คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 179 เหมาะกับรสนิยม
ตอนที่ 179 เหมาะกับรสนิยม
นี่ผู้หญิงตัวคนเดียว มาขับรถของพี่ใหญ่แบบนี้เลยหรือเนี่ย?
หลงจื๋อได้เห็นก็ประหลาดใจอย่างมาก
แต่แอนน่ากลับไม่หันมามองหลงจื๋อเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงเอามือทั้งสองวางไว้ที่พวงมาลัย ขับไปอย่างไม่รีบร้อน และรักษาความเร็วเท่าเดิม จนผู้ชายที่อยู่ข้างๆ เธอแทบจะไม่ส่งผลอะไรกับเธอเลยด้วยซ้ำ
หลงจื๋อหัวเราะหึ เขาทั้งประหลาดใจและอัศจรรย์ใจ ช่วงสองปีที่ผ่านมาพี่ใหญ่ไม่เคยคบหากับผู้หญิงคนไหนมาก่อน หากจะบอกว่ามีล่ะก็ ก็คงจะเป็นโม่หรูเฟยคนหนึ่งแล้วล่ะ แต่หากจะให้พูดจริงๆ เขาก็แทบไม่มองโม่หรูเฟยเป็นผู้หญิงเลย
พี่ใหญ่มักจะอยู่ข้างๆ โม่หรูเฟยตลอด แต่เขากลับกลายเป็นเพียงคนที่เอาไว้ดักข่าวลือต่างๆ ในโลกภายนอกเท่านั้น มีไปก็เหมือนกับแค่ของประดับ
จริงๆ แล้วผู้ชายอย่างพี่ใหญ่ ที่ไม่มีผู้หญิงใดอยู่ข้างๆ มักจะต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์แน่นอนอยู่แล้ว
ให้ตายเถอะ จะคิดเรื่องพวกนี้ไปทำไมกันนะ?
หลงจื๋อเคาะประตู เพื่อเป็นการเรียกผู้หญิงข้างๆ “นี่คุณผู้หญิง คุณเป็นใครกันน่ะ?”
แอนน่าไม่สนใจเขาเลยแม้แต่นิด เธอปล่อยให้เขาส่งเสียงโวยวายข้างๆ เธอไปแบบนั้น สายตาที่เย็นชาเอาแต่มองไปทางข้างหน้าตลอด ราวกับว่าไม่มีอะไรมากั้นได้ เธอต้องทำเป็นเมินอยู่แน่ๆ หรือไม่ก็กำลังดูถูกอยู่แน่ๆ
หลงจื๋อเองกลับดูกระตือรือร้นมากขึ้นเมื่อถูกทำแบบนั้น เขายิ้มกว้างให้อย่างจริงใจ ในเมืองหลวงที่กว้างใหญ่แบบนี้ คนที่กล้าเมินคุณชายสองแห่งตระกูลหลงอย่างเขา แทบจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ!
แต่ผู้หญิงคนนี้ ทำให้เขาจ้องเธอไม่วางตา!
“นี่คุณผู้หญิง ดูคุณไม่ค่อยจะไว้หน้าผมเท่าไหร่เลยนะ!”
แอนน่ารู้สึกรำคาญอย่างมาก นางจึงเลื่อนกระจกขึ้นปิด เพื่อปิดเสียงที่หนวกหูของหลงจื๋อเอาไว้ หลังจากนั้นก็เหยียบคันเร่งเต็มกำลัง “บรื้น!” พลันบังเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว รถของเธอพุ่งทิ้งห่างรถของหลงจื๋อไปไกลราวกับบินไป สุดท้ายเขาก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง!
แต่ไหนแต่เราหลงจื๋อที่ไม่เคยถูกหยามหน้าแบบนี้เวลาแข่งรถ แทบจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายก็เป็นผู้หญิงด้วย ถ้าหากแม้แต่ผู้หญิงเขายังสู้ไม่ได้ล่ะก็ ก็ให้ถอดชื่อคุณชายสองแห่งตระกูลหลงออกไปได้เลย
หลงจื๋อเพิ่มความเร็วให้มากขึ้น เขาเหยียบคันเร่ง ก่อนที่รถคันสีแดง จะพุ่งตามไป!
