คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 216 กรุ๊ปเลือดที่หายากกรุ๊ปหนึ่ง
ตอนที่ 216 กรุ๊ปเลือดที่หายากกรุ๊ปหนึ่ง
จู่ๆเหมือนกับเวลาตัดสลับกัน เหมือนกับเขาเห็นเป็นภรรยาของเขายืนอยู่ภายใต้แสงไฟ โดยที่มีดอกพุดซ้อนเสียบอยู่ตรงจอนผม ซึ่งบรรยากาศดูงดงามราวกับความฝันอย่างนั้น
แต่เมื่อเพ่งเล็งสายตาอย่างละเอียด ใบหน้าที่เขาเฝ้าคร่ำครวญก็กลายเป็นใบหน้าของแอนน่าขึ้น
ไม่เป็นไร ขอเพียงหัวใจเป็นเธอก็พอแล้ว ไม่ว่าเธอจะหน้าตาสวยหรืออัปลักษณ์ หรือหน้าตาจะพังขนาดไหน เธอก็คือภรรยาของเขา
"หลงเซียว ในตอนนั้นคุณปฏิบัติตัวไม่ดีต่อภรรยาของคุณหรอ?" หลังจากเพ่งเล็งอย่างละเอียด เธอก็ซักถามขึ้นอย่างไม่เกรงใจทันที
หลงเซียวยอมรับตามความจริงว่า "ใช่"
เขาปฏิบัติตัวต่อเธอไม่ดีจริงๆ เพราะถ้าหากปฏิบัติตัวดีคงไม่ปล่อยให้เธอใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่แบบนั้นมาสามปีคนเดียวหรอก หากปฏิบัติตัวดีจริง คงไม่ปล่อยให้เธอต้องทนรับความไม่ยุติธรรมมากมาย จนเกือบเสียชื่อเสียงหรอก หากปฏิบัติตัวดีจริง เธอก็คงไม่ "ตาย" ด้วย
"มิน่า คำพูดคำจาอ่อนหวานที่คุณติดค้างกับเธอเลยมาชดเชยลงที่ฉัน แต่คุณรู้บ้างหรือเปล่าว่า มีบางคน เมื่อผิดพลาดแล้วไม่สามารถชดเชยได้แล้ว ต่อให้คุณหาคนที่หน้าตารูปร่างคล้ายกัน และมอบความรักทั้งหมดของคุณให้กับเธอ แต่คนที่จากไปแล้วไม่มีวันสามารถสัมผัสได้หรอก"
แอนน่ายื่นมือจะหยิบดอกไม้ แต่กลับถูกหลงเซียวห้ามปรามไว้ เขาจับข้อมือของเธอไว้อย่างแน่นเพื่อไม่ให้เธอขยับเขยื้อน "คุณหมอแอนน่านี่เป็นวิธีการที่คุณใช้ในการรักษาผู้ป่วยหรอ? ทำไมฟังดูแล้ว เหมือนยิ่งทำให้ผู้ป่วยยิ่งรู้สึกป่วยมากขึ้น และยิ่งเกิดความระแวงมากขึ้น จนทำให้ผู้ป่วยคิดอยากฆ่าตัวตายเพื่อจบปัญหา"
แอนน่าหัวเราะออกมาอย่างผ่อนคลาย จนทำให้หลงเซียวรู้สึกเหมือน….ตัวเองเป็นคนโง่เขลา
"ผมรู้สึกว่าคุณชีวิตสุขสบายมาก จนไม่มีความกังวลอะไรเลยนะครับ"
"นั้นเป็นเพราะฉันมีคุณ คุณคือยาพิเศษที่คอยปกป้องฉัน แล้วฉันจะกลัวอะไรอีก?"
"คุณ…หน้าด้านมากจนไม่มีที่ติเลยจริงๆ!"
