คุณหลง อย่าหยิ่งยโสเกินไป - ตอนที่ 169 สองปีต่อมา การเปลี่ยนแปลงที่งดงาม
ตอนที่ 169 สองปีต่อมา การเปลี่ยนแปลงที่งดงาม
เดือนเมษายน
ณมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่แห่งนี้ได้รวบรวมเทคโนโลยีชั้นนำของโลก การแพทย์ การเงินและอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกทั้งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในวันนี้ครึกครื้นเป็นพิเศษเพราะมีบุคคลหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
บนจอแสดงผลอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่เขียนทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษว่า "การบรรยายครั้งแรกของแอนน่า ศาสตราจารย์ด้านการผ่าตัดหัวใจชั้นนำ จัดขึ้นในบ่ายวันนี้"
ตัวอักษรสีดำขอบทองมีรอยเปื้อนเหมือนหมึก และบนหน้าจอที่คมชัดปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
ผู้หญิงในภาพสวมเสื้อคลุมสีขาว เอามือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและกำลังเดินเข้าไปโดยไม่มีสีหน้าใดๆ ใบหน้าของเธอเรียวบาง สง่างาม และหยิ่งผยอง
เพียงเห็นแค่ด้านข้าง ผู้เข้าชมก็ได้เห็นคางและคอของเธอเป็นเส้นที่สวยงาม แต่ไม่ทราบลักษณะใบหน้าของเธอ
ไม่นานต่อมา รถBugattiสีดำคันหนึ่งขับเข้ามาในสายตาผู้สื่อข่าวทั้งจีนและต่างประเทศ พวกเขาหลายร้อยคนยกกล้องขึ้นเพื่อจับภาพที่รอคอย
แต่รถBugattiคันนั้นดูเหมือนไม่ได้ตั้งใจที่จะหยุดลงและยังคงขับเคลื่อนต่อไปเพื่อต่อต้านฝูงชนโดยไม่สนใจที่จะหลีกทางให้ใคร
ผู้สื่อข่าวบางคนยืดแขนของพวกเขาออกมาเพื่อปิดกั้นด้านหน้ารถและพยายามบังคับให้รถหยุด แต่ไม่เป็นผล
รถBugatti ขับตรงไปที่ประตูของสตูดิโอ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้ตั้งกำแพงรูปมนุษย์ในระยะความกว้างสองเมตรรอบรถ เพื่อปิดกั้นผู้สื่อข่าวทั้งหมดที่อยู่ด้านนอก
เมื่อประตูหลังของรถเปิดออกและปรากฏรองเท้าส้นสูงสีดำคู่หนึ่งค่อยๆก้าวลงมา ขาเรียวงามของผู้หญิงคนนั้นปรากฏขึ้นมา เธอคนสวมกางเกงขายาวสีขาวแต่ไม่รัดรูป ส่วนบนเป็นเสื้อแขนยาวผ้าสีดำทับใน เผยให้เห็นเอวบางเสื้อคอวีก็เผยให้เห็นผิวขาวราวกับหิมะ ซึ่งทำให้ผู้พบเห็นต้องอ้าปากค้าง
มองขึ้นไปที่คออันและสง่างามของเธอ เธอสวมสร้อยคอแฮนด์เมดของแบรนด์ที่ไม่รู้จัก และจี้เพชรเม็ดเล็กด้วย
ใครก็ตามที่รู้จักสินค้านี้จะเห็นว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆนี้คือ "ความฝันเมฆ" ที่ซาอุดีอาระเบียเพิ่งเจียระไนเมื่อต้นฤดูใบไม้ผลิของปีนี้ มีข่าวลือว่าเพชรเม็ดนี้เป็นของรอยัลซาอุดิอาระเบียและไม่ได้มีไว้สำหรับผู้คนทั่วไป
แต่เมื่อไม่นานมานี้เธอได้ช่วยชีวิตอันโรยแรงของเจ้าชายอาหรับที่กำลังจะตาย และได้รับของขวัญจากกษัตริย์และกลายเป็นเจ้าของเพชรความฝันของเมฆนี้