บนถนนหลวงที่กว้างใหญ่ รถสปอร์ตหรูหราคันสีแดงทั้งสองคัน กำลังพุ่งไปตามถนนหลักอย่างบ้าคลั่งราวกับเปลวไฟ โดยที่ไม่มีรถคันใดอยู่ข้างๆ เลย
รถทั้งสองคันตอนนี้มีฝีไม้ลายมือที่พอฟัดพอเหวี่ยงกัน ทำให้ตอนนี้ต้องวัดกันที่ทักษะและกลยุทธ์แล้วล่ะ
หลงจื๋อแข่งรถมาเป็นเวลาอย่างน้อยห้าปี ไม่ว่าจะเป็นการแข่งแบบสาธารณะ หรือจะเป็นลานใต้ดินก็เคยมาแล้ว เขาไม่เคยเสียเปรียบมาก่อน แต่พอมาเจอกับผู้หญิงคนนี้ มีหรือที่เขาจะยอม?!
แอนน่าขมวดคิ้วที่ดูมีเสน่ห์ของเธอขึ้น ช่างเป็นผู้ชายที่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ น่าเบื่อ!
เธอโยนรองเท้าส้นสูงทิ้ง ก่อนจะเหยียบคันเร่งด้วยเท้าเปล่า หมอศัลยกรรมตอนนี้กำลังบิดพวงมาลัยไปมาอย่างคล่องแคล่วว่องไว ทำท่าทางราวกับจะเบียดเจ้าคนอันธพาลที่มาท้าให้ออกนอกประเทศไปเลย
หลงจื๋อเองก็เผยอยิ้ม ไม่เลวเลยนี่ ดูเหมือนว่าไม่ต้องมีเมตตาอะไรกับเธอแล้วสินะ พลันคิดได้ดังนั้นเขาก็ออกแรงที่มือ พลันรถก็กระโจนขึ้นสูง ราวกับปลาคาร์ฟที่กระโจนผ่านประตูมังกร ก่อนจะเข้าไปเบียดเลนเดียวกันที่แอนน่าอยู่ในตอนนี้
ฉิบหาย!
นี่ยังข้ามมาได้จริงๆ หรือนี่!
แอนน่าส่งสายตาดุร้ายไปมองรถเฟอรารี่ ที่จอดขวางทางอยู่ด้านหน้าของเธอตอนนี้ พร้อมทั้งกำพวงมาลัยแน่น ก่อนจะเหยียบคันเร่งแล้วบิดพวงมาลัยทันที!
“บรื้น!!”
รถปากานีสีแดงตอนนี้พุ่งออกไป เข้าทางเบี่ยงข้างๆ อีกเส้นทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ราวกับนกนางแอ่นสีแดง
รถทั้งสองคันต่างก็ขับแยกกันไปตามทางแยก แต่ที่ป้ายจราจรข้างถนนบอกไว้อย่างชัดเจน ว่าภายในอีกห้าสิบกิโลเมตรข้างหน้า ถนนสองสายจะกลับมารวมกันเหมือนเดิม ไม่เลวนี่ งั้นก็เอาแบบนี้ล่ะ!
เธอต้องการที่จะไปถึงแยกนั้นก่อนเขาให้ได้ จะได้ปิดทางเขาไว้ซะเลย!
แค่ห้าสิบกิโลเมตร ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว
พลันมุมปากของหลงจื๋อก็เผยอยิ้มมากขึ้น ก่อนที่จู่ๆ รถจะเอียงลง ดูราวกับกำลังล่องลอยอย่างสง่างาม!
“เอี๊ยด!”
ทันใดนั้นรถเฟอรารี่ก็มาถึงที่ถนนทางแยกก่อนรถปากานี!
ให้ตายเถอะ!
