คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 212 คนไข้ที่บริการยากที่สุด
ตอนที่ 212 คนไข้ที่บริการยากที่สุด
โม่หรูเฟยไม่เข้าใจคำถามของหลงเซียว และไม่คาดคิดว่าเขาจะจงใจอธิบายให้เธอฟังเพราะเธอเข้าใจแอนน่าผิด เธอยิ้มอย่างอับอาย และยื่นมือผ่านโต๊ะอาหารไปจับมือของเขาไว้แน่น “ฉันไม่รู้ว่าเธอมีคู่หมั้นแล้ว ก็แค่ … ฉันคิดว่าพวกเขาสองคนนั่งด้วยกัน ดูเข้ากันได้ดีมาก พี่เซียวฉันไม่ได้เจตนาอย่างอื่น”
ยิ่งเธอพยายามอธิบายมากเท่าไหร่ สีหน้าของชายที่อยู่ตรงข้ามเธอก็ยิ่งดูแย่ลงเท่านั้น เขาก็ดึงมือออกจากฝ่ามือของเธอออกมา ท่านเซียวหยิบเมนูขึ้นมาดู “ถ้าคุณไม่แน่ใจ ไม่รู้ ก็อย่าพูดไปเรื่อย ฉันไม่ชอบผู้หญิงพูดมาก ยิ่งไม่ชอบผู้หญิงที่ชอบเดาเรื่องคนอื่นไปทั่ว”
“ต่อไปฉันจะไม่ทำอีก” โม่หรูเฟยอธิบายอย่างรวดเร็วและแสดงรอยยิ้มที่มีเสน่ห์และชุ่มชื่นออกมาทันที เอาใจเขา “พี่เซียวคุณลองทานฟัวกราส์ที่นี่ดูสิ ครั้งที่แล้วฉันมาทายกับพี่หยิ่งจือ รสชาติดีมากเลยค่ะ”
เกาหยิ่งจือ?
คำสามคำนี้ไปจี้จุดของท่านเซียวเงยหน้าขึ้นมองจากด้านหลังเมนู “หรูเฟย คุณไม่มีอะไรจะพูดนอกจากลูกพี่ลูกน้องของคุณแล้วเหรอ? ถ้าไม่มี ก็ไม่ต้องพูด”
โม่หรูเฟยหงุดหงิดจนอยากจะตบตัวเอง เธอรู้ว่า หลงเซียวไม่ชอบสองคนนี้ แต่เธอพูดถึงมันโดยไม่ได้ตั้งใจ เธอรีบยิ้มหวานและเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างอ่อนหวาน “พี่เซียว สองสามวันก่อนฉันกับคุณน้าไปช็อปปิ้งด้วยกัน คุณน้ายังบอกอีกว่า วันอื่นเราไปเที่ยวด้วยกันอีก…”
โม่หรูเฟยพูดไปเยอะมาก หลงเซียวฟังไม่เข้าหูเลยสักคำ ความสนใจทั้งหมดของเขาจดจ่ออยู่ที่โต๊ะที่อยู่ไม่ไกลนัก ไม่รู้ว่า ลั่วลั่ว มาทานข้าวกับเกาจิ่งอานเขา จะคุยอะไรกันนะ?
เกาจิ่งอานทำเสียงชิช้ะ “แอนน่าคุณเห็นไหม? นั่นคือคู่รักที่แท้จริง คนรักกันเวลาอยู่ด้วยกัน มักจะมีเรื่องที่คุยกันไม่รู้จบ และมีความสุขมาก”
แอนน่าหั่นสเต็กด้วยมีดและส้อมอย่างไม่แยแส “ถ้าคุณชายเกาอิจฉามาก ก็ไปร่วมโต๊ะได้นะ พอดีเลยจะได้ให้ฉันทานข้าวในบรรยากาศที่เงียบสงบสักที”
เกาจิ่งอานจิ้มฟัวกราส์มาเล็กน้อยแล้ววางลงบนจานของแอนน่าตอนที่เขาดึงมือกลับ เขาก็ขมวดคิ้ว“ ฉันไม่อยากเป็นก้างขวางคอของพวกเขาหรอกนะ อีกอย่างตัวเอกของผมในวันนี้คือคุณ วันนี้ผมจะบริการคุณเอง”
มีดและส้อมสีเงินเคาะไปบนจานพอร์ซเลนระดับไฮโซ ทำให้เสียงที่ไพเราะดังขึ้น แอนน่ามองไปที่ฟัวกราส์ในจานแล้วขมวดคิ้ว“ คุณชายเกาเรายังไม่สนิทพอที่จะคีบอาหารให้กันนะ”
เกาจิ่งอาน ท้าวศอกไว้ที่ขอบโต๊ะ เขาไม่ได้โต้เถียง แต่ยิ้มอย่างใจเย็น “ผมไม่ได้ขอให้คุณคีบให้ผม เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่คีบให้กันและกัน แต่ฉันให้บริการคุณเพียงฝ่ายเดียว”
มีร่องลึกปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วของแอนน่าเธอไม่กินอาหารที่คนอื่นคีบให้ อย่าว่าแต่เกาจิ่งอานเลย แม้ว่าทานข้าวกับเควินเขาก็ไม่กล้าคีบให้เธอตามใจชอบ
“ คุณชายเกาเป็นคนซาดิส์หรือเปล่าคะ?”