เพชรเม็ดนี้เมื่อเทียบกับพรสวรรค์และทักษะทางการแพทย์ของเธอ ช่างห่างไกลกันมากมายนัก แต่ในขณะนี้ดูเหมือนว่าไม่มีสิ่งของใดแทนค่าของเธอได้เลย
แน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ถูกเผยแพร่ในโลกภายนอก
ส่วนแท้จริงแล้วเธอเป็นคนอย่างไร ไม่มีใครรู้
เธอไม่ได้อยู่ในสังกัดของโรงพยาบาลใดๆ เธอตกลงทำงานให้แก่ตระกูลที่มีชื่อเสียงและมั่งคั่ง
ดังนั้นจึงได้รับสมญานามว่า “แพทย์รอยัล”
ส่วนความจริงเป็นเช่นไร ในวันนี้ทุกคนจะได้ไขข้อข้องใจทั้งหมด
นักข่าวทั้งหลายเบียดเสียดกันเพื่อต้องการถ่ายรูปเธอ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้จักใบหน้าของเธอเลย
เธอใส่แว่นตาดำสวมหมวกใบใหญ่ปกปิดใบหน้าที่แท้จริง คางเรียวเล็กและริมฝีปากเรียวบาง ดึงดูดสายตาให้อยากมองต่อ
เมื่อเธอลงจากรถเธอยืนอยู่บนรองเท้าส้นสูงแปดเซนติเมตร รูปร่างของสูงสง่างาม เธอเดินไปที่ห้องโถงใหญ่ตามด้วยเจ้าหน้าที่สองคนชายและหญิงทั้งในเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาว
นิ้วเรียวเกี่ยวแว่นกันแดดข้างหนึ่งออกเบา ๆ แล้วส่งให้คนข้างๆ
เมื่อถอดแว่นออก ปรากฏใบหน้าให้ทุกคนเห็น
ใบหน้าเรียวงามรูปไข่ ดวงตาอันทรงความรู้ คิ้วสีดำเข้มตามสไตล์ตะวันตก แต่เต็มไปด้วยความงดงามในแบบตะวันออก
แววตาคู่นั่นคมลึก ยากที่จะหยั่งถึง แต่ไม่มีใครกล้าจ้องมอง
คนที่เห็นแอนน่าต่างพากันตกใจเนื่องจากคาดไม่ถึงว่าเธอจะมีหน้าตางดงามเช่นนี้
อธิการบดีของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและศิษย์เก่า ก่อนหน้านี้ได้รออยู่ที่ล็อบบี้อยู่แล้ว เมื่อเห็นเธอเดินเข้ามาชายวัยกลางคนจึงเริ่มก้าวไปข้างหน้าด้วยความกระตือรือร้น ชายอเมริกันผมบลอนด์เอื้อมมือไปจับมือเธอ พูดภาษาอังกฤษในสำเนียงอเมริกัน "แอนน่ายินดีต้อนรับ!"
“ขอบคุณค่ะ” เสียงตอบรับเบาๆ สง่างาม ไม่ดูใกล้ชิดหรือห่างเหินจนเกินไป
เมื่อทักทายเรียบร้อยแล้วเธอจึงเลือกที่จะเดินหลีกทางผู้คน มีเพียงอธิการบดีและผู้ช่วยเดินตามหลังไป
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่งเธอขึ้นลิฟต์VIP ตอนนี้ห่างจากเวลาบรรยาย20นาที เธอไม่ชอบมาสายเช่นนี้เสมอ
เมื่อมองดูรอบๆตัวแล้ว
“Lisa ฉันจะขึ้นไปพักหน่อยนะ คุณช่วยไปดูสถานที่บรรยายที”
ผู้ช่วยสาวที่ถูกเรียกว่าLisaพยักหน้า “ได้ค่ะ”
อธิการบดีKaneสื่อสารกับเธอสั้นเกี่ยวกับการบรรยายและการเตรียมการในช่วงเย็น แอนน่าพยักหน้าเบา ๆ และพูดเป็นภาษาอังกฤษอย่างเชี่ยวชาญว่า "ฉันจะออกไปหลังจากจบการบรรยาย ดังนั้นการจัดเตรียมอาหารเย็นจึงไม่จำเป็น"
เธอไม่ชอบสถานที่ผู้คนมากมายเช่นนี้ ยิ่งไม่ชอบการดื่มสังสรรค์หรืองานเลี้ยง
Kaneหัวเราะ “คุณ งานเลี้ยงนี้ตั้งใจจัดให้คุณโดยเฉพาะ”