"ครั้งนี้ คุณวิเคราะห์ไม่เลวเลย หน้าของผมไม่ได้บางเลยจริงๆ ผู้ชายที่ไม่หน้าด้านแต่งงานไม่ได้นะครับ ผมไม่อยากเป็นแบบนั้น"
สิ้นสุดเสียงของเขา จู่ๆบรรยากาศก็เริ่มอึดอัดขึ้น ไม่นานเขาก็เงยหน้าขึ้น และเห็นดอกไม้สีขาวสะอาดหลายดอกเหมือนกำลังยิ้มแย้มต่อเขา
"ฉันเหนื่อยแล้ว ขอตัวไปนอนก่อน!"
จู่ๆหลงเซียวก็จับข้อมือของเธอ วินาทีที่สัมผัส เธอรู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าไหลกระจายไปทั่วร่างกายของเธอ
แอนน่าเริ่มหัวใจเต้นแรงขึ้นแล้ว
"ไม่ต้องรีบตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องที่สำคัญต่ออนาคต อีกอย่างจงจำไว้ว่า หากเงินสามารถแก้ไขปัญหาได้ ผมพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ เพราะสำหรับผมแล้วเงินถือเป็นเรื่องเล็กมาก แต่อย่าเอาเงินมาเป็นข้ออ้างความสุขของคุณ"
แอนน่าเริ่มรู้สึกหวั่นไหว แต่การแต่งงานของเธอกับเควิน ได้ถูกกำหนดล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่เธอลืมตาก็ถูกกำหนดแล้วจะต้องเป็นภรรยาของเขา "หลงเซียว ความละอายใจสามารถชดเชยด้วยเงินได้ด้วยหรอ?"
หลงเซียวเดินอ้อมมาเบื้องหน้าของเธอ แล้วจ้องมองใบหน้าของเธอที่ก้มอยู่ เขามองเห็นเพียงหัวของเธอ ซึ่งนี่บ่งบอกว่าเธอไม่ได้อยากแต่งงาน "ดังนั้นคุณหมอแอนน่าที่เฉลียวฉลาดเลยตั้งใจเอาตัวเข้าแลกหรอครับ?"
"หลงเซียว! ทำไมคุณถึงต่อว่าฉันแบบนี้!"
ท่านเซียวด่าคน! หรือว่าเขาอยากมีเรื่อง!
ไอ้คนโง่เขลาเอ่ย!
"เควิน ไม่เหมาะสมกับคุณหรอก ผมสิถึงจะเหมาะสมเป็นสามีของคุณ ไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้แล้ว"
"ถอยไป ฉันจะไปนอน"
เมื่อกลับถึงห้องนอน แอนน่าก็จ้องมองตัวเองในกระจก และพบว่าเธอเหมาะสมกับดอกพุดซ้อนมากกว่าดอกกุหลาบ หากเปรียบเทียบสีแดงอันร้อนแรงของกุหลาบแล้ว เธอชอบสีขาวบริสุทธิ์ของดอกพุดซ้อนมากกว่า
คำพูดของหลงเซียวยังคงวกวนอยู่ในสมอง
เธอจะแต่งงานกับเควินจริงหรอ?
เธอเห็นหุ้นของบริษัทหลงซื่อตกต่ำแล้ว ถ้าหากไม่แต่งงานกับเควิน เส้นทางของบริษัทหลงซื่อต้องพบกับวิกฤตล้มละลายแน่ แถมพ่อแม่ของเธอก็ต้องมาแบกรับกับปัญหาหนี้สินที่ต้องชำระอีกด้วย
แต่เมื่อครุ่นคิดอย่างละเอียด อันที่จริงหลงเซียวก็สามารถช่วยให้บริษัทเฉียวซื่อกลับมาเจริญรุ่งเรืองใหม่
เพียงแต่น้ำใจและความช่วยเหลือสามร้อยวันของเควิน เธอไม่สามารถลืมเลือนได้เลย!