แอนน่าช้ากว่าเขาเพียงไม่กี่วินาที อีกนิดเดียวก็เกือบจะชนเข้ากับหัวรถของหลงจื๋อเข้าให้แล้ว เธอจึงรีบย่ำเบรกอย่างกะทันหัน! ก่อนที่รถจะค่อยๆ ไถลไปด้านหน้าอยู่หลายสิบเมตรกว่าจะหยุดลง
หลงจื๋อเปิดประตูลงจากรถ ชายหนุ่มสวมเสื้อแจ็คเก็ต สีดำ พร้อมด้วยกางเกงยีนส์สีดำ แถมด้วยรองเท้าบูทมาร์ตินสีดำ ริมฝีปากอันเรียวบางของหลงจื๋อเผยอยิ้มขึ้นอย่างเหยียดหยาม ร่างกายที่เต็มไปด้วยสีดำมายืนอยู่ต่อหน้ารถคันสีแดงของเธอ พร้อมทั้งมองดูรถปากานีด้วยสายตาหยิ่งยโสและอันธพาล รอให้ผู้หญิงในรถนั้นลงมา
แอนน่าสวมรองเท้าก่อนจะเปิดประตูรถลงมา พลันร่างกายที่ดูอรชรอ้อนแอ้นก็มายืนอยู่ตรงหน้ารถของตัวเอง ทั้งสองคนต่างยืนรักษาระยะห่างประมาณสิบเมตรอยู่แบบนั้น
เธอสวมเสื้อสีขาว กางเกงขายาวสีขาว และรองเท้าส้นสูงสีขาว มีเพียงเส้นผมของเธอเท่านั้นที่เป็นสีดำ ทำให้ร่างกายที่ดูขาวผุดผ่องตอนนี้ดูมีสีอื่นแต่งแต้มลงไปบ้าง
แอนน่ายืนกอดแขนของตัวเองเอาไว้ ก่อนจะทำสีหน้าท่าทางที่พูดไม่ถูกเลยว่า กำลังถือทิฐิอยู่หรือว่าดูถูกอยู่กันแน่
หลงจื๋อพินิจดูฝ่ายหญิงไปมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะที่ความรู้สึกแรกจะบอกกับเขาว่า เธอช่างดูเท่เหลือเกิน ส่วนต่อมาก็บอกอีกว่าเธอช่างสวยงาม ส่วนความรู้สึกต่อมาก็บอกเอาไว้ว่า เธอไม่ใช่คนที่ควรจะแหย่เล่นด้วยเลย
แต่ความรู้สึกสุดท้ายนี่สิ ก็คือความรู้สึกที่เขาคิดอยากจะกระเซ้าเย้าแหย่ผู้หญิงคนนี้เสียจริง
เขาค่อยๆ ถอดถุงมือหนังสีดำออกทีละข้าง ก่อนจะเดินไปข้างหน้า ร่างกายที่สูงโปร่งและกำยำของเขา เมื่อถูกลมที่พัดมาจากการขับรถด้วยความเร็ว ทำให้เส้นผมของเขาปลิวไสว อีกทั้งยังดูหนุ่มและเท่อีกด้วย
“นี่คุณผู้หญิง ฝีมือของคุณไม่ธรรมดาเลยนะ ช่างถูกรสนิยมของผมจริงๆ”
แอนน่ายืนพิงประตู พร้อมกับเอาพาดขาที่เรียวยาวไขว้กัน เป็นเพราะสัมผัสกับแสงแดด ทำให้ต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับไม่ลดความหยิ่งลงเลย “นายเองก็ใช้ได้เลยนะ”
หลงจื๋อหัวเราะหึ พร้อมทั้งใช้นิ้วมือที่ดูดีของเขาลูบปลายจมูก “อยากจะลองดูอีกครั้งไหมล่ะครับ?”
“ไม่จำเป็นหรอก ฉันไม่ชอบแกล้งเด็กเท่าไหร่น่ะ”
เห็นได้ชัดเลย ว่าแค่มองหลงจื๋อปราดเดียว ก็คิดว่าเขาเป็นแค่เด็กที่อ่อนต่อโลกเท่านั้น อย่างมากก็น่าจะอายุแค่ยี่สิบต้นๆ คงจะอยู่ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยอยู่แน่ๆ
หลงจื๋อได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมายกใหญ่ “นี่คุณผู้หญิง คุณเพิ่งจะแพ้ผมไปเองนะครับ ในเมื่อคุณดูถูกผมขนาดนี้ เอาไว้ชนะผมอีกทีก่อนก็ยังไม่สายนะครับ ว่ายังไงบ้างล่ะครับ จะยอมรับคำท้าไหมครับ?”
หึ!
ก็แค่พวกลูกผู้ดีมีเงินเท่านั้น ไม่มีอะไรจะทำแล้วหรือไง
ตอนนี้เธอเองก็ไม่มีอารมณ์จะเล่นด้วย “ไม่รับคำท้าหรอก แพ้แล้วยังไงล่ะ? ชนะแล้วจะยังไงล่ะ? ยังไงซะฉันก็ไม่แคร์หรอก”
ชิ! ทะนงตนจริงๆ!
