ได้ยังไงกัน คิดไม่ถึงว่าทักษะการพูดของเขาสร้างความประทับใจต่อผู้คน แม้กระทั่งคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรกก็ตาม
แอนน่าจ้องมองเขา ขณะเดียวกันก็แอบคิดในใจเงียบๆด้วยว่า หากหลงเซียวประสบสถานการณ์ในงานเลี้ยงแบบนี้ เขาจะทำยังไง? เป็นคนเจ้าเล่ห์ให้ผู้คนชื่นชอบ หรือว่าเป็นคนยึดมั่นในตัวเองให้คนอื่นชอบกันแน่?
หรือว่า เขาจะเลือกเดินออกจากสถานการณ์แบบนั้นเลยก็ไม่แน่
ขณะที่ครุ่นคิดนั้น แอนน่าก็เกือบหัวเราะออกมา ตอนที่หลงเซียวเดินหนีจากไปต้องมีท่าทางหล่อแน่!
"แอนน่าคุณชอบชุดแต่งงานแบบจีนหรือแบบยุโรป? คุณชอบแบบไหนหรอ พวกเราจะได้จัดการ"
จางม่านหนิงยื่นมือจับมือของแอนน่าแล้วนั่งลงโดยไม่ปล่อยมือ แอนน่าเองก็ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด
ตอนที่เธอคิดเพ้อเจ้อนั้น ก็มีคนซักถามเธอขึ้น จนแอนน่าไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนอง
"คุณป้าค่ะ งานแต่งงานจัด….ต้นเดือน ไม่รู้สึกว่ามันเร่งรีบเกินไปหรอค่ะ? อีกอย่างมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่เตรียมการด้วย"
"เรื่องพวกนี้ไม่จำเป็นเลย! ขอเพียงเธอเตรียมพร้อมแต่งงานก็เพียงพอแล้ว อย่างอื่น พวกเราสามารถจัดการเองได้ เธอไม่ต้องเป็นห่วงเลย"
"คุณป้าค่ะ พวกหนูในฐานะเด็กกว่า จะปล่อยให้ผู้ใหญ่ลำบากได้ยังไงกันค่ะ? อีกอย่างไม่ควรปล่อยให้เวลากระชั้นชิดด้วย….."
"แต่งงานเป็นเรื่องดีขนาดนี้ สามารถช่วยเหลือถือเป็นเรื่องดีมาก คุณป้ายินดีและมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือ แด๊ดดี้และหม่ามี๊ของเธอก็เหมือนกัน"
ได้มิ้นพยักหน้าและพูดว่า "แอนน่าเป็นลูกสาวที่ดี ฉันทำใจให้เธอแต่งงานยาก แต่ในเมื่อเจอผู้ชายที่ดีอย่างเควินหากสามารถแต่งงานกัน ฉันเองก็วางใจค่ะ"
เมื่อได้ยินแบบนี้ แอนน่าก็ปิดปากนิ่งเงียบ เพราะเธอแทบไม่มีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นเลย
จู่ๆ แอนน่าก็ตาพร่ามัว เธอยกมือนวดเล็กน้อย แต่กลับยิ่งรู้สึกปวดหัวเหมือนหัวถูกรถยนต์กดทับ
แอนน่าเริ่มมีสีหน้าขาวซีดขึ้น และพยายามหายใจเข้าออกลึกๆ จากนั้นก็พูดว่า "คุณป้าค่ะ ฉันขอตัวไปห้องน้ำสักครู่นะค่ะ"
แอนน่ารีบเดินหนีจากห้องโถงที่เอะอะเสียงดัง แล้วรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ
เธอวางมือทั้งสองข้างยันอ่างล้างมือ พร้อมกับเงยหน้ามองตัวเองในกระจก และพบว่าตัวเองมีสีหน้าขาวซีด ขณะเดียวกันก็รู้สึกปวดหัวแทบหายใจไม่ค่อยออก!
ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ผ่านไปไม่นาน ความเจ็บปวดก็ค่อยๆลดลง แต่เธอยังคงมีสีหน้าขาวซีดไม่มีเลือดฝาดเลย
เธอยื่นมือไปที่ก๊อกน้ำ น้ำเย็นก็ตกกระทบบนหลังมือของเธอ เธอสัมผัสได้เพียงความหนาวเย็น
จากนั้นก็ยกมือที่เปื้อนน้ำตบบนใบหน้าของตัวเอง และใบหน้าที่แต่งหน้าอ่อนๆก็หายไปเกือบครึ่ง จนแทบเผยใบหน้าสด
เธอหยิบลิปขึ้นมาจากในกระเป๋า แล้วทาบนริมฝีปากเล็กน้อย
จากนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของแอนน่าก็ดังขึ้น
เป็นข้อความจากหลงเซียว และบนหน้าจอมีเนื้อหาว่า
"ผมคิดถึงคุณมาก"
แอนน่ายืนพิงอ่างล้างมือ และอ่านข้อความ แต่เมื่อเห็นข้อความก็รู้สึกสับสนทันที
"ส่งผิดมาหรอ?"