——
ถังจิ้นเหยียนติดต่อหาหลงเซียวด้วยตัวเอง เพราะเขามีเรื่องอยากแจ้ง ไม่ได้ต้องการยั่วโมโหเขา
เขายืนอยู่เบื้องหน้าหน้าต่างของคอนโดที่ไม่เคยเหยียบมาสองปี จากนั้นก็โทรศัพท์หาหลงเซียว
เมื่อหลงเซียวเห็นเบอร์โทรศัพท์เด้งขึ้นบนหน้าจอก็ไม่ได้มีสีหน้าตกใจอะไร เขารู้แล้วว่าถังจิ้นเหยียนกลับประเทศแล้ว แต่เขาคิดไม่ถึงว่า พวกเขายังสามารถติดต่อหากันได้อีก
ฮ่าฮ่า ความสัมพันธ์นี้ เขาไม่รู้จะอธิบายยังไง
"คุณถังครับ" หลงเซียวก็ยืนอยู่เบื้องหน้าหน้าต่างเหมือนกัน แต่ไม่ใช่ตำแหน่งเดียวกัน ขณะเดียวกันก็จ้องมองดวงจันทร์นึกถึงใครคนหนึ่ง
ความแตกต่างคือ คนหนึ่งนึกถึงความทรงจำที่สูญเสีย อีกคนนึกถึงอนาคตของชีวิตใหม่
ถังจิ้นเหยียนถือแก้วไวน์ พร้อมเขย่าไวน์สีแดงในแก้วเล็กน้อยขึ้น จากนั้นก็จิบหนึ่งคำ "ผมเห็นบทกวีที่คุณเขียนให้กับเธอแล้ว ดูเหมือนคุณจะมีความรู้สึกที่ดีต่อเธอเป็นพิเศษนะครับ"
หลงเซียวยิ้มและพูดว่า "พูดจาไร้สาระ"
เพียงประโยคเดียวได้บ่งบอกความหมายชัดเจนแล้ว
ถังจิ้นเหยียนก็ยิ้มเหมือนกัน เมื่อก่อนเขาเคยเห็นลั่วหานร้องไห้ เพราะหลงเซียวมาหลายครั้งมาก จนเขาแทบคิดไม่ถึงเลยว่าหลงเซียวจะรักเธอจริง แถมยังเป็นความรู้สึกพิเศษด้วย
"อันที่จริง ในตอนนั้นผมได้ตัดสินใจจะใช้ชีวิตอยู่ทวีปแอฟริกาตลอดชีวิต ถ้าหากเธอติดเชื้อ HIV จริง หรือเธอตายจากไป ผมก็ยังจะคอยเฝ้าอยู่หน้าหลุมฝังศพของเธอตลอดไป"
หลงเซียวขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อได้ยินผู้ชายคนอื่นสารภาพความจริงใจต่อภรรยาของเขาแบบนี้ เขาต้องรู้สึกซาบซึ้งด้วยหรอ?
"ถังจิ้นเหยียน คุณคงเบื่อกับการใช้ชีวิตสุขสบาย จนอยากนอนที่โรงพยาบาลแล้วใช่ไหม?"
หากต้องการ ผมสามารถช่วยคุณด้วยตัวเองได้ อย่างเช่นหักขาหรือหักแขน คุณเลือกตามใจได้เลย!
เมื่อได้ยินแบบนี้ ถังจิ้นเหยียนก็จิบไวน์อีกคำหนึ่ง "หากไม่ใช่เพราะทางทวีปแอฟริกามีมาตรการหญิงตั้งครรภ์ต้องถ่ายเลือด คงตามหาไขกระดูกที่เหมาะสมยังไม่พบแน่ และโรคที่แอนน่าป่วย ก็ไม่รู้เลยจริงๆว่าจะสามารถปกปิดได้นานแค่ไหน"
"ห่ะ?" หลงเซียวไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่
ถังจิ้นเหยียนยิ้มอย่างขืนข่ม และพูดขึ้นว่า "คุณคงไม่รู้ใช่ไหมว่า กรุ๊ปเลือดของลั่วหานพิเศษมาก เป็นกรุ๊ปเลือดที่หายากกรุ๊ปหนึ่ง"
จู่ๆท่านหลงก็เปล่งสายตาประกายแวววับราวกับดวงดาว! ราวกับโลกสว่างไสว! ทุกอย่างเปล่งประกาย!