เธอมองฟัวกราส์ที่สะดุดตาและอยากจะให้พนักงานมาเก็บจานไป
เกาจิ่งอานที่หยิ่งมาโดยตลอด อย่าว่าแต่ถูกรังแก ในเกียวโตนี้คนที่กล้าทำให้เขาเสียหน้านอกจากคนตระกูลหลงแล้ว ก็ไม่มีคนอื่น แต่แอนน่ากล้าพูดกับเขาแบบนี้
เกาจิ่งอาน “ฮ่าฮ่า” ยิ้มอย่างจริงใจ “แล้วอย่างงี้ แอนน่าเป็นคนที่ชอบซาดิสม์เหรอ?ถ้าเป็นเช่นนี้ เราสองคนเนี่ยเป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว”
เสียงหัวเราะจากที่นั่งตรงนั้นไปรบกวนท่านเซียว อยู่ต่อหน้าอาหารที่เต็มโต๊ะ เขากลับทานไม่อร่อย เมื่อเทียบกับความไร้ชีวิตชีวาของฝั่งนี้ แอนน่าและเกาจิ่งอานกลับคุยกันอย่างสนุกสนาน
ท่านเซียวรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
ถ้า เกาจิ่งอานกล้าที่จะมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนเล็กน้อยต่อ ลั่วลั่วละก็ เขาก็สัญญาว่าจะตัดแขนขาของเขาออกด้วยตัวเอง
โม่หรูเฟยเริ่มคีบผักให้เขาก่อน พยายามทำให้เขาพอใจ“ พี่เซียวลองทานนี่ดูสิ”
หลงเซียวไม่ได้กินอาหารเลยสักคำ และคิ้วของเขาก็ไม่คลายออกสักที “ หรูเฟย คืนนี้ผมมีธุระ ให้ลูกพี่ลูกน้องของคุณพาคุณกลับไปนะ”
โม่หรูเฟยกินไป ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนกำลังการเคี้ยวเทียน อายแชโดว์ที่ตั้งใจทามาอย่างระมัดระวังก็ดูเหมือนจะหลุดออกมาทีละชั้นทีละชั้นเหมือนภาพวาดบนผนัง“ พี่เซียวฉันมาที่นี่เพื่อทานข้าวกับคุณ ฉันเป็นคู่หมั้นของคุณ คุณจะผลักฉันให้ลูกพี่ลูกน้องของฉันทำได้อย่างไร?”
น้ำเสียงของเธอหดหู่เล็กน้อย เธอมองไปที่หลงเซียวเหมือนจะร้องไห้ออกมา แต่สีหน้าของเขาเฉยเมยจนทำให้คนเห็นรู้สึกปวดใจ มันทำให้โม่หรูเฟยเจ็บปวดอย่างมาก
หลงเซียววางแขนบนโต๊ะเช่นเดิม มองไปที่โม่หรูเฟยด้วยความปวดหัว “ คุณต้องการให้ผมเตือนคุณอีกครั้งหรือไม่ว่า สัญญาการแต่งงานระหว่างคุณกับผมมันมาได้ยังไง? อีกอย่าง ผมบอกคุณแล้วว่าคุณเต็มใจที่จะเป็นคู่หมั้นของผมแค่ในนาม ก็แล้วแต่คุณ แต่คุณไม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นตอนเรื่องใดๆและการตัดสินใจใดๆของผม ยิ่งไม่มีสิทธิ์มาคัดค้านผม”
สิ่งที่หลงเซียวพูดเมื่อ1ปีก่อน ทุกคำทุกประโยคปรากฏขึ้นในหัวของโม่หรูดฟย เพื่อที่จะได้รับตำแหน่งคู่หมั้นของหลงเซียว โม่หรูเฟยได้สัญญาไว้ทุกอย่าง เธอคิดเสมอว่าเธอจะได้ใจของหลงเซียวมา แต่เวลาผ่านไปปีกว่าแล้ว เธอก็ยังแพ้ให้กับผู้หญิงที่ตายไปแล้ว!