หลงจื๋อชอบความบ้าอำนาจของผู้หญิงคนนี้อย่างมาก หากลองมองดูให้ดี ผู้หญิงที่มาคอยอยู่รอบๆ เขาในเมืองนี้ ก็แค่พวกสวยแต่รูปจูบไม่หอมที่ช่างประจบสอพลอเท่านั้น แต่ว่าเธอคนนี้…เป็นคนที่ไม่เหมือนกับผู้หญิงพวกนั้นแน่นอน!
ดีมาก!
“นี่คุณผู้หญิง! ผมชอบคุณแล้วล่ะ คุณลองเก็บไปพิจารณาดูหน่อยไหม ผมอยากให้คุณมาเป็นผู้หญิงของผมจริงๆ นะ”
แอนน่าได้ยินก็เบือนหน้าหนี ก่อนจะเอานิ้วมือเกี่ยวเส้นผมข้างหูเล่นไปมา พร้อมทั้งหัวเราะเบาๆ “นี่น้องชาย คิดจะชวนคุยหรือไง? เปลี่ยนคนเถอะ พี่สาวไม่มีเวลามาโอ๋เด็กหรอกนะ”
หลงจื๋อได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกหดหู่ใจ!
“ผมจริงจังนะ ขอเพียงคุณไม่ใช่ผู้หญิงของพี่ใหญ่ ผมก็จะตามจีบพี่ พี่รอผมได้เลย”
น่าเบื่อจริงๆ!
แอนน่าหันหลังเปิดประตูรถ ก่อนที่ร่างกายที่ดูอรชรจะผลุบเข้าไปในรถอย่างคล่องแคล่วทันที หลังจากนั้นก็มีเสียงปิดประตูรถดังปัง หลงจื๋อที่เห็นว่าเธอกำลังจะจากไป จึงรีบสาวเท้าพุ่งไปข้างหน้า แล้วเอามือจับกระจกมองหลังของเธอเอาไว้ “เฮ้! นี่คุณคงจะไม่ใช่ผู้หญิงของพี่ใหญ่ผมจริงๆ หรอกใช่ไหม?!”
แอนน่าขมวดคิ้ว “แล้วพี่ใหญ่ของนายนั่นเป็นใครล่ะ?”
เอ๊ะ…ทำไมถึงถามแบบนี้ เอาเถอะ ก็คงจะตัดสินได้เบื้องต้นแล้วว่าไม่ใช่ล่ะนะ
ถ้าอย่างนั้น รถคันนี้ล่ะ? เธอขับมาได้ยังไงนะ?
“นี่! แล้วคุณได้รถคันนี้มายังไงล่ะ?”
แต่น่าเสียดาย ที่แอนน่าสตาร์ทรถแล้วขับพุ่งออกไปจนไม่เห็นฝุ่นก่อนแล้ว เหลือเพียงหลงจื๋อที่ยืนมองดูรถสีแดงค่อยๆ ขับไกลออกไป
หลงจื๋อมองไปตามทางที่รถนั้นหายไป ก็ยกมือขึ้นบีบจมูกตัวเอง “หึๆ น่าสนใจจริง น่าสนใจมากเลยล่ะ!”
แอนน่าขับรถวนเล่นรอบเมืองอยู่รอบหนึ่ง เพื่อทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมและแผนการทั้งหมดโดยคร่าวๆ ก่อนจะพบว่าที่นี่ก็ดูไม่เลวนัก
ถึงเมืองในประเทศแบบนี้ จะแตกต่างกับชีวิตความเป็นอยู่ที่นิวยอร์คของเธอก็ตาม แต่ก็ไม่ถือว่าจะต่างมากเกินไป
พลันรถของเธอก็มาจอดอยู่ที่ริมแม่น้ำนอกชานเมือง ขณะนั้นเองเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น
เบอร์ที่โชว์ เป็นเบอร์แปลกในประเทศจีน
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีคุณแอนน่า”
เธอได้ยินก็ขมวดคิ้ว ให้ตายเถอะ นี่ทำไมถึงเป็นเขาอีกล่ะเนี่ย? ช่างเป็นผู้ชายที่กัดไม่ปล่อยจริงๆ!
“มีธุระอะไรล่ะ?”