กรุ๊ปเลือด! กรุ๊ปเลือดที่หายากกรุ๊ปหนึ่ง!
หน้าตาสามารถศัลยกรรม ความทรงจำสามารถสูญหาย แต่กรุ๊ปเลือดไม่สามารถเปลี่ยนได้! ขอเพียงเขาสามารถพิสูจน์ว่า แอนน่าก็มีกรุ๊ปเลือดลบเหมือนกันได้ เธอก็จะไม่ปฏิเสธฐานะของตัวเองอีก
และปริศนาของเธอก็จะสามารถคลี่คลายด้วย! ไม่ว่าเธอจะถูกฟังคำโกหกมากแค่ไหนก็ไม่สามารถปฏิเสธได้
"ถังจิ้นเหยียน ขอบใจมาก!"
การขอบคุณที่แปลกประหลาดของหลงเซียวทำให้ถังจิ้นเหยียนถึงกับมึนงงสักพัก
เป็นบ้าอะไร?
——
"หรูเฟย ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ แต่เธอต้องทำใจสงบนิ่งก่อน อย่าตื่นเต้น"
"เรื่องอะไรหรอ?"
เรื่องที่เกาหยิ่งจือบอกเธอ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสำคัญมาก แถมอาจมีผลกระทบต่อชีวิตเธอด้วยก็ได้ ดังนั้นโม่หรูเฟยจะไม่ได้ตั้งใจได้ยังไง
"แอนน่าคือฉู่ลั่วหาน เธอยังไม่ตาย เธอยังมีชีวิตอยู่"
จู่ๆโม่หรูเฟยก็สะดุ้งตกใจ และเผลอตกลงจากบนโซฟา เธอรู้สึกหมดเรี่ยวแรง และไม่สามารถควบคุมร่างกายได้!
จากนั้นเธอก็นิ่งเงียบอยู่สักพัก
ซึ่งระหว่างที่เธอผลัดตกลงนั้น นิ้วมือของเธอเกี่ยวกับเส้นด้ายบนหมอน เส้นด้ายถูกเธอดึงออกมา ขณะเดียวกันมันก็ทิ่มใส่นิ้วมือของเธอ จนออกเลือดเล็กน้อย โดยที่เธอแทบไม่รู้เลย
"ฉู่ลั่วหาน เกิด…เกิดอะไรขึ้น?"
เกาหยิ่งจือคาดเดาแล้วว่าเธอต้องมีปฏิกิริยาตอบสนองแบบนี้ จากนั้นก็พูดปลอบโยนว่า"สถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่พลิกผัน หากเธอต้องการยื้อหลงเซียว เธอต้องใจเย็น!"
"คุณจะให้ฉันใจเย็นได้ยังไง! แอนน่าคือฉู่ลั่วหาน….แถมตอนนี้เธออยู่ข้างกายของพี่หลงด้วย! อีกไม่นานเขา….ต้องรู้แน่เลย!"
"ดังนั้นก่อนที่เขาจะรู้เธอต้องรีบแต่งงานกับหลงเซียว!"
แต่งงาน….
แม้แต่ฝันเธอก็ยังต้องการ!