รักมากแค่ไหน ก็เกลียดและไม่เต็มใจมากแค่นั้น!
เธอกัดฟันไว้และพยักหน้า “ฉันเข้าใจแล้วค่ะพี่เซียว”
หลงเซียวไม่ได้ให้โอกาสเธอเจรจาแม้แต่นิดเดียว“ ถ้ารู้แล้ว ตอนนี้ควรทำอย่างไร คงไม่ต้องให้ผมสอนนะ?”
ดวงตาของโม่หรูเฟยเบิกกว้างขึ้นมาทันที “เดี๋ยวนี้เหรอ?!”
หลงเซียวกำลังจะไล่เธอออกจากโต๊ะอาหาร ซึ่งความหายมันชัดเจนมาก
โม่หรูเฟยกำหมัดไว้แน่น เธอไม่ได้ลุกขึ้น แต่กลั้นความโกรธในใจของเธอไว้ และถามไปทีละคำว่า “พี่เซียว คุณชอบแอนน่าใช่ไหม”
สัญชาตญาณของผู้หญิงแม่นยำมาตลอด
ท่านเซียวไม่ได้ยอมรับ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาวางมีดและส้อมลง แล้วนั่งพิงพนักเก้าอี้ “ หรูเฟยคุณยุ่งเรื่องของผมมากเกินไปแล้ว”
สถานะของแอนน่ายังไม่แน่นอน เขาสร้างศัตรูให้เธอไม่ได้
ที่จริงเขาอยากจะหยุด แต่สถานการณ์มันห้ามไม่ได้
โม่หรูเฟยลุกขึ้นและกำสายกระเป๋าไว้แน่นด้วยความโกรธ “ พี่เซียว คุณทานไปก่อน ฉันไปก่อนนะ”
สถานะที่ขึ้นชื่อว่าคุณนายของตระกูลหลงหมายถึงอะไร? เบื้องหน้าคนทั่วไปนั้นดุดีมีสง่า แต่แท้จริงแล้วได้อยู่กับชายผู้ว่างเปล่า โดยไม่ตอบสนองใด ๆ ไม่มีความใส่ใจดูแลใด ๆ
ในเมื่อเลือกที่จะดื่มยาพิษเพื่อดับกระหายน้ำ ก็ควรที่จะรู้ว่ามันต้องชดใช้
“แอนน่าเป็นหมอประจำตัวของผม เตือนเธอด้วยว่าผู้ชายคนไหนที่เธอควรบริการ”
เขาจงใจเน้นคำว่าผู้ชาย และเห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจ
โม่หรูเฟยโกรธจนตัวสั่น บีบคำพูดออกมาว่า “อื้ม”
ทั้งแอนน่าและเกาจิ่งอานไม่คาดคิดว่าจู่ๆโม่หรูเฟยจะเข้ามายุ่ง แอนน่าเงยหน้ามองดูใบหน้าที่ซีดเซียวเพราะถูกรังแกมาของเธอด้วยความสงสัย “คุณโม่มีอะไรรึเปล่า?”
โม่หรูเฟยไม่ได้มองเธอด้วยซ้ำ แค่ได้ยินเสียงของเธอเหมือนกับฉู่ลั่วหานเธอก็อยากจะบีบคอเธออยู่แล้ว!
“ พี่จิ่งอานพี่เซียวมีธุระต่ออีก เพราะงั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งฉันกลับบ้านนะ”
สีหน้าของเกาจิ่งอาน แย่ลงทันที “ฉัน?”
เธอไม่ได้รอให้เกาจิ่งอานสิ้นสุดการประหลาดใจ โม่หรูเฟยก็กัดฟันแล้วพูดกับแอนน่าว่า “พี่เซียวให้คุณไปหาเขา”
หื้ม?
คราวนี้ถึงคราวที่แอนน่าจะรู้สึกงงใจ หลงเซียวจะทำอะไรอีก?