แอนน่าสีหน้าไร้ความรู้สึกใดๆ “ถ้าเช่นนั้นฉันขอมอบมันให้ทุกคน”
ประโยคง่ายๆ แต่เด็ดเดี่ยว
“อีกอย่าง อย่าลืมนะคะว่าเนื้อหาการบรรยายของฉันไม่อนุญาตให้เผยแพร่และรูปภาพวิดีโอด้วย ขอให้ลบในทันที”
“ครับ วางใจได้ กล้องทุกตัวถูกปิดเรียบร้อยแล้ว”
แม้เป็นการบรรยายครั้งแรก นอกจากนี้ได้พบกับความสามารถด้านเทคโนโลยีชั้นนำของมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่แอนน่าสงบนิ่ง ราวกับว่าไม่มีเรื่องใดๆเกิดขึ้น เธอเป็นคนตรงไปตรงมาและมุ่งเน้นไปที่การผ่าตัดหัวใจเมื่อจบการบรรยาย ถึงเวลาถามคำถาม
แอนน่ายืนอยู่ภายใต้แสงไฟ ใบหน้าเธอไม่ปรากฏรอยยิ้ม แต่กลับงดงามอย่างบอกไม่ถูก
ผู้หญิงต้องอิจฉา ผู้ชายต้องเงยหน้ามอง
นิ้วมือของแอนน่าจับอยู่ที่ไมโครโฟน “ตอนนี้ถึงเวลาถามคำถามอิสระ ฉันคาดว่าคำถามจะเกี่ยวข้องกับหัวข้อในวันนี้ คำถามส่วนตัวกรุณาอย่านำมาถาม”
ประโยคง่ายๆแต่ทำเอาหลายคนผิดหวัง
ดังนั้นการถามคำถามจึงดำเนินไปอย่างเรียบง่าย เต็มไปด้วยเนื้อหาทางวิชาการต่างๆนานา
หลังจากยี่สิบนาทีผ่านไป อธิการบดียกมือขึ้น แอนน่าเดินตรงไปหาเขา
“ท่านอธิการบดี มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
Kaneยิ้มเหมือนเด็กวัยซนและนัยน์ตาสีฟ้าของเขาแฝงไปด้วยมุกตลกแปลกๆ ของชาวยุโรปและชาวอเมริกัน “แอนน่าเด็กๆเหล่านี้มักจะกังวลในการเรียนมากในห้องเรียน ผู้เชี่ยวชาญล้วนเป็นคนวัยกลางคนและวัยสูงอายุ นานๆทีศาสตราจารย์หญิงสาวมาบรรยายที่นี่ ดังนั้นบรรยากาศไม่ควรตึงเครียดใช่มั้ย?
แอนน่าขมวดคิ้ว “งั้นหรือ?”
Kaneกำมือแน่น “ขอร้องคุณแอนน่า ขอผิดกติกาสักหน่อย”
เมื่อทนต่อการร้องขอของอธิการยดีไม่ได้ “โอเคค่ะ แต่เรามีเวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น”
“โอเค สิบนาที ไม่เกินแน่นอน”
Kaneพูดจบ คำถามต่างๆนานาถูกถามออกมามากมาย
สร้างความตื่นเต้นกับผู้ชมมากมาย
นักศึกษาคนหนึ่งพูดขึ้นว่า “แอนน่าคะคุณมีแฟนไหม คุณสวยมากขนาดนี้คงจะมีคนมาจีบเยอะมาก!”
แอนน่าไม่มีสีหน้าใดๆ “ไม่มีค่ะ”
ว้าว! หนุ่มโสดทั้งหลายตื่นเต้น! ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการบางคนที่มีความสามารถมากก็ตื่นเต้นเช่นกัน ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีโอกาสนั้นเท่าเทียมกัน
แต่อีกประโยคต่อท้ายว่า “ฉันมีคู่หมั้น”
หะ!ประโยคนี้ ทำให้ใจของเขาสลาย
“คุณแอนน่าคุณเป็นคนจีน แต่นิสัยของคุณเป็นแบบยุโรปและอเมริกามาก คุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกามาหลายปีแล้วใช่ไหม?”
“ฉันไม่รู้ว่านานแค่ไหน แต่ในความทรงจำของฉัน ฉันอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่แรกเริ่ม”
นั่นหมายความว่าเกิดที่อเมริกางั้นเหรอ?