แอนน่าก้มลงมองดูนาฬิกาข้อมือตัวเอง ให้ตายสิ นี่มันก็หกโมงกว่าแล้ว เธอยังต้องกลับไปทำอาหารให้เขาอยู่นี่นา!
“ถ้าหากว่าฉันจำไม่ผิดล่ะก็ เวลานี้เธอควรที่จะอยู่ในครัวแล้วสิ ไม่ใช่นอกชานเมืองแบบนั้น อีกอย่าง ถ้าหากคุณแอนน่าอยากจะชื่นชมวิวทิวทัศน์ล่ะก็ ก็ช่วยปกป้องมลพิษตามแม่น้ำลำธารหน่อยสิ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้สึกถึงความสวยงามหรอกนะ”
บ้าเอ๊ย!
ทำไมเขาถึงรู้ทะลุปรุโปร่งแบบนั้นนะ?
แอนน่าหันมามองรถปากานีก่อนจะขมวดคิ้วแน่น เธอเห็นว่าในรถมีอุปกรณ์ติดตามตัวติดอยู่ด้วย คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะลืมไปเสียได้นะ
“ครั้งนี้คุณจำผิดแล้วล่ะนะคะคุณผู้ชาย!”
แอนน่ากัดฟันกรอด จนฟันสีขาวสะอาดกระทบเข้าด้วยกัน เธออยากจะเอาไอ้บ้านี่ โยนลงแม่น้ำให้ปลากินเสียจริง
แต่ถึงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็ไม่ช่วยอะไร ยังไงแอนน่าก็ต้องรีบกลับไปอยู่ดี ไม่อย่างนั้นผู้ช่วยของเธอจะต้องซวยแหงๆ
ณ เวลาหกโมงสี่สิบนาที รถคันสีแดงก็มาถึงที่บ้านพักโดยสวัสดิภาพ
หลงเซียวเองก็คิดคำนวณไว้ก่อนแล้ว ตั้งแต่ที่นั่นจนมาถึงที่นี่ คนปกติมักจะขับรถกันอย่างน้อยชั่วโมงครึ่ง ถ้าเฉพาะกิจหน่อยก็ชั่วโมงหนึ่ง แต่กับเธอกลับใช้เวลาเพียงแค่สี่สิบนาทีเพียงเท่านั้น
ฝีมือเยี่ยมยอดจริงๆ
ท่านเซียวยืนอยู่ริมหน้าต่าง พร้อมในมือที่ถือแก้วกาแฟสีขาวเลี่ยมทองไว้ พลางมองไปยังแอนน่าที่เดินออกมาจากโรงรถที่อยู่ไกลลิบลิ่วนั้น ฝ่ายหญิงค่อยๆ ก้าวเดินมาอย่างแผ่วเบา เอวพลิ้วไสวไปมาราวกับสายน้ำ มือที่ดูละเอียดอ่อนก็สางผมที่ดูสลวยสวยงาม จนเผยให้เห็นใบหน้าที่ขาวผุดผ่อง
ลักษณะทั้งหมดบนร่างกายของเธอ ประหนึ่งมีดที่เด็ดขาด มีความสามารถ สุขุมเยือกเย็นและบ้าคลั่ง แต่กลับดูไร้น้ำใจไปเสียหน่อย
ไม่เพียงแต่เรื่องน้ำใจเท่านั้น เขายังรู้สึกอีกว่า ร่างกายของผู้หญิงคนนี้ ยังขาดอะไรไปอีกเยอะเลย ดูไม่ครบถ้วนเสียทีเดียว
“อยากทานอะไรหรือคะคุณผู้ชาย?” แอนน่าเป็นคนกุมเคล็ดลับในการทำอาหารไว้หมด ถึงขนาดมารับเมนูอาหารกันแบบนี้เลยหรือ
ท่านเซียวจิบกาแฟที่ขมขึ้น “พูดแบบนี้ ถ้าฉันสั่งอะไร เธอก็จะทำแบบนั้นงั้นหรือ?”