แอนน่าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “คุณชายเกาขอโทษด้วยนะคะ ดูเหมือนว่าคนไข้ของฉันต้องการฉัน ทั้งสองคนทานอาหารให้อร่อยนะคะ คุณโม่เราเพิ่งเริ่มทานกัน บริกรจะเอาจานใหม่มาให้นะคะ ทีรามิสุ หวังว่าคุณจะชอบมันนะคะ”
โม่หรูเฟยอยากจะปาเค้กใส่หน้าเธอจริงๆ!
“ แอนน่าอาการป่วยของพี่เซียวก็รบกวนคุณด้วยนะ คุณต้อง…..ดูแลเขาให้ดีสุด!”
ไม่ว่าใครมาได้ยินต่างก็ฟังออกว่า เธอกำลังหึง!
แอนน่าขยับเก้าอี้ออกไป “คุณโม่สบายใจได้เลยค่ะ ฉันปฏิบัติต่อคนไข้อย่างเท่าเทียมกันมาโดยตลอด”
เมื่อเดินไปถึงที่โต๊ะอาหารของหลงเซียว แอนน่าไม่ได้นั่งที่เก้าอี้ที่โม่หรูเฟยเคยนั่ง แต่ยืนอยู่หน้าโต๊ะและมองไปที่เขา “ หรือว่าคุณหลงทานข้าวกับคู่หมั้น แล้วตื่นเต้นเกินไป หัวใจได้รับการกระทบกระเทือนต้อง การรักษาตัวฉุกเฉินหรือ?”
ผู้หญิงคนนี้ถ้าไม่พูดจาเสียดสีเธอจะตายรึไง
แต่ทันทีที่เธอปรากฏตัว ท่านเซียว รู้สึกสว่างขึ้นมาทันที แม้ว่าใบหน้าของเธอจะกวนตีนมากก็ตาม
“นั่งลง”
ท่านเซียวหยิบมีดและส้อมขึ้นมาอีกครั้ง และเริ่มเพลิดเพลินกับอาหารมื้อค่ำอย่างแท้จริง
แอนน่าเบะปากเล็กน้อย “ให้ฉันกินของเหลือของคู่หมั้นของคุณเหรอ?”
“ทำไม?ไม่เต็มใจ?”
“ แน่นอนว่าไม่เต็มใจ”
ท่านเซียวเคี้ยวอาหารในปาก แก้มของเขาขยับเป็นจังหวะ “ถ้าคุณไม่เต็มใจก็นั่งลงและดูผมกิน”
หึ!
แอนน่าหัวเราะเยาะ แล้ววางมือของเธอลงบนโต๊ะ เธอเกือบจะมองบนใส่เขา“ หลงเซียว คุณมาทำเก่งทำไม? คุณหงุดหงิดอะไร?”
ท่านเซียวกินอย่างเอร็ดอร่อย “แล้วหมอประจำตัวของผม ผู้หญิงที่ผมเพิ่งประกาศไปว่าผมจะจีบ มาทานข้าวกับลูกพี่ลูกน้องของคู่หมั้นผมเนื่องในฐานะอะไรครับ?”
แม่งเอ้ย ความสัมพันธ์นี้จะซับซ้อนไปกว่านี้อีกไหม?
“เพื่อน!”
ท่านเซียวหัวเราะเยาะ“ ดูเหมือนว่าคุณจะเหงามากนะเนี่ย หิวจนคบเพื่อนไม่เลือก?”
แอนน่าดึงเก้าอี้ออกมาและนั่งลงด้วยความโกรธ “ หลงเซียว สิ่งที่คุณทำไปเมื่อกี้ มันไม่สุภาพอย่างมาก คู่หมั้นของคุณเสียหน้ามาก คุณจะให้เธอคิดอย่างไรกับฉัน? ให้เกาจิ่งอานคิดอย่างไรกับฉัน?”
หลงเซียวหั่นสเต็กออกมาแล้วเสียบไว้ที่ส้อมของตัวเอง ยัดใส่ปากแอนน่าอย่างแม่นยำ!
เนื้อวัวปิดปากของแอนน่าไว้ และแอนน่าก็ตกใจอย่างมาก
ดวงตากลมๆของเธอจ้องมองไปที่ใบหน้าหล่อเหลาที่ไร้ความปรานีของหลงเซียว ได้แต่ด่าเขาว่าคนเหี้ยในใจ!