"หรูเฟย เธอต้องรีบคิดหาวิธีการแต่งงานกับหลงเซียวโดยเร็วที่สุด ถังจิ้นเหยียนกลับมาแล้ว ฉันกลัวว่าเขาจะรู้เรื่องกรุ๊ปเลือดของแอนน่าเหมือนกัน คุณต้องรีบแต่งงานก่อนที่หลงเซียวจะรู้ความจริงให้ได้"
หรูเฟยพูดขึ้นว่า "พี่สาว ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฉันอยากแต่งงานหรือเปล่า แต่หลงเซียวแทบไม่เคยอยากแต่งงานกับฉันเลย อีกอย่างเขามีพฤติกรรมคลุมเครือกับผู้หญิงคนนั้นด้วย"
เหตุการณ์ในห้องอาหารทำให้เธอเข้าใจทุกอย่างว่า หลงเซียวมีความรู้สึกลึกซึ้งต่อ แอนน่าไม่สิ….ฉู่ลั่วหาน!"
"คิดหาวิธีการหน่อยสิ! จุดอ่อนของหลงเซียวคืออะไร? ในตอนนั้นพวกเธอสามารถกำหนดหมั้นกันได้ ใครกันที่เป็นคนช่วยเหลือ? พ่อแม่ของเขาล้วนหวังอยากให้พวกเธอแต่งงานกัน เพราะถ้าหากตระกูลหลงกับตระกูลโม่สามารถปรองดองกันได้ ตระกูลคงรุ่งเรืองแน่!"
"ค่ะ ฉันจะพยายาม…."
โม่หรูเฟยแทบไม่สามารถสงบสติอารมณ์ได้เลย เธอยังคงรู้สึกตกใจช็อกอยู่ ถ้าหากหลงเซียวรู้ ความฝันของเธอคงสลาย!
ไม่ได้ เธอไม่สามารถยอมให้ทุกอย่างจบสิ้นลง!
——
รุ่งเช้า หลังจากที่แอนน่าตื่นนอนก็พบว่าวันนี้ไม่มีกลิ่นหอมของอาหาร เธอรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยว่า หลงเซียวคนนี้มีอารมณ์ทำอาหารเพียงไม่กี่วันเองหรอ?
หรือว่าเขาจะล้มเลิก หลังจากที่รู้ข่าวเรื่องแต่งงานของเธอ?
ขณะที่ครุ่นคิดอยู่นั้น ก็กลับเห็นหลงเซียวสวมชุดออกกำลังกายกลับมาจากวิ่ง บนใบหน้าของเขามีเหงื่อไม่น้อย เมื่อแสงอาทิตย์กระทบเผยภาพที่งดงามมาก เธอคิดไม่ถึงเลยว่าหลงเซียวจะมีมุมอ่อนโยนด้วย!
"คุณหลง วันนี้ส่ายแล้วนะค่ะ"
หลงเซียวหันหน้ามองนาฬิกาติดผนังในห้องรับแขก และพูดขึ้นว่า "ส่ายจริงด้วย ดังนั้นวันนี้คุณนอนนานกว่าเมื่อวานมาก ผมคิดอยู่ว่า หลังจากที่บาดแผลตรงแขนของคุณหาย ผมคงหยุดนิสัยวิ่งตอนเช้าแล้วล่ะ"
"เป็นไปไม่ได้ กิจกรรมที่ดีเมื่อติดเป็นนิสัยยากที่จะเลิกได้"
ท่านหลงพยักหน้าเล็กน้อย และพูดว่า "วันนี้นี้ยังไม่มีอาหารเช้า เดียวคุณรอที่นี่สักพัก เดียวพวกเราออกไปกินด้วยกัน"
แอนน่าถอนหายใจยาวๆหนึ่งเฮือก จากนั้นจู่ๆก็ยิ้มด้วยท่าทางแปลกประหลาดและพูดว่า "เป็นดั่งที่ฉันคาดการณ์ไว้ คุณคงทำกับข้าวได้ไม่นานหรอก"
หลงเซียวไม่ปฏิเสธ "คุณพูดถูก"
จากนั้นเขายิ้มแย้ม พร้อมเดินขึ้นบันไดไป
หลังจากเปลี่ยนสวมชุดสูทอันอกผายไหล่ผึ้งเสร็จ หลงเซียวก็หยิบกุญแจรถ และพูดว่า "ไป เดียวผมจะพาคุณไปกินอาหารเช้ารสเลิศแห่งหนึ่ง"
จากนั้นก็ขับรถRolls-Royceเข้าเมือง แต่ยิ่งเข้าใกล้กลับพบว่าเส้นทางคุ้นเคยมาก
"นี่เป็นเส้นทางไปโรงพยาบาลหวาเซี่ยไม่ใช่หรอ?"