แอนน่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า “ถ้าหากมีเวลา ตามทฤษฎีแล้ว ก็เป็นแบบนี้ล่ะค่ะ”
การทำอาหาร ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก หากสามารถควบคุมและแองตามหลักการพื้นฐานได้ล่ะก็ ก็สามารถทำซ้ำใหม่ได้เรื่อยๆ
ท่านเซียวพินิจพิศครวญดูเธอไปมา หญิงสาวกำลังยืนอยู่ใต้โคมไฟคริสตัล แต่กลับไม่มีสีสันใดๆ สะท้อนออกมาจากเสื้อผ้าของเธอเลย “ฉันเคยพูดไปแล้วนะ ว่าฉันไม่อยากเห็นเธอสวมเสื้อผ้าสีแบบนี้อีก”
แอนน่าก้มมองดูตัวเอง ก่อนจะพูดขึ้น “คุณผู้ชายคะ สีขาวเป็นสีเบื้องต้นของทุกสีเลยนะคะ สีที่คุณรู้จักเช่นสีแดงส้มเหลืองเขียวนั่น เป็นเพราะวิสัยทัศน์ในการมองเห็นเกิดการสั่นสะเทือน ทำให้เวลาบอกว่าเป็นสีขาว เป็นเพราะภาพลวงตาเท่านั้น หากคุณยอมที่จะเชื่อภาพลวงตานั้น แสดงว่าคุณไม่ยอมรับสีที่เปรียบเหมือนร่างกายของตัวคุณเองหรือคะ? ถึงแบบนั้น ฉันก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ แน่นอนว่ายอมรับไม่ได้ด้วย”
ท่านเซียวคิดไม่ถึงว่าเธอจะพูดน้ำไหลไฟดับออกมาแบบนั้น ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงท่าทางขมวดคิ้ว แววตาที่ดูยากแท้หยั่งถึง อีกทั้งดูดุร้ายอีกด้วย
แอนน่าเห็นแบบนั้นก็ยักไหล่ “หากวิเคราะห์ตามวิถีการกินอาหารของชาวจีน ตอนเย็นก็ต้องกินของอ่อนๆ อีกอย่างฉันก็ทำตามสภาพร่างกายของคุณ จะได้เป็นไปตามการบำรุงร่างกายของคุณด้วยยังไงล่ะคะ”
หลังจากพูดจบ เธอก็วางกุญแจไว้บนชั้นวางในห้องเฉลียง ก่อนที่จู่ๆ จะหันกลับมาพูดว่า “ฉันไม่ชอบรถคันนี้เลยค่ะ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยเปลี่ยนเป็นอีกคันแล้วกันนะคะ”
ท่านเซียวได้ยินแบบนั้นก็หรี่ตามอง “เป็นรถที่เธอเลือกเอง ยังไงก็ต้องขับไปเรื่อยๆ”
แอนน่าหัวเราะ จนเผยให้เห็นฟันที่ขาวสะอาดจนส่องประกายออกมา “ถ้าหากหมายความว่าให้ขับไปจนกว่าจะพังล่ะก็ เมื่อเย็นนี้ฉันก็คงจะส่งมันไปเข้าโรงขยะได้ตลอดไปแล้วล่ะค่ะ”
เธอเอื้อมมือไปด้านหลัง เพื่อสะบัดเส้นผมที่ยาวสลวยของเธอ ก่อนจะมัดมันขึ้นให้เป็นระเบียบ จากนั้นก็เปลี่ยนรองเท้าแล้วเดินเข้าไปในห้องครัวทันที
ท่านเซียวยังคงถือแก้วกาแฟใบนั้นไว้ พร้อมสายตาที่จ้องมองเธอไปตลอดจนหายไปในครัว นึกไม่ถึงเลยว่าตัวเขาจะนิ่งอึ้งอยู่แบบนั้นหลายวินาที
ผู้หญิงคนนี้…ทำไมถึงมีผู้หญิงแบบนี้กันนะ?
แต่ชั่วขณะนั้นเอง มือถือของเขาก็ดังขึ้น ซึ่งหน้าจอโชว์เบอร์ของหลงจื๋อนั่นเอง
เขากดรับสายก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “มีอะไรล่ะ?”
หลงจื๋อดูตื่นเต้นอย่างมาก เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ก่อนจะเด็ดองุ่นลูกหนึ่งโยนเข้าปากอย่างสง่างาม “พี่ใหญ่ ได้มีใครยืมรถปากานีสีแดงของพี่ใหญ่ออกไปไหนหรือเปล่าครับ?”
หือ?
“เกิดเรื่องอะไรหรือ?”
หลงจื๋อหัวเราะหึ “พี่ใหญ่ คนที่ยืมรถพี่ใหญ่ไปเป็นใครหรือครับ?”