หลงเซียวนั่งอยู่ในห้องทำงาน และกำลังจิบกาแฟอุ่นๆอยู่ แต่ทั้งที่รสชาติของกาแฟขมเล็กน้อย แต่เขากลับรู้สึกหวานอย่างน่าประหลาดใจ
"แอนน่าผมคิดถึงคุณมาก"
แอนน่าที่หลบอยู่ในห้องน้ำก็เอียงคอเล็กน้อย จากที่มีอาการปวดหัวจะไม่สบาย จู่ๆก็รู้สึกหัวเราะขึ้น
"หลงเซียว ฉันกำลังจะแต่งงานแล้ว เข้าใจไหม?"
แน่นอน เขาเข้าใจ
คืนนี้ที่คฤหาสน์ตระกูลตู้ มีบรรยากาศคึกคักยังไง หลงเซียวก็รู้
"แล้วยังไง?"
แอนน่าตอบว่า "เห็นได้ชัดเจนว่า คุณกำลังหลอกล่อผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงาน"
จู่ๆบนหน้าจอของหลงเซียวก็ปรากฏข้อความหนึ่งขึ้น เป็นข่าวจากกู้เยนเซิน "คืนวันนี้ที่คฤหาสน์ของตระกูลตู้ บรรยากาศคึกคักมาก นี่น่าจะเป็นงานเลี้ยงพูดคุยก่อนแต่งงาน แต่นางเอกของพวกเราดูท่าทางไม่ค่อยมีความสุขเลย"
หลงเซียวยิ้มมุมปากเล็กน้อย และตอบข้อความของแอนน่าว่า "อืม? ดูเหมือน ผมจะหลอกล่อได้ผลด้วยสิ แอนน่าบนโลกใบนี้มีเพียงผมคนเดียวที่เหมาะสมกับคุณ ผมรอคุณอยู่"
แอนน่าจ้องมองโทรศัพท์อย่างนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ถูก
"แอนน่าคุณโอเคหรือเปล่า?"
เสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบทำลายสมาธิของแอนน่าเธอรีบเอาโทรศัพท์ใส่ในกระเป๋า แล้วสูบลมหายใจเข้าลึกๆ "ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ"
"ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?"
"เปล่าค่ะ"
เมื่อตู้หลิงเซวียนเห็นเธอเดินออกมาก็รู้สึกวางใจทันที
"คุณดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลยนะครับ ไม่เป็นไรจริงหรอ? ถ้าหากรู้สึกเหนื่อย เดียวผมพาคุณไปส่งก่อนก็ได้ พวกเขายังกำลังสนุก คงยังอยู่ต่ออีกสักหน่อย"ตู้หลิงเซวียนเผยสีหน้าละอายใจ "ฉันแค่คิดไม่ถึงว่าจะมีคนเยอะขนาดนี้ ฉันไม่ค่อยชอบเสียงดัง ฉันละเลยเอง"
เขายังคงมีท่าทางอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง จนเธอสงสัยว่านี่เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขาหรือเปล่า?
"ไม่ต้องหรอกค่ะ"
"ผมจะรีบทำให้พวกเขาเลิกงานให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องแต่งงาน พวกเราค่อยคุยกันส่วนตัว โอเคไหม?"
"คือฉัน….."
“อามิ้น!อามิ้น!!”
จู่ๆก็มีเสียงเรียกขานที่รีบร้อนดังขึ้น ชั่วพริบตาทำลายเสียงดังเอะอะโวยวายขึ้น นี่คือเสียงของเฉียวหย่วนฟาน
"หม่ามี๊!"
แอนน่าสะบัดมือของตู้หลิงเซวียนแล้วรีบเดินตรงไปที่ห้องโถง และเห็นได้มิ้นนอนบิดเบี้ยวบนรถเข็น เธอมีอาการจ้องมองเพดานด้วยสายตาแข็ง และมีอาการชักอย่างรุนแรง แถมมีฟองน้ำลายไหลออกมาจากปากด้วย
แอนน่ารีบเดินเข้าไปตรวจดวงตาของได้มิ้นจากนั้นเธอก็ร้องตะโกนขึ้นว่า "เรียกรถพยาบาลฉุกเฉินหน่อย! เร็ว!"
"หม่ามี๊! รีบฟื้นขึ้นมา! หม่ามี๊!"