ท่านเซียวดูเหมือนก้อนเมฆที่ลอยอยู่ เปลี่ยนไปมาไม่สามารถจับทางได้ “ทำไมฉันต้องคิดด้วยว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร?”
เอาแต่ใจมาก หยิ่งยโสมาก
ผู้ชายคนนี้นี่หยาบคายไม่มีที่ติ!
นิ้วเรียวยาวของท่านเซียวเอื้อมไปที่ริมฝีปากของแอนน่าแล้วบีบไปที่คางของเธอต่อหน้าของสองคนที่นั่งอยู่โต๊ะฝั่งนู้น สอนให้เธอกินอาหารด้วยตนเองว่า“ ถ้าคุณไม่รีบกัด น้ำลายก็จะออกมาแล้วนะ คุณแอนน่า”
"… "
แอนน่ากลืนสเต๊กลงไปพร้อมความโกรธ“ หลงเซียว พอได้แล้ว มากกว่านี้ก็จะไม่สนุกแล้ว”
ท่านเซียว จิ้มมาอีก1ชิ้น เขาชอบภาพเธอตอนเคี้ยวมากๆ “ตอนนี้คุณกำลังพูดกับผมในสถานะอะไร?ถ้าในสถานะแฟนหรือภรรยาในอนาคต ผมจะฟัง ถ้าสถานะอื่น ๆล่ะก็ ไม่ว่าหลังจากนี้คุณจะพูดอะไร คุณกลืนมันลงไปพร้อมอาหารได้เลยได้เลย "
ไอ้เวร! แบบนี้เรียกว่าจีบเธอหรือ? เรียกว่าบังคับเธอดีกว่า?
“ ฉันเป็นหมอของคุณ แค่นี้”
“ มันไม่สำคัญหรอก สถานะสามารถอัพเกรดได้ และปรับบทบาทได้” เขาส่งรอยยิ้มที่น่าหลงใหลออกมาอีกครั้ง เขาจับจังหวะการเต้นของหัวใจเธอไปอย่างง่ายดาย
“ หลังทานอาหารเสร็จ ผมจะพาคุณไปที่ ๆ หนึ่ง”
“ฉันไม่ไป”
“ เมื่อสักครู่นี้ใครบอกว่าเป็นหมอของผม ถ้าคุณเลือกสถานะนี้แล้ว ผมจะเชื่อฟังคุณอย่างดีเป็นคนไข้ที่ดี”
“นายมันคนพาล หลงเซียว”
ท่านเซียวลิ้มรสอาหารรู้สึกมีความสุขมากขึ้น “เมื่อกี้นี้คุณเรียกผมว่าอะไรนะ”
แอนน่าเคี้ยวสเต็ก“ หลงเซียว!”
เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “ดีมากความหมายของสองคำนี้ก็คือคนพาล"
แอนนา: “……. “
สมัยนี้แม้แต่คนพาลก็สามารถทำตัวเลวๆอย่างเปิดเผยได้! มีแค่ที่นี่ที่เดียวไม่มีสาขาอื่นแล้ว!
ที่โต๊ะอาหารถัดไป ตั้งแต่ที่ย้ายมานั่งตรงนี้ น้ำตาบนใบหน้าของโม่หรูเฟยยังไม่ได้หยุดเลย แต่เธอไม่กล้าร้องมีเสียง ตอกแตกๆน้ำตาไหลหยดลงบนจานเหมือนกับเครื่องปรุง
เกาจิ่งอานลูบๆไปที่หน้าผากของเธอ “หรูเฟย ดูสิตอนนี้สภาพเธอเป็นยังไง แค่เพราะผู้ชายคนนี้”
“ ฉันรักเขา ฉันยอม!”
เกาจิ่งอานคร่ำครวญถึงความโชคร้ายของเขา และโกรธเขา“ ความรัก แม่งมีของแบบนี้ในโลกใบนี้ด้วยเหรอ? อย่าโทษว่าพี่ไม่เตือนเธอนะ ของพวกนั้นเป็นหลอกลวงในหนังสือเท่านั้น ในชีวิตของเรา มีแค่ต่างฝ่ายต่างหาความต้องการของตัวเอง”
โม่หรูเฟยกัดฟันของเธอไว้แน่น และพูดอย่างคลุมเครือว่า “นั่นเป็นเพราะพี่ไม่เคยรักมาก่อน พี่ไม่เข้าใจ”
“รัก? อ๋อ… ถ้าเป็นแบบทำ ฉันก็เข้าใจนะ”