แต่แอนน่าพูดว่า “เนื่องจากเกิดเรื่องราวบางอย่างขึ้น ความทรงจำของฉันจึงไม่ได้นับจากเริ่มแรก”
???
การที่เธอพูดเช่นนี้ สร้างความลึกลับให้กับตนเองไม่น้อย
ความกระตือรือร้นในการถามคำถามเริ่มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เวลาและบรรยากาศไม่อยู่ภายใต้การควบคุมอีกต่อไป นักเรียนชายคนหนึ่งคว้าไมโครโฟนและยืนบนเก้าอี้ที่ถือไมโครโฟนแล้วถามว่า "มิสแอนน่าผมได้ยินมาว่าคุณให้การรักษาเฉพาะคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจเท่านั้น แต่คนจีนบอกว่าทุกคนเท่าเทียมกันต่อหน้าหมอ คุณจะอธิบายยังไง ?"
หือ?มีคนถามออกไปแล้วซินะ
แอนน่ามองไปที่เขา “ในเมื่อทุกคนเท่าเทียมกัน แล้วทำไมถึงมีคำว่าผู้มั่งคั่งมีอำนาจออกมาจากปากของคุณ?”
เขาอึ้งตอบไม่ถูก
“มิสแอนน่า ผมเองก็เป็นคนจีน ตั้งใจว่าจะกลับประเทศเพื่อพัฒนาหลังศึกษาจบ เพื่อตอบแทนบุญคุณของประเทศ คุณเคยคิดแบบนี้บ้างไหม?มีแผนการกลับจีนบ้างหรือเปล่า?”
ผู้หญิงคนนหนึ่งถามขึ้น กว่าเธอจะแย่งไมโครโฟนมาได้ไม่ง่ายเลย จึงอดไม่ได้ที่จะถาม
แอนน่าชะงักไปชั่วครู่ ประเทศจีน?
ประเทศจีนในความทรงจำของเธอเป็นเพียงสถานที่แห่งหนึ่งที่เธอไม่เคยเหยียบเข้าไป
“ถ้าเป็นไปได้ ฉันเองไม่อยากกลับไปที่นั่นอีก” เธอตอบอย่างไร้ความรู้สึกใดๆ
“เอ่อ……ทำไม?” เด็กสาวกำไมโครโฟนไว้จนแทบจะร้องไห้
แอนน่าพูดอย่างช้าๆว่า “ฉันช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่ใกล้จะสิ้นใจและหมดหวัง ฉันหวังว่าประเทศจีนจะไม่จำเป็นต้องรอให้ฉันเข้าไปช่วยเหลือ”
“แปะๆๆๆๆๆ””
เมื่อเธอพูดจบ ผู้คนจากประเทศจีนและเอเชียต่างปรบมือชื่นชมเธอ อีกทั้งนักศึกษาตะวันตกเองด้วย
เมื่อจบการบรรยาย แอนน่าจากไปท่ามกลางเสียงตบมือ
เพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชน แอนน่าเลือกเส้นทางที่จะออกไปด้านประตูเล็กของฮาร์วาร์ดต้นหญ้าสีเขียวและกลิ่นหอมของดอกไม้ แม้ว่าเดือนเมษายนในประเทศจีนเป็นอย่างไร แต่เมษายนในสหรัฐอเมริกาก็มีความงดงามเช่นกัน
เธอเดินชมดอกไม้ที่บานออกมาหลากสี กระทั่งไม่รู้ตัวว่าเดินมาถึงหน้าห้องทดลอง
แอนน่าผลักประตูเข้าไป ปรากฏคนผู้หนึ่งรูปร่างสูงใหญ่ขึ้น
ชายผู้นั้นไม่ทันได้ตั้งตัวจึงทำให้ของที่อยู่ในมือตกลงสู่พื้น
“sorry,are you ok?”
ชายผู้นั้นไม่ได้ตอบกลับ เขาตกตะลึงเล็กน้อยมองดูแอนน่า
แอนน่าขมวดคิ้วและก้มลงช่วยเขาเก็บเอกสาร ชายผู้นั้นก้มลงเก็บเอกสารเช่นกัน มือของทั้งสองแตะกันเข้าโดยบังเอิญ