ไม่ใช่บอกจะพาไปกินข้าวเช้าหรอกหรอ? ใครบ้างขับรถสิบกว่านาทีมากินข้าวที่โรงพยาบาล แถมเป็นช่วงเวลารถติดด้วย
"ความทรงจำดีมากเลย"
เมื่อรถยนต์มาจอดที่โรงพยาบาลเสร็จ ทั้งสองคนก็เดินลงจากรถ ซึ่งในตอนนี้เป็นเวลาเข้าทำงานพอดี เมื่อหมอที่กำลังเข้าทำงานเห็นหลงเซียวกับแอนน่ามาด้วยกัน ก็ถึงกับสะดุ้งตกใจจนอาหารเช้าในมือเกือบร่วงตกลง
"สวัสดีครับ…คุณหลง"
"คุณหมอแอนน่า…..สวัสดีครับ"
เหตุผลที่สะดุ้งตกใจเรียบง่ายมาก เพราะหลงเซียวจูงมือ แอนน่า!
แอนน่าพยายามออกแรงดึงมือกลับมา แต่หลงเซียวก็ออกแรงจับมือแน่นเหมือนกัน หลังจากพยายามไม่กี่ครั้งแล้วไม่ได้ผลเลยล้มเลิก จากนั้นเธอก็ถูกเขาลากเข้าห้องรักษาผู้ป่วยนอก
"หลงเซียว นี่คุณจะทำอะไร? ปล่อยมือฉันนะ! ที่นี่โรงพยาบาล คุณช่วยรักษาระยะห่างหน่อย"
ท่านหลงจับมือเธออย่างแน่น "นี่เป็นวิธีการรักษาระยะห่างของผม"
"นี่คุณ…." แอนน่าขี้เกียจโต้เถียง!
เกาหยิ่งจือก็เดินเข้ามาเหมือนกัน แต่เมื่อได้ยินเสียงสนทนาของพวกเขาก็รีบเดินผ่านประตูกระจกทันที
"หลงเซียว ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่?"
เป็นดั่งที่คาดคิดไว้ หลงเซียวจูงมือ แอนน่าอยู่!
ท่านหลงเหลือบมองเกาหยิ่งจือ "พี่เกา มาทันเวลาพอดีเลย ห้องตรวจเลือดอยู่ตรงไหนครับ?"
เพียงประโยคเดียว ทำให้เธอถึงกับหัวแทบระเบิด!
เกาหยิ่งจือมึนชั่วขณะ ขณะเดียวกันร่างกายก็เริ่มแข็งทื่อเป็นหินด้วย!
"คุณ…จะไปที่นั่นทำอะไร?"
หลงเซียวพูดขึ้นว่า "ไปห้องตรวจเลือด ต้องทำอะไรหรอ?"
แอนน่าเองก็ไม่ค่อยเข้าใจ เลยหันหน้ามองเขา "คุณจะตรวจเลือดหรอ? คุณป่วยหนักหรอ?"
เกาหยิ่งจือยิ้มอย่างแข็งทื่อ และพูดว่า "คุณเป็นอะไรหรอ? ทำไมต้องตรวจเลือดด้วย?"
หลงเซียวไม่อยากคุยกับเธอแล้ว เลยพูดแทรกขึ้นว่า "ไม่ใช่ผม เป็นเธอ ชั้นที่เท่าไหร่ครับ?"
"แอนน่าหรอ?"
"ฉันหรอ?"